เจ้าพ่อสุดเฟี้ยวแห่งนคร

บทที่ 16 จับปลาในปาก



บทที่ 16 จับปลาในปาก

พอเซี่ยหยางเพ่งดูก็เห็นว่า บนตัวเอ้อนิ้วเปียกโชก แถมยังมี โคลนติดอยู่ไม่น้อยด้วย เซี่ยหยางเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจว่า “นี่มันเรื่องอะไรกัน ให้หมามันวิ่งไล่เอาหรือไง?

“พี่หยาง แย่แล้วล่ะ ย่ามันเถอะ เกิดเรื่องแล้ว” เอ้อนิ้วส่งเสียง กระหืดกระหอบ เห็นได้ชัดว่าร้อนใจมาก

เซี่ยหยางจุดบุหรี่สูบ เอ่ยอย่างไม่รีบไม่ร้อนว่า “ร้อนใจอะไร กัน ฟ้าถล่มก็ยังมีฉันอยู่ ค่อยๆ พูด

“ผู้ใหญ่บ้านหวังหยุนจู ยังมีจาง กุ้ยคนนั้นอีกคน นี่ล้วนเป็น สิ่งที่พวกเขาทํากับผม…….. เอ้อนิ้วปัดๆ โคลนบนตัวออก ก่อนจะ พูดขึ้นมาอย่างขัดเคือง

ที่แท้พอเช้าตรู่เอ้อนิ้วก็ไปที่แม่น้ำของหมู่บ้านเพื่อจับปลา แม่น้ำ โดยวางแผนจะปล่อยลงในสระเพื่อเลี้ยงดูมัน ไหนเลยจะ คิดว่าขณะกำลังจะจับอยู่นั้น หวังหยุนก็มาที่นี่กับจาง กุ้ย ขวางเอ้อนิ้วไม่ให้จับปลา

เอ้อนิ้วเป็นคนนิสัยโผงผาง เป็นธรรมดาที่จะไม่ยอมแพ้ หวังหยุนจี้จึงเดือดดาล เดินเข้ามาผลักเอ้อนิ้ว เอ้อนิ้ว ไม่ยอมแสดงความอ่อนด้อยออกมา จึงผลักคืนไปบ้าง

หวังหยุนอายุมากแล้วจึงสู้ไม่ไหว พอถูกเอ้อนิ้วผลักก็ล้มลง ไปกับพื้นทันที คราวนี้โชคดี ได้จาง กุ้ยมาช่วย แต่ยังคงไม่ใช่ คู่มือของเอ้อนิ้วอยู่ดี

จาง กุ้ยเลยเตือนเอ้อนิ้ว ให้เอ้อนิ้วคอยดู เอ้อนิ้วก็ยังดึงดัน จะคอยอีก เพียงชั่วประเดี๋ยวเดียวจาง กุ้ยก็เรียกชายฉกรรจ์รูป ร่างบึกบึนจํานวนไม่น้อยมาที่นี่ เอ้อนิ้วไหนเลยจะเป็นคู่มือได้ สู้ กันไม่กี่ยกก็ถูกผลักลงแม่น้ำไป

“ย่ามันสิ พวกเขาสารเลวเกินไปแล้ว ปลาในแม่น้ำนั่นไม่ใช่ ของพวกเขาสักหน่อย ถือดีอะไรไม่ให้ผมจับปลา พี่หยางพี่ว่าจะ ทำยังไงดี?” เอ้อนิ้วไม่พอใจเป็นอย่างมาก ยืดคอตั้งแสดงถึง ความไม่เป็นธรรม

“เห็นได้ชัดว่า อิจฉาตาร้อน ฉันจะไปดูหน่อย” เซี่ยหยางฟัง เอ้อนิ้วพูดจบ ก็ฝืนอดกลั้นความโกรธพุ่งไปที่นั่น มีเอ้อนิ้วตาม หลังไปติดๆ

พอถึงข้างแม่น้ำ ก็เห็นจาง กุ้ยกับหวังหยุนจี้พูดคุยหัวเราะ กันอยู่บนฝั่ง โดยมีชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งกำลังจับปลาอยู่ในแม่น้ำ ดูสนุกสนานเสียเหลือเกิน

“เถ้าแก่จาง คุณดูตัวนั้น ใหญ่มาก” หวังหยุนจี้กำลังเตรียม จะยื่นมือไปรับปลาที่ชายฉกรรจ์คนหนึ่งโยนขึ้นมา ไม่คาดว่าจะมี ข้างหนึ่งยื่นออกมาจากอากาศ รับปลาตัวนั้นไป

พอหวังหยุนหันหลังไปมอง เห็นเซี่ยหยางถือปลากำลัง ประเมินน้ำหนักอยู่ในมือ สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไปทันที ก่อนจะ กล่าวอย่างเดือดดาลว่า “ไอ้สารเลว แกทำบ้าอะไร เอาคืนมาให้ ฉันนะ”

“อ่ะ เอาไป” เซี่ยหยางหัวเราะ ส่งปลาคืนไปให้ กลับพบว่า ปลาได้กระโดดลงแม่น้ำไปแล้ว

หวังหยุนจูที่รับอากาศไว้แทน กล่าวอย่างบันดาลโทสะว่า

“เซี่ยหยางไอ้ลูกกระต่าย แกตั้งใจสินะ?”

“โทษที ให้ผมเอาปลาที่อยู่ในสระผมมาที่นี่ ปลาของผมใหญ่ กว่าตัวนี้อีกนะ ชดใช้ให้คุณตัวหนึ่งเอาไหม” เซี่ยหยางมุมปาก แผ่เป็นรอยยิ้ม ดูท่าทางไม่อนาทรร้อนใจ

“บ้านแกสิ ปลาแกเจ๋งนัก พวกเราเองก็เลี้ยงเป็นเหมือนกัน” หวังหยุนจี้พูดอย่างไม่สบอารมณ์

“พวกคุณเลี้ยงหรือไม่เกี่ยวอะไรกับผม คุณก็บอกสิว่าปลาในแม่น้ำนี่เป็นของหลวงใช่หรือเปล่า?” เซี่ยหยางซัก ถาม

“ใช่แล้วยังไง?” หวังหยุนจี้พูดอย่างไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนั้น

“ใช่ก็ดี เอ้อนิ้ว จับปลาต่อ” เซี่ยหยางพยักหน้า หันหลังไปมอง เอ้อนิ้ว

เอ้อนิ้วชักงักไป จากนั้นก็ถูกแขนเสื้อกระโดดลงไปในแม่น้ำ เริ่มจับปลา

ชายฉกรรจ์สองสามคนที่อยู่ในนั้นพอเห็นก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา จึงรีบไปปะทะกับเอ้อนิ้วทันที

จาง กุ้ยก็ไม่มองอยู่เฉยๆ คำรามออกมาว่า “ไอ้เด็กเวรหลี่ เอ้อนิ้ว แกยังคิดจะต่อสู้กันอีกใช่ไหม ไสหัวขึ้นมานะ”

“มีสิทธิ์อะไรมาไล่? เพราะพวกคุณคนเยอะกว่าเหรอ?” เซี่ย หยางกว่าอย่างไม่เร็วไม่ช้า

จาง กุ้ยแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาด้วยความลำพอง ใจว่า “ตรงนี้พวกฉันมาก่อน อยากจับปลากไสหัวไปไกลๆ หน่อย”

“แล้วถ้าวันนี้พวกเรายืนกรานว่าจะจับตรงนี้ล่ะ?” เซี่ยหยาง ถามกลับ
“แกจับอีกครั้งก็ลองดูสิ?” จาง กุ้ยกัดฟันพูด

เซี่ยหยางยิ้มเยาะ ชำเลืองมองไปที่แม่น้ำแวบหนึ่ง ยื่นมือข้าง หนึ่งออกไปจับขึ้นมาตัวหนึ่ง ความเร็วนั้นไม่ต้องพูดถึงว่าเร็ว ขนาดไหน ราวกับว่าที่มือเขามีแรงดูดดูดขึ้นมาอย่างไรอย่างนั้น

“จับแล้ว แล้วไงต่อ” เซี่ยหยางถือปลายื่นไปตรงหน้าจางกุ้ย

ในดวงตาฉายแววยั่วยุออกมา

“ไอ้ลูกกระต่าย แกคิดจะทำอะไร?” จาง กุ้ยทำหน้าเครียด พุ่งเข้าไปหาเขี่ยหยางทันที เพิ่งคิดจะสะบัดมือตบหน้าเซี่ยหยาง จู่ๆ ที่ใบหน้าก็เจ็บปวดร้อนวูบขึ้นมา เห็นเพียงหางปลาในมือเซีย หยางปัดป่ายไปมา ซ้ายทีขวาที จนใบหน้าจาง กุ้ยเปรอะไป ด้วยเกล็ดปลา

“แกยังกล้าลงมืออีก เซี่ยหยางแกเบื่อชีวิตแล้วหรือไง?” หัวหน้าหมู่บ้านหวังหยุนที่อยู่ด้านข้างร้องอย่างไม่สบายใจครา หนึ่ง พร้อมกับร้องตะโกนพุ่งเข้ามาคิดจะจับตัวเซี่ยหยาง

เริ่มแรกเซี่ยหยางยังไม่ขยับ พอหวังหยุนมาหยุดอยู่ตรงหน้า ก็เอียงตัววูบหนึ่งทันที หวังหยุนจูงเท้าไว้ไม่ทัน ซวนเซไปมาอยู่ สองสามหนก็หล่นลงไปในน้ำเสียงดังตูม สำลักน้ำไปหลายอีกอย่างไม่รู้ตัว ตะเกียกตะกายปืนขึ้นมา ไอแค่กๆ ไม่หยุด

“ไอ้เด็กสารเลว ฉันจะฆ่าแก” จาง กุ้ยกับหวังหยุนมีใจตรง กัน คราวก่อนกำนัลชายยื่นมา เขาก็เสียหน้าไปที่หนึ่งแล้ว เคียดแค้นอยู่ในใจมานาน ตอนนี้ยังมาทำให้เขาโกรธอีก จึงร้อง คํารามกระโดดเข้าหา

เซี่ยหยางสะบัดปลา ในมือที่หนึ่ง ยัดเข้าไปในปากของจาง กุ้ยพอดี จากนั้นก็วาดเท้าเป็นแนวขวางที่หนึ่ง จาง กุ้ยก็ลงไป คลานอยู่บนพื้นทันที ร้องอีกอักอยู่หลายครั้ง ยกมือขึ้นมาจับปาก ไว้ หางปลาก็สะบัดไปที่หน้าเขาซ้ายทีขวาที

ชายฉกรรจ์สองสามคนที่อยู่ในแม่น้ำตอนแรกยังแย่งปลากับ เอ้อนิ้วอยู่ไหนเลยจะยังสนใจมากขนาดนั้นอีก กระโดดขึ้นฝั่งกัน พี่มพับ รีบเข้ามาล้อมเซี่ยหยางไว้ทันที

“ตีเขา สั่งสอนเขาหนักๆ แล้วฉันจะเพิ่มเงินให้พวกแก!” จาง ฝู กุ้ยกว่าจะจับปลาออกจากปากได้ไม่ง่ายเลย จึงร้องตะโกน ถลึงตาจ้องมองด้วยความโกรธแค้น

ชายฉกรรจ์เหล่านั้นก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน รีบลงไม้ลงมือกับเซีย หยางทันที
เซี่ยหยาง ใจเย็นมาก ในดวงตามีประกายเยือกเย็นวาบผ่าน ก่อนจะยื่นมือข้างหนึ่งออกไปบีบลำคอของชายฉกรรจ์คนหนึ่งไว้ แล้วโยนลงไปในน้ำเสียงดังซ่า จากนั้นก็กระโดดที่หนึ่ง คว้า ศีรษะของชายฉกรรจ์สองคนไว้แล้วกระแทกเข้าด้วยกัน ชาย ฉกรรจ์สองคนกุมศีรษะส่ายไปมาพลางร้องโอดโอย

ชายฉกรรจ์สองสามคนที่เหลือรู้สึกงุนงงอยู่เล็กน้อย ยังไม่ ได้สติขึ้นมา เชี่ยหยางใช้แขนข้างหนึ่งศอกไปหนึ่งที ทั้งหมดต่าง ล้มลงตีลังกา เพียงไม่ถึงเสี้ยวนาที บนพื้นก็นอนกันระเกะระกะ ส่งเสียงร้องโหยหวนกันระงม

มองเห็นสายตาหวาดกลัวของพวกชายฉกรรจ์ เซี่ยหยางก็ ปัดๆ มือ เพิ่งคิดจะสูบบุหรี่สักมวน ก็พบว่ามีลมเย็นสายหนึ่ง จู่โจมเข้ามา พอหันหลังไปมองก็เห็นผู้ใหญ่บ้านหวังหยุนไม่รู้ คลําหามาได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ กำลังถือฉมวกเตรียมจะแทงเข้ามา

เซี่ยหยางเพิ่งจะออกมือ ก็ได้ยินเสียงดังปัง หวังหยุนจี้กระเด็น ออกไปทันที ก่อนที่จะล้มปักลงไปในแอ่งโคลนของแม่น้ำ เหลือ เพียงขาสองข้างออกมาด้านนอก

“กล้าลอบทําร้ายพี่หยาง แกคิดว่าแกเป็นผู้ใหญ่บ้านก็เจ๋งแล้ว เหรอ?” เอ้อนิ้วส่งเสียงหัวเราะฮีๆ พลางกูหมัดไปมา
เวลานี้จาง กุ้ยตะลึงงันไปแล้ว อ้าปากอยากจะพูดอะไรบาง อย่าง พลันต้องข่มกลั้นไว้ไม่พูดออกมาสักคำ เห็นเซี่ยหยางเดิน เข้ามาหา ก็พูดซ้ำๆ อึ้งๆ ว่า “แก แกจะเอายังไง?”

พอเซี่ยหยางยื่นมือออกมา ก็ทำจาง กุ้ยตกใจจนสะดุ้งโหยง จากนั้นก็รีบปิดหน้าไว้ แต่ไม่คิดว่าเซี่ยหยางจะดึงเขาขึ้นมา

“เรื่องในวันนี้ ฉันหวังว่าต่อไปจะไม่เกิดขึ้นอีก พวกนายอยาก เลี้ยงปลาก็เลี้ยงไป แต่อย่ามาเล่นไม่ซื่อกับฉันเข้าใจ?” เซี่ย หยางดีดๆ ฝุ่นบนตัวจาง กุ้ย

จาง กุ้ยตกใจจนหลับตาปี พยักหน้าติดๆ กันพลางกล่าวว่า “เข้า เข้าใจ”

“เข้าใจแล้วยังไม่ไปอีก?” เซี่ยหยางกล่าวออกมาด้วยท่าทาง

คล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม

“ได้ จะไปเดี๋ยวนี้ ไปเดี๋ยวนี้” จาง กุ้ยยังไม่หายจากอาการ ตกใจกลัว รีบสั่งให้คนไปถึงผู้ใหญ่บ้านหวังหยุนออกมา พาคน จากไปอย่างทุลักทุเล

“พี่หยาง พี่คือไอดอลของผมจริงๆ เมื่อไหร่จะเจ๋งแบบนี้บ้าง สอนผมบ้าง ?” เอ้อนิ้วเขยิบเข้ามาใกล้ด้วยใบหน้าเลื่อมใส
“อยากเรียนแน่นะ?” เซี่ยหยางเห็นเอ้อนิ้วพยักหน้า ก็ชี้ไปที่ บ่อน้ำข้างเถียงนาแล้วกล่าวว่า “ดื่มทุกวัน ต่อไปก็จะแข็งแรงขึ้น กว่าเดิม”

เอ้อนิ้วกะพริบตาปริบๆ ชะงักไปแล้วส่ายหน้ากล่าวว่า “พี่ หยางพี่คิดว่าผมโง่เหรอ พี่นี่ตลกชะมัด ผมไปจับปลาต่อดีกว่า”

“ไม่จับแล้ว ต่อไปเรื่องนี้หาคนทำก็ใช้ได้แล้ว นายยังคงทํา หน้าที่ดูแลฟาร์มสเตย์เหมือนเดิม ว่างๆ ก็มาดูที่ดิน” เซี่ยหยาง พูดเสร็จก็หมุนตัวเดินจากไป

“พี่หยาง แล้วเรื่องของพวกหวังหยุนจู้จะทำยังไง? หนนี้พวก เราขัดแย้งกันอย่างสมบูรณ์แล้ว แต่ความรู้สึกที่ได้เล่นงานผู้ใหญ่ บ้านมันช่างสนุกจริงๆ ผมอยากจะสั่งสอนพวกเขามาตั้งนาน แล้ว” เอ้อนิ้วพูดพลางเดินตามขึ้นมาพลาง

“ระวังไว้หน่อยก็พอ” เซี่ยหยางรู้ว่าพวกหวังหยุนจะต้องไม่รา มือง่ายๆ แน่ แต่เขายังมีเรื่องสำคัญกว่าต้องไปทำ

พอกลับมาจากแม่น้ำ ก็เข้าไปในห้องล็อกประตู เข้าสู่โลกแผ่น หยก ค้นดูลักษณะการเจริญเติบโตของโสมกับเห็ดหลินจือ

ว่ากันว่าหลังหวังหยุนจูกับจาง กุ้ยกลับไปแต่ละคนหน้าตาเปรอะไปด้วยขี้ฝุ่น กำลังอารมณ์บูดบึงอยู่ใน ลานบ้านของจาง กุ้ย

หวังหยุนกว่าจะทำความสะอาดตัวจนสะอาดไม่ง่ายเลย ไหน จะโคลนที่อยู่ในปากอีก จาง กุ้ยถึงบุหรี่ออกมาสูบ เอ่ยขึ้นมา ด้วยความโกรธจัดว่า “ไอ้ลูกกระต่ายเซี่ยหยาง มันร้ายกาจเกิน ไปแล้ว เรื่องนี้ไม่อาจปล่อยไปทั้งอย่างนี้ได้

หวังหยุนจูทำหน้าเบ้ เอ่ยอย่างจนปัญญาว่า “เถ้าแก่จาง คุณ ว่าพวกเราจะทำอย่างไรได้ สู้ก็สู้ไม่ได้ ความโกรธ คงระบาย ออกไปไม่ได้แล้วล่ะ”

จาง กุ้ยคิดอยู่สักพัก ก็เอ่ยขึ้นมาอย่างโหดเหี้ยมว่า “เซีย หยางเลี้ยงปลาเก่งมากไม่ใช่เหรอ ผมกลับมีความคิดอย่างหนึ่ง พวกเราเอาสระส่วนกลางของหมู่บ้านมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ลูกปลาในแม่น้ำไม่จำเป็นแล้ว ผมสามารถออกเงินไปซื้อหา ลูกปลาชั้นดีข้างนอกได้ รอเลี้ยงจนอ้วนพี่แล้ว ก็นำออกมาขาย ให้คนในหมู่บ้านดู”

“ความหมายของคุณคือ พวกเราจะแข่งกิจการกับเซี่ยหยาง?” หวังหยุนถึงบางอ้อขึ้นมาทันที

“เมื่อทำเช่นนี้แล้ว ผมไม่เชื่อหรอกว่า พวกเราจะผลักเซี่ยหยาง ไม่ให้ล้มได้ ถึงเวลาทุกคนมากินปลาของเรา ทำให้ชื่อเสียงเขา ตกต่ำ มากหน้าอยู่ในหมู่บ้านไม่ไหว” จางกุ้ยเบิกตากว้างอย่างชั่วร้าย

หวังหยุนจูเผยดวงตาเป็นประกายออกมา พยักหน้าติดๆ กัน ก่อนจะกล่าวว่า “เยี่ยม เอาตามนี้แหละ ผมจะรีบไปจัดการเดี่ยว

หวังหยุนจี้พูดเสร็จเพิ่งจะเดินออกไป มือถือก็ดังขึ้น เขารีบรับ

สาย อดพูดอย่างตกใจไม่ได้ว่า “อะไรนะ? ได้ ฉันรู้แล้ว”

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” จาง กุ้ยถามอย่างไม่เข้าใจ

“ผมมีเรื่องด่วนต้องรีบไป เรื่องนี้คุณเตรียมการไปก่อน ผมจะ

รีบจัดการธุระอย่างรวดเร็ว” หวังหยุนจูรีบเปิดประตูอย่างรีบร้อน แล้วพุ่งออกไปทันที เวลานี้ที่หน้าประตูบ้านของเซี่ยหยาง มีชายหัวล้านคนหนึ่ง

เดินมา เป็นชายเลี่ยงนั่นเอง เขาขึ้นไปเคาะประตู เมียงมองมาที่

ข้างใน

เซี่ยหยางอยู่ในโลกแผ่นหยกได้ยินการเคลื่อนไหว ก็รีบแฉลบ ตัวออกมา พอเปิดประตูเห็นเป็นชายเลี่ยง ก็กล่าวอย่างข้องใจว่า “ลุงชายมีเรื่องอะไรหรือ? บุหรี่ไหม”

ชายเลี่ยงรับบุหรี่มา มองเซี่ยหยางอย่างยิ้มกรีม ก่อนจะกล่าวว่า “มีเรื่องนิดหน่อย ลูกสาวฉันจะกลับมาแล้ว

เซี่ยหยางสงสัยเล็กน้อย ตาแก่คนนี้ช่างน่าสนใจจริงๆ ลูกสาว เขากลับมาแล้วต้องมาบอกกับเขาอย่างดีใจอะไรขนาดนั้นด้วย เขาพูดยิ้มๆ ว่า “ลูกสาวที่เป็นกำนันหน้าตาสวยๆ คนนั้นของคุณ น่ะเหรอ? ทำไมล่ะ?”

“นั่นแหละ ลูกสาวฉันสวยที่สุดในตำบลเฮยแล้ว ฮ่าๆ” ช่าย เลี้ยงลูบศีรษะ ยิ้มตาหยี ดูภูมิใจเป็นอย่างมาก

“แล้วยังไงเหรอ?” เซี่ยหยางมุมปากกระตุก ชายนั่นเป็นคนมี เอกลักษณ์และหน้าตาสวยมาก แต่ตาแก่คนนี้คิดจะพูดอะไรกัน แน่?

“ลูกสาวฉันบอกแล้ว หนนี้เธอมาที่หมู่บ้านเพื่อต้องการ พิจารณานาย” ชายเลี่ยงเอ่ยด้วยสายตาแปลกประหลาด

“พิจารณาผม? ลูกสาวคุณหมายตาผม อยากจะดูว่าผมเหมาะ จะเป็นลูกเขยของคุณไหม?” เซี่ยหยางพูดกระเช้า

ชายเลี่ยงสีหน้าเปลี่ยนไป บ่นพึมพำว่า “ไอ้หนุ่มทำไมพูด อย่างนั้นล่ะ คิดหมายปองลูกสาวฉัน อย่าหวัง เธอมาพิจารณา พืชการเกษตรของนายต่างหาก ยังพาคนมาไม่น้อยด้วย
“คุณมาเพื่อแจ้งข่าวกับผม? กลัวว่าชายยื่นจะมาจู่โจมผม กะทันหัน?” เซี่ยหยางพูดติดตลก

“นั่นไม่ใช่อยู่แล้ว ฉันมาบอกกับนายว่า ให้นายเตรียมตัวให้ดี อย่าได้ดูถูกลูกสาวฉันเชียว เธอเก่งมากนะ เธอบอกแล้ว หากหน นี้พิจารณาแล้วว่าดี ไม่แน่ยังจะช่วยเรียกลูกค้าหารายได้ให้นาย ได้ ถึงเวลา นายก็ไม่ต้องกลุ้มเรื่องหาลู่ทางอะไรแล้ว” ชายเลี่ยง พูดพร้อมกับหัวเราะฮ่าๆ

พอเซี่ยหยางได้ยินย่อมจะดีใจอย่างแน่นอน กำลังคิดจะหา ลู่ทางอยู่พอดี จึงอดพูดโพล่งออกมาไม่ได้ว่า “คุณช่างเป็นพ่อตา ที่ดีจริงๆ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ