เจ้าพ่อสุดเฟี้ยวแห่งนคร

บทที่ 11 ร้านกินทั่วเมือง



บทที่ 11 ร้านกินทั่วเมือง

เซี่ยหยางได้รับวัตถุศักดิ์สิทธิ์กสวรรค์มานานแล้ว ช่วงแรก เขาได้ตรวจสอบทุกพื้นที่อย่างระมัดระวังหลายรอบ นอกจากเจอ พันธุ์พืชต่างๆแล้ว ไม่พบร่องรอยการมีชีวิตของสัตว์อื่นๆเลย หลังจากนั้นเขามักจะเข้าๆออกๆระหว่างโลกแห่งหยกกับโลก แห่งความจริง ก็ไม่เคยเจออะไรเหมือนกัน

จู่ๆวันนี้ก็พบเห็นเงาสีดำ ทำให้เขาตกใจมากๆ เขาจับท่อนไม้ ในมืออย่างประหม่าและเข้าไปที่ไร่สวรรค์อย่างรวดเร็ว ในเวลา เดียวกันจิตใจของเขาก็จดจ่อ ถ้าเขาไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ เขาจะออกไปที่โลกแห่งความจริงเพื่อหนีไปก่อน

เงาดำ งแวบหายไป เซี่ยหยางไม่เห็นว่ามันตัวใหญ่แค่ไหน โดยปกติมนุษย์มักจะมีความหวาดกลัวกับสิ่งที่ตัวเองไม่รู้จัก ขณะนี้มีสายลมพัดมาและมีเสียงดังออกมาจากสวนป่า ทำให้เขา ตกใจจนต้องหันหัวกลับไปดู

“ตกใจหมดเลย! “เซี่ยหยางเช็ดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผาก กลืน น้ำลายตัวเอง แล้วเดินขึ้นไปที่เนินเขา มอบอยู่กับพื้น ค่อยๆ โผล่ หัวออกมาอย่างเงียบๆ มองไปที่ไร่สวรรค์ที่อยู่ไม่ไกล

เมื่อเขามองไป สิ่งที่เขาเห็น ทำให้เซี่ยหยางรู้สึกกลัวจนหนัง ศีรษะชาไปหมด

เขาเห็นในไร่สวรรค์ มีหนูสูงประมาณครึ่งเมตรยืนอยู่ อุ้งเท้า ด้านหน้าของเขากำลังจับโสมแล้วกินอยู่
แม่งเอ๊ยนี่มันปีศาจชัดๆ!

ถ้าหากสิ่งมีชีวิตนี้ยังอยู่ในโลกแห่งหยกของเขา ไม่ว่าเขาจะ ปลูกอะไรก็คงโดนกินหมดแน่ๆ!

เมื่อคิดได้ว่าทักษะการต่อสู้ของหนูมันอ่อนมากๆ ความกลัว ในใจของเซี่ยหยางก็ลดลง เขาก้าวขาและวิ่งไปข้างหน้าอย่าง รวดเร็ว!

ปีศาจหนูมีประสาทได้ยินที่ดีมาก ชั่วครู่มันก็ได้ยินการเคลื่อน ไหลที่อยู่ด้านหลังตัวเอง มันหันหลังมองไปที่เซี่ยหยาง และมันก็ เปิดปากและยิ้มออกมา รอยยิ้มของมันแปลกมากๆ จากนั้นมันก็ วิ่งหนีไป

“เชี่ยเอ๊ย! “เซี่ยหยาง ใช้ท่อนไม้ฟาดไปแต่กลับฟาดไม่ถูก หัน หลังแล้วรีบไล่ตามไป

ถึงแม้ปีศาจหนูตัวนี้จะตัวใหญ่ แต่การเคลื่อนไหวของมันไม่ช้า เลย ในทางกลับกันอาจจะเป็นเพราะมันอยู่ในโลกแห่งหยกแล้ว ได้ดูดกลืนพลังแห่งสวรรค์ แขนขาของมันมีความคล่องตัว การ เคลื่อนไหวของมันรวดเร็วเหมือนหนูนา เซี่ยหยาง ใช้ท่อนไม้ที่ไม่ ถูกมันเลยสักครั้ง และเขาไล่ตามมัน ในโลกแห่งหยกเป็นเวลา นาน

เซี่ยหยางรู้สึกเหนื่อยมากๆ เขาคิดถึงเจ้าฉาย เขาใช้พลังจิต แล้วออกมาจากโลกแห่งหยก เขารีบวิ่งไปที่สวนมะเขือเทศ

“เจ้าฉาย มานี่ !!
“โฮ่งๆ! “เมื่อเจ้าฉายได้ยินเสียงของเซี่ยหยาง มันเห่าออกมา รีบวิ่งมาข้างหน้าของเซี่ยหยาง มันกระดิกหางไปมา เหมือนกำลัง ถามเจ้าของต้องการให้ช่วยอะไร

ไป ฉันจะพาแกไปที่โลกแห่งหยก ช่วยฉันจับหนูหน่อย! ขณะที่เซี่ยหยางพูด มือหนึ่งก็จับไปที่เจ้าฉาย เขาใช้พลังจิตพา เขาและเจ้าฉายเข้าไปในโลกแห่งหยก

หลังจากเข้ามาพวกเขากลับไม่พบปีศาจหนูตัวนั้น

รู้สึกว่ามันจะแอบหนีไปในระหว่างที่เขาออกไปเรียกเจ้าฉาย เข้ามาช่วยเหลือ มันซ่อนตัวอยู่ไหน? เซี่ยหยางยืนอยู่ข้างลำธาร เล็กๆคบคิดอยู่สักครู่แล้วพูดกับเจ้าฉาย : “เจ้าฉาย มีหนูตัว ใหญ่มากตัวหนึ่ง แกลองหาดูสิว่าจะเจอหรือเปล่า?

เจ้าฉายที่ร่างกายผ่านการชำระด้วยน้ำศักดิ์สิทธิ์ทําให้มันมีสติ ปัญญามากขึ้น มันพยักหน้า จากนั้นใช้จมูกของมันดมหากลิ่น ของหนู

ปรากฏว่าทั้งเขาและสุนัขใช้เวลาสองชั่วโมงก็ยังหาปีศาจหนู ตัวนั้นไม่เจอ

พื้นที่ทั้งหมด ในโลกแห่งหยกไม่ได้กว้างมาก ใช้เวลาหนึ่ง ชั่วโมงก็สามารถเดินจนทั่ว แต่ก็ไม่เห็นหรือรูหนูอะไรเลย มัน ไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนกันแน่?

เซี่ยหยางคิดไม่ออก จู่ๆก็คิดได้ว่าศัตรูตัวฉกาจของหนูคือแมว เขาหาสุนัขมาก็ช่วยอะไรไม่ได้?
หลังจากคิดได้ เซี่ยหยางก็พาเจ้าฉายออกมาจากโลกแห่ง หยก ให้มันกลับไปที่สวนผักด้วยตัวเอง

เขาวิ่งกลับไปที่บ้านของตัวเอง แน่นอนบ้านของเขาได้เลี้ยง แมวไว้สองตัว พวกมันกำลังนอนกลางวันอยู่ใต้ต้นไม้

ชนบทมีหนูเยอะ ทุกบ้านในชนบทต่างก็เลี้ยงแมว บ้านของ เซี่ยหยางก็เหมือนกัน แมวสีทองสองตัวนี้ซื้อมาจากตลาดใน ราคาสิบหยวน และเลี้ยงพวกมันมาสองปีแล้ว โดยทั่วไปพวกมัน มักจะจับหนูอย่างขยันขันแข็ง แต่ไม่แน่ใจว่าพวกมันจะสามารถ จับปีศาจหนูตัวนั้นที่อยู่ในโลกแห่งหยกได้หรือเปล่า

ขณะคิด เซี่ยหยางใช้มือหนึ่งข้างจับแมวหนึ่งตัว แล้วก็พาพวก มันเข้าไปในโลกแห่งหยก

“เหมียว! ”

“เหมียว เหมียว! ”

ทันทีที่แมวสองตัวเข้ามาในโลกแห่งหยก รูขุมขนของพวกมัน ก็เปิดออก พวกมันกระโดดลงพื้นและวิ่งไปที่สนามหญ้าที่อยู่ไม่ ไกลแล้วกลิ้งตัวไปมา ใช้จมูกตัวเองดมกลิ่น ดูเหมือนพวกมันจะ พยายามดูดกลืนพลังแห่งสวรรค์ จากนั้นแมวทั้งสองตัววิ่งไปดื่ม น้ำศักดิ์สิทธิ์ในลำธาร พวกมันดื่มแล้วหยุดไม่ได้ เหมือนกับตอน ที่เซี่ยหยางดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์เลย ต้องดื่มจนแน่นท้อง หลังจากนั้น พวกมันก็วิ่งกลับมาหาเขาอย่างพึงพอใจและนั่งลง พวกมันเริ่ม ใช้ลิ้นเลียขนของตัวเอง

ถึงแม้เซี่ยหยางจะอยู่ในโลกแห่งหยก แต่พลังจิตของเขาสามารถรับรู้เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกแห่งความจริง นี่ เป็นความมหัศจรรย์ของหยกชิ้นนี้ ถ้าไม่สามารถรับรู้เหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นของโลกแห่งความจริง ปัจจัยความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย มีสูงมาก

ในขณะที่เขากำลังดูแมวสองตัวที่กำลังเหม่อลอย เขาได้ยิน เสียงฝีเท้าดังขึ้น เขารีบใช้พลังจิตแล้วออกมาที่โลกแห่งความ จริง

“เถ้าแก่เซี่ย คุณไม่เป็นไรใช่ไหม? “ในขณะที่เซี่ยหยางกลับสู่ โลกแห่งความจริงแล้วเปิดตา เขาก็เห็นผู้ช่วยเชฟคนหนึ่งวิ่งมาที่ บ้านของตัวเอง ถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นอะไร เมื่อกี้ฉันคิดอะไรก็เลยเหม่อลอยอยู่”เซี่ยหยาง ส่งบุหรี่หนึ่งม้วนให้เขา พูดด้วยรอยยิ้ม “อย่าเรียกฉันว่าเถ้าแก่ เรียกชื่อฉันตรงๆก็ได้ คุณวิ่งมาอย่างรีบร้อนไม่ทราบว่าเกิดเรื่อง อะไรขึ้น?

“ที่ร้านอาหารฟาร์มออร์แกนิคมีลูกค้ามาหลายคน พวกเขา ต้องการเจอเถ้าแก่”ผู้ช่วยเชฟคนนั้นรีบตอบ

“เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? รูปร่างหน้าตาเป็นยังไง? “เซี่ยหยาง รู้สึกงุนงงแล้วยืนขึ้นมา แล้วเดินไปที่ร้านอาหารฟาร์มออร์แกนิค

“ชายสองหญิงสาม” ผู้ช่วยเชฟเดินตามหลังเซี่ยหยางและ พูด ผู้ชายหน้าตาธรรมดา ส่วนผู้หญิง ฉันก็พูดไม่ถูก คุณไปแล้ว จะเห็นเอง พวกเขาอาจจะเป็นเพื่อนคุณก็ได้? ”

ผ่านไปเจ็ดแปดนาที ทั้งสองคนก็เดินมาถึงร้านอาหารฟาร์มออร์แกนิค เมื่อผู้ช่วยเชฟเห็นว่าตัวเองพาเถ้าแก่มาถึงที่แล้ว เขา ก็วิ่งเข้าประตูด้านข้างไปที่ห้องครัวเพื่อทำงานต่อ

เซี่ยหยางจ้องมองไปที่โต๊ะที่มีร่มอันใหญ่กางอยู่ เห็นชายวัย กลางคนอ้วนลงพุงหนึ่งคนกับชายวัยกลางคนผอมแห้งหนึ่งคน คอของชายวัยกลางคนอ้วนลงพุงคนนั้นสวมใส่สร้อยทองใหญ่ เท่ากับตะเกียบ เหมือนพวกอวดรอย

ชายวัยกลางคนผอมแห้งคนนั้นก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ เขาใส่ชุดสูทและรองท้องหนังแล้วพยายามเหลือบมองนาฬิกาโร เล็กซ์ใส่อยู่ในข้อมือเป็นครั้งคราว สายตาของเขาก็มองผู้หญิง สามคนที่นั่งอยู่ข้างๆตลอด

ผู้หญิงสามคนอายุประมาณยี่สิบห้า ทุกคนมีเสน่ห์และรูปร่าง เซ็กซี่มากๆ บวกกับพวกเธอใส่เสื้อผ้าเซ็กซี่ด้วย ทำให้ใครเห็น แล้วก็ไม่สามารถละสายตาได้ ทำให้ทุกคนที่มองต้องคิดฟุ้งซ่าน

เซี่ยหยางพึ่งเดินเข้ามาในร้าน เมื่อเห็นฉากนี้ ทำให้เขาอดคิด ไม่ได้ว่าคนพวกนี้น่าจะเป็นคนที่อยู่ในวงการนักเลง

ผู้หญิงสามคน มีสองคนนั่งอยู่ข้างๆชายร่างอ้วนกับชายผอม แห้ง มีผู้หญิงอีกหนึ่งคนนั่งอยู่คนเดียว ขณะนี้กำลังยืนขึ้น ใช้ ตะเกียบไปคีบอาหาร สะโพกที่อวดอ้วนถูกห่อหุ้มด้วยชุดเดรสสี ขาว ใครเห็นก็ต้องเลือดพุ่งสูบฉีด

เซี่ยหยางกลืนน้ำลายตัวเอง กระแอมออกมา แล้วเดินเข้าไป พูดด้วยรอยยิ้ม : “สวัสดีทุกคน ฉันเป็นเถ้าแก่ของที่นี่ชื่อเซี่ย หยาง ไม่ทราบว่าใช่พวกคุณใช่ไหมที่อยากเจอฉัน? ”
“โอ้ คุณเป็นเถ้าแก่ตั้งแต่อายุยังน้อยเลยนะ”ชายวัยกลางคน ผอมแห้งที่ใส่สูทหัวเราะแล้วยืนขึ้นมาและพูดเก่งจริงๆ คุณเก่ งมากๆ น้องชายเชิญนั่ง ขอรบกวนเวลาของคุณหน่อย พวกเรา คุยกันได้ไหม”

“ไม่ต้องเกรงใจ”เซี่ยหยางยิ้มแล้วนั่งลง สายตาของเขาเริ่ม สังเกตทุกคนที่นั่งอยู่

“ฉันมาจากในเมือง ชื่อของฉันคือเชื่อเช่าฉุน! “ชายผอมแห้ง น่าจะเป็นหัวหน้าของคนเหล่านี้ เขายิ้มและชี้ไปที่ชายร่างอ้วนที่ อวดรวยแล้วพูดว่า”คนนี้คือเหล่าเหลียน เขาเป็นสุดยอดเชฟ อาหารกวางตุ้ง!

เชื่อเช่าฉุนหันกลับมาแล้วชี้ไปที่ผู้หญิงสามคนที่เซ็กซี่ด้วยรอย ยิ้ม เขายิ้มอย่างชัดเจนและพูด” “ผู้หญิงสองคนนี้คุณไม่จำเป็น ต้องรู้จักพวกเธอ เพราะพวกเธอชอบชายวัยกลางคนอย่างพวก เรา ส่วนผู้หญิงที่นั่งข้างๆคุณจำเป็นต้องรู้จัก เธอชื่อเขือเอ๋อ และ ฉันเคยได้ยินว่าเธอชอบกินหญ้าอ่อนแบบคุณ

เมื่อพูดจบ หลายคนก็หัวเราะ พวกเขารู้วิธีเอาใจชายร่างผอม เมื่อกี้ผู้หญิงที่ถูกเซี่ยหยางแอบมองแผ่นหลังตอนนี้แสร้งทำ เป็นโกรธและพูด : “ประธานเฮ่อชอบเอาพวกเรามาล้อเลียน”

เซี่ยหยางไม่ค่อยชอบคนพวกนี้ และเกลียดพวกเขาในเวลาอัน สั้นเพียงแค่คุยกันไม่ถึงหนึ่งนาที

เขาเกลียดพฤติกรรมหน้าไหว้หลังหลอกแบบนี้
แม้ว่าผู้หญิงเหล่านี้หน้าตาดี รูปร่างมีเสน่ห์ เนื่องจากพวกเธอ เต็มใจที่จะออกมากับผู้ชายสองคนนี้ ส่วนใหญ่น่าจะเป็นเลขา ส่วนตัวหรือไม่ก็คงเป็นโสเภณีชั้นสูง เซี่ยหยางแค่คิดก็ไม่มีค่า พูดแล้ว

เขาหัวเราะและถามว่า “ไม่ทราบประธานเฮ่อหาผมมีธุระ อะไร? ถ้าไม่มีธุระอะไร พวกคุณเชิญทานอาหารตามสบาย ผม ยังมีธุระอย่างอื่นต้องไปจัดการ ผมไม่รบกวนเวลาของพวกคุณ แล้ว”

“อือ! มีธุระ มีธุระ มีธุระจริงๆ! “เฮ่อเช่าฉันนั่งไขว่ห้าง ปล่อย มือที่กอดไหล่ของผู้หญิงและพูดว่า “ผมได้ยินเรื่องราวของคุณ วัน นี้เลยพาเพื่อนๆหลายคนมาลองชิม ไม่คาดคิดเลยรสชาติของว่า ผักและเนื้อปลาจะอร่อยขนาดนี้ คุณสนใจจะร่วมทำธุรกิจด้วยกัน ไหม? ”

“ร่วมธุรกิจกับพวกคุณ? ”

“ใช่แล้ว” เฮ่อเซาฉุนกางมือแล้วพูดอย่างโอ้อวดว่าฉันเป็น เจ้าของร้านกินทั่วเมือง คุณเคยได้ยินชื่อร้านนี้ไหม? ”

“เคยได้ยินเซี่ยหยางพยักหน้า เป็นร้านอาหารอันดับต้นๆ ของ ในเมืองก็ว่าได้ เพราะเป็นคนในท้องถิ่น ต้องเคยได้ยินชื่อ ร้านอาหารนี้แน่นอน

“ร่วมมือกับพวกเราไหม? “เฮ่อเช่าฉันมองไปที่ชายอ้วนที่เป็น เชฟ พูดด้วยสีหน้าปกติและมีรอยยิ้ม ผักสดและเนื้อปลาพวกเรา เหมาทั้งหมด ราคาเท่าไหร่คุณพูดมาได้เลย”
“ตอนนี้พวกเราผลิตเยอะขนาดนั้นไม่ได้ ไม่สามารถจัดส่งให้ กับร้านอาหารพร้อมกันสองร้าน ในเวลาเดียวกัน เซี่ยหยาง ปฏิเสธทันที ประการแรกคือเขาไม่ชอบกิริยาท่าทางของคนพวก นี้ ประการที่สองคือตอนนี้เขามีความสุขที่ได้ร่วมมือกับร้าน หมั่นโหลว ฉันต้องขอโทษด้วยจริงๆ

เมื่อชายร่างอ้วนที่เป็นเชฟได้ยินคำพูด ใบหน้าของเขาก็ เปลี่ยนไปและยิ้มเยาะเย้ย : “พ่อหนุ่มน้อย คิดให้ดีๆ ก่อนที่จะ พูดอะไรออกมา”

ผู้หญิงหลายคนได้ยินคำพูดที่ดุเดือดเลือดพล่าน พวกเธอก็ หยุดพูดเล่นทันที และรออย่างเงียบๆ

“เฮ้อ เหล่าเหลียนเป็นคนนิสัยไม่ค่อยดี เซี่ยหยางคุณอย่าไป

สนใจเขาเลย” เฮอเช่าฉันยิ้มและจุดบุหรี่หนึ่งม้วน และพูดกับเข่อ

เอ๋อ

“เขือเอ๋อ ยังเหม่อลอยอะไรอยู่? เทเหล้าให้ผู้ชายที่เธอชอบ หน่อยสิ! ”

“อุ๊ย ต้องขอโทษจริง”เขือเอ๋อแสร้งทำเป็นตบหน้าอกตัวเอง รีบลุกขึ้นมาและเดินไปข้างหน้าเซี่ยหยางแล้วเทเหล้าให้กับเขา หน้าอกที่ขาวๆของเธอก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเซี่ยหยาง เมื่อได้ กลิ่นน้ำหอมที่เย้ายวน ทำให้เขารู้สึกรุ่มร้อนไปทั้งตัว

เขาเป็นผู้ชายที่ไม่เคยแตะต้องผู้หญิงมาก่อน เซี่ยหยางไม่ สามารถนั่งนิ่งๆได้ เขารีบหยิบแก้วแล้วยืนขึ้นมาและพูด: “ของ คุณสําหรับความหวังดีของทุกท่าน แต่ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆที่ไม่สามารถร่วมธุรกิจกับพวกคุณได้”

“ฮ่าๆๆ พวกเราไม่พูดเรื่องร่วมธุรกิจกันอีก พูดแต่เรื่องดื่ม เหล้า”เฮ่อเช่าฉุนหัวเราะออกมา ส่งสายตาให้เขือเอ๋อ และเธอก็ รับรู้ทันทีแล้วนั่งลงข้างๆ เซี่ยหยาง เธอพยายามนั่งชิดๆกับเขา แล้วก็เทเหล้าแก้วที่สองให้เซี่ยหยางด้วยรอยยิ้ม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ