เจ้าบ่าวกรรมกร ชุด เจ้าบ่าวที่รัก

ตอนที่ 1



ตอนที่ 1

อำเภอเล็กๆ ในจังหวัดพิษณุโลกเป็นแหล่งปลูกส้มเขียวหวาน ขนาดใหญ่ของประเทศ แถมพื้นที่ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดก็เป็น ที่ราบเชิงเขาทำให้เหมาะแก่การเพาะปลูกผลไม้ยืนต้นหลาก หลายชนิดอีกด้วย แต่ที่ผู้ใหญ่สุนทรแห่งเนินมะปรางเลือกที่จะ ลงทุนด้วยน้ำพักน้ำแรงและน้ำเงินก็คือส้มเขียวหวานนั่นเอง

ผู้ใหญ่สุนทร ปรีชาโชค ใช้เนื้อที่กว่า 10 ไร่ในการทำอาชีพ เกษตรกรมาตลอดทั้งชีวิตตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายจนสืบทอดมาถึง ตัวเอง วันนี้แม้เศรษฐกิจจะไม่ดีนัก น้ำท่าก็แห้งแล้งมากกว่าทุกปี แต่ผู้ใหญ่สุนทรก็พร้อมที่จะฝ่าฝันอุปสรรคมากมายนี้ไปอย่าง ทระนง โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงดั่งคำสอนของพ่อหลวง ไทย

“ผู้ใหญ่ เกิดเรื่องแล้ว

เสียงเรียกตะโกนดังลั่นของลูกน้องที่ชื่อไอ้เข้มทำให้ร่าง บึกบึนในชุดเสื้อแขนยาวกางเกงพร้อมลุยงานในสวนส้มต้อง สะดุ้ง และหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้าด้วยความแคลงใจ

“มีอะไรวะไอ้เข้ม”

คนที่วิ่งกระหืดกระหอบมาย่อตัวลง เอามือจับที่ต้นขา แสดง อาการลิ้นห้อยด้วยความเหนื่อย และนั่นก็ทำให้ผู้ใหญ่สุนทรต้อง ถามด้วยเสียงตะคอกที่ดังกว่าเดิม
“มีอะไรวะ”

“ภูษา…”

“ภู… นังภูษาทำไม” ชื่อของลูกสาวแฝดพี่ทำให้ผู้ใหญ่สุนทร ถึงกับตกใจจนหน้าซีด “บอกมาไอ้เข้ม นั่งภูษามันก่อเรื่องอะไร อีก”

“ภูษาหนีตามผู้ชายไปแล้วครับผู้ใหญ่

“ว่าไงนะ?!”

“ภูษาหนีตามไอ้หนุ่มเมืองกรุงไปแล้วครับ” ไอ้เข้มอีกครั้ง อย่างชัดถ้อยชัดคํา

ผู้เป็นพ่อแทบล้มทั้งยืน ความตกใจมีมากพอๆ กับความ อับอายขายหน้า ผู้ใหญ่สุนทรโกรธหน้า หน้าแดง มือเป็น หมัดด้วยความคลั่งแค้น

“นังลูกไม่รักดี”

“ผู้ใหญ่จะให้พวกเราออกไปตามไหมครับ”

“ไม่ต้อง!” ผู้ใหญ่สุนทรตาแดงก่ำด้วยโทสะ “ถ้ามันไม่รักดี มันคิดว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นดีกว่าพ่อดีกว่าแม่ก็ปล่อยมันไป

“usi…”

“และต่อจากนี้ไป ข้าไม่มีลูกที่ชื่อนั่งภูษาอีก จำเอาไว้”

พูดจบผู้ใหญ่สุนทรก็ย่ำเท้าตรงไปยังรถและรีบขับกลับบ้านไปอย่างรวดเร็ว
“ผู้ใหญ่… รอเข้มด้วยสิครับ ผู้ใหญ่

ไอ้เข้มร้องเรียกแต่รถกระบะสี่ประตูของผู้ใหญ่สุนทรขับผ่าน ไปเสียแล้ว มันก็ได้แค่เกาศรษะแล้วรีบวิ่งกลับไปด้วยเท้าของตัว เองอย่างไม่มีทางเลือก

ไม่ถึง 5 นาทีผู้ใหญ่สุนทรก็มาถึงบ้านของตัวเอง เขารีบ กระโดดลงจากรถตรงเข้าไปภายในตัวบ้าน สุดาผู้เป็นภรรยาที่ กำลังร้องไห้น้ำตาท่วมหน้าวิ่งเข้ามาหา ก่อนที่วัตถาลูกสาวแฝด น้องที่ร้องไห้อยู่เช่นกันจะตามเข้ามาสมทบ

“พี่สุน ภูษามันหนีไปแล้ว

แม้จะเจ็บปวดแต่ผู้ใหญ่สุนทรก็ต้องใจแข็ง

“ช่างมัน อย่าไปสนใจมัน ต่อจากนี้ไปข้าไม่มีลูกสาวที่ชื่อภูษา

อีก”

“แต่พี่สุน… สุดาสะอึกสะอื้นวิงวอน สุนทรตวัดสายตาแดง มามอง “ห้ามใครในบ้านนี้เอ่ยชื่อนังลูกไม่รักดีให้ข้าได้ยินอีก ไม่อย่างนั้นข้าจะไม่เลี้ยงให้เสียข้าวสุกอีก จำเอาไว้

วัตถาเดินเข้ามากอดมารดาที่เอาแต่ร่ำไห้ หล่อนไม่เคยคาด คิดมาก่อนเลยว่าแฝดพี่อย่างภูษาจะคิดสั้นๆ ทำเรื่องแบบนี้

“เลิกร้องไห้ได้แล้วแม่สุดา ในเมื่อมันเลือกผู้ชาย ก็ให้มันไป เสวยสุขกันให้พอ พวกเราไม่มีมันก็อยู่กันได้ เลิกร้องไห้ได้ยิน ไหม เลิกร้องไห้ได้แล้ว”

คนตวาดตะเบ็งเสียงดังกึกก้อง ก่อนจะรีบเดินขึ้นบันไดหนีไปแต่ใครจะรู้ละว่าเบื้องหลังใบหน้าของผู้ใหญ่สุนทรที่ไม่มีคนเห็น นั้นไปด้วยคราบน้ำตา

“แม่จ๋า พ่อโกรธพี่ภูษามากเลย แล้วเราจะทำยังไงกันดีจ๊ะ”

“usi… usi…”

สุดาส่ายหน้าตาอาบแก้ม ร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ ไม่ช้าหัวอก คนเป็นแม่ก็ทานทนต่อความสูญเสียไม่ได้อีก ร่างของสุดาจึงล้ม พับไร้สติลงไปในที่สุด

“แม่… แม่เป็นล้ม พ่อจ๋า ช่วยแม่ด้วยจ้ะ พ่อ…”

แล้วร่างของแม่ก็ถูกนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาล โชคดีที่ท่าน ไม่ได้เป็นอะไรมากนัก ไม่นานก็สามารถกลับมารักษาตัวต่อที่ บ้านได้ แต่หัวใจที่ถูกเชือดด้วยความสูญเสียนี่สิ ต้องใช้เวลาอีก นานเท่าไหร่กันถึงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ