เจ้ากุหลาบซ่อนหนาม

บทที่ 6 แสดงอำนาจ



บทที่ 6 แสดงอำนาจ

ในฉับพลันนั้น สีนัยน์ตาของทรงเชิงยวนเปลี่ยนเป็นเข้ม ข้นและหนักน่วง เขาชำเลืองมองอย่างไม่เป็นธรรมชาติ แล้วพูดว่า “ฝนตกอากาศหนาวเย็น คุณหนูรองกลับห้อง ไปใส่เสื้อนอกหนาๆจะดีกว่านะ…”

เวินชื่อตกใจเล็กน้อย จากนั้นสายตาที่กำลังมองหรงเชิง ยวนก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าท่าทางหยอกล้อขึ้นมา เล็กน้อย แล้วนางก็พูดว่า”ข้าเพิ่งมาถึงได้ไม่นาน จึงไม่ได้ คิดถึงเรื่องพวกนี้เลย”

สายตาของเธอกวาดไปที่ด้านข้างใบหน้าของหรงเชิง ยวนโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่กลับต้องตกใจและประหลาดใจ กับสิ่งที่ได้พบ คนที่อยู่ตรงหน้านี้ มีผิวขาวซีดของคนที่ กำลังป่วยเล็กน้อย แต่ผิวหนังบริเวณใบหูและใบหูส่วน ล่างกลับเป็นสีแดงไปแล้ว

หรือว่าหรงซื่อจื่อผู้นี้ไม่เคยแตะต้องตัวผู้หญิงคนไหน เลย? ไม่คิดเลยว่าในราชวงศ์เทียนหรงนี้จะยังมีผู้ชายที่ขึ้ ขลาดในเรื่องรักใคร่เยี่ยงนี้อยู่! ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น มุมปากของนางก็อดไม่ได้ที่จะโค้งขึ้นมา

สายตาของหรงเชิงยวนตกลงไปที่รอยยิ้มที่มุมปากของ นาง แล้วกระแอมไอเบาๆสองสามครั้งเหมือนกับเข้าใจ อะไรบางอย่าง แล้วพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ยวนก็จะขอ พูดแบบรวบรัดเลยละกัน…”
“พรุ่งนี้ยวนจะกลับเมืองหลวง สามารถพาคุณหนูรอง เดินทางไปด้วย”

เมื่อหันกลับมามองอีกครั้ง นัยน์ตาของทรงเชิงยวนสุขุม เยือกเย็น ราวกับว่าท่าทางที่สุขุมเยือกเย็นและสง่างาม ฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง

พอได้ยินคำพูดของหรงเซ็งยวน ภายในดวงตาของเงิน ชื่อก็มีความประหลาดใจเปล่งประกายออกมาเล็กน้อย สายตาของนางจ้องไปที่ใบหน้าของหรงเชิงยวนอย่าง ระมัดระวัง ดวงตาที่ดำขาวแยกกันอย่างชัดเจนมองตรง เข้าไปในดวงตาที่ลึกและสงบราวกับสระน้ำโบราณคู่นั้น เพราะต้องการที่จะมองอะไรบางอย่างให้ออก แต่สุดท้าย กลับมองไม่เห็นอะไรเลย

เหวินซือไม่รู้สึกถึงเจตนาอันชั่วร้ายในตัวของเขาเลย หรงเชิงยวนถึงกับเอาใจใส่นางมากเกินไป นางไม่รู้ว่า เพราะเหตุใด

อย่างไรก็ตาม หากมีใครปฏิบัติต่อนางด้วยความจริงใจ นางก็จะไม่ตอบโต้กลับด้วยเจตนาที่มุ่งร้ายเช่นเดียวกัน

แต่ทว่า…

เวินชื่อลู่ตาลงเล็กน้อย มีระลอกคลื่นลูกหนึ่งลอยขึ้น ภายในดวงตา สักพัก นางก็ส่ายศีรษะไปมาแล้วพูดว่า
“ขอบคุณทรงชื่อจอมากเทคะ แต่ว่า เป็นชื่อมีความคิดอื่น แล้ว ไม่อยากอาศัยตำแหน่งของพระองค์หรอกเทศะ

เมื่อคำพูดของนางดังเข้ามาในหูของทรงเชิงยวน ทรง เชิงยวนไม่ประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย เขาจึงพยักหน้า เล็กน้อยราวกับว่าเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง แล้วถอยหลังไป หนึ่งก้าว และพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ยวนก็ไม่อยาก รบกวนอะไรมาก คุณหนูรองฝันดีนะ”

…รอก่อน” ในขณะที่กำลังมองดูผู้ชายที่อ่อนโยนดั่ง หยก เอาใจใส่และพิถีพิถันตนนั้น เป็นชื่อก็อดไม่ได้ที่จะ เอ่ยปากออกมา

เมื่อมองดูท่าทางที่ดูเหมือนไม่แข็งแรงเล็กน้อยของ หรงเชิงยวน นางก็คิดว่าข้างกายของเขามีเพียงทหาร องครักษ์คนเดียวคอยปกป้องดูแล อีกทั้งตอนนี้อากาศ หนาวเย็นและมีฝนตกหนัก เป็นชื่อก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึง เรื่องที่หรงเชิงยวนถูกคนร้ายลอบสังหาร

เวินชื่อเดิมรู้เพียงว่าหรงเชิงยวนน่าจะถูกคนร้ายลอบ สังหารจนสูญเสียดวงตาทั้งสองขางในปีนี้ แต่ดูจากเวลา นั้น เกรงว่าจะเป็น ช่วงเวลานี้ที่หรงเชิงยวนกำลังออกเดิน ทาง!

พอนึกถึงบุญคุณที่หรงเชิงยวนช่วยนางกับพ่อในชาติก่อน นางก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา แม้ว่าจะไม่มีข้อแก้ตัว ใดๆที่จะโน้มน้าวใจนางก็ตาม นางไม่อาจติดค้างหนี้บุญ คุณในชาติก่อนได้

ตอนที่เวินชื่อร้องเรียกให้เขาอยู่ หรงเชิงยวนก็มองนาง เบาๆด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน และเพียงแค่รอเวินชื่อที่กำลัง ก้มหน้าครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่

ในที่สุด เวินชื่อก็พูดอย่างคลุมเครือเล็กน้อยออกมา ว่า “ตอนนี้ราชวงศ์เทียนหรงของเราถูกบีบให้อยู่ตรง กลางระหว่างสามแคว้น ยกทัพจับศึกกันทั่วทุกทิศทาง นอกจากนี้ยังมีคนที่ไร้สัจธรรมจากแคว้นอื่นผสมปนเป เข้ามาในเทียนหรง วางแผนก่อกวนสถานการณ์อย่าง บ้าระห่ำ เกิดภัยพิบัติและความแตกแยกภายใน ชื่อจื่อมี ฐานะเป็นผู้สูงศักดิ์ ระหว่างทางกลับเมืองหลวงในครั้งนี้ ต้องระมัดระวังช่องเขาแคบๆ ป่าทึบ และผู้ร้ายส่วนใหญ่ที่ เป็นอหิวาตกโรคให้มาก จะได้ไม่ต้องประสบกับกลอุบาย ของศัตรูที่มาจากภายนอกนะเพคะ”

ระหว่างทางกลับเมืองหลวง ถ้าต้องเดินทางผ่านสถานที่ ที่เป็นภูเขาแคบๆและป่าทึบนั้น ก็มีเพียงแห่งเดียวในเขต ชานเมือง นั่นก็คือหมู่บ้านหมี่

คำพูดของเวินชื่อ ไม่เพียงแต่จะชี้สถานที่ลอบสังหาร เท่านั้น แม้แต่คนที่สมรู้ร่วมคิดทั้งในและนอกก็ยังถูกดึง ออกมาด้วยกัน
และทั้งหมดนี้ก็คือสิ่งท่านพ่อบอกนางเอาไว้ในชาติก่อน

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ภายในแววตาของทรงเชิงยวนก็มี ความประหลาดใจลอยขึ้นมา ในขณะที่กำลังมองดูสีหน้า ที่ผิดแผกไปของเวินชื่อ เขาก็ไม่ได้ไต่ถามเวินชื่อว่าทำไม เพียงแต่หลังจากที่ตกตะลึงเล็กน้อย เขาก็ยิ้มอ่อนๆ โดย ไม่ปริปากพูดอะไร จากนั้นก็เอ่ยปากขึ้นมาว่า “ขอบน้ำใจ คุณหนูรองมาก”

ฟังจากคําพูดของหรงเชิงยวน ดูท่าเขาจะรับฟังคำพูด ของนางแล้ว แม้ว่าจะมีท่าทางที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งก็ตาม แต่ทว่า คำตอบเช่นนี้ของหรงเซ็งยวน กลับสามารถ ปลดเปลื้องความกลัดกลุ้มในการพยายามใช้สมองคิดหา สาเหตุของนางออกไปได้ ในใจของเวินชื่ออดไม่ได้ที่จะ ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

หรงเชิงยวนทำความเคารพเพื่ออำลาเล็กน้อย

ตอนที่หันหลังเดินจากไป สีหน้าที่กลัดกลุ้มและเป็น กังวลเล็กน้อยของเวินชื่อก็ปรากฏขึ้นภายในใจของเขา อยู่ตลอดเวลา ในใจของเขาจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอบอุ่น ขึ้นมา

เขามาคิดๆดูแล้ว เกรงว่าเป็นชื่อจะรู้อะไรบางอย่างโดย ไม่ตั้งใจ ดังนั้นจึงมาบอกกับเขา แม้ว่าจะมีจุดที่น่าสงสัยหลายจุด แต่มันก็ตรงกับสถานการณ์ในตอนนี้จริงๆ

ตอนที่หรงเชิงยวนกำลังคิดถึงความเป็นไปได้บางอย่าง ลูกนัยน์ตาที่อยู่ภายในดวงตาก็จมลึกลงไปเล็กน้อยอย่าง ไม่ตระหนกวิตกอะไร

เมื่อเดินมาถึงเรือนซีเซียง เขาก็เห็นตู้เหยียนยังคงขวาง ทางของหรูเอ๋อร์อยู่ หรงเชิงยวนจึงเอ่ยออกไปว่า “ตู้เห บียน ให้แม่นางหรูเอ๋อร์ไปเถิด”

พอได้ยินคำสั่งของเขา ตู้เหยียนจึงปล่อยให้หรูเอ๋อร์ที่ หน้าแดงเพราะถูกเกี้ยวพาราสีไป

เมื่อเขาหันหน้าไปมองซื่อจื่อ กลับพบว่าซื่อจื่อมีสีหน้าที่ เฉยเมยเล็กน้อย

วินาทีต่อมา ได้ยินเพียงซื่อจื่อพูดอย่างเย็นชาว่า “มีข่าว จากชายแดนเมื่อเร็วๆนี้หรือไม่?”

บางทีคำว่า“ฝันดี”ที่อ่อนโยนและดึงดูดใจของหรงเชิง ยวนก็ก่อให้เกิดบทบาทขึ้น พอตื่นขึ้นมาก็ปรากฏทิวทัศน์ แดดแรกหลังจากที่ฝนหยุดตกออกมาให้เห็น หรงเชิงยวน กับตู้เหยียนออกเดินทางตั้งแต่เช้าแล้ว และไม่ไปรบกวน สองคนนั้น
ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่หรูเอ๋อร์ไปที่เรือนตะวันตกก็กลับ มาบอกเว้นชื่อว่าทั้งสองคนออกเดินทางไปแล้ว เป็นชื่อก็ ประหลาดใจเล็กน้อย

และในขณะนี้เอง ดูเหมือนว่าจะมีเสียงเคาะประตูดังมา จากด้านนอกบ้านสวน เวินชื่อก็เลยสั่งให้หรูเอ๋อร์ออกไป เปิดประตู

พอเปิดประตูออกมา ก็เห็นเพียงคนเลี้ยงม้าหนึ่งคนกับ รถม้าหนึ่งคันจอดอยู่ที่หน้าประตูบ้านสวน

เพียงครู่เดียว เวินชื่อก็เข้าใจแล้วว่าใครเป็นคนจัดการ เรื่องหมดนี้

ดังนั้น นางจึงยิ้มอย่างสุภาพแล้วพูดกับคนเลี้ยงม้าว่า “โปรดรอสักครู่ อีกประเดี๋ยวเดียวพวกเราก็จะออกไป แล้ว” พูดจบ เธอหันหลังเดินไปที่ห้องด้านข้าง

“คุณหนู ท่านเรียกรถม้ามาตอนไหนหรือเจ้าคะ? เราจะ กลับไปที่จวนกันแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ?” น้ำเสียงของหรูเอ๋ อร์มีความตื่นเต้นเล็กน้อย

เวินชื่อยิ้มและไม่พูดอะไรสักคำ

พอได้เกิดใหม่ นางก็ไม่คิดที่จะรอให้พ่อมารับอย่าง เงียบๆเหมือนในชาติก่อน ครั้งนี้ นางจะต้องกลับไปด้วยตัวเองเพื่อเปิดโปงใบหน้าอันชั่วร้ายของเวินจั่น

แต่ทว่า เดิมทีนางได้จำนำเครื่องประดับและเช่ารถม้าไว้ เรียบร้อยแล้วก่อนกลับไป คิดไม่ถึงว่า หลังจากที่หรงชื่อ จื่อถูกนางปฏิเสธเมื่อคืนนี้ เขาจะจัดเตรียมพร้อมทุกอย่าง ให้นางเป็นที่เรียบร้อยแล้วอย่างเอาใจใส่เช่นนี้

พอคิดถึงตรงนี้ ในแววตาของเวินชื่อก็มีความอบอุ่นเปล่ง ประกายขึ้นมาเล็กน้อย แม้ว่านางจะพบหรงเซ็งยวนเป็น ครั้งแรกเมื่อคืนนี้ และนางก็ไม่รู้จักเขาดีด้วยซ้ำ แต่ทว่า หรงเชิงยวนก็เป็นคนเดียวกันกับในชาติก่อน ซึ่งก็คือคน ที่ยื่นคำร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมให้นางกับพ่อ ดังนั้น สิ่งที่เขาทำอยู่ในตอนนี้ ภายในใจของเวินชื่อก็ยิ่งเคารพ นับถือเขาในฐานะผู้มีพระคุณมากขึ้น

ฤดูใบไม้ร่วงเริ่มต้นขึ้น ในยามสาย พ่อบ้านของจวน อ๋องหัวเพิ่งจะปรับปรุงการทำงานภายในจวนเสร็จ ก็ได้ ยินเสียงแหวนประตูเหล็กดังขึ้นมาจากประตูใหญ่ของ จวน เขาจึงอดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดเล็กน้อย

เขาด่าพึมพำไปพลาง เปิดประตูไปพลาง แล้วพูดด้วย หงุดหงิดว่า “ใครอ่ะ?”

“ข้าเอง” ทันใดนั้นเสียงผู้หญิงที่เย็นชาก็ดังขึ้นมาประเดี๋ยวเดียวก็ทำให้พ่อบ้านที่มีอารมณ์โมโหอยู่เล็ก น้อยต้องสั่นสะท้านไปทั้งตัว ราวกับถูกน้ำเย็นๆสาดเข้า ใส่อย่างฉับพลัน เมื่อได้เห็นคนที่อยู่ตรงหน้าชัดๆ พ่อบ้าน รีบถอยกลับไปทันที แล้วปิดประตูใหญ่อย่างรุนแรง

ทันใดนั้นหรูเอ๋อร์ก็พูดด้วยอารมณ์โมโหเดือดดาลว่า “ลุงหวาง นี่เจ้าทำอะไรของเจ้าน่ะ?! คุณหนูรองกลับจวน แล้วนะ รีบเปิดประตูเดี๋ยวนี้!”

“คุณ คุณหนูรอง…ไม่ใช่ว่าบ่าวไม่อยากเปิดนะ แต่…ท่านหวางเฟยมีคำสั่ง ไม่ ไม่ให้ท่านเข้ามาในจวน ขอรับ” พ่อบ้านพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อยดังออก มาจากในประตู

เวินชื่อเงยหน้าขึ้น ดวงตาที่ใสแป๋วคู่หนึ่งค่อยๆมองไปที่ ประตู พ่อบ้านที่อยู่ในประตูกลับรู้สึกราวกับว่ามีดที่เย็น ยะเยือกกำลังทิ่มแทงอยู่บนร่างกายของเขา

เวินชื่อขยับริมฝีปากบางๆเล็กน้อย หน้าตาของนางมี ความเย็นชาแฝงอยู่ นางพูดขึ้นมาว่า “ลุงหวาง เจ้าลืมไป แล้วหรือ ว่าตอนนี้ใครเป็นเจ้าของจวนแห่งนี้?”

แน่นอนว่าเจ้าของจวนก็คือท่านอ๋อง แต่ว่าตอนนี้ท่าน อ๋องไม่อยู่…เช่นนั้นคนที่ใหญ่ที่สุดก็คือท่านหวางเฟย พ่อ บ้านไม่กล้าเอ่ยปากพูดอะไร
นัยน์ตาของเงินชื่อดำเหมือนหมึก เหมือนสระน้ำแข็ง นางพูดอย่างเอาจริงเอาจังด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “เจ้า ลืมไปแล้วหรือไง ว่าใครเป็นเจ้านายในจวนแห่งนี้?!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ