เจ้ากุหลาบซ่อนหนาม

บทที่ 3 สังหารศัตรูด้วยคมมีด



บทที่ 3 สังหารศัตรูด้วยคมมีด

นางเอื้อมมือไปจับบนมวยผมของตัวเอง ดึงปั่นปักผมสี ทองที่ยาวที่สุดและแข็งที่สุดออกมาหนึ่งอัน กำไว้ในมือ แน่นๆ แล้วซ่อนเข้าไปในแขนเสื้อ

นางเอนตัวนอนลงช้าๆ ต้องนอนอยู่ด้านนอกถึงจะ สามารถกำบังหรูเอ๋อร์ได้เป็นอย่างดีในความมืด หลังจาก นั้นก็หลับตาลง

เวินชื่อกําลังรอ รอลงมือแก้แค้นด้วยตัวเอง!

ประตูที่ปิดเบาๆถูกคนผลักออกมาทีละนิดๆ แม้ว่าการ เคลื่อนไหวจะเล็กน้อยมาก แต่เนื่องจากประตูขาดการ ทำนุบำรุงมาเป็นเวลานานหลายปีทำให้มีสภาพโอนเอน จะล้มมิล้มแหล่ไปแล้ว และเสียงของแผงประตูยังดัง เข้าไปในหูของเวินชื่ออย่างชัดเจน

เหมือนกับว่านางจะรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังเดินเข้ามาทีละ

ก้าวๆ

พอกลิ่นที่ชื่นและเย็นลอยเข้ามาปะทะบนใบหน้า ชาย ผู้นั้นก็เดินเข้ามาจากกลางสายฝน ซึ่งมีกลิ่นน้ำฝนและ

โคลนติดมาด้วย

เวินชื่อลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่กำลังมองเห็นว่า มีท่อนเหล็กที่ยกขึ้นสูงกระแทกเข้ามาที่ขาของนางอย่างแรง!

ชั่วพริบตานั้น เวินชื่อยกขาขึ้นแล้วใช้แรงเตะเข้าไปที่ หว่างขาของผู้มาเยือนสามนิ้ว!

เหตุเกิดอย่างฉับพลันโดยไม่ทันตั้งตัว ชายผู้นั้นโค้งเอว ลงแล้วเอามือข้างหนึ่งป่องเอาไว้

“นังสารเลว!” เขาก่นด่าอย่างหยาบคาย

เวินชื่อยืดเอวขึ้นอย่างฉับพลัน แล้วแทงปิ่นปักผมสีทอง ที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อลงไปที่หัวใจของผู้มาเยือนอย่างแรง

“ฉับๆๆ…”

นางแทงปิ่นปักผมสีทองเข้าที่หน้าอกของผู้มาเยือน อย่างดุเดือด!

ในขณะเดียวกัน เวินซื่อได้ใช้แรงที่เท้า หมุนตัวลอยขึ้น ไปบนอากาศ แล้วเตะท่อนเหล็กที่อยู่ในมือของชายผู้ นั้นจนกระเด็นออกไป กำลังทั้งหมดของร่างกายล้วนมา รวมกันบนขาและแขนทั้งสองข้าง นางออกไปที่โล่งๆแล้ว พยายามเอาชนะชายผู้นั้นอย่างสุดกำลัง
ด้วยพละกำลังที่อยู่บนมือนั้นหนักอึ้ง ทำให้ปิ่นปักผมสี ทองยาวๆอันนั้นแทงทะลุหัวใจและปอดของผู้มาเยือนใน ที่สุด

เลือดสดๆไหลทะลักออกมาราวกับน้ำพุ แล้วสาดเข้าใส่ ใบหน้าของนาง

ทันใดนั้นเสียงเหล็กก็ดังขึ้นภายในห้อง เพียงชั่วครู่หรู เอ่อร์ที่กำลังหลับลึกก็ถูกปลุกให้ตื่น

นางมองไปด้านข้างด้วยความตกใจจนมือไม้อ่อนไป หมด แต่กลับพบว่าข้างกายไม่มีใครอยู่เลย เพียงแค่ขยับ ตัวเล็กน้อย ก็เห็นฉากที่น่าหวาดผวาฉากหนึ่งเข้า

หญิงสาวที่สอนชุดสีขาว กดทับอยู่บนตัวของชายชุด ดำคนหนึ่ง หญิงสาวกำปิ่นดอกไม้สีทองที่อยู่ในมือเอา ไว้แน่น บนตัวและใบหน้าของนางล้วนเต็มไปด้วยคราบ เลือด

หรูเอ๋อร์ตัวสั่นเทาไปทั้งตัวด้วยความตกใจ นางร้องไห้ และตะโกนว่า “คุณหนู”

มุมปากของเวินซื่อดูเหมือนว่าจะเปื้อนเลือดเข้าแล้ว ภายในดวงตาสีดำสนิทราวกับหมึกของนาง มีหมอกที่เย็นยะเยือกขนาดใหญ่มวลหนึ่งตลบอบอวลขึ้นมา ที่มุม ตาและคิ้วล้วนมีความรู้สึกที่เคร่งขรึมสอดแทรกอยู่

ใบหน้าของนางดุจดั่งปีศาจที่กระหายเลือด

นี่ เป็นเพียงครั้งที่หนึ่งเท่านั้น!

คนเหล่านั้นที่เคยทำร้ายนาง เวินชื่อได้จดจําเอาไว้ในใจ หมดทุกคนแล้ว

บัดนี้ นางจะต้องเรียกคืนกลับมาด้วยตัวเองทีละนิดละ น้อย!

“คุณหนูท่านไม่เป็นไรใช่ไหมเจ้าคะ?!” หรูเอ๋อร์กระโดด ลงมาจากเตียงในทันที นางคุกเข่าอยู่ข้างๆเงินซื่อ แล้ว มองมือของนางด้วยความกังวลใจ “คุณหนู ท่านรีบปล่อย มือเถิด! มือ มือได้รับบาดเจ็บแล้วนะเจ้าคะ!”

พอได้ยินคำพูดของหรูเอ๋อร์ เวินซื่อก็ค่อยๆคลายมือ ออก นางหันหน้าไปมองหรูเอ๋อร์ ประจวบกับเป็นตอนที่ สายฟ้าข้างนอกสว่างวาบขึ้นพอดี แสงสว่างสาดส่องไป บนใบหน้าที่ขาวผ่องของนาง จนกลายเป็นสีขาวซีดที่น่า สะพรึงกลัวเกินคำบรรยาย และยังมีเลือดอยู่บนใบหน้า ของนางอีก ทำให้ทั้งตัวของนางดูน่าสะพรึงกลัวเป็น พิเศษ!
“เอ๊า…ไม่กลัวช้าหรือ?” เสียงของเว้นชื่อแทบแห้งเล็ก น้อย หลังจากที่กระทำสิ่งที่น่าหวาดผวาจนไม่อาจ บรรยายได้ลงไป น้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความอึดอัดใจ

“คุณหนู ท่านพูดจาเหลวไหลอะไรกัน!” ทรูเฮอร์รี่ให้ และพูดว่า “ทั้งหมดเป็นความผิดของหรูเอ๋อร์เอง ทรูเอ๋อร์ ควรเฝ้ายามให้ท่าน ข้าจะไม่ปล่อยให้คนร้ายเข้ามาได้ เสีย

ร่างกายที่เย็นและแข็งทื่อของเว้นชื่อก็อ่อนช้อยลงมา ทันใด ความเยือกเย็นภายในดวงตาของนางก็ค่อยๆ สลายหายไป แล้วแสดงแสงอันนุ่มนวลออกมา นางพูด ด้วยเสียงแหบๆออกมาว่า “อย่ากลัวไปเลย”

ในเวลานี้ มีภาพเงาของคนคนหนึ่งแว็บผ่านหน้าประตูไป ชั่วพริบตาเดียว เสียงอันแหลมคมของหญิงชราก็ดังก้อง ไปทั่วท้องฟ้ายามค่ำคืน

“กรี๊ด! มีผี! ฆ่า ฆ่าคนแล้ว!”

“อานมามา!” บนใบหน้าของหรูเอ๋อร์มีความดีอกดีใจแว็บ ผ่านเข้ามา และกำลังเตรียมจะพูดอะไร กทันใดนั้นกลับ พบว่าเวินชื่อดึงนางเอาไว้

หรูเอ๋อร์ที่ถูกคุณหนูห้ามเอาไว้ก็ไม่เข้าใจถึงเหตุผลเล็ก น้อย เห็นเพียงคุณหนูค่อยๆยืนขึ้น ในขณะเดียวกันก็ยกมือขึ้น แล้วใช้แรงดึงปิ่นปักผมสีทองที่เสียบเข้าไปใน หัวใจของชายในชุดดำคนนั้นออกมา

พอเลือดสดๆไหลโกรกออกมา หรูเอ๋อร์ก็อดไม่ได้ที่จะ ตัวสั่นระริก

เวินซื่อลุกขึ้นยืน ในขณะที่กำลังมองดูร่างที่อ้วนฉุนั้น ตัวสั่นเทาอยู่ที่หน้าประตู นางยกมุมปากที่มีรอยยิ้มอันชั่ว ร้ายขึ้น แล้วพูดว่า “อานมามา เจ้าไปทำอะไรที่นั้น?”

“ผี!” อานมามาร้องเสียงดังด้วยความตกใจ แต่พอได้ยิน เสียงอย่างชัดเจน ภายในแววตาก็มีความสงสัยปรากฏขึ้น มา นางจึงถามออกไปว่า “คุณ คุณหนูรีเจ้าคะ?”

“ใช่ ข้าเอง..” น้ำเสียงของเวินชื่อวังเวงมาก นางเดินที ละก้าวๆมาหาอานมามา ปิ่นทองที่อยู่ในมือยังมีเลือดหยด ติ่งๆอยู่

ดอกไม้สีเลือดค่อยๆเบ่งบานเป็นจุดๆอยู่บนพื้น

“เจ้า เจ้าอย่าเข้ามา!” พอเห็นคราบเลือดที่กระเด็นไปติด อยู่บนใบหน้าที่ขาวซีดของเวินชื่อชัดๆ แม้แต่มุมปากก็ยัง มีเลือดไหล เป็นเหมือนกับวิญญาณแค้นที่มาจากยมโลก จู่ๆร่างของอานมามาก็ทรุดลงกับพื้น นางขยับร่างกาย อย่างบ้าคลั่งและไร้เรี่ยวแรงพร้อมกับตะโกนเสียงดัง

เวินชื่อหัวเราะ น้ำเสียงก็ยิ่งชัดเจน แต่ทว่าในหูของ อานมามา ก็เหมือนกับเสียงของผีร้าย “อานมามา เจ้าหนี อะไร…”

“ไม่! ไม่ใช่ข้า!”อานมามาเหมือนจะถูกขู่ขวัญจนเป็นบ้า ไปแล้ว นางทั้งร้องไห้โฮและตะโกนเสียงดังว่า “ทั้งหมด เป็นฝีมือคุณหนูสาม! เป็น เป็นคุณหนูสามที่ต้องการ จัดการกับท่าน! แม่นาง แม่นางข้าผิดไปแล้ว ยกโทษให้ ข้าด้วยเถิด!”

ในขณะที่กำลังฟังคำพูดที่วิกลจริตของอานมามาอยู่ หน้าตาของเวินซื่อก็เย็นชาขึ้นเรื่อยๆ พอนางยกขาก้าว ข้ามธรณีประตูออกมา อานมามาคนนั้นก็ตกลงไปอยู่ใต้ ระเบียง นางดิ้นรนไปมาอย่างไม่อาจควบคุมได้ แต่ขาทั้ง สองข้างไม่มีแรง จึงไม่สามารถหนีไปไหนได้โดยปริยาย

มีฝนที่หนาวเย็นพัดเข้ามาที่ใบหน้าของเวินชื่อ หัวใจ ของนางก็เย็นยะเยือกเช่นเดียวกับสายฝนในค่ำคืนนี้

“อานมามา ข้าเวินซื่อไม่ดีกับเจ้าตรงไหน? เจ้าถึงต้อง ร่วมมือกับเวินจิ่นทำร้ายข้าเยี่ยงนี้!”

ในขณะที่กำลังพูด เวินชื่อก็ยกมือขึ้น ปลายปิ่นสีทองที่อยู่ในมือมีแสงที่เย็นยะเยือกเปล่งประกายแวววับขึ้นมา แล้วนางแทงเข้าไปที่คอของอานมามาทันที!

พอเลือดที่สวยเพริศพริ้งสาดลงไปทั่วพื้นแล้ว ก็ถูกซะ บ้างออกไปอย่างรวดเร็วโดยสายฝนที่โหมซัดสาดอยู่ข้าง นอก

เวินชื่อยกมือขึ้นมาปิดตาที่เบิกโพลงอย่างฉับพลันก่อน สิ้นใจของอานมามา

แล้วพูดว่า “อานมามา เจ้าจำไว้ ชาติหน้า เมื่อเจ้าลืมตา ขึ้นมา จะได้เห็นข้าชัดๆ” เสียงของเวินชื่อดังขึ้นมา ท่ามกลางสายฝนยามค่ำคืนเป็นระลอกๆ ถูกพายุฝนนี้พัด กระจายออกไปไกลๆแล้ว

“คุณ คุณหนู อานมามาเจ้า…” ถึงแม้ว่าหรูเอ๋อร์จะไร้ เดียงสาก็ตาม แต่ก็ฟังคำพูดของเวินชื่อ รวมถึง ศพของ ผู้ชายที่ถือท่อนเหล็กเข้ามาในห้องคนนั้นด้วย นางก็พอ จะเดาออกไม่น้อยเช่นกัน

“นางหักหลังข้า ร่วมมือกับเวินจิ่น คิดหาคนมาทำให้ขา ของข้าพิการ”

เวินชื่อไม่ได้ถูกเลี้ยงดูในจวนอ๋องหัวมาแต่ไหนแต่ไร ซึ่ง เป็นหนึ่งเดียวของราชวงศ์เทียนหรง เพราะมีฐานะเป็น บุตรีของอ๋องต่างเชื้อสาย การทำอะไรอย่างเฉียบขาดจึงเป็นสัญชาตญาณของนาง

ตอนที่เลือดคาวๆเปื้อนเต็มมือสองข้าง “กลัวคุณหนูของ เจ้าหรือไม่? ความเยือกเย็นที่อยู่ในใจของนาง ดูเหมือน ว่าจะจางแตกกระจายออกไปไม่น้อย แม้แต่ความดุร้ายใน ที่อยู่ระหว่างคิ้วก็จางหายไปเยอะมากเช่นเดียวกัน

เวินชื่อดึงปิ่นปักผมสีทองออกมาอย่างช้าๆ หันไปมองหรู เอ๋อร์ แล้วถามว่า “กลัวคุณหนูของเจ้าไหม? ข้าฆ่าคนไป แล้วนะ”

“จะกลัวได้อย่างไรเจ้าค่ะ!” หรูเอ๋อร์ตะโกนเพราะกลัวว่า เวินชื่อจะเข้าใจผิด นางจึงรีบอธิบายออกมาว่า”พวกมัน ล้วนเป็นคนเลว! พวกล้วนไม่ใช่คนดีเช่นเดียวกับคุณหนู สาม พวกมัน พวกมันสมควรได้รับโทษเจ้าค่ะ!”

คำพูดที่ติดๆขัดๆของหรูเอ๋อร์ได้ปลอบประโลมหัวใจ ของเวินชื่อได้อย่างอธิบายไม่ถูก

นางพูดว่า “หรูเอ๋อร์ ข้าเชื่อเพียงเจ้าเท่านั้นนะ”

ท่ามกลางสายฝนในยามค่ำคืนที่มืดสนิท ร่างที่เพรียว บางสองร่างกำลังแบกอะไรบางอย่างอยู่ และเมื่อมาถึงชานเมือง พวกเขาก็เดินตามทางลาดชันลงแม่น้ำ แล้วก็ โยนสิ่งนั้นลงไป

“คุณหนูหลวงแห่งจวนอ๋องหัวรี? น่าสนใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ