อ้อมกอดแห่งขุนเขา กรุ่นไอรักใต้ดวงดาว

10 ขุนเขาแห่งเวทมนตร์



10 ขุนเขาแห่งเวทมนตร์

คีรีมันต์ก้าวน่าละอองดาวออกมาจากกระโจม ในตอนรุ่งเช้า ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดี ขณะที่หญิงสาวเอาแต่ก้มหน้าก้ม ตาไม่ยอมสบตาชายหนุ่ม จนกระทั่งกล่าวคำอำลากับหัวหน้าเผ่า ไมยาและครอบครัวเรียบร้อยแล้ว เธอก็รีบก้าวขึ้นมานั่งบนรถ ก่อนใคร โดยไม่รอให้ฮาซาลเปิดประตูรถให้ด้วยซ้ำ

เมื่อรถเริ่มเคลื่อนตัวออกจากบริเวณเทือกเขายเซนัมซา ฮาซา ลก็สังเกตเห็นว่าคีรีมันต์นั่งแอบมองละอองดาวแล้วอมยิ้มอยู่คน เดียว ส่วนหญิงสาวก็เอาแต่นั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง โดยไม่ ยอมพูดจาอะไรเลยสักคำ ชายหนุ่มผู้ทำหน้าที่คนขับรถมองดูที ท่าแปลกๆ ของทั้งสองคนจากกระจกมองหลังด้วยแววตาครุ่นคิด มาตลอดทาง จนกระทั่งถึงเทือกเขาคีรีมันตรา พอรถจอดสนิท ละอองดาวก็เปิดประตูรถก้าวลงไปทันที โดยไม่รอฮาซาลมาเปิด ประตูรถให้อีกเช่นเดิม จากนั้นหญิงสาวรีบก้าวเขาไปภายใน บ้านแล้วตรงเข้าไปที่ห้องพักอย่างรวดเร็ว

“ผมต้องรีบเข้าไปในเมืองกับฮาซาล คุณทานมื้อเช้าคนเดียว นะครับแล้วผมจะรีบกลับมา
คีรีมันต์บอกละอองดาวเมื่อก้าวตามเธอเข้ามาภายในห้อง หญิงสาวพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้โดยไม่ยอมสบตากับเขา พลาง เปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่เดินหายเข้าไปภายใน ห้องน้ำทันที

ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นอาการเขินของหญิงสาว พลาง

นึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนเช้ามืดที่ละอองดาวตื่นขึ้นมาพบว่าเธอ

กับเขานอนกอดกันอยู่อย่างดิบดี ร่างสองร่างแนบชิดแทบจะเป็น

เนื้อเดียว แถมใบหน้าสวยของเธอยังซุกซบอยู่กับแผ่นอกกว้าง

ของเขาอย่างเต็มอกเต็มใจและมีความสุขอีกด้วย ซึ่งก็คือสาเหตุ

ที่ทำให้หญิงสาวเขินจัดจนไม่ยอมพูดยอมจําและไม่ยอมสบตา

กับเขาจนถึงขณะนี้นั่นเอง

“เขินน่ารักจังลิตเติ้ลสตาร์ของผม”

คีรีมันต์พึมพำเบาๆ ก่อนเดินไปเปิดประตูตู้คว้าเสื้อผ้าชุดใหม่ ของตัวเองออกมา แล้วก้าวออกไปจากห้องเพื่อไปอาบน้ำเปลี่ยน เสื้อผ้าในห้องน้ำอีกห้องหนึ่ง

ละอองดาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ เมื่อก้าวเข้ามา ภายในห้องรับประทานอาหารแล้วไม่พบคีรีมันต์นั่งอยู่ จีวา รายงานว่าเขาเข้าเมืองไปกับฮาซาลแล้ว หญิงสาวจึงทรุดตัวลง นั่งรับประทานอาหารมื้อเข้าฝีมือป้าติลลาอย่างเอร็ดอร่อย เพราะไม่ต้องนั่งเผชิญหน้ากับ ชายหนุ่ม

“เมื่อคืนต้องค้างที่ยเซมซาคานันยานอนหลับสบายดีรึเปล่า คะผิดที่ผิดทางแบบนั้น ติสลาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็น ใย แต่ทําเอาละอองดาวซึ่งกำลังพยายามจะลืมเลือนเหตุการณ์ ทั้งเมื่อคืนและเมื่อตอนรุ่งเช้าให้ได้ ถึงกับใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา อีกรอบ ก่อนอ้อมแอ้มตอบหญิงสูงวัย

“ก็…หลับสบายดี..ค่ะ”

เธอหลับสบายเกินไปด้วยซ้ำ ถึงขนาดไปนอนกอดกับคีรีมันต์ อย่างแนบแน่นทั้งคืนโดยไม่รู้สึกตัว น่าอายที่สุดเลย ละอองดาว บ่นว่าตัวเองอยู่ภายในใจด้วยความรู้สึกหงุดหงิด

“ถ้าคานันยานอนหลับสบายก็ดีแล้วล่ะค่ะ ตอนที่ฮาซาลโทร มาบอกว่าต้องค้างคืนที่นั่นป้าก็เป็นห่วงค่ะ กลัวว่าคานั้นซากับ คานันยาจะนอนหลับไม่สบาย เพราะชาวไมยาปูฟูกนอนกันใน กระโจม ไม่เหมือนชาวคานั้นที่นอนอยู่บนเตียงในบ้าน” ดิลลา เว้นช่วงเล็กน้อยก่อนกล่าวต่อ

“ปกติคานันซาก็เป็นคนนอนยากเหมือนกันถ้าผิดที่ผิดทาง แบบนั้น ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ คานันซาจะไม่นอนค้างที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านพักของตัวเองเลยนะคะ”

ติลลาพูดยืดยาวทำให้หญิงสาวได้รู้ว่าสาเหตุที่คีรีมันต์ไม่ อยากจะนอนค้างที่ยูเซนัมซา ก็เป็นเพราะว่าเขาเป็นคนนอนยาก ถ้าหากผิดที่ผิดทางนั่นเอง แต่แล้วคิ้วโก่งเรียวสวยก็ขมวดมุ่นขึ้น มาทันที เพราะนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนนี้คีรีมันต์นอนหลับไปก่อนเธอ อย่างง่ายดายด้วยซ้ำ ไม่เห็นว่าเขาจะนอนหลับยากตรงไหนเลย สักนิด

“แต่เมื่อคืนคานันซาของป้าติลลาก็หลับสนิทดีนี่คะ ไม่เห็นเค้า จะหลับยากตรงไหนเลย”

ละอองดาวพูดออกมาตามความรู้สึกของตัวเอง แต่กลับทำให้ หญิงสูงวัยถึงกับมองเธอแล้วยิ้มด้วยแววตามีความหมายก่อนจะ พูดว่า

“คงจะเป็นเพราะว่ามีคานันยานอนอยู่ข้างๆ ด้วยคานันซาก เลยนอนหลับสนิทแบบนั้นได้ค่ะ”

“คงไม่ใช่หรอกค่ะ” ละอองดาวปฏิเสธด้วยใบหน้าร้อนผ่าว

มากกว่าเดิม

“ป้าเลี้ยงคานันซามาตั้งแต่อายุห้าขวบ หลังจากที่คานั้นยาก รีณาท่านแม่ของคานันซาเสีย คานันซาเป็นเด็กที่นอนยากมาก เพราะตอนที่คานันยากรุณายังมีชีวิตอยู่ ท่านจะต้องนอนกอด คานินซาทุกคืนจนคานันซาหลับเสียก่อนจึงจะปล่อยได้คานันชาก็เลยติดค่ะ พอ ดานันยากีรณาเสียชีวิตป้าก็เลยต้องทำหน้าที่นั้นแทนมานาน หลายปี จนคานันซาเข้าเรียนมัธยมต้นนั่นแหละค่ะ คานันซาก เลยต้องฝึกนอนคนเดียวให้ได้ เพราะต้องไปเรียนต่อมัธยมปลาย ที่อเมริกาป้าคงตามไปนอนกอดไม่ไหว”

ติลลาหัวเราะเบาๆ อย่างขบขันในตอนท้ายประโยค แต่ละออ งดาวย่นจมูกอย่างหมั่นไส้ชายหนุ่ม ก่อนจะเผลอพูดอย่างประชด ประชันเขาออกมา

“ตอนที่อยู่อเมริกาคานันซาของป้าติลลาไม่ได้นอนคนเดียว หรอกค่ะ เค้ามีสาวสวยมานอนกอดทุกคืน รับรองว่าหลับสนิท นอนสบายทั้งคืนแล้วก็ทุกคืนแน่นอนค่ะ”

“คานันยาเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ คานยาอาจจะรู้เรื่องที่คานันซา มีผู้หญิงเยอะแยะ แต่ถึงแม้ว่าคานันซาจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง กับผู้หญิงพวกนั้น คานันยาเชื่อเถอะค่ะ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้ นอนค้างคืนที่ห้องของคานันซาจนถึงเช้าเลยสักคน เรื่องนี้ฮาซา ลบอกป้าเอง เพราะว่าเค้าเป็นคนขับรถไปส่งผู้หญิงพวกนั้นด้วย ตัวเองทุกครั้ง เพิ่งมีคานั้นยาเป็นคนแรกที่คานันซานอนร่วมห้อง ด้วยได้จนถึงเช้า”

ติลลาพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ทำเอาละอองดาวซึ่งกำลังยกน้ำขึ้นดื่มแทบสำลักเลยทีเดียว เพราะคำพูดมีนัยลึก ซึ้งของหญิงสูงวัย

“ถ้าไม่ใช่คนที่รักและไว้ใจ คานันซาจะไม่ยอมนอนรวมห้อง ด้วยแล้วหลับสนิทแบบนั้นหรอกค่ะ คานซารักคานยามากนะ คะป้ารู้ดี” ติลลาบอกหญิงสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

ส่วนละอองดาวได้แต่นั่งอึ้ง ด้วยความรู้สึกที่พูดไม่ออกบอกไม่ ถูกเมื่อฟังหญิงสูงวัยพูดจบประโยค พร้อมกับใจที่เต้นแรงขึ้นมา โดยไม่มีเหตุผลอีกแล้ว

“ท่าทางวันนี้คานันซาอารมณ์ดีจังเลยนะครับ” ฮาซาลพูดขึ้น เมื่อก้าวตามคีรีมันต์เข้ามาภายในห้องประธานกรรมการบริษัท คานัน จิวเวลรี่ จำกัด ซึ่งเป็นห้องทำงานส่วนตัวของคีรีมันต์ หลัง จากที่เสร็จสิ้นการประชุมของบริษัท

“ทำไมนายถึงคิดแบบนั้นฮาซาล” คีรีมันต์ถามอีกฝ่ายด้วย รอยยิ้ม พลางทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ พร้อมทั้งทำมือ ให้ฮาซาลนั่ง ลงที่เก้าอี้ตัวตรงกันข้ามกับเขาด้วย

“ก็ผมเห็นคานันซายิ้มระรื่นมาตั้งแต่เช้าแล้ว ท่าทางเมื่อคืน คานันซาคงจะหลับสนิทแล้วก็นอนสบายอยู่ในกระโจมที่ยเซนัม ซาตินะครับ” ฮาซาลพูดพลางมองสบตาคีรีมันต์อย่างจับสังเกต ชายหนุ่มเลยหัวเราะ เบาๆ ก่อนตอบว่า

“ใช่ ฉันหลับสนิทแล้วก็นอนสบายมากเลยล่ะฮาซาล”

“หวังว่าเมื่อคืนคานันซาคงไม่ได้ทำผิดคำสัญญากับคุณไอยรา ยานะครับ” ฮาซาลดักคอ

“ไม่หรอกน่า ฉันจะไปทำอย่างนั้นได้ยังไงกัน” คีรีมันต์ปฏิเสธ

“แล้วทำไมคุณละอองดาวถึงได้มีท่าทางแปลกๆ แบบนั้นล่ะ ครับ ถ้าหากว่าคานันซาไม่ได้ทำอะไรเธอ” ฮาซาลถามพลาง อมยิ้มอย่างรู้ทัน คีรีมันต์มองเพื่อนรักและคนสนิทของเขาด้วย แววตาขุ่นเคือง ก่อนจะว่าอีกฝ่ายอย่างหมั่นไส้

“ฉันเกลียดนายชะมัดเลยฮาซาล นายจะรู้ทันฉันไปถึงไหนนะ

“ถ้าผมไม่รู้ทันคานันซา เวลายี่สิบห้าปีที่เราเป็นเพื่อนกันมาก ไม่มีความหมายเลยสิครับ”

“ฉันรับรองว่าเมื่อคืนฉันไม่ได้ผิดสัญญากับไอยรายาแน่นอน ฉันก็แค่พยายามทำให้ละอองดาวใจอ่อนยอมรับรักฉันก็เท่านั้น เอง”

คีรีมันต์ยืนยัน ฮาซาลเลยหัวเราะเบาๆ ก่อนพูดว่า

“ดีแล้วล่ะครับอย่าฝืนใจเธอเลย รอให้เธอมอบความรักให้กับ

คานันซาด้วยความเต็มใจจะดีกว่า” “ฉันรู้แล้วล่ะน่าถึงต้องอดทนอยู่นี่ไง ทรมานใจชะมัด” คีรีมันต์

“อะไรที่ได้มายากมักจะเป็นสิ่งที่มีค่ามากเสมอครับคานันซา ฮาซาลพูดยิ้มๆ

“อืม ละอองดาวมีค่ามากสำหรับฉัน เอาล่ะ เดี๋ยวเราไปหาท่าน ลงยาราลกับรามิลกันดีกว่า ส่งข่าวเรื่องท่านวาตารี แล้วก็ วางแผนเรื่องท่านนัมเกวเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะได้รีบกลับบ้านกัน ซะที ฉันคิดถึงคานันยาของฉัน”

คีรีมันต์พูดยิ้มๆ พลางขยับลุกขึ้นยืน ฮาซาลจึงลุกขึ้นยืนตาม ด้วยสีหน้าและแววตาขบขัน ก่อนก้าวตามคีรีมันต์ออกไปจาก ห้อง

วันนี้จีวาพาละอองดาวลงมาเดินเล่นที่บริเวณเชิงเขา ตั้งแต่ เธอรับประทานอาหารมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อย เด็กสาวพาเธอไป พูดคุยทักทายและเยี่ยมเยียนชาวคานั้นที่อาศัยอยู่ภายในเทือก เขาแห่งนี้ ซึ่งทุกคนต่างก็ให้ความเคารพ รักใคร่ และเอ็นดูหญิง สาวมาก หลังจากที่ร่วมรับประทานอาหารมื้อกลางวันกับ ครอบครัวของจีวาแล้ว เด็กสาวก็พาละอองดาวไปเดินชมคอกม้าที่ซาอิดช่วยดูแลอยู่ร่วมกับผู้ชาย ชาวคานันคนอื่นๆ ที่นี่มีการเพาะม้าสายพันธุ์ดีเอาไว้เป็นจำนวน มากและมีการฝึกม้าตามคำสั่งของคีรีมันต์ด้วย

จากนั้นเด็กสาวก็พาเธอมาเดินชมแปลงผักที่คีรีมันต์ให้พวก ชาวบ้านช่วยกันปลูกเอาไว้ เพื่อใช้ปรุงอาหารรับประทานสำหรับ ผู้คนภายในเทือกเขาคีรีมันตราแห่งนี้ ละอองดาวจึงช่วยจีวาเก็บ ผักหลายชนิดอย่างสนุกสนาน แล้วช่วยกันถือเดินกลับขึ้นไปที่ บ้านเพื่อให้ติลลา อาหารมื้อเย็นด้วย

“จีวาบอกว่าวันนี้พาคุณลงไปเดินเล่นที่เชิงเขา คีรีมันต์พูดขึ้น เปรยๆ เมื่อเขาเอนตัวลงนอนบนเตียงที่มีหมอนข้างสองใบกัน กลางเอาไว้เหมือนเคย ละอองดาวซึ่งกำลังนั่งพิงหัวเตียงอ่าน หนังสือนวนิยายที่เธอเอามาจากอเมริกาด้วยพยักหน้าพลางพูด

“ใช่ค่ะ ชาวบ้านทุกคนใจดีกับฉันมากค่ะ”

“ผมดีใจมากที่ทุกคนในคีรีมันตราชอบคุณ

ชายหนุ่มพูดอีกพลางขยับตัวตะแคงข้างมาทางละอองดาว แล้วตั้งข้อศอก ศีรษะของตัวเองเอาไว้เพื่อมองใบหน้าสวยให้ ถนัดตา คําพูดของเขาทำให้หญิงสาวต้องละสายตาจากหนังสือ ที่อ่านอยู่ขึ้นมองใบหน้าคมเข้มของชายหนุ่ม พลางขมวดคิ้วโก่งเรียวเล็ก น้อยก่อนถามว่า

“คุณจะมาดีใจทำไมเรื่องที่ทุกคนชอบฉัน

“คุณเป็นคานันยาของผม ผมก็ต้องดีใจครับที่ชาวเผ่าคานั นของผมทุกคนชอบคุณ” คีรีมันต์ตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพอ กับแววตาที่เขากำลังมองสบกับเธอ ละอองดาวหลบตาชายหนุ่ม ก้มลงอ่านหนังสือต่อโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา คีรีมันต์จึงถาม

“คุณรู้รึเปล่าว่าทำไมผมถึงได้ชื่อว่าคีรีมันต์”

“ก็ตั้งตามชื่อเทือกเขาครีมันตราไงไม่น่าถาม” ละอองดาว ตอบโดยที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่หนังสือ คีรีมันต์หัวเราะเบาๆ ก่อนพูดว่า

“ท่านพ่อตั้งชื่อนี้ให้ผมเพราะว่าอยากให้ผมหนักแน่น มั่นคง แล้วก็ยิ่งใหญ่ยาวนานเหมือนขุนเขา”

“ในภาษาไทย ว่าคีรีก็แปลว่าขุนเขาหรือภูเขาเหมือนกัน ส่วนมันตราฉันคิดว่าน่าจะมีความหมายเดียวกับคำว่ามนตรา หมายถึงเวทมนตร์คาถา เพราะฉะนั้นถ้าแปลความหมายชื่อของ เทือกเขาคีรีมันตราในภาษาไทยก็น่าจะแปลว่าขุนเขาแห่ง เวทมนตร์”
หญิงสาวพูด ชายหนุ่มมองใบหน้าสวยยิ้มๆ พลางพูด

“ถ้าอย่างนั้นชื่อของผมในภาษาไทยที่มีความหมายว่าขุนเขา แห่งเวทมนตร์ด้วยสิ ใช่ไหมครับ

“ก็คงงั้นมั้ง” ละอองดาวพยักหน้าพลางพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก

“ถ้าผมคือขุนเขาแห่งเวทมนตร์ ผมก็อยากจะเสกให้ดวงดาว อย่างคุณ อยู่ในอ้อมกอดของขุนเขาอย่างผมตลอดไปจังเลยครับ ละอองดาว” คีรีมันต์พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม

ละอองดาวเงยหน้าขึ้นมองเขา แล้วก็พบว่านัยน์ตาดำสนิท ราวกับรัตติกาลของคีรีมันต์กำลังจ้องมองเธออยู่ด้วยแวว ตาหวานซึ้ง หญิงสาวมองค้อนชายหนุ่มอย่างหมั่นไส้พลางว่า

“เวทมนตร์แบบที่คุณใช้กับผู้หญิงคนอื่นใช้กับฉันไม่ได้ผล หรอก นอนดีกว่า ห้ามคุณข้ามเขตมานะ” พูดจบหญิงสาวก็วาง หนังสือไว้บนโต๊ะข้างเตียงก่อนจะล้มตัวลงนอนทันที

คีรีมันต์ส่ายหน้ายิ้มๆ เขาจะพยายามทำให้หญิงสาวใจอ่อน กับเขาให้ได้ ซึ่งชายหนุ่มคิดว่าคงจะอีกไม่นานนักหรอกที่ละออง ดาวจะยอมเปิดใจให้เขา จากนั้นเขาก็เอื้อมมือไปกดปิดสวิทช์ไฟ ที่หัวเตียง ก่อนล้มตัวลงนอนพลางพูด

“ถ้าผมเป็นขุนเขาแห่งเวทมนตร์จริงๆ สิ่งแรกที่ผมจะทำก็คือ ทำลายเส้นกั้นเขตแดนระหว่างเราสองคนก่อน จากนั้นผมก็จะได้ ดวงดาวมาไว้ในอ้อมกอดของผมเหมือนเมื่อคืนตลอดไป ฝันดี ในอ้อมกอดของขุนเขานะครับลิตเติ้ลสตาร์”

“คนบ้า!”

ละอองดาวค่อนขอดชายหนุ่มอยู่ในใจ พลางบอกตัวเองว่า เธอจะต้องไม่พลาดท่าเสียทีให้คีรีมันต์เข้าถึงเนื้อถึงตัวอีกเป็นอัน ขาด เพราะเขากำลังทำให้เธอวูบวาบหวั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็น กับผู้ชายคนไหนมาก่อน หรือว่านี่คือเวทมนตร์ของขุนเขาจริงๆ

เสียงเคาะประตูห้องเบาๆ สามครั้ง ทำให้กาซิมหัวหน้าเผ่าซา ยีและเด็กสาวคราวลูกคนหนึ่ง ซึ่งกำลังนอนหลับสนิทกกกอดกัน อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าทั้งคู่เริ่มรู้สึกตัว กาซิมดันร่างเด็กสาว ออกห่างอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนขยับลุกขึ้นนั่งหันไปคว้าเสื้อคลุมมา สวมลงบนร่างเปลือยเปล่าของตนเอง ส่วนเด็กสาวก็ดึงผ้าห่มขึ้น มาคลุมร่างเปลือยอวบอัดขาวนวลที่เต็มไปด้วยรอยแดงทั้งตัว เอาไว้

จากนั้นหัวหน้าเผ่าชายก็ก้าวลงจากเตียง เดินผ่านฉากกั้นออกไปด้านนอก ก่อนทรุดตัวลงนั่งบนโซฟายาว พลางเอ่ยปากอนุญาตคนข้างนอกให้เข้ามาได้ ประตูห้องถูกเปิด ออกก่อนที่ร่างสูงบึกบึนของโซเลสจะก้าวเข้ามา แล้วหันกลับไป ดึงประตูปิดเอาไว้ตามเดิม จากนั้นจึงค่อยเดินตรงเข้ามาที่โซฟา ซึ่งชายผู้เป็นใหญ่ในเผ่าชายนั่งรออยู่

“นั่งก่อนสิโซเลส” กาซิมบอกลูกน้องคนสนิท โซเลสกล่าวคำ ขอบคุณผู้เป็นนาย ก่อนทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวข้างๆ กาซิม พร้อมทั้งวางคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่เขาถือติดมือเข้ามาด้วยลง บนโตะ

“มีข่าวคืบหน้าเรื่องผู้หญิงในคำทำนายของแม่เฒ่าเผ่าไมยา บ้างก็ยัง” กาซิมถาม

โซเลสพยักหน้าพลางเริ่มกดปุ่มเปิดคอมพิวเตอร์ก่อนจะพูดว่า

“มีแล้วครับท่านกาชิม คนของเราที่ผมส่งไปแทรกซึมอยู่ในคีรี มันตราส่งข่าวมาว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่กับคีรีมันต์ที่นั่นจริงๆ แล้วนี่ ก็คือภาพถ่ายของผู้หญิงคนนั้นครับท่านกาม คนของเราแอบ ถ่ายเอาไว้ตอนที่คีรีมันต์พาเธอไปแนะนำตัวกับชาวคานั้นที่ เหมืองแร่ในเทือกเขาคีรีมันตรา”

โซเลสหันหน้าจอคอมพิวเตอร์ซึ่งเปิดไฟล์รูปภาพเอาไว้ เรียบร้อยแล้วไปทางหัวหน้าเผ่าซาย กาซิมขยับก้มตัวลงมามองภาพใบหน้าของหญิงสาวสวยชาวต่างชาติ ซึ่งมีนัยน์ตาสีน้ำเงินสดนิ่งนานด้วยอาการตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพิมพ์ออกมา

“สวยมาก”

จากนั้นหัวหน้าเผ่าชายก็คลิกเลื่อนไปดูรูปภาพถัดไปเรื่อยๆ ซึ่งแต่ละภาพถ่ายให้เห็นเรือนร่างระหงงดงามสมส่วนของเธอได้ อย่างชัดเจน นัยน์ตาของกาซึมไหวระริกอย่างพึงพอใจ พลาง ถามตัวเองอยู่ภายในใจว่า ขนาดเห็นแค่ภาพถ่ายเธอยังงดงาม ขนาดนี้ ถ้าหากว่าเขาได้เห็นตัวจริงและได้นอนกกกอดหญิงสาว คนนี้เอาไว้ทั้งคืนเขาจะมีความสุขมากขนาดไหนกัน

“คนของเรารายงานมาอีกว่าคีรีมันต์พาเธอไปพบกับหัวหน้า เผ่าไมยายเซนัมซามาแล้วครับท่านกาซิม”

โซเลสรายงาน กาซิมพยักหน้าอมยิ้มเจ้าเล่ห์พลางพูด โดยที่ สายตาไม่ได้ละไปจากใบหน้าและเรือนร่างของหญิงสาวใน ภาพถ่ายแม้แต่น้อย

“คีรีมันต์วางแผนเอาเธอไปแสดงตัวให้วาตารีเห็นเพื่อให้ วาตารียอมเข้าข้างมัน แต่เราก็ยังไม่หมดหวังหรอกนะโซเลส เพราะมันยังไม่ได้พาเธอไปพบน้มเกว เพราะฉะนั้นบอกให้คน ของเราแอบลักพาตัวผู้หญิงคนนี้ออกมาจากคีรีมันตรา ให้ได้ แค่ ได้ตัวเธอมาวาตารีกับนัมเกวต้องยอมหันมาเข้าเราอยู่แล้ว เพราะ สองนั่นเชื่อคําทํานายของเฒ่าอาวาตีชนิดปักหัวป่าแต่ไหนแต่ไร แล้วที่ของฉัน โดยเร็ว

ตอนท้ายประโยคหัวหน้าเผ่าชายพูดด้วยนัยน์ตาวาววาม พลางมองใบหน้าสวยเรือนระหงของหญิงสาวใน ภาพถ่ายพึงพอใจ กาซิมไม่สนใจเธอเป็นคีรีมันต์ แล้วหรือยัง เพราะเขารู้นิสัยชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าเผ่าคากันไม่ทางปล่อยให้ผู้หญิงสาวสวยขนาดหลุดมือได้ แต่เมื่อเธอสดสวยและเรือนร่างงดงามชวนปรารถนาน่าหนุ่มผู้คอยตั้งเป็นกับเขาเสมอ

ท่านกาซิม ผมรีบวางแผนแล้วสั่งคนของชิงตัวเธอ โดยที่สุด

“เดี๋ยวพาตัวเด็กคนนั้นไปด้วยโซเลส แล้วจ่ายเงินค่ากาซิมบอกโซเลสพลางพยักหน้าไปทางเตียงนอนของเขา ก่อนลุกขึ้นจากโซฟาแล้วก้าวเข้าไปภายห้องน้ำทันที

โซเลสจึงขยับลุกขึ้นยืน ก่อนก้าวผ่านฉากกั้นตรงไปยังเตียงนอนกว้างใหญ่ของผู้เป็นนาย แล้วก็พบกับร่าง ของเด็กสาววัยแรกรุ่นที่ยังคงนอนอยู่บนเตียง โดยมีผ้าห่มคลุม ปกปิดร่างเปลือยอยู่ แต่ชายหนุ่มก็เห็นอยู่ดีว่าตามแขนของเด็ก สาวที่โผล่พ้นผืนผ้าออกมาเต็มไปด้วยรอยแดงเป็นๆ ขณะที่ ริมฝีปากอวบอิ่มบวมเจ่อนิดๆ ซึ่งเกิดจากการกระทำของผู้เป็น นายเขาที่มีรสนิยมรุนแรงนั่นเอง

“ลุกขึ้นมาแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วตามออกไปข้างนอก ท่าน กาซิมบอกให้ฉันพาเธอไปส่ง” ชายหนุ่มบอกเด็กสาวเสียงเรียบ พลางหมุนเตรียมจะเดินออกไปจากห้อง แต่อีกฝ่ายก็เรียกเขาเอา ไว้

“เดี๋ยวก่อนค่ะคุณโซเลส”

“มีอะไร” โซเลสชะงักก่อนจะหันกลับมาถามเด็กสาว เจ้า หล่อนมีทีท่าเอียงอายเมื่อถามว่า

“ท่านกาซิมจะเรียกให้ฉันมาที่นี่อีกรึเปล่าคะ

ชายหนุ่มมองเด็กสาวตรงหน้าด้วยแววตาสมเพช ก่อนตอบ ด้วยน้ำเสียงราบเรียบเช่นเดิม

“เธอทําให้ท่านกาซิมพอใจมากคราวหน้าท่านต้องเรียกหา เธออีกแน่นอน ถ้าเข้าใจแล้วก็รีบแต่งตัวซะ ฉันจะได้รีบพาเธอไป ส่ง เพราะฉันยังมีงานต้องทำอีกหลายอย่าง
พูดจบโซเลสก็ก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องทันที

“คานันยาวาดรูปสวยจังเลยค่ะ” จีวาซึ่งนั่งดูละอองดาววาดรูป วิวของเทือกเขาคีรีมันตราอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่เอ่ยปากชมขึ้น พลาง มองดูรูปที่หญิงสาววาดอย่างชื่นชม

“ขอบใจจ้ะจีวา”

ละอองดาวพูดกับเด็กสาวยิ้มๆ พลางลากดินสอแรเงาลงบน ภาพที่เธอวาดด้วยความชำนาญ วันนี้หลังจากรับประทานอาหาร เช้ากับเธอเรียบร้อยแล้วคีรีมันต์ก็เข้าเมืองไปกับฮาซาลเหมือน เคย ส่วนละอองดาวที่ว่างเพราะไม่มีอะไรจึงทำเดินเตร็ดเตร่ไป มาสำรวจภายในบ้าน จนกระทั่งไปพบกระดาษพร้อมทั้งอุปกรณ์ สําหรับวาดภาพที่เก็บเอาไว้ในห้องเก็บของ หญิงสาวจึงขอ อนุญาตติลลาเอาออกมานั่งวาดภาพฆ่าเวลาเล่นอยู่ที่นี่ โดยมี วาตามมานั่งเป็นเพื่อนอยู่ด้วย

“คานันยาเก่งจังเลยนะคะที่วาดภาพได้สวยขนาดนี้ วาดภาพได้สวยแบบคานันยาจังเลยค่ะ” หนูอยาก

“ฉันไม่ได้เก่งอะไรมากมายหรอกจ้ะจีวา ฉันก็ต้องเรียนเหมือน กันถึงจะวาดภาพได้สวยแบบนี้”

ละอองดาวหันไปบอกเด็กสาว จีวาจึงถามต่อ

“คานันยาเป็นจิตรกรหรือคะ”
หญิงสาวทําท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนอธิบายให้อีกฝ่ายฟัง อย่างง่ายๆ

“ก็ไม่เชิงนะจ๊ะ ฉันเรียนวาดภาพเพื่อการออกแบบเครื่อง ประดับจ๊ะจีวา”

“อ๋อ เหมือนคุณไอยรายาใช่ไหมคะ”

“ใช่จ้ะ เอาล่ะรูปนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว” ละอองดาวพูดพลางยก ภาพที่เธอแรเงาด้วยดินสอเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขึ้นมองเทียบกับ วิวตรงหน้าอย่างพึงพอใจ ก่อนที่เสียงของจีวาจะดังขึ้น

“หนูขอรูปนี้ได้ไหมคะคานันยา

“จีวาอยากได้รูปนี้เหรอจ๊ะ” ละอองดาวหันมาถามเด็กสาว

“ขอโทษค่ะ ถ้าคานันยาจะวาดรูปนี้ให้คานันซา หนูก็ไม่เอา หรอกนะคะ” จีวาพูดด้วยน้ำเสียงเกรงอกเกรงใจ ละอองดาวเลย ส่ายหน้ายิ้มๆ พลางบอกกับเด็กสาว

“ฉันไม่ได้วาดภาพนี้ให้ใครซะหน่อยถ้าจีวาอยากได้ก็เอาไปจะ

“ขอบคุณค่ะคานันยา” จีวาพูดอย่างตื่นเต้น ขณะยื่นมือมารับ ภาพไปจากมือละอองดาวด้วยสีหน้ายินดีเป็นที่สุดพลางพูด
“หนูจะเอาไปอวดป้าติลลา ซาอิด แล้วก็ทุกคนเลยค่ะว่าภาพ นี้คานันยาวาดเองกับมือแล้วก็ยกให้หนูด้วย

“ขนาดนั้นเลยเหรอจ๊ะจีวา” ละอองดาวพูดอย่างขบขันพลาง มองดูเด็กสาวด้วยแววตาเอ็นดู ก่อนที่เสียงติลลาจะดังมาจาก ทางหน้าบ้าน

“จีวามายกของว่างไปให้คานันยาทานได้แล้ว”

“ค่ะป้าติลลา” จีวาร้องรับหญิงสูงวัยพลางขยับลุกขึ้นยืน แล้ววิ่งถือรูปภาพติดมือเข้าไปในบ้านด้วยทันที

ละอองดาวมองตามเด็กสาวไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะ ยกมือข้างซ้ายขึ้นมาเลยผมยาวสยายที่ถูกลมพัดปลิวลงมาปรก ใบหน้าขึ้นไป แต่แล้วหญิงสาวก็ชะงักนิดหนึ่ง เมื่อมองเห็นสาย รัดข้อมือที่คีรีมันต์ถักแล้วยกให้เธอ ซึ่งขณะนี้ดอกกับใบของมัน ร่วงหล่นหมดแล้ว จึงทำให้สามารถมองเห็นลวดลายจากเส้น เถาวัลย์ที่ชายหนุ่มถักได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นลวดลาย ที่งดงามแปลกตามากเลยทีเดียว ถ้าหากว่าลวดลายของมันถูก นำไปทําเป็นเครื่องประดับคงจะสวยงามไม่น้อย เมื่อคิดได้ดังนั้น ละอองดาวจึงเริ่มจรดปลายดินสอลงบนกระดาษอีกครั้ง แล้ววาด ภาพสายรัดข้อมือที่เธอสวมใส่อยู่ด้วยจิตวิญญาณของนัก ออกแบบอย่างตั้งอกตั้งใจทันที

“ผมให้ฮาซาลติดต่อไปหลายครั้งแล้ว แต่ท่านนัมเกวก็ยังไม่ ยอมให้ผมไปพบเลยครับท่านลุง บอกแต่ว่ายังไม่ว่าง” คีรีมันต์ บอกกับยาราล ขณะนี้เขานั่งอยู่ภายในบ้านพักส่วนตัวของ หัวหน้าเผ่าดวาร์ เพื่อประชุมพูดคุยกัน โดยมีรามิลกับฮาซาลร่วม อยู่ด้วยเช่นเคย

“นัมเกวดงยังไม่ยอมให้หลานพบง่ายๆ หรอกคีรีมันต์ เพราะ เขารู้ดีว่าหลานต้องการไปพบเขาเรื่องอะไร

ยาราลบอกคีรีมันต์ รามิลส่ายหน้าพลางบน

“ท่านนัมเกวนเล่นตัวชะมัดเลย”

“นัมเกวเป็นคนค่อนข้างเก็บตัวมาแต่ไหนแต่ไร เราคงต้องใช้ ความพยายามมากสักหน่อยที่จะเข้าไปถึงตัวได้ ลุงคิดว่าบางที ลุงควรจะเป็นฝ่ายติดต่อขอพบกับหัวหน้าเผ่าปันซาด้วยตัวเองจะ ดีกว่านะคีรีมันต์” ยาราลพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แต่คีรีมันด์กลับ พูดขึ้นด้วยสีหน้าและน้ำเสียงมั่นใจว่า

“ท่านลุงบอกกับผมเองไม่ใช่เหรอครับ ว่าท่านนมเกวเชื่อถือ เรื่องคำทำนายของแม่เฒ่าอาวาตีมาก ผมไม่คิดว่าท่านนมเกวจะ ไม่อยากพบละอองดาวหรอกครับท่านลุง เพียงแต่คงกำลังสงวน ทีท่าอยู่เท่านั้นเอง ท่านลุงวางใจเถอะครับ ผมคิดว่าอีกไม่นานหรอกท่าน นัมเกวจะต้องอนุญาตให้ผมเข้าพบอย่างแน่นอน”

“แต่ตอนนี้เราก็ต้องคอยระวังกาซีมด้วยเหมือนกันนะครับ เพราะไม่แน่ว่ากาชิมอาจจะกำลังวางแผนทำอะไรสักอย่างอยู่ แล้วผมก็ขอให้ท่านยาราลและคุณรามิลระวังตัวมากๆ ด้วยนะ ครับ” ฮาซาลพูดขึ้น

“ขอบใจนายมากฮาซาลที่เป็นห่วงฉันกับท่านพ่อ แต่นาย อย่าลืมระวังคานันซาของนายให้ดีๆ ด้วยล่ะ กาซิมเหม็นขี้หน้า หมอนี่จะแย่แล้ว” รามิลบอกยิ้มๆ ฮาซาลเลยหัวเราะเบาๆ ก่อน จะพูดว่า

“ผมคอยระวังอยู่แล้วล่ะครับ เพราะว่าผมอยากจะเห็นลูกของ คานันซากับคานินยาครับคุณรามิล”

“นายอยากโดนเตะมากใช่มั้ยฮาซาล ห้ามล้อเลียนฉันนะ” คีรี มันต์ว่าฮาซาลเสียงขุ่นตาขวางใบหน้าคมของเขาเป็นสีเข้มขึ้น ด้วยความเขิน ขณะที่ยาราล รามิลและฮาซาลพากันหัวเราะอย่าง ขบขันกับท่าทางของเขา ก่อนที่รามิลจะถามขึ้นว่า

“แล้วนายมีทีท่าว่าจะมีลูกให้พวกเราได้เห็นบ้างรึยังล่ะคีรีมัน

“เดี๋ยวมีเมื่อไหร่พวกนายก็รู้เองแหละน่า ถามอยู่ได้”
“ลุงชักอยากจะเห็นตัวจริงของว่าที่หลานสะใภ้ซะแล้วสิคีรีมัน ต์ เธอเก่งนะที่ไม่ยอมตกหลุมเสน่ห์ของหลานง่ายๆ” ยาราลพูด ขึ้น

“อีกไม่นานท่านลุงก็จะได้พบเธอแล้วล่ะครับ อย่าลืมเตรียม

ของเอาไว้รับขวัญหลานสะใภ้ด้วยนะครับ

คีรีมันต์บอกยิ้มๆ รามิลเลยแซวเขาอีกว่า “มั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอไอ้คานันซา”

“ชัวร์ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ขุนเขาอย่างฉันจะโอบกอดดวงดาวเอา ไว้ไม่ให้หายไปไหนได้อีกนายคอยดูก็แล้วกัน” คีรีมันต์พูดด้วย น้ำเสียงหนักแน่นและมั่นคง พอกับสีหน้าและแววตาของเขาที่ ราวกับจะให้คำมั่นสัญญากับตัวเองด้วย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ