อ้อมกอดแห่งขุนเขา กรุ่นไอรักใต้ดวงดาว

1 คำทํานายของเผ่าไมยา



1 คำทํานายของเผ่าไมยา

“หญิงสาวชาวต่างชาติผู้มีเรือนร่างสูงระหง ซึ่งมีผิวพรรณขาว นวลเนียนละมุนละไม ใบหน้างดงามอ่อนหวาน นัยน์ตาราวกับ ท้องทะเลลึก ที่จะมาเยือนศิขรัฐ ในคืนวันที่ดวงดาวมากมายร่วง หล่นจากฟากฟ้า หากชายใดได้นางมาเคียงคู่ จะส่งเสริมให้ บุคคลผู้นั้นยิ่งใหญ่ในดินแดนแห่งขุนเขา”

ชายหนุ่มร่างสูงผิวคร้ามแดดใบหน้าคมนัยน์ตาสีน้ำตาล เข้มเช่นเดียวกับเรือนผมเว้นช่วงเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวต่อไปอีก ว่า

“นี่คือคําทํานายของแม่เฒ่าอาวาตีแห่งเผ่าไมยาครับ”

“เหลวไหล ไร้สาระที่สุดเลยฮาซาล

เสียงชายหนุ่มซึ่งมีผิวขาวจัด ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้ม จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากได้รูปสวย คิ้วเข้มหนารับกับ นัยน์ตาสีดำสนิทราวกับรัตติกาล เช่นเดียวสีของเรือนผมที่ยาวระ ต้นคอ ซึ่งกำลังนั่งไขว้ห้างเอนตัวพิงพนักเก้าอี้บุนวมตัวใหญ่อยู่ พูดขึ้นพลางส่ายหน้าอย่างระอาใจ

ในขณะที่ชายหนุ่มอีกคนซึ่งมีผิวขาวจัดพอกัน ใบหน้า คมสันอ่อนโยน นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเช่นเดียวกับสีเรือนผมของเขาซึ่งยาวระต้นคอ หัวเราะออกมา เบาๆ อย่างขบขัน ก่อนจะพูดขึ้นว่า

“นายไม่เชื่อคําทํานายล่ะสิคีรีมันต์”

“นี่มันยุคอินเทอร์เน็ตแล้วนะรามิล เราไม่ควรงมงายกับคำ ทำนายของแม่เฒ่าอายุร้อยกว่าปี ซึ่งไม่แน่ว่าตอนนี้แกอาจจะจํา แม้แต่อายุของตัวเองก็ยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ” คีรีมันต์พูด

“ลุงเข้าใจว่าหลานเป็นคนหัวสมัยใหม่ไม่เชื่อถือเรื่องค่า ทำนาย แต่แม่เฒ่าอาวาตีแห่งเผ่าไมยาก็มีอายุยืนยาวมาจนถึง หนึ่งร้อยยี่สิบปีแล้วนะคีรีมันต์ ชนเผ่าไมยาต่างให้ความเคารพ นับถือ และเชื่อว่าแม่เฒ่ามีเวทมนตร์คาถา สามารถหยั่งรู้อดีต และอนาคตได้จริง แล้วลุงก็เชื่อว่าตอนนี้หัวหน้าเผ่าอีกสามเผ่าก็ ต้องเชื่อในคำทำนายนี้เหมือนกัน และแน่นอนว่าทุกคนก็ต้อง กำลังควานหาตัวหญิงสาวตามคำทำนายอยู่ เพราะอย่างน้อยถ้า ใครได้ตัวหญิงสาวคนนี้ไป ก็จะได้รับความเชื่อถือในการลงมติ เลือกให้เป็นผู้ปกครองศิขรัฐคนต่อไปอย่างแน่นอน นี่คือเหตุผล ที่เราจะไม่สนใจในเรื่องคำทำนายไม่ได้ อย่างน้อยๆ หลานก็คง ไม่อยากให้อ่านาจทั้งหมดในศิขรัฐต้องตกไปอยู่ในมือของกา มนานถึงห้าปีหรอก ใช่ไหมคีรีมันต์”

ยาราลบุรุษวัยกลางคนท่าทางภูมิฐาน ผู้ดำรงตำแหน่งเป็นประมุขของประเทศศิขรัฐในปัจจุบัน ซึ่งมีศักดิ์เป็น บิดาของรามิลพูดยิตยาว ก่อนจะจบประโยคด้วยคำถามที่ชาย หนุ่มซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกชายของ “คิรินทร์” เพื่อนสนิทผู้ล่วงลับไป แล้วของเขา

“ผมไม่มีวันยอมให้เฒ่าเจ้าเล่ห์อย่างกาซิมขึ้นมาปกครอง ศิขรัฐอย่างเด็ดขาด ท่านลุงต่างหากที่เหมาะสมจะปกครองศิขรัฐ ต่อไป แล้วผู้หญิงในคำทำนายก็ต้องเป็นของท่านลุงด้วย ถ้า หากว่าเธอจะช่วยให้ท่านลุงได้ขึ้นปกครองศิขรัฐต่อไป” คีรีมันต์ ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังและหนักแน่น ยาราลพยักหน้าพลางยิ้ม ก่อนพูด

“ขอบใจมากหลานรัก

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ต้องวางแผนเพื่อหาตัวผู้หญิงตาม คําทํานายให้พบก่อนใคร แล้วก็เอาตัวเธอมาให้ได้ ก่อนที่จะมี ใครได้ตัวเธอไป ฟังจากคำทำนายที่ว่าเธอจะมาเยือนศิขรัฐใน คืนวันที่ดวงดาวมากมายร่วงหล่นจากฟากฟ้า ถ้าให้ฉันเดาฉัน คิดว่ามันน่าจะตรงกับคืนที่จะมีปรากฏการณ์ฝนดาวตกในอีกสิบ วันข้างหน้านะ หรือนายว่าไงคีรีมันต์” รามิลพูดยืดยาวก่อนจะหัน มาถามคีรีมันต์ในตอนท้ายประโยค ชายหนุ่มพยักหน้ารับอย่าง เนือยๆ ก่อนจะตอบแกมประชดเพื่อนรักว่า
“อืม นายว่าไงฉันก็ว่างั้นแหละ ฉันไม่ได้แม่นยำแล้วก็เก่ง เรื่องดาราศาสตร์เหมือนนายน ไอ้คุณดอกเตอร์รามิล

แล้วคำพูดของเขาก็เรียกเสียงหัวเราะจากอีกสามคนที่อยู่ ภายในห้องได้ทันที ก่อนที่รามิลจะหันไปพูดกับผู้เป็นบิดาของ เขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างล้อเลียนว่า

“หลังจากที่ท่านพ่อเป็นโสดมานานหลายปี ผมก็จะมีแม่ เลี้ยงเป็นสาวสวยชาวต่างชาติแล้วนะครับ”

“แล้วฉันต้องแสดงความยินดีกับนายล่วงหน้า ที่นายกำลัง จะมีแม่คนที่สองด้วยรึเปล่ารามิล คีรีมันต์ถามเพื่อนรักอย่างก วนๆ เลยถูกรามิลย้อนถามกลับมาว่า

“แล้วเมื่อไหร่คานันซาแห่งคีรีมันตราจะหาคานันยาให้ ชาวคานันซะทีล่ะ จริงไหมฮาซาล” ท้ายประโยครามิลหันไปถาม ฮาซาล ซึ่งนอกจากเขาจะมีฐานะเป็นคนสนิทของคีรีมันต์แล้ว ฮา ซาลก็ยังมีฐานะเป็นเพื่อนสนิทของคีรีมันต์และรามิลมาตั้งแต่เด็ก ด้วย ฮาซาลพยักหน้ารับยิ้มๆ ก่อนตอบ

“จริงครับคุณรามิล ท่านแม่ของผมก็บ่นอยู่เหมือนกันว่าปี นี้คานันซาก็อายุสามสิบแล้ว ยังไม่ยอมแต่งงานเสียที ชาวคา นันทุกคนต่างก็เฝ้ารอว่าหญิงสาวคนไหนในศิขรัฐจะโชคดีได้รับตำแหน่งคานยากัน ทั้งนั้น”

“นาย พูดมากจริงๆ เลยนะฮาซาล พวกนายสองคนก็อายุ เท่าๆ กับฉัน แล้วพวกนายก็ยังไม่ได้แต่งงานเหมือนกันอย่าลืม รามิล ฮาซาล” คีรีมันต์ว่าเพื่อนรักทั้งสองอย่างไม่จริงจังนัก ก่อน ที่ยาราลจะถามขึ้นว่า

“แล้วเมื่อไหร่หลานจะแต่งงานล่ะ ลุงเห็นสาวๆ ในศิขรัฐอยาก จะเป็นคานันยาของคานันซาคีรีมันต์กันทั้งนั้น

“ผมยังไม่พบคนที่ถูกใจเลยครับท่านลุง”

คีรีมันต์ตอบบุรุษผู้สูงวัย แต่รามิลกลับมองสบตากับเขาด้วย แววตาประหลาดพร้อมทั้งพูดยิ้มๆ ว่า

“หรือไม่นายก็อาจจะเคยพบแล้ว แต่สาวเจ้าไม่เล่นด้วย ใช่ เปล่าคีรีมันต์”

“นายกวนประสาทฉันอีกแล้วนะรามิล ว่างๆ คงต้องให้ไอยรา ยาอบรมนายซะหน่อยแล้ว

คีรีมันต์แกล้งข่มขู่เพื่อนรักต่อหน้าบิดาอีกฝ่ายหน้าตาเฉย ก่อนจะขยับลุกขึ้นยืนแล้วพูดกับยาราลว่า
“วันนี้ผมคงต้องขอตัวก่อนนะครับท่านลุง ส่วนเรื่องผู้หญิงใน คําทํานายขอผมไปคิดก่อนว่าจะจัดการยังไง แล้วผมจะโทรมา นัดหมายกับรามิลอีกทีนะครับ”

เมื่อยาราลพยักหน้ารับยิ้มๆ คีรีมันต์จึงหันไปยกมือให้รามิล

เป็นเชิง ลา ก่อนจะก้าวนําฮาซาลออกไปจากห้อง

“คานันซาจะช่วยตามหาผู้หญิงในคำทำนายมาให้ท่านยาราล จริงหรือครับ”

ฮาซาลถามขึ้นทันทีเมื่อทั้งสองหนุ่มอยู่บนรถตามลำพังแล้ว โดยคนตั้งคำถามนั่งประจำอยู่ในตำแหน่งคนขับ ส่วนคนถูกถาม กำลังนั่งเอนกายพิงพนักเบาะรถด้านหลังอยู่อย่างสบายอารมณ์ คีรีมันต์เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจก่อนจะย้อนถามกลับไปว่า

“ทำไมนายถึงถามฉันอย่างนั้นล่ะฮาซาล”

“ผมก็แค่สงสัยว่าคานันซาไม่สนใจผู้หญิงในคำทำนายบ้าง หรือครับ ฟังจากคำทำนายแล้วถ้าเธอมีตัวตนจริงๆ คงจะเป็นผู้ หญิงที่สวยมากทีเดียว แล้วคานันซาไม่อยากขึ้นปกครองศิขรัฐ บ้างหรือครับ ทั้งที่คานันซาก็มีสิทธิ์โดยชอบธรรม

ฮาซาลพูดยิ้มๆ พลางเริ่มออกรถ ในขณะที่คีรีมันต์ส่ายหน้าทันทีก่อนตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า

“ไม่ล่ะฮาซาล ฉันคิดว่าฉันหาผู้หญิงสวยในศิขรัฐได้มากมาย หลายคนอยู่แล้ว แล้วก็…ฉันแค่อยากจะดูแลคนของเราที่คีรีมัน ตราให้ดีที่สุดตามที่ท่านพ่อสั่งเสียเอาไว้เท่านั้น ฉันไม่อยากจะ แบกรับภาระต้องดูแลรับผิดชอบผู้คนทั้งศิขรัฐ ให้ท่านลงยารา ลปกครองศิขรัฐต่อไปนั่นแหละดีแล้ว เพราะห้าปีที่ผ่านมาท่านลุง ก็ทำหน้าที่ได้ดีมากอยู่แล้ว

ฉันขอแค่เป็นแค่ผู้สนับสนุนแล้วก็คอยช่วยเหลือท่านลุงจะดี กว่า ถ้าหากว่าสิ้นท่านลุงแล้วฉันก็จะสนับสนุนรามิลต่อไป เพราะ ฉะนั้นนายไม่ต้องคิดเรื่องสิทธิ์ของฉันในการขึ้นปกครองศิขรัฐ อีก เข้าใจรึเปล่าฮาซาล

“เข้าใจครับคานันซา ผมก็แค่ลองถามดูเท่านั้น เผื่อว่าคานั้น ซาจะเปลี่ยนใจ” ฮาซาลพูดจบก็หัวเราะในลำคอเบาๆ คีรีมันต์ มองสบตาอีกฝ่ายผ่านกระจกมองหลังพลางส่ายหน้าแล้วพูด อย่างระอาใจว่า

“นายกับรามิลนี่มันกวนประสาทพอกันจริงๆ นะฮาซาล

“ผมจะคิดว่านั่นคือคำชมนะครับคานันซา” ฮาซาลพูดยิ้มๆ ก่อนจะถามต่อไปอีกว่า
“จะแวะไปที่บริษัทหรือจะแวะไปเยี่ยมเยียนคุณผู้หญิงคนไหน ในศิขรัฐดีครับคานันซา”

“กลับคีรีมันตรา กว่าฉันคิดถึงติลลา แล้วก็คิดถึงอาหารฝีมือ แม่นายด้วย ถึงบ้านแล้วปลุกฉันด้วย” พูดจบคีรีมันต์ก็หลับตาลง ทันทีเป็นการบอกว่าเขาต้องการจบบทสนทนาลงเพียงเท่านี้

ฮาซาลมองดูนายหนุ่มของตนเองผ่านทางกระจกมองหลัง ด้วยแววตา มชมและจงรักภักดี เขากับคีรีมันต์เติบโตมาด้วยกัน ตั้งแต่เด็ก หลังจากที่คานันยากรุณามารดาของคีรีมันต์ซึ่งมี ร่างกายอ่อนแอได้ล้มป่วยและเสียชีวิตลงในตอนที่คีรีมันต์มีอายุ ได้เพียงห้าขวบเศษ คานันซาคิรินทร์บิดาของคีรีมันต์ก็มอบ หมายให้ติลลามารดาของเขาดูแลเลี้ยงดูคีรีมันต์มานับตั้งแต่ บัดนั้น

คีรีมันต์กับฮาซาลถูกเลี้ยงดูให้เติบโตมาด้วยกัน รวมทั้งรามิล ลูกชายของยาราลซึ่งเป็นเพื่อนรักของคานันซาคิรินทร์ทั้งสามคน จึงสนิทสนมกันมาก ก่อนจะถูกส่งไปเรียนต่อมัธยมปลายด้วยกัน ที่ประเทศอเมริกา ซึ่งทั้งสามหนุ่มป๊อบปูลาร์มากในหมู่สาวๆ เพราะความที่เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดี

โดยเฉพาะคีรีมันต์กับรามิลเพราะนอกจากทั้งสองคนจะ หน้าตาหล่อเหลาสะดุดตาแล้ว ยังมีฐานะเป็นถึงลูกชายของ หัวหน้าเผ่าสองเผ่าซึ่งกุมอำนาจภายในศิขรัฐประเทศที่ร่ำรวยมั่งคั่งเพราะทรัพยากรแร่ธาตุอันมีค่า มหาศาลคือทองคำ ดังนั้นทั้งสองหนุ่มจึงเป็นที่หมายปองของ หญิงสาวจํานวนมาก

แต่รามิลนั้นไม่สนใจจะยุ่งเกี่ยวกับหญิงสาวคนใดเพราะเขารัก อยู่กับไอยรายาญาติผู้น้องของคีรีมันต์อยู่แล้ว ขณะที่คีรีมันต์ เปลี่ยนผู้หญิงควงไม่ซ้ำหน้าและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหญิง สาวทุกคนที่เขาคบหาด้วย มาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลายจน กระทั่งถึงระดับมหาวิทยาลัยเขาก็ยังคงเนื้อหอมไม่สร่างซา

จนกระทั่งเรียนปริญญาเอกเทอมสุดท้ายคีรีมันต์ก็ต้องถูกเรียก ตัวกลับมาศิขรัฐด่วน เนื่องจากคานันซาคิรินทร์ซึ่งล้มป่วยลงด้วย โรคไตมานานมีอาการทรุดหนักมาก เมื่อคีรีมันต์เดินทางกลับมา ถึงบ้านได้เพียงอาทิตย์เดียวบิดาของเขาก็เสียชีวิตลง

ดังนั้นคีรีมันต์จึงต้องรับตำแหน่งคานันชาต่อจากผู้เป็นบิดา เพื่อดูแลชนเผ่าคานั้นและเทือกเขาคีรีมันตราที่อุดมไปด้วยแร่ ทองคำ อีกทั้งเหมืองแร่ทองคำกิจการและทรัพย์สินทุกอย่างของ ผู้เป็นบิดา คีรีมันต์ไม่ได้กลับไปเรียนปริญญาเอกต่อจนจบและ ปิดตำนานหนุ่มเพลย์บอยในอเมริกา แต่เปลี่ยนมาเปิดตำนาน หนุ่มเพลย์บอยคนใหม่ในศิขรัฐแทน เพราะตอนนี้ไม่ว่าสาวๆ คนไหนในศิขรัฐต่างก็กล่าว ขานถึงแต่คานันซาคีรีมันต์แห่งเทือกเขาคีรีมันตรา ว่าเป็นหนุ่ม รูปหล่อ ชวนค้นหาและน่าหลงใหลมากที่สุดในขณะนี้

ฮาซาลเหลือบมองเจ้านายของเขาทางกระจกมองหลังอีกครั้ง แล้วอมยิ้ม เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหลับสนิท เขารู้ดีว่าถึงแม้คีรีมันต์จะ ทำตัวเป็นหนุ่มเจ้าสำราญและเจ้าชู้กับผู้หญิงมากมายขนาดไหน แต่เมื่อถึงเวลาอันสมควร คีรีมันต์จะต้องเลือกผู้หญิงที่เหมาะสม และคู่ควรมาเป็นคานันยาของตนเองและของชาวคานันทุกคน อย่างแน่นอน

จากนั้นฮาซาลก็เลี้ยวรถออกจากเขตตัวเมืองศิขรัฐ แล้วขับไป ตามเส้นทางที่มุ่งหน้าสู่เทือกเขาคีรีมันตรา ซึ่งเป็นอาณาจักรส่วน ตัวของชายหนุ่มคนที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่ทางเบาะหลังรถ ทันที

“ฉันดีใจจังเลยดาว ที่เธอยอมแวะเที่ยวที่ศิขรัฐก่อนกลับ ประเทศไทย”

หญิงสาวร่างบางผิวพรรณขาวจัด ใบหน้าสวยคม นัยน์ตา สีน้ำตาลเข้มและเรือนผมยาวสลวยสีเดียวกัน ซึ่งสวมชุด กระโปรงติดกันสั้นพอดีเข่าสีเหลืองนวลตา หันมาพูดกับหญิง สาวร่างระหง ในชุดเสื้อเชิ้ตเข้ารูปสีขาวปล่อยชายเสื้อยาวแล้วสวมทับด้วยเสื้อกั๊ก ยืนตัวสั้นขนาดพอดีกับเอว สวมกางเกงยีนขายาวเข้ารูปสีเข้มกับ รองเท้าบู๊ทหนังหุ้มข้อสีน้ำตาลอ่อน ที่มีผิวพรรณขาวนวลเนียน ลออตาอย่างผิวของคนเอเชียทั่วไป

หากแต่โครงสร้างที่ประกอบอยู่บนใบหน้าเรียวยาวรูปไข่สวย หวาน อันได้แก่คิ้วโก่งเรียว นัยน์ตาสีน้ำเงินสด จมูกโด่งรั้นเชิด นิดๆ รับกับริมฝีปากเรียวบางสีชมพูระเรือตามธรรมชาติบ่งบอก ได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวได้รับการผสมผสานความงามอย่างลงตัว มาจากทั้งทางฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก ซึ่งนั่งอยู่เคียงคู่กัน ตามลำพังภายในห้องผู้โดยสารระดับวีไอพีของสายการบิน ประจำประเทศศิขรัฐด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“จ้า ฉันก็อยากจะเห็นเหมือนกัน ว่าศิขรัฐจะสวยเหมือน อย่างที่เธอโฆษณาชวนเชื่อเอาไว้รึเปล่าไอย์”

ละอองดาวเงยหน้าขึ้นจากหนังสือแมกกาซีนที่ดูอยู่ขึ้นพูด กับเพื่อนรักด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ตอนแรกหญิงสาวตั้งใจว่าจะ เดินทางกลับเมืองไทยทันทีที่รับปริญญาโทเสร็จเรียบร้อย แต่ แล้วก็ต้องเปลี่ยนใจโทรศัพท์ไปขออนุญาตบิดามารดาอยู่ท่อง เกี่ยวกับไอยรายาต่ออีกเดือนหนึ่งจึงจะเดินทางกลับบ้าน

หลังจากที่ทั้งสองสาวเที่ยวอยู่ในอเมริกาได้หนึ่งอาทิตย์ ไอย์ รายาก็ชวนเธอมาเที่ยวประเทศศิขรัฐ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเพื่อน รัก ความจริงละอองดาวตั้งใจจะเดินทางกลับเมืองไทยเลย เพราะอยากไปทําเซอร์ไพร์สบิดามารดาด้วยการเดินทางกลับ บ้านก่อนกำหนดเวลาที่บอกกับท่านทั้งสองเอาไว้

แต่เพราะความที่สนิทสนมกับไอยรายามาตั้งแต่ตอนที่เธอมา เรียนปริญญาโทที่อเมริกาใหม่ๆ เมื่อถูกเพื่อนรักชักชวนแกม ขอร้องอยู่หลายวันจนหญิงสาวรู้สึกเกรงใจอีกฝ่าย ละอองดาวจึง ยอมตอบตกลงจะแวะเที่ยวที่ประเทศบ้านเกิดของเพื่อนรักก่อน ห้าวันแล้วจึงจะเดินทางกลับเมืองไทย ซึ่งก็ยังสามารถทําเซอร์ ไพร์สบิดามารดาได้อยู่ดี

“อีกไม่เกินหนึ่งชั่วโมงเธอก็จะได้เห็นว่าฉันไม่ได้แค่ โฆษณาชวนเชื่อ แต่ศิขรัฐมีบรรยากาศสงบ สวยงาม โรแมนติก เพราะถูกห้อมล้อมเอาไว้ด้วยเทือกเขาสูงชันจริงๆ”

ไอยรายาพูดอย่างภาคภูมิใจในประเทศบ้านเกิดของตนเอง ในขณะที่ละอองดาวหัวเราะเบาๆ อย่างขบขันในท่าทางของ เพื่อนสาว ไอยรายาเป็นเพื่อนที่ดี น่ารักและมีน้ำใจกับเธอเสมอ ตอนแรกที่ทั้งสองได้รู้จักกันก็เพราะว่ามาเช่าห้องพักอยู่ติดกัน
เมื่อพูดคุยกันถูกคอเนื่องจากเธอและไอยรายามาเรียนต่อ ปริญญาโท ในมหาวิทยาลัยเดียวกันและเรียนอยู่สาขาเดียวกัน ซึ่งก็คือสาขาการออกแบบเครื่องประดับ จึงทำให้ทั้งคู่สนิทสนม กันมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดทั้งสองสาวก็ตัดสินใจมาเช่าบ้านพัก หลังเล็กๆ อยู่ด้วยกัน และกลายเป็นเพื่อนรักกันไปโดยปริยาย ละอองดาวขอเรียกไอยรายาว่า “ไอย์” เพียงคำเดียว เพราะว่า ชื่อของอีกฝ่ายยาวและเรียกยาก เนื่องจากชาวศิขรัฐไม่มีชื่อเล่น ส่วนไอยรายาก็เรียกเธอว่า “ดาว” ซึ่งเป็นชื่อเล่นของเธออยู่แล้ว แต่บางครั้งบางคราวเพื่อนรักก็จะเรียกเธออย่างล้อๆ ด้วยภาษา อังกฤษว่า “Star” ตามความหมายจากชื่อเล่นของเธอ

การอยู่ร่วมกับไอยรายานานถึงสองปี ทำให้ละอองดาว สามารถฟังและพูดภาษาศิขรัฐเข้าใจพอสมควร เพราะไอยรายา พยายามเผยแพร่วัฒนธรรมของตนเองกับเธอเป็นประจํา ใน ขณะที่พยายามจะเรียนรู้ภาษาไทยจากเธอด้วยเช่นกัน แต่ดู เหมือนว่าละอองดาวจะสามารถเรียนรู้ได้เร็วกว่าอีกฝ่ายเพราะ ไอยรายาบอกว่าภาษาไทยเข้าใจยากและออกเสียงยากสำหรับ ตนเอง

“จริงสิไอย์ เธอไม่ได้โทรบอกคู่หมั้นของเธอว่าจะกลับถึงศิขรัฐ วันนี้ใช่ไหม” ละอองดาวถามขึ้นเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ไอยรายาพยักหน้าก่อนจะตอบว่า

“จ๊ะ ก็ฉันสัญญากับเธอแล้วนี่ดาว แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าจะปิดพีรามิล ได้นานแค่ไหนนะเพราะว่าเราอยู่ในศิขรัฐ ยังไงพีรามิลก็ต้องรู้ อยู่ดีว่าฉันกลับมาแล้ว เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น

“ยังไงก็ขอให้คุณรามิลรู้ช้าที่สุดก็แล้วกัน”

ละอองดาวบอกเพื่อนรักพลางคิดต่ออยู่ภายในใจว่าขอให้คู่ หมั้นหนุ่มของไอยรายารู้ว่าเธอมาศิขรัฐ ในวันที่เธอจะเดินทาง กลับเมืองไทยเลยจะยิ่งเป็นการดีที่สุด เพราะหญิงสาวเกรงว่าถ้า หากรามิลรู้ว่าเธอมาศิขรัฐจะมีใครอีกคนพลอยรู้ไปด้วยซึ่งเป็น คนที่เธอไม่ปรารถนาจะพบเจอมากที่สุด

“ทำไมเราสามคนจะต้องมาทำอะไรงี่เง่า อย่างเช่นการคอย เฝ้าดูผู้หญิงชาวต่างชาติทุกคนที่จะเดินทางมาศิขรัฐในวันนี้ ตั้งแต่เช้ามืด เพราะคำทำนายของแม่เฒ่าเผ่าไมยาด้วยนะ ไร้ สาระชะมัดเลย”

คีรีมันต์บ่นพลางละสายตาจากหน้าต่างกระจกห้องพักผู้ โดยสารวีไอพีของสนามบินศิขรัฐที่สามารถมองลงไปเห็นทุกจุด ภายในบริเวณสนามบินได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะช่องประตูผู้ โดยสารขาเข้า ก่อนจะหมุนตัวแล้วก้าวยาวๆ กลับมาทิ้งตัวลงนั่ง บนโซฟายาวบุนวมตัวใหญ่อย่างสุดแสนเบื่อหน่าย

ในขณะที่รามีลหัวเราะเบาๆ กับท่าทางของเขา ก่อนจะก้าว ตามมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ คีรีมันต์แล้วแกล้งพูดยั่วเย้าเขาว่า

“ก็นายเป็นคนคิดแผนนี้เองไม่ใช่เหรอ ที่บอกว่าพวกเราจะ ต้องมาคอยเฝ้าดูผู้หญิงตามคำทำนายถ้าเจอตัวเธอจริงๆ เราจะ ได้รีบชิงตัวเธอไปก่อนที่จะถูกคนอื่นตัดหน้า แล้วนายจะบอกว่า แผนงี่เง่าได้ยังไงกันคีรีมันต์”

“ไอ้บ้ารามิล! นี่นายกำลังหลอกด่าว่าฉันงี่เง่าใช่มั้ย” คีรีมันต์ ถามเพื่อนรักตาขุ่นเสียงเขียว แต่อีกฝ่ายยังคงยิ้มเยือนพลางพูด ว่า

“ฉันเปล่าว่านายนะนายพูดเองเออเองทั้งนั้น จริงมั้ยฮาซาล ท้ายประโยครามิลหันไปถามฮาซาลอย่างหาพวก อีกฝ่ายเลย พยักหน้ารับยิ้มๆ คีรีมันต์ปรายตามองเพื่อนรักทั้งสองอย่างอุ่น เคืองก่อนจะบ่นสองหนุ่มว่า

“ฉันเบื่อหน้าพวกนายสองคนที่สุดเลย เพราะพวกนายมันชอบ รวมหัวกันกวนประสาทฉัน”

“เออๆ หน้าตาพวกฉันสองคนคงจะไม่น่ามองเท่าหน้าตาพวก สาวๆ ของนายหรอก” รามิลพูดยิ้มๆ

“แน่นอนสาวๆ พวกนั้นนอกจากน่ามองแล้ว ยังน่ากอดน่าจูบ นุ่มนิ่มหอมกรุ่นไปทั้งตัวอีกด้วย” คีรีมันต์พูดพลางยิ้ม นัยน์ตาคู่คมพราวระยับอย่างเจ้าชู้ ขณะที่รามิลส่ายหน้ายิ้มๆ พลางพูดว่า

“ไอ้คานันซาจอมเพลย์บอย

ส่วนฮาซาลเพียงแต่หัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะหันกลับไป ทอดสายตามองผ่านหน้าต่างกระจกลงไปที่ช่องประตูผู้โดยสาร ขาเข้าอีกครั้ง เพียงครู่เดียวเขาก็ขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะอุทานออก มาเบาๆ แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแกมประหลาดใจว่า

“เอ๊ะ! นั่นคุณไอยรายานครับ แล้วผู้หญิงชาวต่างชาติคนนั้นที่ เดินออกมาพร้อมๆ กับคุณไอยรายา ผู้หญิงคนนั้นลักษณะตรง ตามคำทำนายของแม่เฒ่าเผ่าไมยาเลยครับ”

“ฮะ! ไอยรายางั้นเหรอ” รามิลอุทานพลางถาม

“อะไรนะ! มีผู้หญิงตามคำทํานายด้วยเหรอ” คีรีมันต์พูดอย่าง เหลือเชื่อ ทั้งสองหนุ่มลุกพรวดขึ้นจากโซฟาก้าวยาวๆ กลับมา ยืนตรงหน้าต่างกระจกข้างฮาซาลแล้วมองลงไปข้างล่างทันที แล้วทั้งคีรีมันต์กับรามิลก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความประหลาด ใจ

“เฮ้! นั่นเธอมากับไอยรายาได้ยังไงกัน” รามิลหันมาถามคีรี มันต์ ซึ่งชายหนุ่มก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างงุนงงก่อนจะตอบว่า

“ไม่รู้สิ แต่เหลือเชื่อเป็นบ้าเลย

“แปลกจังแฮะทําไมไอยรายาไม่โทรมาบอกฉันว่าจะกลับมา ถึงศิขรัฐวันนี้ ฉันว่าเรารีบลงไปข้างล่างกันดีกว่าจะได้ไปถามไอย์ รายา” รามิลพูดถึงคู่หมั้นสาวด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะ ชักชวนให้คีรีมันต์ลงไปข้างล่าง แต่ชายหนุ่มจับบ่าเพื่อนรักเอา ไว้พร้อมทั้งพูดว่า

“เดี๋ยวก่อนรามิลเมื่อกี้นายบอกว่าแปลกใช่ไหมที่ไอยรายาไม่ โทรมาบอกว่าจะกลับมาถึงศิขรัฐวันนี้ ฉันก็ว่าแปลกนี้ไม่ใช่นิสัย ของน้องสาวฉัน เพราะทุกครั้งที่ไอยรายาจะกลับมาบ้านพวกเรา จะต้องรู้ล่วงหน้าเสมอ”

“นายหมายความว่ายังไง รามิลถามพลางขมวดคิ้ว

“ก็หมายความว่าคราวนี้ไอยรายาไม่อยากให้ฉันกับนายรู้ว่า จะกลับมาบ้านไง” คีรีมันต์ตอบ

“ไอยรายาจะทําแบบนั้นเพื่ออะไร

“ก็เพื่อคนที่มากับน้องสาวฉันไง” คีรีมันต์บอกเพื่อนรักยิ้มๆ ขณะที่สายตาคู่คมจับอยู่ที่ร่างระหงของหญิงสาวสวยซึ่งกำลัง ก้าวเดินอยู่เคียงข้างกับญาติผู้น้องของเขาไม่วางตา ก่อนจะพูด ต่อไปอีกว่า
“ในเมื่อไอยรายาไม่อยากให้เรารู้ว่ากลับมาบ้านเราก็ยังจะ ไม่รู้ จนกว่าจะถึงเวลาที่สมควร ส่วนนายฮาซาล

นายลงไปควบคุมคนของเราให้คอยดูแลความปลอดภัยของ ไอยรายากับเพื่อนจนกว่าทั้งสองคนจะเดินทางไปถึงบ้าน ระวัง อย่าให้ไอยรายารู้ตัวหรือว่าเห็นนายล่ะ” ตอนท้ายประโยคคีรีมัน หันมาพูดกับฮาซาลยืดยาว

“ครับคานันซา” ฮาซาลรับ ก่อนจะรีบก้าวออกไปจากห้อง เพื่อปฏิบัติงานตามคำสั่งของคีรีมันต์ทันที ถึงแม้ว่าเขาออกจะ ประหลาดใจกับคำพูดและท่าทางแปลกๆ ของสองหนุ่มเพื่อน สนิทซึ่งมีฐานะสูงศักดิ์กว่า เมื่อทั้งสองได้เห็นหญิงสาวสวยชาว ต่างชาติที่มากับไอยรายาก็ตาม

สัญชาตญาณบอกฮาซาลว่าน่าจะมีเรื่องอะไรบางอย่างเกี่ยว กับผู้หญิงคนนี้ที่เขายังไม่รู้ เพราะหลังจากเรียนจบปริญญาตรีฮา ซาลก็ขอกลับมาช่วยงานคานันซาคิรินทร์บิดาของคีรีมันต์ทันที ในขณะที่คีรีมันต์กับรามิลยังคงเรียนต่อปริญญาโทและเอก

ดังนั้นฮาซาลจึงไม่รู้ว่าหญิงสาวสวยชาวต่างชาติคนนี้มีความ สัมพันธ์กับคีรีมันต์อย่างไร แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ฮาซาลจะต้อง กังวลเพราะเมื่อคีรีมันต์อยากบอกเมื่อไหร่เขาก็จะได้รู้เอง
“นายกำลังคิดจะทำอะไรคีรีมันต์” รามิลถามขึ้นด้วยแววตา สงสัยเมื่อลับร่างของฮาซาลแล้ว คีรีมันต์คลี่ยิ้มที่มุมปากด้วย แววตาพราวระยับก่อนจะตอบว่า

“ฉันก็กำลังจะวางแผนดูแลผู้หญิงในคำทำนายอย่างดีที่สุดนะ เพื่อนรัก ให้ตายเถอะรามิลฉันฝากนายไปบอกท่านลุงด้วยนะ ว่าไม่ว่าเธอจะใช่หรือไม่ใช่ผู้หญิงในคำทำนายก็ตาม แต่ฉันก็ คงจะยกเธอให้ท่านลุงหรือใครไม่ได้ทั้งนั้น

“ท่านพ่อของฉันก็คงไม่อยากจะแย่งผู้หญิงกับหลานชายสุด ที่รักหรอกน่า แล้วฉันก็ไม่อยากจะได้ผู้หญิงที่เพื่อนรักหมายตา เอาไว้นานหลายปีแล้วมาเป็นแม่เลี้ยงด้วย

รามิลพูดอย่างขบขันเมื่อเห็นแววตาของคีรีมันต์ที่จับจ้องอยู่ที่ ร่างสูงระหงของหญิงสาวสวยซึ่งกำลังเดินเคียงคู่อยู่กับคู่หมั้น ของเขาไม่วางตาราวกับพบนางในฝันก็ไม่ปาน คีรีมันต์หัวเราะ เบาๆ อย่างพอใจก่อนจะพูดว่า

“ขอบใจนายมากเพื่อนรัก ที่เข้าใจฉัน”

“คราวนี้นายอย่าให้พลาดอีกล่ะไม่งั้นเสียชื่อคานันซารูปหล่อ แห่งคีรีมันตราแน่” รามิลพูดยิ้มๆ
“คราวนี้ฉันจะพยายาม” คีรีมันต์บอกรามิลด้วยแววตาหมาย

มาด จากนั้นทั้งสองหนุ่มก็พากันหัวเราะเสียงดังลั่นทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ