บทที่6 ไม่มีเหตุผล
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
พิมพ์เริ่มปรับตัวกับเวลาและเพื่อร่วมงานได้มากขึ้นโดยเฉพาะ กับเอมี่และแม็คที่ค่อยช่วยเหลือเธอในการทำงานจนเธอทำได้ดี กว่าตอนที่มาใหม่ๆ
พิมพ์กับแม็คสนิทสนมกันจนคนในแผนกเอาไปลือกันใหญ่ว่าทั้ง สองคนคบกัน ไม่เว้นแม้แต่ปีเตอร์ที่ได้รับข่าวมาจากบอดี้การ์ดทั้ง สองคน
“จริงเหรอ ที่สองคนนั้นคบกัน”ถามพลางมองหน้าบอดี้การ์ดทั้ง สองคน
“น่าจะจริงมั้งครับ ผมได้ยินพนักงานคุยกัน”พูดไปตามที่ได้ยิน
“ไปเรียกพิมพ์มาพบฉันเดี๋ยวนี้เลย”พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ครับนาย”มาร์สรับคำแล้วเดินออกไป
มาร์สลงไปเรียกพิมพ์ถึงที่แผนกกำลังเดินเข้าไปก็เห็นพิมพ์ กำลังยืนพูดคุยกับแม็คด้วยท่าทางสนิทสนมกันอย่างที่ได้ยินมา จริงๆ
“คุณพิมพ์ครับ นายเรียกพบ”มองหน้าพิมพ์กับแม็คสลับกันไปมา
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ”พิมพ์ถามออกไปเพราะเธอยังไม่ได้ทำ อะไรผิดเลยอยู่ๆก็เรียกให้เธอไปพบเขา
“ไปพบแล้วจะรู้เองแหละครับ ไปกันเถอะขึ้นชักช้าเดี๋ยวนายจะ ไม่พอใจ”พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ค่ะ”รับคำแล้วเดินตรงไปที่ลิฟต์ทันที
พอมาถึงหน้าประตูห้องมาร์สก็เปิดประตูเข้าไปพิมพ์จึงเดินตาม หลังไปติดๆ
“มาแล้วครับนาย” มาร์สเดินมาหยุดตรงหน้าโต๊ะทำงานของปี
เตอร์
“นายสองคนออกไปก่อน”พูดไปแต่ตามองจ้องพิมพ์ที่ยืนก้มหน้า
อยู่
มาร์สกับเควินพยักหน้าแล้วเดินออกไปจากห้อง พอบอดี้การ์ด ทั้งสองออกไปปีเตอร์ก็เปิดประเด็นขึ้นมาทันที
“เธอกับแม็คคบกันอยู่เหรอ”ถามออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“เปล่าค่ะ เราเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกัน”พูดไปตามความจริงเพราะ เธอไม่คิดที่จะมีแฟนอยู่แล้วขนาดตัวเองยังเอาไม่รอดเลย
“แล้วทำไมเขาถึงพูดกันว่าเธอกับแม็คคบกันได้ล่ะ”ลุกขึ้นจาก เก้าอี้แล้วเดินไปหยุดตรงหน้าเธอ
“ไม่ทราบค่ะ”ตอบไปตามความจริงเพราะเธอไม่เคยรู้สึกกับแม็ค เกินกว่าคำว่าเพื่อนเลย
“ไม่ทราบหรือแกล้งไม่รู้กันแน่ ถ้าเธอไม่ทำตัวสนิทสนมกับแม็ค จนเกินไป คงไม่มีใครเขาเอาไปพูดหรอกจริงไหม”พูดด้วยน้ำ เสียงไม่พอใจ
“แต่ฉันไม่ได้คิดอะไรกับแม็คเลยนะคะ”เงยหน้าขึ้นมองหน้าปี เตอร์
“เธอไม่คิดแต่แม็คอาจจะคิดก็ได้”จ้องหน้าพิมพ์ที่มองหน้าเขาอยู่ ก่อนแล้ว
“ไม่หรอกค่ะ เขาแค่สอนงานให้ก็แค่นั้นเอง” จริงๆเธอก็ดูออกว่า แม็คชอบเธอเพราะเขาเทคแคร์เธอเป็นพิเศษแต่เธอก็พยายามรักษาระยะห่างไว้
“ช่างเถอะ แต่วันพรุ่งเธอต้องย้ายแผนกไปทำงานที่แผนกแม่ บ้านแทนก็แล้วกัน”พูดอย่างสบายอารมณ์
“ทำไมละคะ ฉันไม่เข้าใจ มองหน้าปีเตอร์ต้องการเหตุผลอยู่ๆจะ ให้เธอย้ายแผนกทั้งๆที่เธอเริ่มจะทำได้แล้ว
“เธอไม่มีสิทธิ์มาถามอะไรทั้งนั้น ทำตามที่ฉันสั่งก็พอเข้าใจ ไหม”พูดด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว
“ค่ะ “พิมพ์จําใจรับคำเพราะเธอไม่มีสิทธิ์เลือกอะไรได้เลย นอก เสียจากทำตามที่เขาสั่งเท่านั้น
“เข้าใจแล้วก็ออกไปได้แล้ว”ยืนหันหลังให้พิมพ์
“ค่ะ”รับคำพร้อมกับเดินไปเปิดประตูห้องแล้วออกไปอย่างเงียบๆ
ปีเตอร์หันไปมองตามหลังพิมพ์ที่เดินออกไปจนลับตาแล้วหัน กลับมาทางเดิม เดินไปหยิบโทรศัพท์ที่โต๊ะขึ้นมาแนบหูแล้วกด โทรหาแผนกเครื่องดื่มและแจ้งการย้ายพิมพ์ไปทำงานอีกแผนก หนึ่งแทน เขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องทำอย่างนี้ กับเธอ
พอพิมพ์ออกจากลิฟต์ก็เดินตรงไปยังแผนกเครื่องดื่มเห็นแม็ค กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเคาร์เตอร์ด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก เธอจึงเดิน เข้าไปหาและบอกเรื่องที่เธอโดนสั่งย้ายแผนกกระทันหันให้เขา รับรู้
“วันพรุ่งนี้พิมพ์ไม่ได้มาทำงานที่นี้แล้วนะคะ”มองหน้าแม็ค
“ผมทราบเรื่องแล้วคุณปีเตอร์โทรมาบอกด้วยตัวเองเลยล่ะ”มอง หน้าพิมพ์ด้วยความสงสัยในตัวเธอ
“คุณปีเตอร์โทรมาบอกแล้วเหรอคะ”พิมพ์ไม่เข้าจริงๆว่าเธอทำ อะไรผิดทำไมเขาต้องย้ายเธอไปทำงานที่แผนกอื่นด้วย
“ใช่ เพิ่งวางสายไปเมื่อกี้เอง” พูดด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์เล็กน้อย
“งั้นฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”กำลังจะเดินผ่านหน้าแม็คไป แต่แม็คกลับเรียกเธอไว้ก่อน
“เดี๋ยวก่อนผมขอคุยด้วยหน่อย”คว้าแขนพิมพ์ไว้
“ค่ะ “รับคำแล้วรีบชักแขนออกจากมือแม็คและเดินตามหลังแม็ค
ไป
แม็คเดินนำพิมพ์ไปยังห้องเก็บสต๊อกเครื่องดื่มยี่ห้อต่างๆที่ไม่มี ใครอยู่ข้างในสักคน พอเข้ามาข้างในห้องแม็คก็เปิดประเด็นขึ้น มาก่อน
“เพราะเรื่องที่พนักงานเอาไปพูดกันว่าเราสองคนคบกันใช่ไหม คุณปีเตอร์ถึงย้ายคุณ” มองหน้าพิมพ์ต้องการคำตอบ
“ถ้าเป็นเรื่องนั้นไม่น่าจะใช่นะคะ และอีกอย่างมันก็ไม่ใช่เรื่อง จริง”ถ้าเป็นเรื่องนั้นจริง ๆ แล้วเขาจะทำแบบนี้ทำไมเธอนึกไม่ ออกเลยจริง ๆ
“แต่ผมอยากจะให้มันเป็นเรื่องจริง”มองหน้าพิมพ์อย่างมีความ หมาย
“เราเป็นเพื่อนกันอย่างนี้ก็ดีอยู่แล้วค่ะ”ส่งยิ้มให้แม็ค
“ที่คุณไม่ยอมเปิดใจให้ผมเพราะคุณปีเตอร์ใช่ไหม”ถามออกไป เพราะสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งคู่
“เปล่าค่ะ แต่เป็นเพราะฉันไม่ได้คิดอะไรกับคุณเกินไปกว่าคำว่า เพื่อนเลยต่างหาก”ตัดสินใจพูดออกไปตรงๆไม่อยากให้แม็คต้อง มาเสียเวลากับคนอย่างเธอที่ไม่รู้แม้แต่อนาคตของตัวเองในวัน ข้างหน้าเลย
“ผมเข้าใจคุณนะ แต่คุณปีเตอร์ทำเหมือนกับหึงคุณเลย” พูดไป ตามความรู้สึก
“คุณเอาอะไรมาพูดค่ะ มันเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ “พิมพ์พูดแกม หัวเราะเขาไม่มีทางมาสนใจลูกหนี้อย่างเธอเด็ดขาด
“ดูเหมือนคุณจะมั่นใจมากเลยนะว่าเขาจะไม่สนใจคุณมองพิมพ์ ที่หัวเราะกับคำพูดของเขา
“มั่นใจสิคะ อย่างเขามีผู้หญิงที่เพียบพร้อมตั้งมากมายรอต่อคิว
ให้เขาเลือก เขาไม่มาสนใจผู้หญิงธรรมดาอย่างฉันหรอกค่ะ ” พูด ไปตามความจริงสําหรับเขาแล้วเธอไม่มีอะไรเหมาะสมกับเขาเลย สักนิด
“มันก็จริงของคุณนะ งั้นผมไม่กวนแล้วไปทำงานเถอะ” พูด พลางเดินออกจากห้องไป
พิมพ์เดินตามหลังแม็คออกมาเจอเอมี่พอดี จึงหยุดคุยกัน
“พิมพ์เธอจะย้ายไปจริงๆใช่ไหม”เดินเข้าไปจับกุมมือพิมพ์
“ใช่จ้ะ “ส่งยิ้มให้เอมี่
“ฉันจะไม่ถามนะว่าเรื่องอะไร ส่วนเรื่องที่เขาเอาไปเม้าส์กันเรื่องเธอกับแม็คฉันก็ไม่เชื่อหรอก” เพราะเธอดูออกว่ามีแต่แม็ค เท่านั้นที่แอบชอบพิมพ์อยู่ข้างเดียว
“ขอบใจเธอมากนะที่เข้าใจฉัน”เดินเข้าไปสวมกอดเอมี่ที่เป็น
กำลังใจให้เธอ
“ไม่เป็นไร ก็เราเป็นเพื่อนกันนี้น่า”ผลักออกจากพิมพ์แล้วส่งยิ้ม
ให้
จากนั้นทั้งสองคนก็เดินไปทำงานด้วยกัน ส่วนแม็คได้แต่มอง พิมพ์อยู่ห่างๆเท่านั้น
วันต่อมา
เควินพาพิมพ์ไปยังแผนกแม่บ้านทำความสะอาดห้องพักแขก โดยแนะนำให้เธอรู้จักกับหัวหน้าแผนกและพนักงานที่เธอต้อง ทำงานร่วมด้วยให้รู้จักกันก่อน
“ผมฝากคุณพิมพ์ด้วยนะครับ คุณเกรซ”ส่งยิ้มให้กับหัวหน้า แผนกสาวสวย
“ได้ค่ะ “ส่งยิ้มให้เควินเช่นกัน
เควินเดินออกไปพิมพ์จึงเดินตามหลังเกรซไปข้างในห้องพักที่กำลังมีพนักงานอีกหนึ่งคนกำลังทำความสะอาดห้องอยู่ เก รชจึงแนะนำให้เธอได้รู้จัก
“นี้เอวาจ้ะ ฉันจะให้คุณฝึกงานและทำงานร่วมกัน” เกรซแนะนำ
“สวัสดีค่ะ “พิมพ์ส่งยิ้มให้เอวา
“สวัสดีค่ะ”เอวาทักทายกลับเช่นกัน
“รู้จักกันแล้ว งั้นก็ฝึกสอนกันตามสบายนะ ฉันขอตัวก่อนมีอะไร ก็ไปหาฉันได้ที่ห้องทำงานได้เลยไม่ต้องเกรงใจ”เกรซบอกพิมพ์ แล้วเดินออกไป
หลังที่เอวาสอนพิมพ์ปูเตียงล้างห้องน้ำไปหลายห้องแล้ว พิมพ์ ก็เริ่มทำได้เพราะปกติอยู่ที่บ้านเธอก็ทำงานบ้านเกือบทุกอย่างอยู่ แล้วจึงไม่มีอะไรยากจนเกินไป
พิมพ์กำลังล้างห้องน้ำอยู่ในห้อง ส่วนเอวาก็ออกไปเข้าห้องน้ำ ที่อยู่อีกชั้นหนึ่ง เวลานี้จึงเหลือพิมพ์อยู่แค่คนเดียวทั้งชั้น เพราะ ชั้นหนึ่งจะมีแม่บ้านอยู่ประจำแค่สองคนเท่านั้น
พิมพ์กำลังก้มหน้าก้มตาล้างห้องน้ำแต่ด้วยความลื่นของน้ำยา ล้างห้องน้ำทำให้เธอลื่นจะล้มแต่กลับมีมือใครคนหนึ่งดึงคว้าตัวเธอไว้ได้ทัน จนทำให้เธอตกอยู่ในอ้อมแขนเขาไปโดย ปริยาย พิมพ์จึงเงยหน้าขึ้นมองว่าใครช่วยเธอไว้พอเห็นว่าเป็น ใครเธอถึงกับสะดุ้งตกใจ ขยับตัวเพื่อจะออกจากอ้อมแขนแต่เขา กลับกอดรัดแน่นยิ่งกว่าเดิมอีก
“เธอจะดิ้นอะไรนักหนา ฉันอุตส่าห์ช่วยไม่ให้หัวฟาดพื้น กอดแค่ นี้คงไม่เป็นไรมั้ง”ปีเตอร์ยกยิ้มมุมปาก
“ขอบคุณมากนะคะที่ช่วย แต่ฉันว่ามันไม่เหมาะสมปล่อยเถอะ ค่ะ”ก้มหน้าลงไม่ยอมสบตาเขา
“ก็ได้ปล่อยก็ปล่อย”ยอมปล่อยพิมพ์ออกจากอ้อมแขนแต่โดยดี
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” ถอยห่างจากตัวของปีเตอร์
หลังจากที่เป็นอิสระจากปีเตอร์แล้วพิมพ์จึงทำงานของตัวเองต่อ โดยที่ปีเตอร์ยังยืนมองเธอทำงานอยู่ตรงประตูหน้าห้องน้ำ
“ทำได้คล่องดีนี้ งานแบบนี้เหมาะกับเธอที่สุดแล้วแหละ” พูดไป แต่ตามองไปรอบห้องพัก
“ค่ะ”ตอบรับสั้นๆ
หลังจากที่เธอล้างห้องน้ำเสร็จ ปีเตอร์ก็ยังอยู่ดูเธอทำงานจน เธอทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าเขาจะดูอะไรกันนักหนาเธอได้แต่คิดในใจ
จนเอวากลับมาจึงช่วยกันทำงานต่อ ปีเตอร์กำลังจะเดินกลับ เกร ซก็เดินเข้ามาพอดี
“สวัสดีค่ะ คุณปีเตอร์ทำไมถึงมาที่นี้ได้ละคะ” เกรซส่งยิ้มให้ปี
เตอร์
“ไม่มีอะไรหรอก ผมขอตัวก่อนก็แล้วกัน”เดินผ่านหน้าเกรซออก
ไป
เกรซได้แต่ยืนงงมองตามหลังปีเตอร์ที่เดินออกไปอยู่ๆก็มาอยู่ๆ
ก็ไป
“เป็นไงบ้างจ้ะ ทำได้ไหม”เกรซเดินเข้าไปหาพิมพ์
ทำได้สิคะ เอวาสอนละเอียดมากเลยค่ะ”พูดไปมือก็ทำงานไป ”
ด้วย
” ทำได้ก็ดีแล้วล่ะ ว่าแต่คุณปีเตอร์เขามาทำอะไรเหรอ”จ้องหน้า พิมพ์ต้องการคำตอบ
“เอ่อ คงมาตรวจดูงานมั้งค่ะ พูดไปตามที่เห็น
“จริงเหรอ น่าแปลกจัง” เกรซยังคงสงสัยและคาใจอยู่
“ฉันก็ว่าแปลกค่ะ ปกติไม่เคยมาเลยนะคะ อยู่ๆก็โผล่มาอว่าพูด เสริมขึ้นอีกคนแล้วหันไปมองหน้าพิมพ์
พิมพ์ได้แต่หลบตาเอวากับเกรซที่มองมาทางเธอเป็นตาเดียวกัน จนเธอทำตัวไม่ถูก แต่ก็ยังดีที่ทั้งคู่ไม่ได้ถามอะไรเธอต่ออีก
หลังจากที่เลิกงานแล้วพิมพ์ก็ลงไปทานข้าวพร้อมกับเอวาที่ ห้องอาหาร เจอเอมี่กับแม็คเดินเข้ามาพอดี พิมพ์จึงส่งยิ้มให้เอมี่ เป็นการทักทาย เอมี่จึงเดินเข้าไปหาพิมพ์ที่โต๊ะ
“เป็นไงบ้างพิมพ์งานหนักไหมถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่หนักจะสบายมาก”ส่งยิ้มให้เอมี่
“งั้นเหรอ แล้วนี้เพื่อนใหม่ใช่ไหม”หันไปมองหน้าเอา
“ใช่จ้ะ นี้เอวาเพื่อนร่วมงานฉันเอง แนะนำให้เอมี่รู้จัก
“ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ” เอมี่เอ่ยขึ้น
หลังจากที่ทำความรู้จักกันเรียบร้อยแล้ว เอมี่กับแม็คก็มานั่งทาน ข้าวร่วมโต๊ะกับพิมพ์กับเอวาพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
พอทานข้าวเสร็จพิมพ์ก็รีบกลับเข้าห้องเพื่อพักผ่อนเอาแรง เพราะเธอเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว และไม่ลืมที่จะโทรหากนกวรรณ กับชัยวัชก่อนที่จะนอน
“ฮัลโหลสวัสดีค่ะ คุณแม่สบายดีไหมคะ”กรอกเสียงใส่โทรศัพท์ หลังที่กนกวรรณรับสาย
“แม่สบายดีจ้ะ แล้วพิมพ์ล่ะอยู่ที่โน้นเป็นยังไงบ้าง”ถามด้วย ความเป็นห่วง
“เอ่อ พิมพ์สบายดีค่ะ “พยายามกั้นน้ำตาเอาไว้
“ได้ยินอย่างนี้แม่ค่อยหายห่วงหน่อย”กนกวรรณพูดด้วยความ
โล่งใจ
“แล้วคุณพ่ออยู่ไหมคะ ถามหาเพราะความห่วงใย
“ไม่อยู่อีกตามเคยนั้นแหละลูก ยังไม่กลับมาเลยดึกป่านนี้แล้ว” ถอนหายใจเบาๆ
“งั้นคุณแม่ก็พักผ่อนเถอะค่ะ พิมพ์ไม่กวนแล้ว” ดึกมากแล้วเธอไม่อยากรบกวนเวลานอน
“จ๊ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะ”ยกมือขึ้นปิดปากหาว
“ค่ะ พิมพ์คิดถึงแม่นะคะ”พูดจบแล้วก็กดวางสายทันที พร้อมกับ ล้มตัวลงนอนด้วยความอ่อนล้า
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ