อ้อนรักยัยดื้อหน้าหวาน

ตอนที่ 9 กรุ๊ปเลือดที่หายาก



ตอนที่ 9 กรุ๊ปเลือดที่หายาก

ในเวลาหกโมงเช้าของวันรุ่งขึ้น แขไข กลับไปที่บ้าน พี่เลี้ยงกำลังเตรียมอาหารเช้าวันนี้ในครัวและทักทาย เธออย่างไม่มีอะไรพิเศษ แค่เพียงทักทายอย่างลวกๆไป “คุณหนูสองกลับมาแล้ว”

“คนอื่นล่ะ?”

“คุณท่านอยู่ในห้องทำงาน ภรรยาเขายังไม่ตื่น

แขไขพยักหน้า หันหลังกลับและเดินไปที่ห้องทำงาน ชั้นสอง เธอเคาะประตู หลังจากได้ยินคำอนุญาต เธอ ก็ผลักประตูเข้าไป หลังจากเห็นเธอ ขจรจิตก็หยุดนิ่ง และยิ้มอย่างรวดเร็ว “ไข่หวาน กลับมาแล้ว”

แขไขมองใบหน้าที่อยู่ตรงหน้า เห็นได้ชัดว่ามันเป็น ความสัมพันธ์เพียงสายเลือด แต่เธอกลับสัมผัสได้ไม่ ถึงครึ่งด้วยซ้ำ เมื่อเธอเห็นเขาเธอจะนึกถึงความโชค ร้ายในวัยเด็กและความทุกข์ของแม่ของเธอ

ในฐานะพ่อ ขจรจิตไม่เคยให้ร่องรอยความรักของพ่อ แก่เธอ ในฐานะสามีขจรจิตเขาก็ไม่เคยทำตามสัญญาที่ เขาทำไว้ให้กุลยา

เธอสงบลงและพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเอง “ฉันจะ แต่งงานกับวิณ วันนี้ต้องนำทะเบียนบ้านไป

“อะไรนะ?” ขจรจิตยังคงงุนงง “ไม่ใช่ว่าพวกเธอเพิ่งเจอกันเหรอ ทำไมเร็วขนาดนี้…”

“เร็วเหรอ” แขไขลดเปลือกตาลงและพูดอย่างประชด ประชัน “ป่าพรก็อยากให้เร็วหน่อยไม่ใช่หรือไง คืบหน้า เร็วขนาดนี้พวกคุณน่าจะดีใจกัน”

“อันนี้…………. ขจรจิตก็พูดอะไรไม่ออก อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดว่าเธอได้จับวิณไว้แล้วภายในใจก็รู้สึกตื่นเต้น อย่างหยุดไม่อยู่ แล้วก็เปลี่ยนคำพูดทันที “พวกเธอยัง วัยรุ่นกัน ฉันน่ะมันแก่แล้ว การแต่งงานที่รวดเร็วเดี๋ยวนี้ มีมากมาย ถ้าเธอยินยอม พ่อก็สนับสนุน!”

สนับสนุน?

เขาอยากให้เธอไปเอาใจวิณแทบตาย เอาใจวีรสกุล กรุ๊ปจำกัดอีกด้วย

“เอาทะเบียนบ้านมาเถอะ”

“โอเค ได้” ขจรจิตไม่พูดอะไร และรีบเอาสมุด บัญชีออกจากตู้ทันทีและมอบให้เธอ “ไข่หวาน เธอ เป็นลูกสาวที่ดีของพ่อจริงๆ การป่วยของแม่เธอ เธอ สบายใจได้ ฉันจะให้ป้าพรจัดการให้อย่างแน่นอน!”

“ไม่ต้องแล้ว วิณบอกว่าเขาจะจัดการให้” แขไขรับ ทะเบียนบ้านมา และมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความ โกหกและพูดขึ้น “พ่อ เพราะคุณเป็นคนส่งให้ฉันไป แต่งงานกับวิณ คุณจำเอาไว้”
ขจรจิตไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆเธอถึงพูดเช่นนั้น แขไข ก็ได้เดินออกจากห้องทำงานไป

เมื่อประตูปิดลง เธอก็หยุดเดิน เธอกำมือแน่น ย้อน นึกถึงเวลาสิบปีที่ได้อยู่ที่ ตระกูลดาวริศกุล สิ่งที่เธอ ปรารถนาคือความเรียบง่ายครอบครัวที่มีความรักและ ชีวิตธรรมดาแต่สิ่งที่ธรรมดาเหล่านี้เธอไม่เคยได้รับมัน เลย

เธอไม่ต้องการที่จะแบมือขอทานอีกแล้ว เธอจะต้อง แข็งแกร่งขึ้น แค่เพียงแข็งแกร่งขึ้นเธอก็จะควบคุม ตระกูลดาวริศกุลได้

2ชั่วโมงถัดมา รถของวิณก็มาปรากฏที่หน้าบ้าน แข ไขกลัวว่าคนอื่นจะมาเห็นเข้า จึงให้เขาจอดตรงด้าน ข้างถนน

ประตูรถถูกเปิดออกจากด้านนอก กลิ่นของหญิงสาว ก็ลอยเข้ามา แขไขก็ก้าวเข้าไปในรถ และมองไปที่ ชายที่อยู่ด้านข้าง เธอยังมีความยับยั้งชั่งใจและความ ประหม่าอยู่

คนแปลกหน้าสองคนกำลังจะแต่งงาน

วิณสังเกตเห็นเธอกำลังจ้องมอง ดวงตาสีดำก็สบตา กับเธอ “หล่อเหรอ”
แขไขก็หันไปมองทางอื่นทันที เธอยกมือขึ้นและลูบ หูเพื่อให้เส้นผมของเธอร่วงหล่นลงมาเพื่อปกปิดความ ตื่นตระหนกและเริ่มพูดคุยว่า “เราจะไปที่อำเภอเลย หรือไม่?”

“ไปโรงพยาบาลก่อน”

“โรงพยาบาล?”

ราวกับว่าเขาอ่านความคิดเธอออก ชายคนนั้นจึง เหลือบมองเธอ “ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถก็หยุดอยู่ที่หน้าโรงพยาบาล เอกชนที่มีชื่อเสียงของเมืองJ โรงพยาบาลสว่างสุข

เมืองJ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ระดับ โลกในประเทศจีนมี โรงพยาบาลระดับสามดาวอยู่ หลายแห่ง แต่มีเพียงโรงพยาบาลสว่างสุขเท่านั้นที่ไม่ เหมือนใครที่นี่มีทักษะและคุณสมบัติทางการแพทย์ที่ดี เยี่ยม กล่าวกันว่าชาวต่างชาติที่มีชื่อเสียงจำนวนมากจะ มาที่นี่เพื่อทำการรักษา แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายก็สูงมาก จะ เป็นห้องส่วนตัวพร้อมด้วยพยาบาลดูแลระดับมืออาชีพ ราคาที่ถูกที่สุดต่อหนึ่งวันคือหลายพันบาท สถานที่ที่คน ธรรมดาไม่สามารถอยู่ได้

ทั้งสองขึ้นลิฟต์และเธอคิดว่าพวกเธอกำลังจะไปที่ แผนกตรวจสุขภาพ แต่กลับอยู่อยู่ตรงหน้าประตูของ คณบดี และเดินตามวิณเข้าไป พวกเขาเห็นชายคนหนึ่ง สวมเสื้อคลุมสีขาวนั่งอยู่บนโซฟาในห้องทำงาน เมื่อเห็นว่าพวกเขาเข้ามาก็ลุกขึ้นเข้ามาทักทายวิณอย่างสนิท สนม “ในที่สุดก็มาถึง กำลังจะผ่าตัดแล้ว ฉันล่ะกลัวมา ไม่ทัน”

พูดจบ ก็จ้องมองมายังแขไขที่อยู่ข้างกาย เด็กหญิง ตัวเล็กผมยาวใบหน้าขาวสะอาด เธองดงาม ร่างกาย สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกระโปรงยีนส์สั้นและรองเท้า ผ้าใบสีขาวคู่หนึ่ง เธอยังดูเด็กและบริสุทธิ์มองแล้วดู เหมือนนักเรียนมัธยมปลาย

รชต ตบฝ่ามือของวิณอย่างลับๆ “คนนี้เหรอ? ฉันว่า ยังไม่บรรลุนิติภาวะ”

วิณจ้องมองเขาและเตือน “อย่าพูดเรื่องไร้สาระ

รชตยิ้มและยื่นมือของเขาออกมา “สวัสดีสาวน้อย ฉัน ชื่อรชต เป็นเพื่อนของวิณ เธอเรียกฉันว่าพี่รชตก็ได้ นะ”ชายคนนี้หล่อเหลามาก ผิวสีขาวดูเปล่งปลั่ง ถ้าหาก วิณคือผู้ชายคนแข็งแกร่ง ชายคนี้ก็จะเป็นสิ่งที่ตรงกัน ข้ามกับเขา คนคนี้ดูอบอุ่น

แขไขจับมือของเขาอย่างรวดเร็ว “สวัสดี ฉันชื่อแขไข หรือไข่หวาน”

รชตนิ่งไป และหัวเราะออกมา “ชื่อน่ารักมาก”

วิณมองไปที่มือของทั้งสองที่จับกันไว้ และขมวดคิ้ว “ไปเถอะ ไปตรวจสุขภาพ”
ได้มีการกล่าวว่าการตรวจร่างกายนั้นเป็นรายการพื้น ฐานสำหรับบางอย่าง อย่างไรก็ตามภายใต้หน้ากาก มีเพียงการเจาะเลือดเท่านั้นที่เป็นไฮไลท์ รชตโกหก เธอว่าต้องแยกกันตรวจกับวิณ และเขาพาเธอมาที่ห้อง ตรวจ

กระบวนการการตรวจสอบ ในขั้นตอนสุดท้าย พยาบาลก็เก็บตัวอย่างเลือดจากเธอ “คุณแขไข นั่งรอ ที่นี่ครู่หนึ่ง เดี๋ยวฉันจะกลับมา”

แขไขพยักหน้า “โอเค รบกวนคุณแล้ว”

ในขณะที่เธอกำลังรอ ตัวอย่างเลือดก็ได้ถูกส่งไป ถึงมือของรชตแล้ว ตัวอย่างเลือดถูกส่งไปยังเครื่อง ทดสอบเมื่อมองไปที่ข้อมูลข้างต้นรชตก็พิจารณาอย่าง ละเอียดและยืนยันว่า “เป็นกรุ๊ปเลือด DEIGO”

วิณถอนหายใจด้วยความโล่งอก “เดี๋ยวฉันจะพาเธอ ไปจดทะเบียน”

รชตขมวดคิ้ว หลายปีที่ผ่านมาที่รู้จักกัน เขาเข้าใจ ลักษณะของคนคนนี้เป็นอย่างดี “คุณจะแต่งงานกับเธอ จริงเหรอ? การแต่งงานไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แม้ว่าผู้หญิง คนนั้นจะดูเรียบง่าย แต่ผู้คนก็มักจะเปลี่ยนไปเสมอ คุณยังไม่รู้จักเธอ….

“ฉันไม่ได้ต้องการที่จะรู้จักเธอ” วิณเปลี่ยนสีหน้า ทันทีและขัดจังหวะการสนทนาของเขา “ฉันแค่อยาก ให้เธอเป็นคนพิเศษ การแต่งงานคือหลักประกันและค่าตอบแทนของเธอ”

รชตพูดไม่ออกและผ่านไปครู่หนึ่งก็พูดว่า “การใช้ สิ่งนี้เป็นค่าตอบแทน มันค่อนข้างแพงไป คุณคิดดีแล้ว หรือ?”

“ถ้าหากไม่แต่งงาน ฉันก็ไม่ได้รับรู้การเคลื่อนไหว ของเธอ แทนที่จะกังวลกับเธอทุกวินาที สู้ให้อยู่ข้าง กายเธอไปเลยไม่ดีกว่าหรือไง”

รชตเข้าใจนิสัยของเขา รู้ว่าการโน้มน้าวใจนั้นไม่มี ประโยชน์ดังนั้นจึงไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อ เขาตบไหล่ของ ชายคนนั้นและถอนหายใจ “หากต้องการความช่วย เหลือ ก็บอกฉันได้เลย”

“โอเค”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ