อาเขยจอมเทียน

4/3



4/3

“มาทานข้าวกลางวันค่ะ” พลับพลึงก็ตอบไปสั้นๆ เหมือนกัน “เพิ่งรู้ว่าที่นี่เป็นสถานสงเคราะห์เลี้ยงข้าวคนสัญจรไปมา พลับพลึงถอนใจไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจึงต้องมากระแนะ

กระแหนเธอด้วย ในเมื่อเขาไม่คิดจะสนใจเธอก็แค่ปล่อยให้มัน ผ่านเลยไปไม่เห็นจะยาก

“พี่ธเนศเป็นเพื่อนพลับ เขามีสิทธิ์มาที่นี่ในฐานะเพื่อนของ พลับ อารัณหมดเรื่องแล้วใช่ไหมคะ พลับขอตัว”

ดร คว้าเรียวแขนเอาไว้ก่อนที่เธอจะเดินผ่านหน้า ท่าทาง หยิ่งจองหองของเธอทำให้อยากเขย่าจนหัวสั่นหัวคลอนนัก ไอ้ อาการเชิดหน้าคอตั้งบ่าก็อีก มันน่าจะจับฟาดก้นให้รู้ว่ากิริยา ไหนสมควรทําหรือไม่ควรทํา

“ฉันเป็นขาประจำ ไม่ใช่สิ เป็น…ผัว จะเลี้ยงข้าวฉันหน่อย เป็นไร”

หญิงสาวเม้มปากสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมแรงๆ ดรัณ ยอมปล่อยแขนยกมือเท้าสะเอวตั้งท่าจะไม่ยอมแพ้ เขาคิดจะเข้า มาเปิดศึกกับเธอถึงในไร่เลยหรือไง

“อารัณพูดให้ถูก”

“นี่ล่ะถูกที่สุดแล้ว หรือจะต้องเตือนความจำเรื่องเมื่อคืน
ความทรงจำเรื่องเมื่อคืนไม่จำเป็นต้องเตือน เธอก็ไม่อาจรั้ง มันออกมาจากสมองได้อยู่แล้ว ร่องรอยก็ยังหลงเหลืออยู่เต็มร่าง โดยเฉพาะ ถึงตอนนี้เธอยังเจ็บไม่หาย

“เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ขอตัวก่อนค่ะ”

ยังไงเธอก็ยังคงต้องรักษามารยาทพูดให้เพราะเข้าไว้

พ่อเลี้ยงดรับเดินตามร่างเล็กบางที่อ้าวลิ่วๆ เข้าไปใน บ้านหลังใหญ่ พลับพลึงไม่สนใจฟังเสียงที่ดังแว่วมาตามหลัง เขายังคงตามติดแล้วเธอก็ก้าวเร็วไปกว่านี้ไม่ได้เสียด้วย

น่าโมโหขาสั้นๆ ของตัวเองนัก

พลับพลึงเข้าไปถึงห้องโถงก็หันมาทำตาเขียวใส่ ทีแรกก็ อยากยั่วแต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว ต่อให้เขาเอาแต่เดินตามเธอไป เรื่อยอย่างคนยอดตอ เธอจะเลิกสนใจเขาเสียที ความสูญเสียที่ ได้รับน่าจะช่วยให้เธอตัดใจได้ สิ่งที่เสียไปโดยไม่ได้อะไรกลับ มา เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่จะให้เรียกร้องเอาแต่ใจขอให้ รับผิดชอบก็กลายเป็นบังคับคนไม่มีใจแต่งงานด้วย อยู่ด้วยกัน ไปก็รังจะมีแต่เรื่องเสียใจ ไร้ความสุข

“เจอหน้าพ่อเลี้ยงก็ดีแล้ว ว่าจะออกไปหาที่ไร่อยู่พอดี” แต่ยังไม่ทันที่พลับพลึงจะเอื้อนเอ่ย บิดาของเธอก็ออกมา

จากด้านในเสียก่อน

“สวัสดีครับพ่อเลี้ยงรุ่งโรจน์” ดรัณยกมือไหว้คนที่เป็นพี่ชาย ของอิงฟ้าและเป็นบิดาของพลับพลึง
“มาที่นี่เพราะจะมาอธิบายหรือแสดงความรับผิดชอบกันล่ะ”

“อธิบาย? รับผิดชอบ? นี่มันเรื่องอะไรกันคะคุณพ่อ” เป็น หญิงสาวที่ถามเสียงสูงอย่างคนมีชนักปักหลัง สีหน้าของบิดา ไม่สู้ดีเลย หน้าตาเคร่งเครียดดุดันเหมือนกำลังโกรธใคร แล้วจะ เป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่…คนที่กำลังยืนปักหลักอยู่ตรงหน้า

“ก็นี่ไงเล่า ข่าวมันขึ้นรูปแกทั้งคู่หราขนาดนี้ จะให้พ่อต้อง

อธิบายอีกเรอะ”

พ่อเลี้ยงรุ่งโรจน์โยนหนังสือพิมพ์ใส่หน้าครัณ พ่อเลี้ยงหนุ่ม เริ่มไม่สบอารมณ์สังเกตได้จากอาการต่อต้านที่กำลังแสดงให้ เห็น ท่าที่กำหมัดแน่นแล้วคลายออกเพื่อกางหนังสือพิมพ์บ่งบอก ได้ชัดว่าเขาไม่พอใจ พลับพลึงไม่รู้ว่าเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น เมื่อคืน เธอมีสติเพียงน้อยนิด จำได้บ้างไม่ได้บ้าง ส่วนใหญ่จะจำได้แค่ ความเจ็บแปลบและรอยแดงตามเนื้อตัว ที่จำได้ก็เพราะเห็น ในกระจก แต่ความเจ็บแปลบมันออกอาการให้รู้ทุกครั้งที่ขยับ

นอกนั้น…เธอจําไม่ได้

ภาพการพลอดรักกันอย่างดูดดื่มภายในรถทะเบียนคุ้นตา แถมเจ้าของรถที่อยู่ในภาพก็ใช่คนเดียวกับพ่อเลี้ยงชื่อดังกับ สาวน้อยลูกสาวคนดังของจังหวัด ถ้ามองให้ดีจะรู้ว่าทั้งคู่มีไร่ที่ อยู่ติดกัน จำกันได้ไหมว่าทั้งสองเป็นใคร พลอดรักกันโจ๋งครึ่ม ขนาดนี้คงไม่มีอะไรต้องแก้ตัวแล้วล่ะมั้ง

“ว่าไง เธอมีอะไรจะอธิบายมั้ยครัณ”
ในขณะนั้นแม่เลี้ยงกาญจนาก็สาวเท้าลงมาจากชั้นสอง

“เสียงดังโหวกเหวก เกิดเรื่องอะไรกันคะคุณ

“ยัยลูกสาวของคุณสิทำงามหน้าแล้ว

แม่เลี้ยงดึงหนังสือพิมพ์จากมือดรักมากวาดสายตาไปทุก ตัวอักษรใต้รูปถ่ายค่อนข้างชัดเจน เห็นแล้วก็รู้ว่าใครกับใคร เสี้ยวหน้าด้านข้างไม่ว่าจะเป็นตา จมูก ปาก หรือแม้แต่ทรงผม แค่มองก็รู้แล้วว่าเป็นใคร

“นี่…นี่มันเรื่องอะไรกันลูก” เสียงคนเป็นแม่ติดๆ ขัดๆ

“คุณแม่คะ คือ…พลับอธิบายได้ มันไม่ใช่อย่างที่คิดนะคะ” พลับพลึงเข้ามาเกาะแขนแม่ พยายามอธิบายข่าวฉาวในหน้า หนังสือพิมพ์ ทั้งที่รูปถ่ายที่ชัดเจน โดยไม่ต้องอธิบายอะไรให้มาก ความ

“มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ยังไงน่ะรัณ พี่ไม่คิดว่าเธอจะ..” แม่เลี้ยงกาญจนาถามคนที่เอาแต่ยืนเงียบไม่พูดไม่จา “การนิ่งก็ คือการยอมรับนะ”

“คุณแม่คะ คุณพ่อคะ พลับผิดเอง ไม่ใช่ความผิดของอาณ นะคะ” ในเมื่อเขาไม่คิดจะอธิบายใดๆ เธอก็เลยต้องเป็นคน อธิบายเรื่องทั้งหมด “คือว่าพลับไปกับ…

“ผมขอรับผิดชอบเรื่องทั้งหมด ถ้าพ่อเลี้ยงกับแม่เลี้ยงจะ กรุณา”

หลังจากที่ยืนเงียบมานาน เขาก็โพล่งขึ้น น้ำเสียงราบเรียบและสีหน้าเฉยเมยราวกับไม่แยแส ในคำพูดของตน แค่พูดไปให้ จบๆ แค่นั้น

“อารัก!!!” หญิงสาวไม่คิดว่าตนจะเอ่ยประโยคนี้ออกมา ไม่เคยคิดเลยจริงๆ เขาจะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นหรือ จะรับผิด ชอบยังไง แก้ข่าวงั้นหรือ

“เธอริจะเป็นพระยาเทครัวตั้งแต่เมื่อไหร่ยึดรัณ เธอรู้มั้ยพวก เราพยายามไม่เชื่อว่าเธอจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ นับตั้งแต่อิงฟ้า จากไป เธอก็เปลี่ยนเป็นคนละคน แล้วนี่…เกิดเรื่องงามหน้าแบบ นี้ขึ้นได้ยังไง” แม่เลี้ยงกาญจนาโบกมือ โบกไม้เรียกหายาดม ยาลม ยาหม่อง หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น

“ผมก็บอกแล้วว่าจะรับผิดชอบ”

พลับพลึงส่ายหน้า น้ำเสียงของเขาเหมือนถูกบังคับให้พูด ออกไป ถ้าต้องบังคับใจกันเธอก็ไม่อยากได้ ไม่อยากช่วงชิงใน สิ่งที่ไม่ใช่ของตน

“ไม่ค่ะ พลับไม่ให้อารัณต้องมารับผิดชอบ คุณพ่อคุณแม่คะ อารัณไม่ผิดนะคะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ