อาเขยจอมเทียน

3/1



3/1

คนขับรถคันใหญ่ขับตามรถคันเตี้ยเปิดประทุนชนิดไม่ให้ คลาดสายตา ดรัณบอกตัวเองว่าเขาจะปล่อยให้พลับพลึงถูกน ดลพาไปไหนต่อไหน ในค่ำคืนนี้ไม่ได้ ยานั่นไม่รู้ว่าจะออกฤทธิ์ แบบไหน เขาคิดว่ามันน่าจะเป็นยานอนหลับ ผู้ชายเสเพลอย างนฤดลคงจะอยากให้พลับพลึงหมดสติแล้วลวนลามเธอ ตอน ได้ยินปกรณ์บอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ใช่ว่าเขาไม่สนใจหรือ ไม่อยากช่วย แต่ ชะงักค้างเพราะกำลังคิดว่าผู้หญิงอย่างเด็กคน นั้นจะมาเที่ยวสถานที่แบบนี้ได้ยังไง แต่พอคิดว่าทุกอย่างเป็นไป ได้ทั้งนั้นถ้าเป็นเด็กสาวที่ชื่อพลับพลึง

รถโฟล์วีลล์ขับเคลื่อนสี่ล้อแซงปาดหน้ารถคันโก้ของนฤดล ไว้ได้ เมื่อมีช่องว่างบนท้องถนน ให้แซงรถคันอื่นขึ้นมา เบรกรถไม่ทันก็เลยชนเข้ากับรถคันใหญ่ของดรั

“เฮ้ย!!! ใครวะ ขับรถอย่างนี้ได้ยังไงเนี่ยฮะ”

ดรักกระโดดลงจากรถอย่างไม่รอให้นฤดลมาถึง เขา

เหลือบตาเห็นพลับพลึงนั่งคอพับคออ่อนอยู่ในรถเปิดประทุนแล้ว

รู้สึกใจหาย ไม่เสียดายรถของตนที่ถูกชนเลยสักนิด ความเสีย

หายนั้นไม่ได้เกิดขึ้นมากมายจนต้องตกใจเพราะรถกระบะ

ประตูคันสูงใหญ่แข็งแกร่งบึกบึนจนรถคันโก้หรูแต่เตี้ยราบเทียบ

ไม่ได้ รถที่เสียหายมากกว่าก็คือรถของนฤดล

“อ้อ…นึกว่าใคร พ่อเลี้ยงขับรถแบบนี้ได้ยังไง หรืออยากตายก่อนแก่”

ตรัณไม่ตอบ เดินไปกระชากประตูรถข้างที่หญิงสาวนั่งอยู่ “เฮ้ย! พ่อเลี้ยงจะทำอะไร ปล่อยน้องพลับเดี๋ยวนี้นะ”

เสียงโหวกเหวกของนฤดลทำให้พลับพลึงปรือตาปรอยขึ้น มอง เธอเห็นอารักของเธอเป็นคนแรกจึงพยายามทรงตัวขึ้นแบบ ทุลักทุเลพอประมาณ ก็ชุดแสคสวยสีเข้มรัดรูปอวดโนมเนื้อเสีย จนขยับตัวก็ลําบาก ดรัณไม่ชอบใจเลยที่เห็นหลานสาวของอิงฟ้า ในสภาพแบบนี้

“อารัณหรือคะ”

“อย่าแตะน้องพลับของผมนะพ่อเลี้ยง คุณไม่เกี่ยว กลับไป อยู่ในที่ของคุณเถอะ” นฤดลออกปากไล่แล้วตบมือพ่อเลี้ยงไม่ ให้แตะต้องหญิงสาว ดรัณโมโหก็เลยเหวี่ยงหมัดอุ่นๆ ไม่มีรู กระแทกหน้าชายหนุ่มรุ่นน้องเสียหงายหลัง

“ผัวะ”

ไปพลับ ไปกับอา

หญิงสาวถูกดึงออกจากรถเซแซ่ดๆ ตามแรงลากของพ่อ เลี้ยงหนุ่ม สติไม่สมประกอบในยามนี้ทำให้เธอได้แต่มองจ้อง หน้าเขาเขม็ง ดรัณสังเกตว่าหน้าของพลับพลึงแดงกว่าปกติทั้งที่ ตอนนี้ก็ดึกแล้ว แถมยังนั่งรถเปิดประทุนตากลมมาคงไม่ได้เกิด จากความร้อนกระมัง

“พ่อเลี้ยง!!! พูดไม่รู้เรื่อง อยากให้ใช้กำลังใช่มั้ย” คนถูกต่อยยังเบ่งกล้าม กระชากคอเสื้อของดรักให้หันมาหา แต่พ่อ เลี้ยงผู้เจนเรื่องหมัดมวยมาพอสมควรด้วยความที่ต้องมีพระเดช ควบคุมดูแลคนงานชายนับร้อยคนให้ได้ ฉะนั้นเรื่องการกราบ ให้จดจำแบบผู้ชายจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา

“ผัวะ” หมัดอุ่นๆ สวนเข้ากระแทกหน้านฤดลอีกหน คราวนี้ ชายหนุ่มรุ่นน้องไม่ได้หงายเก๋ง แต่เซแซ่ดๆ ไปที่รถแล้วเปิดลิ้น ชักหน้ารถหยิบอาวุธออกมา ทว่าหนุ่มรุ่นน้องที่มีแค่ความกร่าง อยากหาเรื่องเทียบไม่ติดฝุ่นกับหนุ่มใหญ่รุ่นพี่ ดรัดึงปืนออก จากซอกเอวที่พกติดต่อตลอดเวลามาแต่ไหนแต่ไร แล้วไปที่ หน้าของนฤดล หนุ่มกร่างยังไม่วางมือคิดจะต่อกรกับรุ่นพี่ ดรัณ เลยสับสันมือใส่ปืนของนฤดลแล้วฟันศอกใส่อีกหน

“โอ๊ย!!! พ่อเลี้ยง…มึง!!!

“ฉันไม่คิดจะฆ่าแกทั้งที่น่าฆ่าให้ตายตอนนี้ จะไว้ชีวิตระ ของแก แต่อย่ามายุ่งกับพลับพลึงอีก” พ่อเลี้ยงเก็บปืนที่กระเด็น มาหา แล้วขึ้นลำปืนจนเกิดเสียง “กริ๊ก” ให้นฤดลตาเหลือก

“น้องพลับมากับฉันเอง แกไม่เกี่ยว” หนุ่มเสเพลยังกร่างไม่ เลิกทั้งที่กลัวจนเสียงสั่นไปหมด

“ถ้าเป็นคนอื่น ฉันสาบานว่าจะไม่เข้ามาเกี่ยว แต่พลับพลึง ฉันขอห้ามเด็ดขาด แกอย่ามายุ่งกับพลับพลึงอีก ไม่งั้นอย่าหาว่า ฉันไม่เตือน เปรี้ยง!!!” พ่อเลี้ยงเบนปลายกระบอกปืนลงมาที่พื้น แล้วเหนี่ยวไกข่มขวัญ

“โอ๊ย!!! มะ…ไม่แล้ว ผะ..ผมจะมะ…ไม่ยุ่งกับเธออีก”
“จำไว้ไอ้ลูกหมา ไม่ว่าแกจะเป็นใคร เป็นลูกเต้าเหล่าใคร ฉันไม่สน อย่าแหยมกับฉันอีก ไม่งั้นเราจะได้เห็นดีกัน!!!

ว่าแล้วครั ก็ปลดกระสุนออกจากกระบอกปืนของนฤดล แล้วโยนใส่หน้าเขา ก่อนเดินอ้อมไปขึ้นรถของตัวเองแล้วขับ ออกไปโดยตั้งใจให้รถกระบะเกี่ยวรถคันโก้ให้พังยับ

“โธ่เว้ย!!! ไอ้ดรัณ ไอ้ตรัณ!!!! มึง!!! อ๊ากส์!!! รถ…รถกู… นฤ ดล โอดครวญยกมือกุมขมับเมื่อพลับพลึงหลุดลอยไปจากมือทั้ง ที่เกือบจะได้แล้วแท้ๆ รถก็อีก รถราคาแพงตอนนี้ฝากระโปรง หน้าพังยับ

“นี่มันคราวซวยของกูหรือไงวะ หนอย…ไอ้ดรัณ ถึงกับกูจะ ต้องได้เห็นดีกันแน่!

ดรัมปรายตามองหญิงสาวที่นั่งคอพับคออ่อนอยู่ข้างๆ เธอ ไม่มีสติดูไม่ดีพอๆ กับเซ็กซี่มากๆ มันช่างขัดแย้งกันจนเขาอยาก เอาหัวโขกพวงมาลัยให้น็อก พลับพลึงนั่งกระสับกระส่ายอยู่ดีๆ ร่างกายของเธอก็ร้อนผ่าว เหงื่อเม็ดเป้งซึมออกมาทั่วร่าง ทั้ง ใบหน้าและลำคอเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ

“เปิดแอร์…ร้อน” เธอบอกแล้วเอื้อมมามาที่ตัวปรับแอร์รถ

“ทีเมื่อกี้นั่งรถไม่เปิดแอร์ยังไม่ร้อน ที่อย่างนี้ล่ะร้อนขึ้นมา เชียวนะยัยเด็กแก่แดด” ชายหนุ่มบ่นแล้วตีมือบางแรงจนได้ยิน เสียงหวานร้องลั่น

“เจ็บ ตีพลับทําไม”
ตรับส่ายหัวแล้วปรับแอร์ให้เย็นที่สุดจนเขาหนาว แอบมอง เหงื่อเม็ดโตบนสําคอขาวๆ ท่าเธอจะร้อนจริงๆ ไม่ได้แกล้ง

“อาจเที่ยวผับ ทำไมไม่รู้จะรักษาตัวให้รอดปลอดภัยบ้าง ล่ะฮะ เธอโดนยาอะไรไม่รู้ ถ้าเป็นยานอนหลับก็หลับๆ ซะสิ” เขา ผลักหัวคนที่กำลังจะตะเกียกตะกายเข้ามาหา “นี่เธอทำบ้าอะไร ออกไปให้ห่างๆ ฉันขับรถอยู่ไม่เห็นรึไง”

พลับพลึงไม่ตอบ ไม่ว่าเขาจะผลักจนหงายหลังหัวกระแทก ประตูกี่ครั้ง เธอก็ยังลุกขึ้นคืบคลานเข้ามาหา ดรัณสงสัยนักว่าน ฤดล ใส่ยาอะไรให้กิน ถ้าเป็นยานอนหลับ มันน่าจะออกฤทธิ์ได้ แล้ว

“อารัณ…อารัณ ใช่หรือเปล่า”

เสียงใคร เขาได้ยินเสียงคุ้นๆ เหมือนเสียงของอิงฟ้า “อารักขา…รักขา…

ดรัณหันไปมองพลับพลึง ทำไมเสียงของเธอจึงกลายเป็นเสียงอิงฟ้า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ