อาเขยจอมเทียน

2/5



2/5

“เอ่อ…ผมเป็นสัตวแพทย์ครับ เป็นหมอรักษาสัตว์ทุกชนิด ไม่ใช่แค่หมาอย่างเดียว” ปกรณ์แก้ให้ เขาไม่ใช่คนที่เก็บเอาค พูดของใครมาคิดมากให้รกสมองเหมือนครับ ฉะนั้นคำเรียกขา นของนฤดลจึงไม่ทำให้เขาอารมณ์เสีย

“ครับ ไม่คิดว่าหมอจะชอบมาเที่ยวที่แบบนี้ด้วย

“ก็นิดหน่อยนะครับ เป็นธรรมดาของหนุ่มโสด จะอาชีพไหน ก็อยากปลดปล่อยทั้งนั้นล่ะครับ

“นั่นสิครับ ผมเคยได้ยินว่าหมอไม่ใช่ย่อย

“ขอบคุณที่ชมครับ” ปกรณ์ตอบยิ้มๆ แล้วหันไปมองหญิง สาวที่กระตุกมือตนอยู่ทางด้านหลัง เห็นสาวน้อยพยายามดึงเขา ออกไปกลางฟลอร์ จึงต้องเอ่ยขอตัวกับนฤดล ขอตัวก่อนนะ ครับ น้องเขาอยากเต้นเต็มแก่แล้ว”

บอกไปเช่นนั้นก็ทำให้หนุ่มคาสโนว่าอย่างนฤดลหันไป สนใจกับคู่ควงของตนต่อ ปกรณ์พยายามมองให้ชัดว่าผู้หญิงผู้ โชคร้ายคนนั้นเป็นใคร และแล้วคนที่เห็นก็ทำให้เขาต้องเบิก ตากว้างเป็นสองเท่า ใครเล่าจะไม่รู้จักคุณหนูพลับพลึงลูกสาว เศรษฐีเมืองเหนือ และมากไปกว่านั้นสาวน้อยคนนี้ก็ยังรู้จักสนิท สนมกับดรับเพื่อนรักเป็นอย่างดี

พลับพลึงดื่มไวน์ที่นฤดลส่งให้รสชาติที่มีทั้งหวาน เปรี้ยวและขม เมื่อรวมกันแล้วก็อร่อยไม่เบา จากที่คิดจะจีบก็กลายเป็น ยกแก้วดื่มพรวดเสียเลย เข้าทางชายหนุ่มที่มองมาอย่างลำพอง ใจกระหยิ่มยิ้มย่องและดีใจล่วงหน้าว่าแผนการขั้นต่อไปจะต้อง สําเร็จ

สาวน้อยที่เพิ่งออกพ้นจากรั้วมหาวิทยาลัยไม่มีประสบการณ์ เรื่องน้ำเมาสักเท่าไหร่ ได้ยินเพียงเพื่อนผู้ชายคุยกันสนุกปากว่า ขาดผู้หญิงยังไม่รู้เท่าขาดเหล้า เมื่อได้ลองลิ้มรสไวน์ซึ่งมีดีกรี เพียงนิดหน่อยแล้วก็คิดว่าอาจจะต้องมีแก้วที่สองตามมา

“เป็นไงครับ” นฤดลถามเมื่อเห็นเธอนั่งจ้องแก้วเปล่าตาค้าง

“อร่อยดีค่ะ ขออีกสักแก้วได้ไหมคะ”

“หืม…ได้สิครับ” แค่แก้วเดียวก็จอดแล้ว แต่ชายหนุ่มก็ทำ ตามความต้องการของเธอ เขาเรียกบ่อยมาสั่งเครื่องดื่มให้เธอ

“คนเริ่มเยอะแล้วนะคะ” พลับพลึงละสายตาไปจากแก้ว เปล่า มองฟลอร์เต้นรำที่มีวัยรุ่นหนุ่มสาวกำลังสโลว์ซบในเพลง ซึ่ง หนึ่งในนั้นเป็นคนที่เธอรู้จัก หมอปกรณ์เพื่อนสนิทของอารัณ เขากอดกับผู้หญิงคนหนึ่งและกำลังมองมาที่เธอ เธอยิ้มให้

“อยากออกไปเต้นรําหรือเปล่าครับ” นฤดลลุกขึ้นพร้อมกับ ส่งมือให้ พลับพลึงไม่อยากปฏิเสธหรือเธอเริ่มขึ้นแล้วก็ไม่รู้ แค่ เพียงลุกขึ้นร่างระหงก็ซวนเซ “ไหวไหมครับ จะต่อแก้วสองอีก ไหม” คนทำรู้อยู่แก่ใจแสร้งทำเป็นถาม

“ไหวค่ะ พลับอยากเต้นรำ” จุดหมายของเธอไม่ได้อยู่ที่การ เต้นรํา แต่อยู่ที่หมอปกรณ์ พลับพลึงไม่ได้อยากแยกคู่ของหมอปกรณ์เพียงแต่เธออยากทักทายเขา

นฤดลไม่ปฏิเสธ เขาประคองหญิงสาวอย่างทะนุถนอม หมอ ปกรณ์มองหญิงสาวด้วยสายตาเป็นห่วง เขาจะรอให้เธอเข้ามา ใกล้ๆ แล้วจะเตือนเธอ ท่าทางของหญิงสาวคล้ายคนเมา เขาไม่รู้ ว่านฤดล ใส่ยาอะไรให้ แต่มันยังไม่ออกฤทธิ์หรือเป็นยาชนิดอ่อน ยังมีเวลาช่วยเหลือเธอ

“สวัสดีค่ะคุณหมอ” เป็นอย่างที่คิด พลับพลึงเข้าไปทักทาย

เขา

“สวัสดีครับคุณหนูพลับ ไม่คิดว่าคุณหนูจะชอบเที่ยวกลาง คืนแบบนี้ด้วย”

“พลับอยากมาเปิดหูเปิดตาค่ะ คุณหมอล่ะคะมากับใคร ดวงตาของเธอจับจ้องไปยังคนที่อยู่ในอ้อมแขนของหมอสัตว์ ปกรณ์ยิ้ม

“ผมมากับพ่อเลี้ยงดรันครับ แต่เจ้านั่นไม่ยอมมาเต้นรำด้วย ผมก็เลยถือโอกาสออกมากับน้องคนนี้

“คุณหมอ…” พลับพลึงเริ่มมึนหัวหนักขึ้น “มากับอาณเหรอ คะ” เสียงของเธอเริ่มติดขัด และปกรณ์ก็แน่ใจว่ายากำลังออก ฤทธิ์ ไม่ว่ายานั่นจะเป็นยาอะไรก็ตาม เขาจะต้องหาทางช่วยหญิง สาว

“ครับ คุณหนูพลับเหมือนจะเมาแล้ว ผมว่ากลับบ้านดีกว่าไหมครับ”
“ถ้าน้องพลับอยากกลับบ้าน ผมจะไปส่งเองเพราะผมพาเธอ มา คุณหมออย่ายุ่ง”

หมอสัตว์ขมวดคิ้ว เมื่อนฤดลส่งสายตาเป็นเชิงบอกว่าอย่าง ยุ่งเรื่องชาวบ้าน แล้วเกี่ยวเอวพลับพลึงเดินออกไปจากฟลอร์ เต้นรำ ปกรณ์ขอตัวกับหญิงสาวในอ้อมแขนแล้วรีบไปบอกดรัณ

“เฮ้ยไอ้พ่อเลี้ยง เกิดเรื่องแล้วว่ะ”

“อะไรของแกวะไอ้หมอ” ดรัณกำลังเพลิดเพลินอยู่กับรสชาติ ของวิสกี้ออนเดอะร็อค ผสมกับความคิดที่เริ่มลอยไปถึงใครบาง คนที่กลายเป็นอดีต

“ผู้หญิงคนที่นายนฤดลวางยา ฉันรู้แล้วว่าเป็นใคร

“นี่แกยังไม่เลิกคิดจะยุ่งเรื่องคนอื่นอีกหรือวะ ตอนนี้ฉันไม่ อยากชักปืนใส่หน้า ใครวะ ขอโทษนะเพื่อน” ดรัณปฏิเสธแล้วหัน ไปสนใจกับเครื่องดื่มสุดโปรดต่อ

“แต่คนนี้แกต้องยุ่ง เพราะหล่อนคือพลับพลึง ลูกสาวพ่อ เลี้ยงรุ่งโรจน์ หลานสาวของอิงฟ้า”

พ่อเลี้ยงหนุ่มชะงักมือค้างกลางอากาศ เขาหันมาเลิกคิ้วให้ กับเพื่อนสีหน้าไม่ยินดียินร้าย จนปกรณ์เริ่มลังเลว่าจะไม่ทันการ พอดีพลับพลึงคงถูกนฤดลพาขึ้นรถแล้วคงจบที่โรงแรมไหนสัก แห่ง

“ถ้าแกไม่ช่วย ฉันจะทำเอง แล้วแกจำไว้ว่าแกกำลังฆ่าคุณ หนูพลับทั้งเป็นไอ้รัณ”
จบคําแทนที่ปกรณ์จะพุ่งตัวออกไปก่อนกลายเป็นพ่อเลี้ยง รูปหล่อควักเงินมาวางบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว แล้วแทรกผู้คน มากมายออกไปราวพายุ เขาออกไปทันเห็นไฟท้ายรถเปิดประทุ นของนฤดลเลี้ยวออกไปจากลานจอดรถ ร่างสูงวิ่งไปที่รถของตน แล้วออกรถตามไปทันที

“เออเฮ้ย ให้มันได้อย่างนี้ เพื่อนยาก” หมอปกรณ์ทำได้แค่ เพียงมองตามรถที่พุ่งปรี๊ดราวกับถูกดีดออกจากที่จอด ความเร็ว ขนาดล้อฟรีคงตามรถของนฤดลได้ทันแน่ เมื่อแน่ใจแล้วว่าเพื่อน รักจะต้องไปช่วยพลับพลึงไว้ทัน ปกรณ์ก็ถอนใจโล่งอก เขาไม่มี อะไรที่ต้องเป็นห่วงต่อไปแล้ว สาวน้อยจะต้องปลอดภัยไร้กังวล


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ