2/4
หมอปกรณ์สะเทือนใจทุกครั้งที่เพื่อนระบายทุกข์ออกมาให้ฟัง จนบางครั้งเขาก็ไม่อยากทนฟัง อยากปฏิเสธหรือไม่ก็หนีให้ห่าง แต่ถ้าทำแบบนั้นเพื่อนของเขาจะมีสภาพเป็นอย่างไร ครัวคนนี้มี เพื่อนสนิทที่ไว้ปรับทุกข์อยู่คนเดียว นั่นก็คือเขา เพื่อนเขาคงเป็น บ้าถ้าไม่ได้ระบายออกซะบ้าง ทุกวันนี้ก็เปลี่ยนจากคนดีกลาย เป็นคนร้ายกาจ ผู้ชายใจดีกลายเป็นคนใจร้าย เกลียดผู้หญิงทุก คนที่เข้าใกล้โดยไม่คำนึงว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร
“เออๆ ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ดื่มเถอะเพื่อน ถ้าเหล้าจะ ทำให้แกไม่คิดถึงเรื่องเดิมๆ ได้สักพักก็ดื่มเถอะ ถ้าแกเมาเดี่ยว ฉันจะขับรถไปส่งถึงบ้านเอง ไม่ต้องห่วงนะ”
ดรันโคลงหัว ปกรณ์มักจะปลอบใจแบบนี้เสมอในพักหลังๆ เพื่อนสนิทของเขาก็คงเบื่อที่ต้องอธิบายหรือปลอบใจคนฟุ้งซ่าน เพราะไม่ว่าจะปลอบใจยังไงก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ความทรงจําเหล่า นั้นยังฝังลึกอยู่ในหัว ไม่มีวันลืมเลือน
สองหนุ่มนั่งดื่มกันไปคุยกันไปในเรื่องจิปาถะพยายามเบี่ยง เบนประเด็นที่อาจทำให้เพื่อนรักเจ็บ โดยไม่รู้ว่าบัดนี้ตรง ประตูทางเข้ามีร่างหนุ่มสาวเคียงคู่กันเข้ามาในผับ
นฤดลแตะมือตรงกลางแผ่นหลังของพลับพลึงแล้วรุนนิดๆ ให้เธอเดินผ่านผู้คนเข้าไปนั่งในมุมสุด ผับของเสี่ยบัณฑูรเปิด เพลงหลากหลายแนวเอาใจผู้ฟังทุกกลุ่ม ทั้งวัยรุ่นหนุ่มสาวหรือแม้จะเป็นคนสูงวัยขึ้นมาอีกนิด ทั้งเพลงแดนซ์ เพลงช้า เพลง สากล ผู้คนในวันแรกก็แห่แหนเข้ามาเที่ยวนั่งดริ้งค์กันเป็นกลุ่ม บ้าง เป็นคู่บ้าง แทบจะไม่เห็นคนที่ฉายเดี่ยวเลย
พอเข้ามาในสถานที่แบบนี้ ทั้งควันบุหรี่ ทั้งเสียงเพลงอีกทีก ทั้งเสียงตะโกนพูดคุยกันแข่งกับเสียงเพลง ทำให้พลับพลึงเริ่ม มึนหัวนึกในใจว่าคิดผิดหรือเปล่าที่ตัดสินใจมาเที่ยวกับนฤดล เธอเคยเที่ยวกลางคืนมาบ้างในสมัยที่ยังเรียนหนังสือ ตอนนั้น ความซุกซนและอยากรู้อยากเห็นทำให้เธอและเพื่อนๆ ในกลุ่ม พากันหนีออกนอกหอเพื่อมาเที่ยวในสถานที่แบบนี้ แต่การเที่ยว กันเป็นกลุ่มๆ ไปไหนก็ไปด้วยกันไม่มีอะไรต้องกลัว เที่ยวกันไม่กี่ ชั่วโมงแค่พอรู้ แค่ได้เห็นก็กลับหอ แล้วก็ถูกทำโทษด้วยการให้ ล้างห้องน้ำ มันเป็นประสบการณ์ในวัยเรียนที่ไม่ทำให้พวกเธอ เสียผู้เสียคน
มาอีกครั้งแค่ได้กลิ่นบุหรี่ฟังก็ฉุนจมูกหายใจไม่ออก แต่ ตัดสินใจมาแล้วจะหนีกลับก็กระไรอยู่
“ดื่มอะไรดีครับน้องพลับ
“ขอน้ำส้มก็แล้วกันค่ะ”
“น้ำส้ม! ฮ่ะ ฮ่ะ” นฤดลเผลอหัวเราะออกมาสุดเสียง “มา เที่ยวผับแต่ดื่มน้ำส้มน่ะเหรอครับ เอาอย่างนี้ดีกว่า ดื่มไวน์นุ่มๆ สักแก้วดีไหมครับ รับรองว่าไม่เมาแน่นอน
“เอ่อ…แก้วเดียวนะคะ” พลับพลึงต่อรอง และคิดว่าแค่ไวน์ เพียงแก้วเดียวคงไม่ทำให้เมามายไร้สติหรอกน่า
“ครับ แก้วเดียวเท่านั้น แล้วเราค่อยออกไปดิ้นด้วยกันนะ ครับ”
หญิงสาวพยักหน้าตอบรับ นฤดลจึงสั่งไวน์ให้เธอ ส่วนเขา ขอเป็นเบียร์เย็นๆ ชายหนุ่มกระตุกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ มองหญิงสาวที่กำลังนั่งมองฟลอร์เต้นรำอย่างเพลิดเพลิน
“พี่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับน้องพลับ
นฤดลเอ่ยขอตัวก่อนลุกขึ้นตรงไปยังบาร์เครื่องดื่มโดยไม่ มองว่าตรงบริเวณนั้นจะมีใครนั่งอยู่บ้าง เขากระดิกนิ้วเรียกบาร์ เทนเดอร์ให้ส่งแก้วเปล่ามาใส่น้ำแข็งแล้วใส่ไวน์สีแดงลงไป นั่น คงจะไม่เป็นที่สนอกสนใจจากคนข้างๆ ถ้าซองกระดาษสีขาวเล็ก จิ๋วจะไม่ถูกฉีก แล้วผงละเอียดสีขาวจะไม่ถูกเทลงไปในน้ำสีแดง
“งานนี้มีเหยื่อสาวเสร็จหมาป่าเจ้าเล่ห์อีกแล้ว” หมอปกรณ์ เปรยกับเพื่อนรักหลังจากปรายหางตามองลูกชายเจ้าของไร่ โกวิท ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งชื่อเสียงในด้านดีและด้าน เลว กำลังคิดจะทำระยำตำบอนกับผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้น คงน่าสงสารมากถ้าเธอไม่เต็มใจ
“ช่างเถอะ ไม่ใช่เรื่องของเรานี่หว่า” ดรัณบอกปัด เขาไม่ ต้องการเข้าไปแทรกแซงหรือข้องแวะกับใครทั้งนั้น ไม่ว่าผู้หญิง คนนั้นจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตาม ใครจะว่าเขาเย็นชา ใจร้าย ไม่มีสำนึกของความเป็นสุภาพบุรุษยังไงก็ช่าง เขาไม่แคร์หรอก เพราะทุกวันนี้เขาก็ถูกขนานนามว่าพ่อเลี้ยงจอมเถื่อนอยู่แล้ว
“แกจะไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยนางสมันน้อยหรือไงวะ ถ้าหล่อนไม่เต็มใจ น่าสงสารอยู่นะเว้ย
“มันไม่ใช่เรื่องของฉัน ฉันไม่อยากยุ่งเรื่องของชาวบ้าน
“น่าสงสารผู้หญิงคนนั้นจัง แต่ก็อย่างว่านะ จะเข้าไปแส่หา เรื่องทําไม หรือไม่บางทีเจ้าหล่อนอาจจะยินยอมพร้อมใจก็เป็น
ดรันโคลงหัวแล้วดื่มวิสกี้ออนเดอะร็อคของตนต่อไป
นฤดลวางแก้วไวน์สีสวยลงบนโต๊ะตรงหน้าสาวน้อย พลับพลึงเงยหน้ามองอย่างแปลกใจ เขาเห็นความสงสัยใน ดวงตากลมก็ชิงอธิบายเสียก่อน
“พี่ผ่านบ่อยมาพอดีก็เลยอาสาเอามาเสิร์ฟเองครับ”
หญิงสาวกลืนน้ำลายเมื่อมองดูน้ำสีแดงเข้ม ในแก้ว แก้ว ขนาดนี้ไม่น่าจะทำให้เมาหรอกมั้ง ว่าแต่…ไวน์อะไรนะสีสวยจัง
“ไวน์รสนุ่มและอร่อยมาก พี่ว่าน้องพลับต้องชอบ ลองหน่อย นะครับ”
นฤดลลุกขึ้นจากฝั่งตรงข้ามหวังจะเข้ามานั่งเคียงข้างหญิง สาว แต่ในช่วงจังหวะนั้นเขาก็ถูกใครบางคนชนเข้าอย่างจัง เกือบจะทำให้แก้วไวน์ในมือหล่นแตก ชายหนุ่มฉุนกึกหันไป ต่อว่าต่อขานคนที่เดินซุ่มซ่าม
“นี่คุณ!! ทางเดินมีตั้งเยอะแยะทำไมไม่เดิน มาเดินเบียดที่ นั่งผมทำไมเนี่ย”
หมอปกรณ์ไม่ได้ตั้งใจชน เขาถูกผู้หญิงสาวหน้าตาน่ารักคน หนึ่งฉุดมาเต้นรำ ต้องหนีจากเพื่อนรักที่ไม่สนใจเรื่องอื่นเรื่องใด มากไปกว่าวิสกี้ออนเดอะร็อค ปล่อยให้คนอมทุกข์นั่งดริ้งค์อยู่ ตามลำพัง คนร่าเริงสนุกสนานได้ทุกเวลาอย่างเขามีหรือจะปฏิ เสธสาวๆ
ปกรณ์จ่าหน้านฤดลได้ขึ้นใจ เขาคือคนที่ใส่ยาบางชนิดลง ไปในแก้วไวน์ใบนั้น
“ขอโทษทีครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ” หมอสัตว์เอ่ยเสียงสุภาพ พลางพยายามมองผู้หญิงที่นั่งอยู่กับนฤดล ทว่าเงาของชายหนุ่ม ก็ทอดบังหญิงสาวจนมองไม่เห็น
“คุณหมอหมานั่นเอง” นฤดลจำหมอปกรณ์ได้เพราะเคยเอา สุนัขที่เลี้ยงไว้ไปรักษา
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ