บทที่ 6 ความเย้ายวนใจของหลินซินเยว่
เห็นตรงหว่านเยวมีท่าทางแบบนั้นเย่ชิวก็คิดว่าตัวเองคงจบเห่ แน่แล้ว ใครจะไปคิดว่ามู่หรงหว่านเยวไม่เพียงแต่ไม่โกรธกลับ กันยังพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “เสี่ยวชิวนายเหลือเกินจริงๆ ชอบทั้งหมดนั่นเลยเหรอ อันนี้ฉันก็ไม่กล้ารับปากนะแต่ว่าหลิน ชิงเยวหน่ะเธอก็เป็นผู้ใหญ่แล้วแถมตอนนี้ยังวุ่นวายกับเรื่องหย่า ร้างอยู่ ยกเว้นเธอแล้วที่เหลือหน่ะฉันจัดการให้ได้
“จัดการให้ได้เหรอ?” ดวงตาประกายดั่งไข่มุกของเย่ชีววูบ หล่นอย่างรวดเร็ว
“ใช่แล้ว เย่ชิว นายยังเด็ก เป็นไปไม่ได้จะแต่งงานกับผู้หญิงที่ แก่กว่าหรอกนะ เพียงแต่ว่าถ้าเป็นน้องสาวเธอก็น่าจะได้อยู่
เยซิวมองเข้าไปในห้อง เวลานี้น้องสาวของหลินซิงเยวหลินซิ นเยว่กำลังนั่งเล่นมือถืออยู่ข้างๆ พูดตามจริงแล้วหลินซินเยว เป็นผู้หญิงที่สวยและมีเสน่ห์คนหนึ่ง แต่ว่ากลุ่มหญิงสาวกลุ่มนี้ ต่างก็มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองมากเกินไป อย่างเช่นความมี เสน่ห์แบบผู้ใหญ่ของหลินชิงเยว่ ความเยือกเย็นของวซื้อหาน และความน่ารักน่าเอ็นดูของเสียวหมี่ ดังนั้นถ้ามีแต่ความ สวยงามที่ดูเรียบๆก็เป็นการง่ายที่จะถูกมองข้ามไป
เย่ชิวกระแอมขึ้นมาแล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “พี่หว่าน เยว์เรื่องนี้พวกเราค่อยพูดกันอีกทีดีรึป่าว? ตอนนี้พวกเรารีบไป กันเถอะ”
เชิวหาโอกาสให้ตนเองหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ ตอนนี้ห รงหว่านเยวกำลังมองเขาอยู่อาการของคนเมานี่กำลังทำให้ วิญญาณของเซิวเหมือนกำลังหลุดเข้าหลุดออกอยู่
“หวานเยวเธอกำลังทำอะไรอยู่หน่ะ พวกเรารอเธออยู่ตั้งนาน แล้วนะ” เสียงของหลินชิงเยวและผู้หญิงคนอื่นตะโกนดังขึ้นมา จากอีกฝั่ง
“เสี่ยวชิว นายก็รอให้พี่สาวคนนี้ช่วยจัดการให้นายเถอะ” ห รงหว่านเยวรองเท้าส้นสูงเดินไปทางหลินชิงเยว่ “ชิงเยว่ ยัย ป้าหนิเอะอะโวยวายอะไรกัน วันนี้ฉันจะทำให้เธอดื่มจนเมาให้ ได้เลย”
“ป๋าเป้ออะไรกันฉันยังเด็กอยู่เลย จิตใจฉันเพิ่งจะสิบแปดปี เอง”
ไม่ทันขาดคำทั้งห้องก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เย่ชิวรู้สึกว่าถ้า
หากตัวเองได้มาใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางผู้หญิงกลุ่มนี้ คงต้องถูก
แทะโลมไม่เหลือแน่ๆ
“เย่ชิวพวกเรามาเล่นเกมส์กันเถอะ” เมื่อเห็นว่าเย่ชิวที่นั่งอยู่ ด้านข้างดูเบื่อๆ น้องสาวของหลินชิงเยวหลินซินเยวจึงขยับเข้า มาร่วมบทสนทนา
หลินซินเยวดูแล้วก็เป็นหญิงรูปงามคนหนึ่ง รูปร่างสมส่วน ใบหน้ารูปไข่เหมือนกับพี่สาวอย่างมากเพียงแต่ดูเงียบกว่ากัน เยอะ
“เล่นเกมส์อะไร?”
“Truth or Dare เขย่าลูกเต๋าวัดว่าใครได้มากน้อยเป็นไง? หลินซินเยว่เอาผมยาวสยายขึ้นมาทัดหูท่าทางช่างดูเรียบร้อย งดงาม
“ผมยังไงก็ได้ ถ้าหากว่าคุณแพ้ต้องทำตามทุกอย่างที่ผู้ชนะ สั่ง” สายตาเจ้าเล่ห์ของเยซิวมองไปยังหลินซินเยว่
“อืม”
“ถอดเสื้อผ้าก็ได้เหรอ?”
พอเชิวพูดมาอย่างนั้น ใบหน้าที่ดูน่ารักของหลินซินเยว่ แดงแปร๊ดขึ้นมาพร้อมกับพ่นคำต่อว่า “นายนี่มันหยาบคายจริงๆ ไม่แปลกใจที่พี่สาวฉันชอบหยอกนายเล่น
“พี่สาวคุณก็เป็นคนหยาบคายคนนึงนั่นแหละ เอาไงเล่นไม่ เล่น?”
หลินซินเยวหันไปมองหลินชิงเยว่ เธอต้องได้รับคำสั่งจากพี่ สาวตัวเองก่อนถึงจะลงมือได้ เพราะในส่วนของการเขย่าลูกเต๋า นั้นวิธีการของหลินซินเยวโดดเด่นไม่เหมือนใคร ไม่ต้องถามว่า เก่งขนาดไหนแต่สามารถเอาแต้มต่อน้อยทำให้เป็นแต้มสูงได้ พอเห็นว่าเย่ชิวดูท่าทางไม่มีพิษมีภัย หลินซินเยว่ก็พยักหน้า อย่างมั่นใจ
“เล่น ฉันเริ่มก่อน”
หลินซินเยว่เอาลูกเต๋าใส่แก้วชาแล้วเขย่าอย่างจดจ่อและ คล่องแคล่ว เย่ช่วยกยิ้มขึ้นมาแล้วมองดูเฉยๆ ในใจคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนี้วันนี้จะมาเล่นลูกไม้อะไร
สอนหกหนึ่งอันสาม ยี่สิบเจ็ดแต้ม” หลินซินเยวมองดูผลลัพธ์ ใบหน้าน่ารักก็แอบยิ้มบางๆออกมา
เยซิวยิ้มไม่แสดงอาการอะไรออกมาแล้วพูดว่า “คิดไม่ถึงเลย ว่าฝีมือคุณจะเก่งฉกาจแบบนี้ครั้งนี้ผมคงแพ้แน่เลย
“ฉันแค่โชคดีเท่านั้นแหละ” หลินซินเยว่กล่าวอย่างถ่อมตัวแต่
ในใจกลับเห็นด้วยอย่างมาก
เชิวหยิบลูกเต๋าออกมาเขย่าอย่างระมัดระวังหลังจากที่เขย่า อย่างสะเปะสะปะไปพักหนึ่ง
หลินซินเยว่เห็นแบบนั้น ในใจก็รู้ว่าอะไรเป็นยังไงแล้ว
“สี่อันหกหนึ่งอันสี่ ยี่สิบแปดแต้ม พี่ซินเยวแต้มผมเยอะกว่าพี่ นิดหน่อยนะ” นาทีที่เปิดฝาออกนั้นใบหน้าน่ารักของหลินซินเยว่ ก็ตะลึงงันถึงกับยิ้มไม่ออก ท่าทางที่ดูยากจะเชื่อนี้ปรากฏให้เห็น เด่นชัดบนใบหน้า
“พี่ซินเยว่พูดคำไหนคำนั้นนะ
“นายอยากให้ฉันทำอะไร?” หลินซินเยวพูดด้วยน้ำเสียงอึกอัก หรือว่าเด็กนี่อยากให้ตนเองถอดเสื้อผ้าจริงๆ
“อืมมม” เย่ช่วยกมือลูบคางอย่างครุ่นคิด “พี่ซินเยววันนี้พี่ใส่ ชุดชั้นในสีอะไรเหรอ?”
ได้ยินคำถามหน้าหลินซินเยวก็แดงอย่างกับลูกแอปเปิ้ล รีบตอบอย่างรวดเร็วว่า “สีดำ”
“ผมไม่ได้ยิน”
“สีดำา!” ครั้งนี้เสียงของหลินซินเยวดังขึ้นมาเยอะมาก ทันใด นั้นล้วซือทานกับคนอีกสองสามคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็หันมามอง
“อืม สีดำเหรอผมชอบสีดำมากเลยนะ ไม่รู้ว่าจะมีลายลูกไม้ ป่าวน้า?”
“นี่เป็นคำถามที่สองนายต้องชนะก่อนฉันถึงจะตอบ” หลินซิ นเยวยิ้มบางๆ
“พี่ยังอยากเล่นอีกเหรอ?”
“ต้องเล่น” หลินซินเยว่พูดโดยไม่ต้องคิด เธอมั่นใจว่าเย่ชิวแค่ เพียงโชคดีเท่านั้นแหละคงไม่ได้ชนะไปทุกครั้งหรอก หลังจากนั้น จึงหยิบลูกเต๋ามาวางตามวิธีการของตนแล้วเขย่าลูกเต๋าแบบไม่ รีบร้อน
“พี่ซินเยว่เวลาพี่เขย่าลูกเต๋านช่างน่าดูจริงๆ
“พูดจากะล่อน”
“พี่รู้ได้ไงว่าผมพูดจากะล่อน” เย่ชิวมองหลินซินเยวอย่างใส
หลินซินเยวค่อยๆเปิดฝา “หยาบคายครั้งนี้พี่ไม่ยอมแพ้หรอก
ชื่อ
ดูให้ดีหล่ะ”
เมื่อหลินซินเยว่เปิดฝาออกเป็นอย่างที่คิดจริงๆลูกเต๋าห้าอันออกหกแต้มหมดเลย
“เป็นไง? ยอมแพ้เถอะ” หลินซินเยวตบมืออย่างพอใจ
“นี่ยังไม่ใช่แต้มสูงสุดหรอก ไม่ใช่ว่าหกอันออกหนึ่งหรอกเห รอ?” เย่ชิวถามอย่างซื่อๆ
หลินซินเยวคาดไม่ถึงว่าเพียงแป๊ปเดียวจะถูกดันให้หลังชนฝา เสียแล้ว คาดไม่ถึงว่าออกห้าอันหกแต้มก็ยังไม่ยอมแพ้อีก “อ้าง ตามกฎแล้วห้าอันขึ้นไปออกหนึ่งถึงจะนับว่าชนะ แต่ว่า….
“งั้นก็ดี ผมจะลองดู” ยังไม่ทันที่หลินซินเยวพูดจบ เย่ชีวก็หยิบ ลูกเต๋ามาเขย่าขึ้นๆลงๆซ้ายๆขวาๆ
“พี่ซินเยวดูให้ดีหล่ะ” เย่ชิวครู่นึงก็เปิดฝาออก
หลินซินเยว่เห็นลูกเต๋าห้าอันออกสีแดงแต้มเดียวทั้งหมด ก็ อยากสบถออกมาแต่ยังดีที่ตั้งไว้ทันแล้วมองเชิวอย่างเหลือเชื่อ “นายเป็นยอดมนุษย์ใช่มั้ย?
“เขาเป็นแค่คนโรคจิตคนหนึ่งแค่นั้น” หลินชิงเยวที่มองเยซิวอ ย่างสนใจมาตลอดพูดขึ้น
ชั่วขณะนั้นการร้องเพลงและการดื่มเหล้าก็ไม่น่าสนใจอีกต่อ ไป ทุกคนมากองรวมกันตรงนี้หมด
“ว้าวพี่ชาย พี่นี่เก่งสุดยอดเลยหนูก็อยากเล่นด้วยอ่ะ” เสียว หมี่มานั่งข้างเย่ชิวอย่างงๆเงินๆ
“พี่ซินเยว่ ตอนนี้ผมขอถามพี่ว่า…
“ไม่ใช่ลายลูกไม้” ยังไม่รอให้เยซิวถามจบหลินซินเยวที่หน้า แดงและเอาฟินทียบริมฝีปากสีแดงเบาๆก็ตอบขึ้นมา
“พี่ซินเยวผิดแล้ว ผมไม่ได้จะถามคำถามนี้ ที่อยากจะถามคือ ครั้งแรกของพี่ซินเยวคือที่ไหนเหรอ?” ถ้าไม่ใช่เพราะว่าหลินซินเยวได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดี
แน่นอนว่าคงจะด่าเยซิวแบบไม่ได้ผุดได้เกิด คาดไม่ถึงว่าจะถูก
คนบ้านนอก เล่นเอาเสียแล้ว
“อืม พี่ซินเยวรู้สึกไม่ดีที่จะบอกเหรอครับ ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะ
“ไม่ใช่ ฉันยังไม่มีครั้งแรกซะหน่อย” หลินซินเยวพอเห็นเว เดามั่วแบบนั้น ก็กังวลว่ายิ่งพูดจะยิ่งออกทะเลจึงรีบแย่งตอบ
“งั้นก็ดี ฮิฮิ ผมชอบ” เย่ชิวยิ้มอย่างใสซื่อบริสุทธิ์สุดๆ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ