อาจารย์ผู้ทรงอำนาจเข้าเมือง

บทที่ 12 แน่จริงเธอมาเป็นแฟนฉันสิ



บทที่ 12 แน่จริงเธอมาเป็นแฟนฉันสิ

บทที่ 12 แน่จริงเธอมาเป็นแฟนฉันสิ

” เย่ชิว ฉันอยากถามอะไรเธอหน่อย เธอมีจุดประสงค์อะไรกัน แน่ถึงได้มาเรียนที่นี่?” ซว เจียวมอง เชิวที่เดินมาอยู่ด้านข้าง ตัวเองแล้วพูดด้วยท่าที่จริงจัง

“มาเรียนหนังสืออยู่แล้ว เพื่อที่จะมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ ประเทศชาติและสังคม ช่วยทำให้สี่ทันสมัยได้เป็นจริงให้เร็วขึ้น เย่ชิวพูดออกมา โดยไม่ต้องคิดเลย

“เลิกพูดจาไร้สาระที่ไม่มีประโยชน์เถอะ ในเมื่อเธอมาเพื่อ เรียนหนังสือ ทำไมถึงได้เอ้อระเหยลอยชาย แล้วยังสูบบุหรี่ในที่ สาธารณะอีก เธอไม่รู้เหรอว่าตอนนี้รัฐบาลออกคำสั่งห้ามสูบ บุหรี่ในที่สาธารณะแล้วนะ?” ซวู เจียวเริ่มจริงจัง แก้มเป็นสีแดง และดูน่าเกรงขาม มองแล้วมีความเป็นผู้หญิงเพิ่มมากขึ้น

เชื่อได้เลยว่าผู้ชายที่อยากถะนุถนอมผู้หญิงได้เห็นใบหน้า แบบนี้แล้ว อดไม่ได้ที่จะอยากสัมผัสความงาม

“ผมเอ้อระเหยลอยชายตรงไหนกัน ผมแค่กำลังใช้ความคิด ไม่อย่างนั้นผมจะคิดค่ตอบออกมาไม่ได้ แล้วก็อาจารย์ซว เกิด ปีม้าเหรอครับ?” เย่ชิวจู่ๆก็ถามอย่างมีเลศนัย

“ทำไมเหรอ?”

“ก็ปีนี้เป็นปีม้า”
“แล้วมันยังไงละ?” ซว เจียวถูกถามด้วยคำถามที่น่าสับสน บอกได้เลยว่า เย่ชิวมีความสามารถในการเปลี่ยนเรื่องคุยได้เก่ง มาก

“ผมคิดว่ามันเกี่ยวข้องกันแน่ๆ เห็นอาจารย์ใส่กางเกงในสี แดง”

“เธอ… เธอมันน่าไม่อายจริงๆ” ซว เจียวกูก เย่ชิวพูดจาแบบ นี้ ใบหน้าเริ่มแดง ริมฝีปากก็เริ่มสั่นไหวขึ้นมา ก่อนหน้านี้ยัง ว่าเขาว่าเอ้อระเหยลอยชายอยู่เลย ตอนนี้เพิ่มไร้ยางอายเข้าไป อีก

“เปล่าไร้ยางอายสักหน่อย อาจารย์ออกจะสวยขนาดนี้ ผู้ชาย ที่ไหนก็อดใจไม่ได้ที่จะขอดูสักนิด ไหนจะรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ แล้วก็กระโปรงสีดำนั้นยังสะท้อนสีสิ่งที่อยู่ด้านในออกมาอย่าง ง่ายดายเลยละ ” เย่ชิวพูดออกมาอย่างละเอียด

ซว เจียวหน้าซีดขึ้นมาทันที แต่ว่าในใจก็แอบปลื้มนิดๆ อย่าง น้อย เชิวก็ชมว่าสวยด้วยความจริงใจ ผู้หญิงคนไหนไม่ชอบให้ คนอื่นชมว่าตัวเองมีรูปร่างสมบูรณ์แบบกันบ้างละ ไหนจะใบหน้า อันสวยงาม แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าที่ เย่ชิวพูดถึงกระโปรงสีดำสะท้อน สีของกางเกงใน นี่ก็เป็นปัญหาจริงๆ หลังจากนี้ต้องระวังให้ มากกว่าเดิม ก็ว่าทำไมเวลาเราเดินอยู่รู้สึกได้ถึงมีสายตาหลายคู่ จ้องมองมาจากด้านหลัง

นักเรียนเย่ชิวไม่ว่าจะยังไง เธอก็คือนักเรียนคนหนึ่ง หลัง จากนี้ห้ามทำอะไรลับๆล่อๆเด็ดขาด” ซวู เจียวสั่งสอน เย่ชิวที่จ้องมองมาที่ตัวเองไม่หยุด

“ผมไม่ได้ทำอะไรลับๆล่อๆ ผมก็มองอย่างเปิดเผยตลอดนะ”

“เธอ…” ซว เจียวโมโหจนพูดไม่ออก

“อาจารย์ว สวยขนาดนี้ อาจารย์มีแฟนหรือยังครับ?” เย่ชิว เริ่มกลับมาถามคำถามแปลกๆอีกครั้ง

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย?”

“ถ้าหากอาจารย์ซว ยังไม่มีละก็ ผมเป็นแฟนให้อาจารย์ได้นะ ครับ”

“ไปซะ….” ซว เจียวกำลังตะโกนใส่ แต่ในตอนนั้นก็นึกคิด

อะไรสนุกๆออก

“เธออยากเป็นแฟนฉันจริงๆหรอ?” ซว เจียวทำตาเจ้าเล่ห์ แล้วมองไปที่ เย่ชิว

เย่ชิวเป็นคนประเภทใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์ พอเห็นว่ามี โอกาส ก็รีบพยักหน้าทันทีแล้วพูดว่า “อยากมากๆครับ

“ถ้าอย่างนั้นฉันตกลง” ซว เจียวพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

“จริงหรอ?” เย่ชิวรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังหลงกลอยู่ แม้ว่าตัว เองจะมีเสน่ห์แค่ไหน แต่มันก็ไม่น่าจะง่ายขนาดนี้นะ

“แต่ว่าเธอต้องทําตามเงื่อนไขของฉันข้อหนึ่ง

“จะมีเงื่อนไขสักสิบข้อเลยก็ได้” เย่ชีวพยักหน้าดีใจจนหัวแทบหลุดออกมา
ซว เจียวเห็น เย่ชิวเป็นแบบนี้ พอที่จะรู้จุดประสงค์ที่ตัวเอง ต้องการแล้ว เงื่อนไขของฉันง่ายมาก ก็แค่เวลา ในห้องเรียนมี การคัดเลือกนักเรียนในชั้น เธอก็ต้องกระตือรือร้นที่จะมาเป็น หัวหน้าห้องทันที หลังจากนั้นทำให้ห้องเรียนของเราได้รับรางวัล ห้องเรียนดีเด่นประจําเมืองเจียงเฉิง ทําได้ไหมละ?”

“ไม่มีปัญหา” เย่ชิวไม่ไตร่ตรองอะไรทั้งสิ้น และตอบอย่าง ทันที

ซว เจียวยิ้มอย่างภาคภูมิใจ และรู้ว่าเธอกล้าที่จะเอาชีวิตตัว เองมาเดิมพันธ์กับเรื่องนี้ แต่ว่าการจะได้รับรางวัลดีเด่นได้ไม่ใช่ เรื่องง่ายเลย ไม่ต้องพูดเลยว่า ในเมืองเจียงเฉิงมีทั้งหมดกี่พัน ห้องเรียน จํานวนห้องเรียนดีเด่นจะมีเพียงห้าห้องเท่านั้น แล้ว เย่ ชิวก็เอ้อระเหยลอยชายแบบนี้ นักเรียนในห้องใครจะอยากให้ เขาเป็นหัวหน้ากัน เพราะแบบนี้ซว เจียวเลยคิดว่ายังไงตัวเองก็ ชนะแน่นอน

หลังจากนี้มันจะเป็นการพิสูจน์ เป็นอาจารย์ที่พึ่งเข้ามาใหม่ และยังไม่มีความเข้าใจในนักเรียนสักเท่าไหร่ และมีความ กระหายในการชนะห้องเรียนดีเด่น และเป็นการเดิมพันธ์ที่รีบ ร้อนจนเกินไป

“ตกลง อาจารย์จะรอดูผลงานของเธอนะ” เสียงของซว เจียว เปลี่ยนมาเป็นอ่อนโยนทันที แล้วยังกระพริบตา ใส่ เยวอีกหนึ่ง ที ก่อนหน้านี้ เชิวก็แทบจะหลงรักหัวปักหัวป่าอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอ สายตาและน้ำเสียงแบบนี้อีกยิ่งทำให้เขาเริ่มอดใจไม่ไหวแล้วสิ
“อาจารย์ ผมอยากได้กำลังใจ เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรมัน ต้องมีมัดจำกันก่อนไม่ใช่เหรอ? เพราะฉะนั้นอาจารย์ก็ต้องให้ รางวัลผมก่อน ”

“เธออยากได้รางวัลอะไร?” ซว เจียวจ้องมองสายตาเจ้าเล่ห์ ของ เชิว ในตอนนั้นเองก็รู้สึกว่าคอเสื้อเชิ้ตมันเริ่มกระชับแน่น ขึ้นมา กังวลว่าถ้า เย่ชีวอดใจไม่ไหวพุ่งเข้ามาหา เราจะปฏิเสธ หรือว่า…..

“ผมขอจูบหนึ่งที”

“ไม่ได้” ซวู เจียวปฏิเสธอย่างไม่ลังเล

เยซิวมองเห็นท่าทางการปฏิเสธของซว เขียว แล้วลดเงื่อนไข ลงทันที “ถ้าอย่างนั้นผมอยากให้อาจารย์กอดผมหนึ่งที” เย่ชิ วนึกถึงกอดที่อบอุ่นตรงทางเดินก่อนหน้านี้ เป็นอ้อมกอดที่ไม่ เคยมีมาก่อนและไม่เหมือนใคร รู้สึกใจเต้นแปลกๆ

ซวู เจียวคิดแล้วคิดอีก ก่อนหน้านี้ก็โดนเจ้าเด็กคนนี้โผเข้า มากอด ตอนนี้ก็แค่ทำมันอีกรอบแค่นั้นเอง อีกอย่างที่ดูๆแล้ว ถ้า หากไม่ยอมกอดก็ดูเหมือนว่าจะไม่ยอมเลิกราง่ายๆ

“ก็ได้ เราคุยกันก่อนนะ ว่าแค่กอดเฉยๆ” ซว เจียวดึงเสื้อเชิ้ต ลงมา จากนั้นเดินตรงไปอยู่ด้านหน้าของ เย่ชีว

กลิ่นน้ำหอมโชยมาเบาๆ ไม่เพียงแต่หัวใจของซว เจียวเต้น เร็วขึ้น หัวใจของ เย่ชิวก็เต้นแรงเหมือนกัน จนกระทั่งรู้สึกถึงการ สูบฉีดของเลือดที่เร็วขึ้น
คนสองคนที่โอบกอดเข้าหากันอย่างช้าๆ ชวู เจียวรู้สึกแค่ว่า ทําไมเวลาผ่านไปช้ามากๆ มือสองข้างกำลังดิ้นไปมา

แต่ เย่ชิวรู้สึกว่าเวลาเดินเร็วมาก ซึ่งจะกอดกันเองซว เจียวก็ เริ่มดิ้นไปมาแล้ว

พัวะ!

ในตอนที่ซว เจียวดิ้นออกจากอ้อมกอด เชิวนั่นเอง มือไม้ ของ เย่ชีวก็เผลอไปฟาด โดนกันของซว เขียวเข้าอย่างจัง เสียงที่ ดังกังวาน ถ้าไม่ติดกับว่าซว เจียวกันอยู่ในห้องพักอาจารย์ละก็ คาดว่าคงจะร้องกรีดเสียงดังไปแล้ว

“ไอบ้า” ซวู เจียวพูดออกมาอย่างโกรธเคือง

“นักเรียนไม่แย่ อาจารย์ไม่รัก” เย่ชีวเดินออกไปอย่างอารมณ์ ดี จากนั้นก็หันกลับมาพูดกับซ. เจียวอย่างอ่อนโยนว่า “อาจาร ซว พูดไว้แล้วอย่าคืนค่นะครับอาจารย์ พอถึงเวลาที่ได้มา เป็นแฟนผมอย่ามาเสียใจทีหลังนะ

ซว เจียวมองดู เย่ชิวที่มีท่าทีหลงตัวเอง รู้สึกเหมือนกับเรื่องนี้ มีข้อผูกมัดอย่างนั้นเลย ยังสงสัยจริงๆว่าที่ตัวเองเดิมพันธ์ไปนั้น มันดูเป็นเรื่องใหญ่ไปไหม แล้วก็นึกถึงคำพูด เย่ชิวที่พูดชมตัว เองเมื่อตะกี้ ไหนจะโดนมือดีไปที่ก้น แก้มซีดๆของซว เจียวทั้ง สองข้างเริ่มแดงขึ้นๆ ทั้งสองข้างและก็ตามคอเริ่มมีอาการร้อน วูบขึ้นมา ในใจก็มีความรู้สึกแปลกๆขึ้นมา

หรือว่านี่จะเรียกว่าความรัก?
“ซว เจียวนะซว เจียว เธอกำลังคิดอะไรอยู่ นั่นมันนักเรียน ของเธอนะ ทำไมเธอถึงคิดอะไรแบบนี้ได้ละ แต่ว่าชา เจียวยิ่ง เตือนตัวเองเท่าไหร่ ในใจก็ยิ่งวุ่นวายยิ่งขึ้น เริ่มเกิดความสับสน

ซว เขียวเขินอายจนกัดริมฝีปากตัวเอง สายตาที่ใสซื่อ ไม่ถึงเลยว่าทำให้อึ้งไปชั่วขณะ คาด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ