อาจารย์ผู้ทรงอำนาจเข้าเมือง

บทที่ 10 หน้าไม่อาย



บทที่ 10 หน้าไม่อาย

รุ่งอรุณของเดือนกันยายนดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความหวัง สี เหลืองทองของแสงอาทิตย์พาดผ่านใบไม้สะท้อนลงมาเป็นเงา ลวดลายที่ผสมผสานกันลงบนถนน มองดูแล้วก็เหมือนชีวิตที่เต็ม ไปด้วยความกระปรี้กระเปร่าและโอกาสที่อยากจะใช้ชีวิตต่อขึ้น มาเป็นพิเศษ

ห้องนอนของมู่หรงหว่านเยวสามารถรับแสงพระอาทิตย์แรก ของเมืองเจียงเฉิงได้ แสงที่ลอดผ่านหน้าต่างมาอย่างเรื่อยๆนั้น ส่องกระทบมายังใบหน้ารูปไข่สวยงามไร้ที่ติ

มู่หรงหว่านเยวพลิกตัวมาเห็นว่าเวลานี้เชิวได้ตื่นนอน เรียบร้อยแล้วและกำลังยืนแต่งตัวอยู่ตรงข้ามมุมปากก็มีรอยยิ้ม ขึ้นมาบางๆ เธอมองไปที่พื้นเห็นพรมอยู่ผืนหนึ่งและบนตัวเธอก็มี ผ้าห่มห่มไว้ก็รู้ว่าเมื่อคืนเด็กนั่นคงอยู่ดูแลเธอทั้งคืนแน่ พอคิดมา ถึงตรงนี้ในใจก็มีความรู้สึกหนึ่งขึ้นมาจู่โจม จากนั้นจึงค่อยๆเดิน ย่องเบาๆลงมากะว่าจะทำอาหารเช้ามื้อแรกให้เยซิว

“เสี่ยวชิววันนี้พี่ต้องไปจัดการเรื่องราวธุระต่างๆที่บริษัทคงไม่ ได้ไปส่งนาย อีกสักพักหลินซินเยวจะมารับนายนะ” มู่หรงหว่าน เยว์สวมชุดอยู่บ้านแล้วยังผูกผ้ากันเปื้อนไว้ผืนหนึ่ง เดิมที่ใบหน้า รูปไข่นี้ก็งดงามอยู่แล้วแต่ทว่ากลับทำให้คนมีความรู้สึกที่เพียบ พร้อมและดูอบอุ่นห่วงใย

“พี่หว่านเยวถ้าพี่มาเป็นภรรยาผมก็คงจะดี” เย่ช่วยกนมขึ้นมาดื่มไปพลางพูดไปพลาง

“อย่ามาล้อเล่นเลยพี่เห็นนะว่าเมื่อคืนผู้หญิงพวกนั้นก็ดูจะ ประทับใจในตัวนายไม่น้อยส่วนพี่อ่ะแก่แล้ว” มู่หรงหว่านเยวยิ้ม

“ไม่มีทางพี่หว่านเยวอ่ะสวยที่สุดตลอดกาล” ที่เยซิวพูดเป็น ความจริงล้วนๆ

“ไม่พูดกับนายแล้ว รีบกินรีบเก็บกวาดอีกเดี๋ยวก็จะเข้าเรียน แล้วคิดว่าซินเยวคงจะถึงแล้วมั้ง บัตรนี้ให้นายรหัสเลขหกหกตัว ถ้าอยากใช้เงินก็ไปกดเอา” มู่หรงหว่านเยวยื่นบัตร ธนาคารICBCสีทองมาให้เยาวก็รับมาอย่างไม่ลังเล “ขอบคุณ นะพี่หวานเยว”

มู่หรงหว่านเยวยิ้มหวานไปที่หนึ่งรอจนเย่ชิวกินเสร็จจากนั้นจึง ค่อยหาของง่ายๆกิน หลังจากนั้นจึงเก็บกวาดประเดี๋ยวนึงก็ขับ รถเฟอร์รารี่ของตัวเองออกไป

เวลานี้เย่ชิวกำลังนั่งอยู่บนรถBeetle carสีแดงของหลิน นเยวรถแบบนี้เหมาะกับผู้หญิงมาก อีกทั้งผู้หญิงที่สวยระดับหลิน ซินเยวแล้วก็ยิ่งคู่ควรกับรถที่เล็กกระจิ๋มกระจิ๋มนี้ ใน มหาวิทยาลัยทิวทัศน์ดูสวยสง่าพอเห็นแบบนี้สองพี่น้องตระกูล หลินคงจะมีเงินมากอยู่

วันนี้หลินซินเยวสวมกระโปรงยาวสีเขียวอ่อนผมยาวมัดรวบ เป็นหางม้าช่างดูมีออร่าเป็นพิเศษ หน้าตาผิวพรรณดูขาวละเอียด กระจ่างใสแม้แต่ติ่งหูที่ดูกลมมนนั้นก็แทบจะทำให้คนมอง น้ำลายหก นิ้วเท้าเรียวยาวเรียงอย่างสวยงามน่ารักในรองเท้าส้นสูงสีขาวดูลายเด็กน้อยกำลังหลับสนิท

“นายมองอะไรอยู่หน่ะ?” ในที่สุดหลินซินเยวก็เอ่ยปากถามขึ้น ตั้งแต่เยชิวขึ้นรถมาก็เอาแต่มองเธอไม่หยุดแม้ว่าเธอจะคุ้นเคย กับการถูกผู้ชายต้องมองในมหาวิทยาลัยแต่นี่เป็นครั้งแรกที่ถูก จ้องใกล้ๆ

“ผมกำลังมองพี่อยู่พี่ซินเยวพี่ช่างดูดีจริงๆ”

“อย่ามาแซวฉันเลยผู้หญิงที่อยู่รอบตัวนายก็สวยๆทั้งนั้น พี่ห รงหว่านเยวของนายก็สวยราวกับนางฟ้าแล้วยังเจ้าหญิงน้ำแข็ง ลั่วซื้อหานนั่นอีกคนอีก” ตอนที่หลินซินเยว่พูดเรื่องพวกนี้แท้จริง ในใจก็รู้สึกหดหู่เล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าคนที่สวยติดอันดับต้นๆ ของมหาวิทยาลัยแต่ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันกับทรงหว่านเยวเธอก็ กลายเป็นเหมือนคนที่ไม่ได้ดูล้ำเลิศอะไรเลย ไม่ว่าจะคนเย็นชา อย่างวซื้อหานหรือว่าคนที่ดูไร้เดียงสาอย่างเสียวห

“ที่ไหนกัน พี่ดูลั่วซือหานอย่างกับคนอื่นจะเป็นแบบเธออย่าง นั้นแหละที่มักจะชอบเย็นชาไม่แยแสคนอื่น ใบหน้าที่ดูซีดแล้ว เรียบนิ่งนั้นอย่างกับซอมบี้ไม่ก็ผีดูดเลือดอ่ะ”

“พรืด” หลินซินเยวที่ได้ฟังเย่ชีววิจารณ์ลั่วซื้อหานแบบนั้นก็ เผลอควบคุมทิศทางไว้ไม่อยู่ไปชนเข้ากับราวเหล็กกั้นด้านข้าง นี่ เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคนวิพากษ์วิจารณ์รั่วซื้อหานขนาดนี้

“พี่ซินเยวพี่หัวเราะอะไรกัน? ที่ผมพูดอ่ะเป็นความจริงทั้งหมด พี่ดูสิพี่ทั้งสวยทั้งดูสนิทสนมขนาดนี้” เย่ชิวเลิกคิ้วมองหลิน นเยว่
“เพ่ย ฉันรู้แล้วว่านายเป็นคนหยาบคายมักพูดแต่อะไรไม่ดีไม่ แปลกใจเลยที่พี่สาวฉันบอกให้อยู่ห่างๆนายไว้” หลินซินเยวกุ เรื่องขึ้นมาเอง

“นั้นก็พี่สาวพี่กังวลว่าจะชอบผมกลัวว่าพี่จะแย่งผมไป

“หน้าไม่อาย”

“ใช่แล้วผมมันน่าไม่อายผู้หญิงอย่างพวกพี่ไม่ใช่ว่าชอบคน หน้าไม่อายหรอกเหรอ?” เชิวพูดกับหลินซินเยวยิ่งพูดยิ่งหัว ร้อน เวลาพูดยิ่งอยู่ก็ยิ่งใจกล้า

แต่ว่าในใจของหลินซินเยวนั้นช่างดูมีความสุขคาดไม่ถึงว่าผู้ หญิงมากมายมักจะมีความทระนงในใจ พอได้ฟังว่าเยวชมตัว เองว่าสวยกว่ารั่วซื้อหานอย่างจริงจังนั้น ความทระนงที่มีอยู่เล็ก น้อยในใจนั้นก็เหมือนได้รับความพอใจขึ้นมา

“พี่ซินเยวพี่มีแฟนรึยัง?”

หลินซินเยว่ได้ยินดังนั้นจึงหันกลับมามองเชิวอย่างลึกซึ้ง

“พี่บอกมาซิว่ามีไม่มี?

“ไม่มี” หลินซินเยว่ตอบอย่างไม่ปิดบังในมหาวิทยาลัยมีผู้ชาย ตามจีบเธอมากมายแต่เธอก็ไม่เคยคิดจะแล

“งั้นก็ดี พี่ซินเยวตั้งแต่วันนี้ไปผมจะประกาศว่าพี่มีแฟนแล้วต่อ ไปถ้ามีใครในมหาวิทยาลัยมารังแกให้พี่มาหาผมได้เลย

“อาเร๊ะ?” หลินซินเยว่เหมือนถูกฟ้าฝ่าอีกครั้งรถเบี่ยงออกไปเป็นวงกว้างรถเล็กที่ตามหลังมาต้องรีบเบรกเป็นแถว

“นี่ผมจริงจังนะผมรู้สึกว่าผู้หญิงที่สวยแบบพี่ซินเยวถ้าหาก ไม่มีแฟนคงจะถูกคนอื่นรังแกตอนนี้ผมจะปกป้องพี่แบบคุณธรรม ไม่อาจถอยหนีหวาดกลัวต้องกล้าขึ้นหน้าเอง” เย่ชีวผู้หน้าไม่อาย พูดอย่างสดชื่นและฟังดูเป็นมิตร

“ไม่ได้” หลินซินเยว่ก็ไม่รู้ว่าทำไมในใจตัวเองคิดอะไรอยู่ถึง อย่างไรในใจตัวเองตอนนี้ก็เต้นแรงเหมือนรถเบนซ์ก็ไม่ปาน

“พี่ซินเยว่ไม่ชอบผมเหรอ?”

“ไม่ใช่”

“งั้นก็แปลว่าชอบผมสิ ชอบผมทำไมไม่ให้ผมเป็นแฟนพี่

หล่ะ?”

“ถึงยังไงตอนนี้ก็ไม่ได้

“งั้นลงจากรถแล้วก็เป็นได้ใช่ปะ” เย่ชิวซื้อ

หลินซินเยวดูเหมือนจะถูกความมีชีวิตชีวาของเวทำให้ งงงันอีกทั้งความประทับใจที่มีต่อเยซิวแต่เดิมที่มีอยู่แล้วพอเห็น ท่าทางที่ดูจริงจังของเขาตอนนี้ หลินซินเยว่ก็ทำได้เพียงเม้มปาก ตัวเองกระพริบตาปริบปริบแล้วไตร่ตรองครุ่นคิดชั่วขณะและพูด อย่างช้าๆ “ถ้านายอยากเป็นแฟนฉันนั้นฉันขอคิดดูก่อน

“งั้นก็แปลว่ามีโอกาส” เย่ชิวกระโดดโลดเต้นดีใจอย่างห้ามไม่อยู่
“มีโอกาสทุกคนก็เท่าเทียมกัน

“ผมไม่เชื่อ”

“เอาหล่ะลงรถได้แล้ว” ไม่ทันได้รู้สึกตัวรถก็ขับมาถึงประตูทาง เข้ามหาวิทยาลัยเจียงเฉิงแล้ว ตอนนี้นักเรียนที่เข้าเรียนมีเยอะ มากรถที่จอดอยู่ก็มีละลานตาหลังจากที่เห็นหลินซินเยว่เดินลง จากรถมาอย่างสง่าผ่าเผยชายหญิงจำนวนไม่น้อยก็หันกลับไป มองด้วยความอิจฉา

“งั้นผมไปเข้าเรียนก่อนนะ” เย่ชิวหยิบหนังสือเรียนเดินไปอยู่ ข้างหลินซินเยวจากนั้นจึงฉวยโอกาสจูบตอนหลินซินเยวไม่ทัน ระวังตัว

“ตอนนี้พี่เป็นคนของผมแล้วผมประทับตราไว้ก่อนคนอื่นๆจะ ได้ไม่ต้องมารังแกพี่ได้” เย่ชิวพูดจบก็หันหลังเดินไปทางตึกเรียน อย่างสง่าผ่าเผย

หลินซินเยว่ที่อยู่ตรงนั้นก็ได้แต่ยืนนิ่งเป็นหุ่นกระบอกรู้สึกได้

ว่าแก้มคงแดงแจ๋ไปถึงหู

เย่ชิวเปิดตารางเรียนที่อัดแน่นขึ้นมาดูพบว่าวันนี้มีเรียนวิชา ภาษาอังกฤษที่ตึกอี้ฟูห้องเลคเชอร์302 จากนั้นจึงสะบัดหัวเดิน ผ่านไป

เมื่อเดินมาถึงห้อง302ก็พบว่ายังไม่ได้เริ่มคาบเชิวที่ยืนอยู่ ตรงระเบียงทางเดินหน้าห้องเลคเชอร์จึงหยิบซองบุหรี่ออกมา อย่างว่องไวแล้วจุดสูบ ควันบุหรี่พวยพุ่งออกมาเป็นเส้นโค้ง สวยงามหัวของเย่ชิวรู้สึกเบาและกระปรี้กระเปร่า บุหรี่มวนนั้นถูกเชิวคาบไว้ในปากคาดว่าถ้าผู้หญิงได้มาเห็นฉากนี้คงรู้สึก ขอร้องขึ้นมาทันที

“นักเรียนที่นี่ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่นะ” เชิวเพิ่งจะจุดบุหรี่สูบ ก็มีเสียงหวานไพเราะน่าฟังของผู้หญิงดังขึ้นด้านหลัง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ