บทที่ 11 อาจารย์สาวพราวเสน่ห์
เย่ซิวได้ยินเสียงแล้วหันหลังกลับไปมองรอบๆ จากนั้นร่างกาย ของเขาเหมือนถูกสาปให้หยุดนิ่ง
ผมหยักศกที่พาดบนบ่า ใบหน้าที่สวยงามไร้ที่ติ สันจมูกสูง โด่ง จมูกมีขนาดเล็กพอดี และริมฝีปากบางๆ สีแดง ใบหน้าที่ดู สวยงามโดดเด่นไม่เหมือนใคร รูปร่างที่ทำให้ทุกคนต้องอึ้ง ท่อนบนสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ท่อนล่างสวมกระโปรงยาวพริ้วสีดำ พร้อมกับสวมรองเท้าส้นสูง มองดูรวมๆแล้วเหมือนกับสาว ออฟฟิศที่สวยไร้ที่ติ
“มองพอหรือยัง?” ผู้หญิงคนนั้นดู เย่ชิวที่กำลังมองขึ้นๆลงๆ สํารวจรูปร่างตัวเอง พูดออกมาด้วยใบหน้าที่เป็นอาย
แม้ว่าเธอจะชินกับสายตาของนักเรียนและแม้กระทั่งอาจารย์
ผู้ชายที่มองเธอจนน้ำลายไหล แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่ถูกต้องด้วย
สายตาแบบนี้อย่างใกล้ชิดโดย เย่ชิว
“เปล่าสักหน่อย” เย่ชิวตอบกลับด้วยท่าทีที่ใสซื่อ “ฉันอยาก ถามอะไรหน่อย นี่เธอ ทุกทีเธอกินอะไรเป็นอาหารเหรอ? ทำยัง ไงถึงมีรูปร่างที่ดูดีขนาดนี้”
ได้ยินอะไรแบบนี้ ซว เจียว หน้าแดงขึ้นมาทันที แต่ก็มีความ พอใจอยู่เล็กน้อย แล้วก็รู้สึกว่ามันยังน้อยเกินไปที่จะหลงตัวเอง เลยแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ “นักเรียน ฉันว่าเธอเข้าใจผิด แล้วละ ฉันชื่อซวู เจียวเป็นอาจารย์ที่นี่ แล้วก็เธอไม่ใช่นักเรียนของคณะภาษาจีนด้วยใช่ไหม” ซว เจียวมั่นใจในการจำของตัว เองมากๆ ว่าจ๋านักเรียนที่เคยสอนได้เป็นอย่างดี แต่ว่าไม่เคย เห็นนักเรียนที่มีรูปร่างสูงหล่อที่อยู่ตรงหน้านี้มาก่อนเลย
“ที่แท้ก็เป็นอาจารย์นี่เอง ผมชอบอาจารย์ที่สุดเลย อาจารย์ ขอกอดหน่อยสิ” เยซิวยังไม่ทันได้รับอนุญาตจากซา เจียวก็อ้า แขนทั้งสองข้างที่เต็มไปด้วยความรักเข้ามากอดอย่างจัง ซ เจียวไม่ทันได้ปฏิเสธก็ตกอยู่ในอ้อมกอดของ เชิวเป็นที่ เรียบร้อย
ซว เจียวไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว ถ้าตอนนี้ไม่ใช่เวลา ใกล้เข้าเรียน แล้วดีที่นักเรียนส่วนใหญ่นั่งอยู่ในห้องเรียนกัน หมด ไม่อย่างนั้นขายหน้าแย่แน่
“นี่นักเรียน ช่วยสนใจหน้าที่ของตัวเองด้วย จะเริ่มเข้าเรียน แล้ว” ซวู เจียวผลัก เชีวออกจากตัวอย่างเต็มแรง จากนั้นก็รีบ เหยียบส้นสูงเข้าห้องเรียนอย่างร้อนใน
เย่ชิวตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นรีบทิ้งบุหรี่ แล้วเดินเข้าห้องอย่าง สง่าผ่าเผย จริงๆแล้วคิดไว้ว่าจะนั่งแถวหน้าสุดเพื่อที่จะตั้งใจ เรียน แล้วถือโอกาสแอบมองอาจารย์ไปด้วย ผลลัพธ์ก็คือพอเข้า ห้องไปแถวหน้าสุดโดนนักเรียนชายแย่งที่นั่งไปหมดแล้ว ดูจาก บรรยากาศการเรียนในมหาวิทยาลัยเจียงเฉิงมันช่างดีจริงๆ นักเรียนพวกนี้ดูตั้งใจเรียนกันมากเลย
“นี่นักเรียน เธอเป็นนักเรียนห้องนี้เหรอ??” ซว เขียว คิดว่า เย่ ชิวเป็นนักเรียนคณะอื่นแล้วยังคิดที่จะตามเข้ามาด้วย ทันใดนั้นภาพเมื่อตะกี้ก็ผุดขึ้นมา ใบหน้าก็เริ่มร้อนขึ้นมาทันที อาจารย์ซว ผมเป็นนักเรียนห้องนี้ ผมพึ่งมาวันนี้วันแรก หลังจากที่ได้ยิน เชิวพูด ซว เจียวก็นึกขึ้นได้ว่าหัวหน้าคณะ แจ้งมาว่าจะมีนักเรียนใหม่เข้ามาหนึ่งคน และคิดว่าน่าจะเป็นเขา นี่แหล่ะ
“นักเรียน เธอชื่อว่าอะไร?”
“เชิว ใบไม้ล่วงในฤดูใบไม้ร่วงรู้สึกไหมว่าชื่อนี้เหมือนมี อะไรแฝงอยู่ ใช่แล้ว ทายถูกแล้วละ ชื่อของผมกับตัวผมเองนั้น เหมือนกันตรงที่ว่ามีความหมายอะไรแฝงอยู่ในตัว” เย่ชิวไม่รอ ซวู เจียวพูดสักคำ พูดเองเออเองจนจบไป
“เอาล่ะ นักเรียนเย่ เชิญเธอไปนั่งตรงหลังห้องได้ เราจะเริ่ม เรียนกันแล้ว” ซว เจียว รู้สึกได้ว่าถ้ายังคงยุ่งกับ เชิวต่อไปละก็ เขาอาจจะวิ่งขึ้นมาที่หน้าห้องแล้วเข้ามากอดกับตัวเองอีกครั้งแน่
เชิวยิ้มเล็กน้อย เดินมาจนถึงแถวสุดท้าย ทันใดนั้นเองก็มี สาวสวยคนหนึ่งดึงดูดความสนใจของเขา
เย็นเยือกเหมือนก้อนน้ำแข็งหมื่นปี และรู้สึกได้ถึงความเย็น นอกจากลัวซื้อหาน เชิวก็ไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่เย็นชา ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้แบบนี้มาก่อน
แม้ว่าก่อนหน้านี้ เย่ชิวจะเปรียบลั่วซือหานเหมือนกับซอมบี้ แต่ก็เพราะเป็นการชมว่าผิวของลั่วซื้อหานขาวใสมาก ผิวขาว ราวกับหิมะเลยทีเดียว เหมือนว่าถ้าผิวโดดแดดจะต้องละลายแน่ๆ
“น้องซื้อหาน เธออยู่ที่นี่ด้วยหรอ?” เย่ชิวทักทายอย่างสนิท สนม
ลัวซือหานไม่สนใจเลยสักนิด เงยหน้ามอง เชิวอย่างเย็นชา และก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ
“ซือหาน เธอดูไอพวกขยะนั้น เลือกจะจ้องแต่พวกอาจารย์ผู้ หญิง ไม่เหมือนเราที่อยู่หลังห้อง แบบนี้สิถึงจะเรียกว่าตั้งใจ เรียน” เย่ชิวพูดดูถูกเหยียดหยามพวกนักเรียนที่นั่งแถวหน้าห้อง ให้ตายเถอะ ที่ว่างสักทีก็ไม่มี
“พวกเขาเป็นขยะอย่างน้อยก็ยังเป็นคน นายนั่นแหล่ะเศษ ขยะ คนอื่นเขาแค่มองดูเท่านั้นแหละ ไม่เหมือนนายที่กล้าจะ เข้าไปกอดอาจารย์แบบนั้น เป็นไปได้ยากที่จะเห็นล้วซื้อหานพูด มากขนาดนี้ และเห็นได้ชัดว่าคำพูดพวกนี้ไม่ใช่การชื่นชมตัวเขา เองแต่อย่างใด
เย่ชิวได้ยินที่พูด สีหน้าก็เปลี่ยนทันที คิดไม่ถึงว่าเหตุการณ์ ข้างนอกเมื่อตะกี้ลัวซือหานจะมาเห็นเข้า เมื่อคิดแบบนี้ เย่ชิวก็ รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย หรือว่าถั่วซื้อหานจะคิดอะไรกับเรา ไม่ อย่างนั้นจะมีสีหน้าท่าทางเย็นชาตอนเจอเราทำไม เมื่อตะกี้ที่เรา ทำอะไรกับซว เจียวมันคงจะมากเกินไปหน่อย เจ้าเด็กน้อยถึง เราแน่ๆ
“อะแฮ่มๆ” ซว เจียวที่กำลังยืนสอนอยู่ข้างหน้าห้องก็ไอขึ้นมา และพูดอย่างค่อยๆว่า “นักเรียน ตอนนี้เรามาเริ่มเรียนกัน หลังจากใช่ไหมว่าครูประจำชั้นจะยุ่งเพราะฉะนั้นพวกเธอต้อง เข้านั้น ท่าทางดูเป็นธรรมชาติ พูดจาคล่องแคล่ว
จากตัวเอง หรงหว่านเยวไม่ได้โกหกเราจริงด้วย โดยเฉพาะนวนสาวในคณะภาษาจีนมีเยอะ รูปร่างหน้าตาใช้ได้เดียว ยกเว้นพวกที่เหมือนทานหายากแล้ว ในบรรดา สาวๆสวยพวกนี้ ก็เป็นพวกยาวเข่า อีกด้วย
ลัวซื้อหานนั่งอยู่หลังห้องกำลังจ้องมองท่าทางของ เชิวด้วย สายตาของเธอ ทำให้มีความรู้สึกเอือมระอามากไปอีก
“เยซิว เธอมาที่ห้องพักหน่อยสิ” ไม่เหมือนว่า การอยู่ข้างเตาผิงสองชั่วโมงเป็นเวลาที่นานมาก นั่งข้างผู้หญิงสองชั่วโมงเวลามันช่างสั้นเสียจริง เย่ชิวพึ่งรู้สึกได้ว่า ประโยคมันเป็นความ
เย่ชิวเดินตามหลังซวู เจียว ปากเบาพูดออกมาว่า “สาวสวยเลย
ห้องพักอาจารย์ของซว เจียวเป็นห้องคู่ มีโต๊ะเหลี่ยมผืนผ้าสองตัว เก้าอี้ทํางานสองตัว ซ เจียวเดินเข้าไปแล้วนั่งลง “เข้า มาอย่าลืมปิดประตูด้วยล่ะ”
“ปิดประตู?” เย่ชิวมองรอบห้องที่มีหญิงชายอยู่ด้วยกันสองต่อ สอง หรือว่าช เจียวอยากจะได้เราเป็นแฟน คิดจะทำมิดีมิร้าย อะไรแน่ๆ
“ทำอะไร? กลัวฉันจะปล้ำเธอหรือไง?” ซ. เจียวมอง เยซิวที่ ยืนนิ่งอยู่ตรงประตู ด้วยใบหน้าที่สวยงามเต็มไปด้วยรอยยิ้มเจ้า
เล่ห์
“ไม่กลัวหรอก ผมจะปล้ำอาจารย์มากกว่า” เยซิวเดินเข้าไป อย่างมั่นใจ จากนั้นก็ปิดประตูลง
“อาจารย์ชา ไม่ทราบว่ามีอะไรหรือเปล่าครับ?” เย่ชีวจ้อง มองใบหน้าที่สวยงามนั้น สงสัยจริงๆว่าพระเจ้าช่างไม่มีความ ยุติธรรมเอาซะเลย ทำไมถึงทำให้ผู้หญิงเกิดมาสวยแบบนี้? ทำไมถึงทำให้เราเกิดมาหล่อเหลาขนาดนี้?
บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าควรถวายชีวิตให้ใช่ไหม?
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ