หัวใจป่วนไอรัก

3



3

นายแพทย์ภวินท์เยี่ยมไข้เคสสำคัญของเขาบนวอร์ดเก่า

ภายในห้องพักผู้ป่วยขนาดใหญ่ตอนเช้าวันอาทิตย์ ในนั้นมี ชายคนหนึ่งที่เป็นคนจากนามสกุลดังรักษาตัวอยู่

หลังดูแผล ซักถาม พูดคุยกันครู่เดียว จึงออกจากห้องแล้วตรง ไปยังรถยนต์ส่วนตัว ขับออกถนนใหญ่สู่จุดหมายปลายทางใน ทันที

พิกัดของจุดหมายมีอยู่ในมือแล้วตอนนี้ มีมานาน มีมาตลอด

แล้วก็มีหลากหลายสาเหตุที่ทำให้เขามาที่นี่ไม่ได้ในระยะหลังๆ

นายแพทย์หนุ่มบอกกับคะนึง เลขาสาวใหญ่คนสนิทว่าเขามี ธุระต้องจัดการ โดยไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรทั้งนั้นว่าจะไป ธุระเรื่องอะไร กับใคร และที่ไหน บอกเพียงระยะเวลาเท่านั้น

เรื่องของข้อตกลงหลังสัญญาแต่งงานระหว่างเขากับจิตตา ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้เขาต้องไปที่นี่ เพราะวันเดือนปีตาม กําหนดในสัญญาเหลืออีกเป็นหลายเดือน ทนายสุนัยเตือนเขา ให้ทราบแล้วครั้งหนึ่งเมื่อต้นปี และสอบถามความประสงค์ว่า ต้องการให้เป็นไปตามข้อตกลงเลยหรือไม่ แต่ภวินท์กลับเงียบ แล้วบอกกลับไปในตอนท้ายว่าเขาขอจัดการเรื่องนี้เอง

จากที่พยายามทําเป็นลืมเลือน แต่ก็ยังถูกมารดารบเร้า ท่าน ถามเขาทุกครั้งที่เจอ มันทำให้ภวินท์เบื่อหน่าย เขาอึดอัดที่มารดาพยายามเข้ามาวุ่นวายในเรื่องนี้ และในใจลึกๆ แล้วไม่มี คำว่า “หย่า” อยู่ในหัวเขาเลย แต่แล้วได้ยินมารดาเหน็บแนม ให้อยู่เฉยไม่ได้อีก

ผ่านมาขนาดนี้ลูกคิดว่าเด็กนั่นมันจะไม่มีผัวใหม่ไปแล้วหรือ ไง อย่างน้อยยังไม่ถึงเวลาหย่า ลูกก็ไปดูน้ำหน้ามันหน่อยปะไร ถ้ามีผัวใหม่แล้วจริง ก็ฟ้องมันเลย

นางอัมพรอาจเรียนอ่านเขียนมาไม่มาก แต่เรื่องได้เปรียบเสีย เปรียบกันแบบนี้นางไม่เคยปล่อยปละละเลย นางถาม นายสุนัย มาจนหมดแล้วเลยรู้ข้อกำหนดในสัญญาเป็นอย่างดี

มีเขียนไว้ในสัญญาแนบท้ายหากว่าในระหว่างที่ยังจด ทะเบียนสมรสกันนี้ ใครกระทำการเสื่อมเสีย มีเรื่องฉาวอีกฝ่าย ก็สามารถฟ้องหย่าได้ทันที

ยังไม่หย่าแล้วไปมีใหม่อย่างนั้นหรือ เขายังไม่ทำแบบนั้นเลย หากเธอทำล่ะก็…นายแพทย์หนุ่มคิดมาถึงตรงนี้แล้วเผลอ ออกแรงบีบมือลงบนพวงมาลัยรถอย่างต้องการระบายโทสะที่ พลุ่งพล่านขึ้น ในเสี้ยววินาที

ภาพหญิงสาวจอมแสบยังคงปั่นป่วนอยู่ในหัวใจของนาย แพทย์ภวินท์ มันติดอยู่ในความทรงจำของเขาเสมอ เพียงแต่ก นท์ไม่ได้บอกกล่าวให้ใครได้รู้เท่านั้น

ความร้ายกาจของเธอ

วาจาดูหมิ่น สายตาที่ชอบมองเหยียดหยัน
ทั้งหมดที่เป็นจิตตานั่นถือดี อวดดีไปเสียหมด

ทําให้เขาต้องหันไปทำแต่งาน บังคับให้ในหัวมีแต่เรื่องงาน โรงพยาบาลที่มีตัวเลขติดลบแบบนั้น เขาจะทำอย่างไรให้มันดี ขึ้น รุ่งเรืองขึ้น ภายในระยะเวลาห้าถึงหกปีมานี้ เขาทุ่มตัวทำ เพื่อสลายท่าผยองหยิ่งของจิตตา

บัดนี้ เขาอยากเห็นนักว่าเธอยังจะทำท่าอวดดี ถือดีกับเขาอีก ใหม

ขณะคิดอะไรเรื่อยเปื่อยก็ต้องเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน เมื่อ มีอะไรแวบผ่านตัดหน้ารถเขาไป ดีที่รถหรูสมรรถภาพสูงใช้ ความเร็วไม่มาก เนื่องจากกำลังคลานอยู่ในถนนเส้นเล็กๆ เพียง รถสวนกันได้เท่านั้น

นายแพทย์ภวินท์จอดรถก่อนเปิดประตูลงมา พอเห็นว่าอะไรที่ ตัดหน้ารถไปก็ให้ฉุนวูบขึ้น ใบหน้าฉายแววไม่พอใจในทันที แล้วหันไปมองรอบๆ ด้านด้วยสายตาเอื้อมๆ คันปากอยากจะว่า ออกไปให้แรงๆ นัก แต่ก็ยังเอาไว้

“ว้าย!”

เสียงกรีดร้องของหญิงชาวบ้านที่วิ่งตามมาในภายหลังดังขึ้น ตอนนั้นเอง คุณหมอหนุ่มจ้องเด็กตรงหน้าด้วยสายตาระอาใจ เนื้อตัวสกปรกมอมแมม ผมเผ้ามีแต่เศษหญ้าเศษใบไม้เกรอะ กรังไปหมด

แต่แล้วก็ให้สะดุดตา เมื่อเห็นร่างเล็กนั่นหัวตุ๊กตาผมสีชมพู แปร์น ใส่ชุดสีชมพูทั้งตัว ดูมอมไม่ต่างจากคนถือเท่าไรนัก ต้องอยู่ครู่ ถอนใจเฮือก หันไปทางหญิงชาวบ้านที่คาดว่าจะเป็น มารดาของเด็ก

“ดูลูกยังไงครับ ทําไมปล่อยให้ออกมาบนถนนแบบนี้ ถ้ารถมา เร็วๆ นี่อันตรายมากนะรู้ไหม” ว่าจบ ภวินท์กำลังจะย่อตัวลงไปดูว่าอีกฝ่ายมีบาดแผลหรือได้ รับอันตรายตรงไหนหรือไม่ เด็กนั่นกลับแลบลิ้นใส่เขา แล้ววิ่ง

หลบหายเข้าไปยังข้างทางที่โผล่ออกมาทันที

หญิงคนนั้นรีบขอโทษขอโพยเขายกใหญ่

“ขอโทษนะคะคุณ แม่ตัวดีนชนกว่าลิงอีกค่ะ

บอกจบก็วิ่งหายตามกันไป

กวินท์มองจนลับตา ส่ายหน้าด้วยความระอาใจอีกรอบ ค่อย กลับขึ้นรถแล้วมุ่งสู่จุดหมายปลายทางต่อจากนั้น

สิ่งปลูกสร้างชั้นเดียวตรงหน้าคือจุดหมายของเขา

บ้านทรงไทยไม้ครึ่งปูนครึ่ง สร้างไว้ค่อนข้างใหญ่กินพื้นที่ พอควร ตั้งเด่นอยู่กลางหมู่บ้านในอำเภอเล็กๆ แห่งนี้ นายแพทย์ ภวินท์ยังพิจารณาบ้านไม่ทันได้ครบถ้วนดี ก็มีเสียงถามดังจาก ทางด้านหลังของเขา

“มาพบใครหรือคะคุณ”

ไม่ได้ตอบในทันที หันกลับไปพิศหญิงที่ถามด้วยแววตา ครุ่นคิด แล้วมองไปรอบบ้านอีกครั้ง เอ่ยขึ้น “ผม…
เด็กสาววัยไม่เกินยี่สิบปีหอบตะกร้าสานใส่สมุนไพรอัดมาจน แน่น โผล่พรวดมาจากทางหลังเรือนไม้ ถามขัด

“ใครมาหรือพี่ติ๊บ”

พอเห็นคนมาเยือนเท่านั้น เด็กสาวปล่อยตะกร้าร่วงลงพื้นใน ทันที แล้วยกมือขึ้นปิดปาก ยกแข้งขาไปมาเกือบเป็นกระทืบ เพราะตื่นเต้นอารมณ์คล้ายได้เจอศิลปินที่ชื่นชอบอย่างไรอย่าง นั้นเลยทีเดียว แล้วอีกอักถามด้วยใบหน้าแดง ออกอาการ ขวยเขินสุดฤทธิ์

“คุ…คุณหมอคนนั้น คุ…คุณหมอคนหล่อ มะ…มาหาใครคะ” ภวินท์เลิกคิ้วหน่อยหนึ่ง ผุดยิ้มขึ้นที่มุมปาก ตอบ

“ผมมาหาคุณฐิตตาครับ”

เด็กแนนยิ้มเอียงอายเคอะเขิน จนบล่ะอยากจะบิดเนื้อให้ เขียวนัก หันไปถามติ๊บ “ใครหรือพี่ติ๊บ คุณจิตตาอะไรเนี่ย”

ติ๊บตอบอย่างเอือมๆ “ก็คุณถึงไง”

“อุ๊ย! คุณถึงแกชื่อฐิตตาหรือพี่ติ๊บ หนูเพิ่งรู้”

“ไปตามเร็วเข้า บอกว่า…” ตบมองหน้าเด็กแนน แล้วงันไปใน เสี้ยววินาที สั่งต่อ “บอกคุณหนูว่าคุณหมอภวินท์มาขอพบ

เด็กแนนรับคำสั่งเสร็จ วิ่งปรูดไปทางหลังเรือนสมุนไพรใน

ทันที

คล้อยหลังเด็กแนนไม่นาน ตบหันมาลอบมองนายแพทย์หนุ่มหล่อด้วยสายตาสํารวจอึดใจ ค่อยเชื้อเชิญตามธรรมเนียม “นั่งรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวยกน้ำมาให้ค่ะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ