บทที่ 4 หมอไม่ช่วย
หยวนชิงหลิงผงะไปชั่วขณะ ในสมองพลันผุดภาพความ ทรงจําบางอย่างขึ้นมา ในความทรงจำนั้น เป็นวันก่อนหน้าที่ หกเกอเอ๋อจะเกิดเรื่องขึ้น เจ้าของร่างเดิมดุด่าเขาอย่าง รุนแรง ทั้งยังสั่งให้เขาขึ้นไปตอกปิดแผ่นไม้บนหลังคาให้แน่น หนา ที่เขาเกิดเรื่องขึ้น ก็คงเป็นเพราะเกิดพลัดกลิ้งตกลงมา แล้วถูกตะปูตำจนได้รับบาดเจ็บ
เดิมทีงานเหล่านี้ ไม่ควรเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องลงมือทำ เอง
ไม่เพียงเท่านั้น เหตุเพราะคนรับใช้ที่แต่งเข้ามาเป็นสิน สมรสเดิมพร้อมนาง ต่างก็ถูกขายออกไปจนหมด นางจึงเอา โทสะทั้งหมด มาระบายลงที่บรรดาคนรับใช้ซึ่งอ๋องฉู่จัดหา มาให้แทน ในแต่ละวันมักจะทุบตีด่าทอคนรอบข้างไม่มีเว้น กระทั่งแม่นมฉีก็ยังเคยถูกนางขว้างด้วยแก้วน้ำมาแล้ว เป็น เหตุให้แม่นมฉีเลือดไหลเยอะมาก
เจ้าของร่างเดิมเป็นคนที่จิตใจไม่ค่อยจะดีนัก จึงไม่แปลกที่ จะทำให้ผู้คนต่างพากันรังเกียจ
“เจ้าลองถามแม่นมฉีให้หน่อยว่า ข้าจะขอไปพบเขาได้หรือ ไม่?หยวนชิงหลิงเอ่ยถาม
“หากพระชายามีจิตใจดีงามเช่นนี้จริง ก็คงไม่ต้องมาลงเอย ในสภาพเป็นอยู่นี้หรอกกระมัง? อย่ามาทำเสแสร้งไปหน่อย เลย ทั้งแม่นมฉี ทั้งหกเกอเอ๋อ ต่างก็ไม่อยากพบหน้าพระชายากันหรอก” ลู่หยาพูดจบก็หมุนตัว
ไปทันที
ประตูถูกปิดลงอีกครั้ง
หยวนชิงหลิงถอนหายใจเบา ๆ เด็กคนนั้นกำลังจะตายแล้ว?
นางไม่รู้ว่าหกเกอเอ๋อได้รับบาดเจ็บหนักขนาดไหน ทั้งไม่รู้ว่า หมอที่นี่จะรักษาบาดแผลเขาอย่างไร หากไม่ได้รับการดูแล จัดการอย่างเหมาะสม ส่วนมากจะเป็นไปได้ว่ากระจกตาอาจ ลอกหลุดออกมา เกิดภาวะแก้วตาฉีกขาด แล้วตามด้วยการ ติดเชื้อในที่สุด
สำหรับนางแล้ว ชีวิตคนถือว่าสำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ตั้งแต่ต้นจนจบ นางยังไม่อาจทำใจให้สงบแล้วกลืนข้าว ลงท้องได้ด้วยซ้ำ นางเปิดกล่องยา แล้วหยิบเอายาแก้ อักเสบจํานวนหนึ่งออกมา จากนั้นก็เดินออกไปทันที
แม่นมฉีนั้นถูกขายให้กับจวนอ๋อง ส่วนหกเกอเอ๋อเป็นทาสที่ เกิดในเรือนนาย อาศัยอยู่ในลานอ่ายซึ่งอยู่ด้านหลังของหอ เพิ่งหยี
หยวนชิงหลิงเดินลดเลี้ยวไปมาอยู่หลายรอบ ในที่สุดก็หา เจอจนได้
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” ทันทีที่แม่นมฉีเห็นนาง ก็จ้องเขม็งไปยังหยวนชิงหลิงด้วยดวงตาบวมแดง
ไปด้วยความเกลียดชังฉายชัด
สีหน้าของนางเต็ม
“ข้าอยากมาดูอาการหกเกอเอ๋อ” หยวนชิงหลิงเอ่ยตอบ
“เจ้าไปซะเถอะ พวกเราย่าหลานคงรับไว้ไม่ไหวหรอก!” แม่ นมฉีพูดขึ้นอย่างเย็นชา
หยวนชิงหลิงพยายามเอ่ยขอโทษ “ข้าขอโทษจริง ๆ ข้าไม่รู้ ง ว่าการสั่งให้เขาไปซ่อมหลังคา มันจะทําให้เกิดอุบัติเหตุร้าย แรงเช่นนี้ … ”
“อุบัติเหตุรี? เขาเพิ่งจะแค่เก้าขวบ ยังทำได้แค่งานปัด กวาดบ้านเรือนเท่านั้น แต่เจ้ากลับใช้ให้เขาไปซ่อมหลังคา งานตกแต่งซ่อมแซมทั้งหลายเหล่านั้น ในจวนล้วนมีคนที่ เชี่ยวชาญเรื่องนี้ทำอยู่แล้วแท้ๆ เจ้าก็ยังจะรั้นให้เขาเป็นคน ทําให้จงได้ เขาเพิ่งจะเก้าขวบเท่านั้น! ทำไมหัวใจของเจ้าถึง ได้โหดเหี้ยมร้ายกาจถึงเพียงนี้?”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำถามที่เต็มไปด้วยความเคืองแค้น ของแม่นมฉี หยวนชิงหลิงก็ไม่รู้เหมือนกันว่านางจะพูด อธิบายออกไปอย่างไรดี
นางอึกอักไปชั่วขณะ ไม่อาจหาคำพูดดีๆคำไหนพูดออกไป
ได้
นางเพียงส่งยาปฏิชีวนะที่ช่วยลดการอักเสบเหล่านั้นไปให้แผ่นอล เสายาเหล่านี้ให้เขากินวันละสามครั้ง ครั้งละสอง
เม็ดยาในมือ ถูกแม่นมณีใช้มือเดียวปิดที่รวนร่วงตกลงไป บนพื้น แม่นมออกแรงเหยียบซ้ำลงไปอย่างไม่จำเป็น หรอก เชิญพระชายากลับไปเสียเถอะ ข้าไม่อยากคน อยากสั่งสมกุศลผลบุญให้หลานชาย
หยวนชิงหลิงได้แต่มองดูยาที่กลายเป็นผุยผงไป ด้วย ความรู้สึกทุกข์ใจอย่างหนัก ในกล่องยาไม่ได้มียาปฏิชีวนะ มากมายอะไรนัก
เมื่อมองไปที่ใบหน้าอันโกรธแค้นเศร้าโศกของแม่นมณี นาง ก็รู้ดีแก่ใจทันทีว่า ต่อให้พูดอะไรไปก็คงไม่มีประโยชน์อีก จึงจำต้องหันหลังแล้วเดินจากไป
หกเกอเอ๋อป่วยหนักจนเข้าขั้นวิกฤติแล้วในคืนนั้น
แม่นมฉียังนับว่าได้รับความใส่ใจจากอ๋องฉู่อยู่ไม่น้อย หลัง จากได้รับรู้สถานการณ์แล้วอ๋องฉู่ก็สั่งให้คนไปเชิญหมอลี่ ซึ่ง เป็นหมอที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงมาทันที เมื่อหมอได้เห็น สภาพแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า ไม่ได้ออกใบสั่งยาใดๆ ก็บอกว่า ให้เตรียมจัดงานศพได้เลย
แม่นมฉีได้แต่ร้องไห้ราวกับว่าใจจะขาด เสียงร้องไห้อันโศก ลดนั้น ดังแว่วมาเข้าหูของหยวนชิงหลิง หยวนซึ่งหลังรับ เดินออกไปดู เอื้อมมือออกไปคว้าจับตัวลู่หยาที่กำลังเดินผ่านไปอย่างรีบร้อน “เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
“ หกเกอเอ๋อใกล้จะไม่ไหวแล้ว” ลู่หยาที่กำลังร้อนรนโพล่ง ตอบออกไป โดยที่ไม่สนใจแล้วว่า นางมีความเกลียดชังต่อ หยวนชิงหลิงแค่ไหน
หยวนชิงหลิงกระวนกระวายแล้ว รีบเดินกลับไปที่ห้อง ตรง ไปหยิบกล่องยาแล้ววิ่งออกไปทันที
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ