สุดยอดหมอดู

บทที่ 5 สวรรค์ยุติธรรม มักช่วยเหลือคนดี



บทที่ 5 สวรรค์ยุติธรรม มักช่วยเหลือคนดี

“ร่างอาจารย์ของฉันยังไม่ทันเย็น อาจารย์อาทำแบบนี้มันเกินไป นะ”จางซานเฟิงตะโกนใส่เฉินหลิงที่อยู่ตรงหน้า

คนที่ควรจะตายไปตั้งนานแล้ว ยังจะแก้ชะตาฟ้าดินซื้อเวลา 11 ออกไปอีก เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นการทำลายกฎสำนักเรียนเชียง ของเราแล้ว คนแบบนี้ตายไปก็ไม่น่าเสียดายอะไรหรอก” เฉิน หลังมองหน้าจางซานเฟิงพร้อมเอ่ยอย่างเยาะเย้ย

เฉินหลงคนนี้มีรูปร่างผอมเตี้ย เส้นผมบางน้อยทว่ากลับเซต ผมยกสูงขึ้น บนคอห้อยสร้อยคอทองคำขนาดเท่าหัวแม่โป้งเอา ไว้ แค่ดูก็รู้แล้วว่าเป็นพวกที่พอมีฐานะหน่อย ก็ต้องรีบอวดรีบ โชว์แสดงสถานะของตัวเอง ทว่ากลับยิ่งทำให้เห็นสภาพคางคก ขึ้นวอของเขา เห็นแล้วน่าขันยิ่งนัก

“อาจารย์อา ท่านเข้าไปไม่ได้ สมบัติลับ ท่านอาจารย์ได้ สืบทอดให้ศิษย์น้องไปแล้ว ต่อให้ท่านเข้าไปก็สายไปแล้วเมื่อ เห็นเฉินหลงจะพุ่งเข้าไปทางอุโบสถ จางซานเพิ่งรีบยืดอกขวาง หน้าเฉินหลงไว้ เพียงแต่จางซานเฟิงเป็นคนรูปร่างผอมแห้ง อีก ทั้งอายุอานามก็ไม่น้อยแล้ว ถูกเฉินหลงเตะเข้าที่ท้องที่หนึ่ง ก็กระเด็นไปอยู่ในท่อน้ำด้านข้าง แล้ว

“สุนัขดีต้องไม่ขวางทางคนเห็นนอกจากอาจารย์ของแกจะ ไม่ได้เรื่องแล้ว ลูกศิษย์ที่สอนออกมาก็ไม่ได้เรื่องไม่ต่างจากเขา เลย”เฉินฉีหลิงมองจางซานเพิ่งที่ที่ล้มอยู่อีกด้าน พร้อมกับเอ่ย เยาะเย้ย

เมื่อเห็นเฉิน หลังจวนจะเข้าไปถึงอุโบสถอยู่แล้ว จางซานเฟิง ที่อยู่ในกองท่อนข้างศาลเจ้าก็พยายามตะเกียกตะกายขึ้นมา สุดชีวิต เฉินหลิงชายตามองจางซานเฟิงเพียงเล็กน้อย พลาง กระตุกมุมปากขึ้นยิ้มอย่างโอหังยิ่งขึ้น ก่อนจะยกเท้าเตรียมจะ ก้าวเข้าไปยังอุโบสถ ทว่าทันใดนั้นกลับมีมือหนึ่งยื่นออกมาจาก ด้านใน ผลักเขากระเด็นออกไปทันที

“ไอ้หมาป่าบ้าจากไหนวะ ที่มาเห่าหอนอยู่หน้าสำนักเทียนเซี ยงของเรา เกี่ยวกัดคนอื่นไปทั่ว”หลินไปชายตามองสร้อยคอ ทองคำที่อยู่บนคอเฉินฉีหลิง พร้อมพูดจาถากถางอย่างเยือกเย็น

“แก ไอ้คนไม่รู้จักเด็กรู้จักใหญ่ ฉันเป็นอาจารย์อาของแกนะ แกกล้าพูดกับฉันแบบนี้เชียวหรือ ยังไม่รีบคุกเข่าสำนึกผิดอีก เฉินหลิงถูกหลินไปผลักเซไปจนเกือบจะล้ม หลังจากที่ตั้งหลัก ได้แล้ว ก็ตะคอกใส่หลินไปทันที
“อาจารย์อาฉันไม่เห็นว่าจะมีอาจารย์อาที่ไหน เห็นแต่ หมาป่าบ้าตัวหนึ่งที่เกี่ยวกับคนอื่นไปทั่ว และอีกอย่าง ฉันคือ ปรมาจารย์คนใหม่ของสํานักเทียนเซียง ต่อให้แกเป็นศิษย์น้อง ของอาจารย์ของฉัน แต่แกก็ต้องทำคำนับฉันมั้ง”หลินไปเอ่ยตอบ เสียงเยือกเย็น

หลินไปไม่เหมือนซานเฟิง เขาติดตามอาจารย์มาตั้งแต่เด็กจน ได้เรียนรู้อะไรจากอาจารย์มามากมาย บวกกับหลายปีมานี้เขา ได้ไปเผชิญโลกกว้างมา หากจะแข่งขันเรื่องฝีปาก เฉินหลง เลือกคนผิดแล้วล่ะ

” ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ปากดีนักนะ ระหว่างเรายังมีอะไรต้องคุย กันอีก ต้องส่งสมบัติลับออกมาให้ฉัน วันนี้ฉันจะปล่อยพวกแก ไป”เฉินหลิงชักสีหน้าขึ้นมา ไม่โต้แย้งอะไรกับหลินไปอีก โบกมือส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดสองคนที่อยู่ด้านหลังเข้าไป จัดการสองคนนั้น

“เราทั้งคู่ต่างก็เป็นหมอดู การใช้กำลังแก้ไขปัญหามันดูเสื่อม เสียประเพณีของบรรพบุรุษที่สืบทอดกันมาตั้ง ฉันว่าเรามา ประลองฝีมือของเรากันดีกว่า ใครชนะ ใครก็เอาสมบัติลับไป หลินไปมองหน้าเฉินฉีหลิงที่อยู่ตรงหน้าพร้อมกับเอ่ยยิ้มๆ

“ศิษย์น้องไม่ได้นะ สมบัติลับเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของสำนัก เทียนเซียงของเรา นายรีบหนีไป ทางนี้ศิษย์พี่จะขวางไว้เอง เมื่อจางซานเพิ่งเห็นหลินไปจะ ประลองวิชากับเฉินหลง ก็รีบตะโกนพูดขึ้น ก่อนจะ ตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาขวางบอดี้การ์ดทั้งสองที่กำลังเดินเข้า มานั้นไว้

เมื่อเห็นสภาพเช่นนี้ของจางซานเฟิง เฉินหลิงเพียงยิ้มบางๆ ในสายตาเขา คนอายุน้อยๆเช่นนี้อย่างหลินไป แม้แต่ตำราเล่ม หนึ่งอย่าง วิธีการดูดวง ก็คงท่องจำได้ไม่หมด ยังกล้ามาทํา ประลองกับตนรนหาที่ตายชัดๆ

“ตกลง เรามาพนันกันสักตั้ง”เฉินฉีหลิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มเยือก

ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมาจากปากเฉินฉีหลิง จางซานเฟิงที่ อยู่ด้านข้างเกิดร้อนใจขึ้นมาทันที เขาไม่ได้รู้ถึงความสามารถ พิเศษประจำตัวเรื่องทำนายแม่นยำของหลินไป ความคิดในใจ ของเขาไม่ต่างจากของเฉินหลิงนัก เด็กหนุ่มอายุน้อยๆแค่นี้ จะ มีความสามารถอะไรกัน

ตะเกียกตะกายลุกขึ้น จางซานเชิงร้องโอดครวญในใจ คราว นี้สมบัติตกทอดของสํานักเทียนเซี่ยงคงต้องตกไปอยู่ในมือของ ไอ้คนทรยศอย่างเฉินหลงจริงๆแล้วล่ะ สายตาที่มองไปยังหลิน ใก็เต็มไปด้วยความกังวล
“ไอ้เด็กน้อย การประลองกับแก ฉันชนะเห็นๆอยู่แล้ว ฉันจะให้ โอกาสแกอีกครั้งหนึ่ง หากแกมอบสมบัติตกทอดของสำนักเทียน เชียงมาให้ฉันตั้งแต่ตอนนี้ ฉันยังเลือกที่จะยกโทษให้แกได้ แต่ หากแกยังดื้อรั้นอยู่อย่างนี้ ฉันเผาพวกแกทั้งสองรวมถึงศาลเจ้า แห่งนี้ให้สิ้นซากไปเลย

“ศิษย์พี่วางใจเถอะ ฉันรู้ขีดจำกัด ในใจดี “เมื่อเห็นสีหน้าแบบ นั้นของจางซานเฟิง หลินไปเอ่ยปลอบยิ้มๆไปประโยคหนึ่ง

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทันทีได้ยินคำพูดเหล่านี้ของหลินไป เฉินฉี หลังที่อยู่ด้านข้างรู้สึกหัวใจกระตุกขึ้นอย่างแรงที่หนึ่ง ราวกับพบ สัตว์ป่าร้ายเข้ากลางป่าใหญ่ และที่สำคัญ ท่าทางที่มั่นใจนั้น เหมือนท่าทางของหลี่เทียนหยวนตอนที่ขับไล่ตนเองออกจาก สำนักเทียนเซียงไม่มีผิด ทำให้เกิดความเกรงกลัวขึ้นมาในใจ

“เห็นท่านอาจารย์ ฉันจะเรียกคุณว่าอาจารย์อาอีกครั้ง และขอ เตือนคุณค่หนึ่ง ทั้งคุณและฉันเราต่างก็เป็นคนในสำนักเทียนเซี ยง ”

“ไอ้เด็กเมื่อวานซืน แกรู้ไหมว่าคนดีอะไร แค่แกไปบริจาคเงิน ในวัด ในศาลเจ้าก็เป็นคนดีแล้ว แต่จะไปเอาเงินมาจากไหนวะ ก็ ต้องคิดหาวิธีสร้างเงิน เมื่อแกหาเงินได้แกก็จะเป็นคนดี แต่ถ้า หาไม่ได้ก็จะเป็นคนชั่ว”เฉินหลิงกัดฟันแน่น เอ่ยอย่างเคียดแค้น

เฉินฉีหลิงจ้องหลินไปนิ่ง เอ่ยอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ไอ้แก่หลี่ เทียนหยวนมันไม่ยอมฟังฉัน แกดูสิว่าสภาพสำนักเรียนเชียงใน ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง เป็นเพียงกองไม้ผุพังกองหนึ่ง เมื่อหลายสิบ ปีก่อนก็เป็นสวนห่วยๆแห่งนี้ หลายสิบปีต่อมาก็ยังเป็นสวนห่วยๆ แบบนี้ สิ่งที่หมอดูทำก็เป็นการเปิดเผยความลับแห่งสวรรค์อยู่ แล้ว เผยความลับให้ใครก็เหมือนกันทั้งนั้น ขอเพียงมีเงินให้เรา จะเป็นคนดีหรือไม่มันเกี่ยวอะไรด้วย

ตอนนั้นเฉินฉีหลิงและหลีเทียนหยวนเกิดความขัดแย้งใน ปัญหาที่ว่าจะให้หมอดูเข้าสู่วงสังคมอย่างไร เฉินหลงมอง ว่าการเข้าสู่สังคมคือการหาเงินทอง เมื่อมีเงินทองจึงจะมีสำนักที่ ดี และจะมีผู้คนมากราบไหว้บูชามากยิ่งขึ้น

ทว่าหลี่เทียนหยวนกลับมองว่าการเปิดเผยความลับของ สวรรค์คือความบาปอย่างหนึ่ง ฉะนั้นต้องใช้ความลับของสวรรค์ ในทางที่ดี จะได้ลบล้างความบาปบางส่วนได้บ้าง และเป็นการ สร้างบุญสร้างกุศลให้ตัวเองด้วย ส่วนเรื่องที่ว่าจะได้เงินมาก น้อยเพียงใด มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร

หลังจากที่ทั้งสองคนได้โต้แย้งกันนานถึงสามวัน ก็ยังไม่ได้ข้อตกลงที่เห็นตรงกัน ท้ายที่สุดหลีเทียนหยวนก็ได้ ใช้สถานะของการเป็นปรมาจารย์แห่งสำนักเรียนเชียง ขับไล่ เฉิน หลังออกจากสำนักไป ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เฉินหลิงก็ได้ ก่อตั้งสำนักหนึ่งขึ้นมาด้วยตนเอง

หลายปีมานี้เขาได้ดูดวงตรวจชะตาให้ผู้คนมาโดยตลอด ด้วย

ราคาแพงหูฉี ไม่เคยคำนึงถึงความดีความชั่ว หลายปีมานี้ได้

สะสมทรัพย์สมบัติมาไม่น้อย ทว่าความเกลียดชังที่มีต่อหลี่เทียน

หยวนก็มากขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนเงินทองที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดย

เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของหลี่เทียนหยวน

เขาบุกมายังเขาเหมาซานทันที เพื่อมาแย่งชิงตำแหน่ง

ปรมาจารย์แห่งสำนักเทียนเซียงและสมบัติลับที่สืบทอดกันมา

“ในเมื่อจะพนันกัน ก็พนันให้มันเด็ดขาดหน่อย เรามาพนัน ครอบครัวของเด็กเลี้ยงวัวที่อยู่บนเขาตรงข้ามกันเป็นไง หลัง จากที่ได้ออกจากการหวนระลึกถึงอดีตที่ผ่านมา หลินไปมอง สำรวจไปทั่วบริเวณใกล้ๆศาลเจ้า ก่อนจะชี้ไปยังเด็กเลี้ยงวัวคน หนึ่งที่อยู่บนเนินเขาตรงข้างศาลเจ้าพร้อมกับเอ่ยขึ้นเสียงดังลั่น

“ตกลง วันนี้ฉันจะมาพนันกับแกสักตั้งหนึ่ง ฉันขอทายว่าพ่อ แม่ของเด็กคนนี้หย่าร้างกัน”หลินไปเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ หลังจากที่เหลือบมองเด็กเลี้ยงวัวคนหนึ่งที

หนึ่ง

“เหตุผลคือ

“มีภูเขาสองลูกตั้งสูงขึ้น ภูเขาคนละลูก ในเมื่อภูเขาทั้งสองลูก แยกจากกัน ก็แสดงว่าพ่อแม่ของเขาได้แยกจากกันแล้ว ซึ่งก็คือ ได้หย่าร้างกันแล้ว และหากฉันเดาไม่ผิด พ่อแม่ของเด็กคนนั้นน่า จะหย่าร้างกันเมื่อปีก่อน เพราะเขาอยู่ห่างจากเราสี่หลังคาเรือน พอดี และหากว่ากันตามทิศทาง เขายืนอยู่ทางตะวันตกเฉียง เหนือ มั่นใจได้เลยว่าสี่ปีก่อนอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

เฉินหลิงชูมือขึ้นมานับนิ้วสักครู่ใหญ่ๆ และถึงกับเดินไปหน้า ประตูศาลเจ้า ดูตำแหน่งให้ดี ก่อนจะโค้งตัวลงทำท่าราวกับคน เข็นรถและสำรวจเด็กเลี้ยงวัวที่อยู่บนภูเขาคนนั้นแล้ว ก็เอ่ยขึ้น อย่างเชื่องช้า

หลินไปประหลาดใจไม่น้อย ท่าทางตาเฒ่าผู้นี้ก็มีฝีมือพอตัว เช่นกัน เด็กเลี้ยงวัวที่อยู่บนภูเขาคนนั้นชื่อหวางเสียว พ่อแม่ของ เขาได้หย่าร้างกันเมื่อปีก่อนจริงๆ เนื่องจากสมรรถภาพทาง เพศไม่ดี

ตอนนั้นเรื่องนี้ยังดูกล่าวขานไปทั่วหมู่บ้านนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเวลาไปไหนมาไหนพ่อของหวางเสียวก็ไม่ กล้าเงยหน้าอีก ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ฮือฮาในสี่ปีก่อน แต่สี่ปีต่อ มาผู้คนก็ได้ลืมเลือนกันไปตั้งนานแล้ว ทว่าเฉินหลังกลับ สามารถทำนายเรื่องพวกนี้โดยดูจากตำแหน่งที่ยืนของหวาง เสียว ไม่ธรรมดาจริงๆ

หลินไปนึกชื่นชมเล็กน้อยในใจ ศิษย์สำนักเทียนเซียงช่างยอด เยี่ยมไม่ธรรมดาจริงๆ แม้แต่ศิษย์ทรยศที่ถูกสำนักขับไล่ออก ไป ก็มีฝีมือติดตัวไม่น้อยเลย

เมื่อเห็นสีหน้าของหลินไป เฉินหลิงก็มั่นใจแล้วว่าคนพูดถูก หลังจากที่หัวเราะลั่นอย่าง โอหังแล้ว ก็มองใบหน้าที่ราบเรียบ ของหลินไป ก่อนจะเอ่ยขึ้นช้าๆ “ไอ้เด็กน้อย ถึงตาแกแล้ว เรื่อง ราวที่เกี่ยวกับหมู่บ้านนี้ แกรู้ดีเกินไป ฉันจะให้แกทำนายไม่ได้ ที่ นี่มีเพียงjerryคนเดียวที่เป็นคนนอก แกลองมาทำนายสภาพ ครอบครัวของjerryดีกว่า”

เมื่อได้ฟังคำพูดเหล่านี้ของเฉินหลิง jerryได้ถอดแว่นดำของ ตนลงมา นัยน์ตาสีฟ้าคู่หนึ่ง ถือว่าเฉินหลิงได้ให้ปัญหาที่แก้ ยากข้อหนึ่งแก่หลินไปแล้ว ถึงแม้ว่าการดูดวงเป็นสิ่งอัศจรรย์ แต่ ก็มีความเฉพาะเจาะจงในระดับหนึ่งเช่นกัน และที่สำคัญได้ พัฒนาขึ้นมาจากพื้นฐานวัฒนธรรมจีนด้วย

แม้นจะกล่าวกันว่าเมื่อเข้าใจในด้านหนึ่งอย่างถ่องแท้ก็จะ เข้าใจด้านอื่นด้วย แต่การจะใช้ศาสตร์การดูดวงมาทำนายชีวิต ความเป็นมาของคนแปลกหน้าต่างชาติต่างวัฒนธรรมคนหนึ่ง มันค่อนข้างยากมากทีเดียว

หลินไปเหลือบมอง jerry เว็บหนึ่ง ขมวดคิ้วแน่นขึ้นมาทันที ที่ หลินไปมองไปเมื่อครู่เป็นการดูดวงจากใบหน้าของjerry ดูจาก ใบหน้าแล้ว ไอ้หมอนี่ไม่ใช่คนดีอะไรแน่นอน มือของเขาน่าจะ เคยเปื้อนเลือดคร่าชีวิตผู้คนมา บนตัวเขามีกลิ่นอายแห่งความ ดุร้าย

หลังจากที่นั่งเงียบไปครู่หนึ่ง หลินไปก็เอ่ยขึ้นเสียงทุ้ม”ไอ้หมอ นี่เป็นเด็กกําพร้า ตอนนั้นแม่ของเขาท้องกับคนอื่น จากนั้นก็ คลอดเขาออกมา โดยไม่มีพ่อ แม่ของเขาเป็นคนอารมณ์ร้อนและ หัวแข็ง ต่อมาได้คบกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่ว่าชีวิตของผู้ชายคนนั้น น่าจะจบลงในมือของjerryคนนี้ ”

“เฉิน ฉันเคยบอกนายแล้ว ห้ามบอกความลับของฉันกับใคร ทันทีที่หลินไปพูดประโยคสุดท้ายจบ สีหน้าของjerryก็เปลี่ยน ไปทันที ซีดเซียวไปหมด ปรากฏความเหี้ยมโหดขึ้นบนมุมปาก เอ่ยขึ้นพลางจ้องหน้าเฉินหลังที่ อยู่ด้านข้างนิ่ง

เมื่อเฉิน หลังได้ยินประโยคนี้ของjerry ก็ได้แต่ยิ้มอย่าง เงื่อนๆ ไอ้ฝรั่งหัวแดงบ้าคนนี้จะไปรู้ถึงความล้ำลึกของศาสตร์ แห่งการดูดวงของจีนได้อย่างไร และอีกอย่างเขาก็ไม่ดูก่อนว่า ตอนนี้อยู่ในสถานการณ์แบบไหน ไปบอกเรื่องชีวิตของตัวเองให้ หลินไปรู้ได้อย่างไร ประโยคที่ว่าร่างกายแข็งแรงกำยำแต่ไร้ สมอง ใช้กับคนพวกนี้ได้ ไม่มีผิดเลยจริงๆ

“เหตุผล”

“ตำแหน่งที่ไอ้หมอนี่ยืนอยู่ถือเป็นทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ ศาลเจ้า ในตัวของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความดุร้าย แข็งกร้าวเกินไปหักได้ง่าย ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าเป็นเด็กกำพร้า อย่างไม่ต้องสงสัย สำหรับเรื่องแม่ของเขา เมื่อเขาเหยียบต้น หญ้าหักไปต้นหนึ่ง หักแล้วก็หัก แต่เขากลับไปเหยียบซ้ำอีกที หนึ่ง ”

“ส่วนเรื่องที่เขาฆ่าผู้ชายคนนั้น ฉันคิดว่านายน่าจะรู้เหตุผลดี กว่าฉันนะ jerryคนนี้ไม่ได้เป็นเพียงเด็กกำพร้า น่าจะเป็นเด็กติด แม่ด้วย”หลินไป๋แตะจมูกตัวเองเล็กน้อย เอ่ยอย่างราบเรียบ
ขณะนี้สีหน้าของเฉินหลงซีดเผือดไปหมดแล้ว สิ่งที่หลินไปได้ พูดมาทั้งหมดนี้ ไม่ได้พูดผิดเลยแม้แต่น้อย แต่เรื่องสุดท้ายที่ บอกว่าjerryเป็นเด็กติดแม่ เขาเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนจริงๆ

เฉินหลิงมองไปยัง jerry ด้วยความหวังสุดท้าย ปกติไอ้หมอ นี่ก็ผิวขาวอยู่แล้ว ทีนี้ซีดเป็นไก่ต้มจนน่าตกใจมาก ริมฝีปากก็สั่น เทามากยิ่งขึ้น ไม่จำเป็นต้องให้เขาเอ่ยปากพูด ก็มั่นใจได้แล้วว่า สิ่งที่หลินไปพูดคือความจริงทุกคำ

บรรยากาศรอบๆศาลเจ้าราวกับหยุดชะงักไป ถึงแม้ว่าเมื่อกี้ ทั้งคู่ต่างก็ทายปัญหาของอีกฝ่ายถูก แต่เฉินหลงทั้งย้าย ตำแหน่ง ทั้งนับนิ้วอยู่นานสองนาน จึงได้ข้อสรุปมา ทว่าหลินไป กลับครุ่นคิดเพียงครู่เดียวก็ได้คำตอบแล้ว และที่สำคัญสิ่งที่พูด มาก็ละเอียดกว่าเขามาก เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เห็นได้ทันทีว่า ใครเหนือกว่าใคร

“สวรรค์ยุติธรรม มักช่วยเหลือคนดี แกได้กระทำความชั่วไป หมดแล้ว และยังคิดจะมาแย่งสำนักเทียนเซียงกับฉันอีก ไม่รู้สึก ว่ามันน่าขันหรือไง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ