สามีร้อนเสน่หา ซีรีส์ชุด วิวาห์อ่อนร้กล่าดับที่ต

๑.๔ แมทธิว ไครซ์ตัน นักรักเลือดร้อน



๑.๔ แมทธิว ไครซ์ตัน นักรักเลือดร้อน

“ปล่อยฉันนะไอ้เศรษฐีบ้าตัณหา

“เก่งนักก็ตื้นให้หลุดไหนเมื่อกี้บอกว่าจะรู้ตายไม่ใช่หรือ ไง” คนได้เปรียบยิ้มหยันขณะมองหน้าเนียนใสที่ตอนนี้กลาย เป็นสีแดงก่ำ

“แน่จริงก็ปล่อยฉันสิ ฉันจะฆ่าคุณให้ดู!

สาวน้อยตะโกนใส่หน้าหล่อๆ ของเขา หอบหายใจแรงจนอก อวบอิ่มกระเพื่อมขึ้นลง เพราะโกรธที่ถูกจับตรึงจนสิ้นท่า

“เธอรู้ไหมว่าคนสุดท้ายที่จะฆ่าฉันตอนนี้เป็นยังไง

เขาไม่ถามเปล่าแต่โน้มใบหน้าลงไปใกล้จนปากห่างกับปาก ของสาวน้อยแค่ปลายนิ้วกั้น ชญาดาตกใจวาบ รีบเบนหน้าหนี อย่างรวดเร็วเพราะคิดว่าเขากำลังจะทาบปากลงมา

“ไม่รู้โว้ย อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ!” เสียงหวานใสแวดลั่นพลาง หลับตาปี เพราะกลัวว่าจะถูกแมทธิวปล้นจูบเอาจริงๆ

“เธอคิดว่าฉันจะทำอะไร?” เสียงทุ้มเอ่ยถาม แล้วก้มลง ใกล้ กว่าเดิมเมื่อเห็นว่าชญาดาทำท่ากลัวลนลาน

“คนบ้าตัณหาอย่างคุณจะทำอะไรได้นอกจากจูบและข่มขืน ฉัน” คนเสียเปรียบโต้กลับทั้งที่ยังหลับตาปี และก็ต้องเจ็บใจ มาก กว่าเดิมเมื่อเขาหัวเราะคล้ายกับขบขันเธอเสียเต็มประดา
“หลงตัวเองมากไปแล้วมั้ง เรื่องจูบและข่มขืนเธอไม่เคยอยู่ใน สมองของฉันแม้แต่นิดเดียว แต่ถ้าให้หักคอทิ้งก็ว่าไปอย่าง

ชญาดากำลังจะอ้าปากด่าเพราะอับอายจากคำพูดหยามหยัน ของเขา แต่ถูกขู่กรรโชกเสียงห้วน

“ถ้าไม่อยากถูกหักคอก็หุบปากซะ ฉันเสียเวลากับเธอมามาก แล้ว”

แมทธิวคลายมือออกแล้วลุกขึ้นจากการทาบทับร่างเล็ก ทำให้ ชญาดาค่อยหายใจหายคอโล่งขึ้นมาหน่อย แต่เพียงครู่เดียว เสียงหวานก็ต้องร้องวัดพร้อมทั้งระดมกำปั้นรัวทุบใส่หน้าอก แกร่งไม่ยั้งเมื่อเขาอุ้มร่างของเธอลอยหรือขึ้น แต่ร่างใหญ่ไม่ได้ สะทกสะท้านสักนิด กำปั้นเล็กๆ ของเธอไม่ได้ทำให้เขาเจ็บมาก ไปกว่าถูกมดกัดด้วยซ้ำ

ทันทีที่เจ้านายใหญ่ก้าวลงไปจากเครื่องบิน สายตาของลูก น้องนับสิบก็มองตามตาแทบไม่กะพริบ เพราะภาพตอนเจ้านาย พาสาวน้อยขึ้นกับลงเครื่องบินช่างเหมือนกันราวกับเป็นหนัง เรื่องเดียวกันที่ถูกฉายซ้ำอีกรอบ ทว่าทุกคนก็ทำได้แค่มอง เพราะเมื่อร่างสูงสง่าก้าวตรงไปยังรถลีมูซีนซึ่งจอดรออยู่ พวก เขาก็ขยับตามไปอารักขาตามหน้าที่ทันที

ร่างบางถูกยัดใส่เบาะกลางรถ โดยมีร่างสูงเบียดตามขึ้นมา ติดๆ นั่นทำให้ชญาดาต้องรีบขยับตัวไปยังประตูอีกฝั่งอย่าง รวดเร็ว เพื่อหวังว่าจะเปิดประตูด้านนั้นแล้วกระโจนหนี แต่ความไวของเธอยังน้อยกว่าเขาเช่นเคย เพราะทันทีที่ขยับเอวเล็กก็ถูก รวบแล้วลากเข้ามาจนชิดกับร่างใหญ่ จากนั้นแขนแกร่งก็ล็อก เอวของเธอเอาไว้อย่างแน่นหนาจนชญาดาขยับไปไหนไม่ได้อีก

“ปล่อยฉันนะ ฉันจะลง!” สาวน้อยยังอาละวาดไม่เลิก

“หยุดอาละวาดเสียที ไม่อย่างนั้นจะจับโยนลงรถซะให้เสร็จ สิ้นเรื่องสิ้นราว”

คำขู่เช่นนั้นแมทธิวไม่เคยแม้แต่จะคิดใช้กับผู้หญิงคนไหน ยกเว้นเด็กแสบที่แผลงฤทธิ์ไม่เลิกคนนี้ และก็ดูเหมือนว่ามันจะได้ ผลเสียด้วย เพราะอาการดิ้นรนอวดดีของเธอชะงักไปทันที

“อะไรนะ!! คุณจะจับฉันโยนลงรถอย่างนั้นเหรอ…ไอ้คนป่า เถื่อน”

“ถ้าคิดว่าฉันแค่ขู่ก็ลองแผลงฤทธิ์อีกสักรอบสีแม่คุณ

เรียวปากสีสวยเม้มเข้าหากันแน่นพลางเงยหน้าขึ้นมองคน ด้วยความเจ็บใจ เมื่อเห็นว่าดวงตาสีเทอร์ควอยซ์นั้นฉายแวว ดุดันจริงจังทำให้สาวน้อยไม่กล้าที่จะเสี่ยง

“ก็ได้…ฉันยอมสงบศึกชั่วคราว แต่ฉันไม่ยอมถูกคุณกอดแบบ นี้เด็ดขาด” ถึงจะยอมอ่อนข้อแต่ก็ใช่ว่าจะยอมถูกลวนลาม

“ถ้าฉันไม่กอดเธอก็ต้องออกฤทธิ์ออกเดชอีก นั่งนิ่งๆ ฉันเบื่อ ท่าทางอวดดีของเธอเต็มทนแล้ว”

“ก็ปล่อยฉันก่อนสิ”
“ไม่ปล่อย ถ้าขืนเธอยังดิ้นยุกยิกอยู่แบบนี้อีกล่ะก็ ฉันจะจับ เธอมานั่งบนตักของฉันแทน เอาอย่างนั้นไหม

คราวนี้คำขู่ของแมทธิวได้ผลชะงัดนัก ชญาดาถึงกับนั่งตัวแข็ง แค่ถูกเขานอนทับและนั่งกอดมันก็แย่พออยู่แล้ว ถ้าขืนต้องไปนั่ง บนตักเขา เธอคงนอนไม่หลับไปตลอดชาติแน่

แมทธิวถอนหายใจออกมาเบาๆ กว่าจะทำให้แม่ตัวดียอมหุบ ปากได้ก็ต้องขู่แล้วอีก กระนั้นก็ใช่ว่าเธอจะยอมนั่งนิ่งๆ เป็น ตุ๊กตายัดนุ่น เพราะยามที่เขาเผลอคลายวงแขนคราวใด ชญาดา ก็จะดิ้นทันที ทำให้เขาต้องรัดวงแขนที่โอบเอวเล็กๆ ของเธออยู่ ให้แน่นหนาขึ้นกว่าเดิม

…นี่คงเป็นครั้งแรกกระมังที่มีผู้หญิงอยู่ในอ้อมกอดของเขา อย่างไม่เต็มใจ…

พ่อค้าความตายพยายามบอกตัวเองไม่ให้รู้สึกอะไรมากไป กว่าหงุดหงิดและรำคาญใจ แต่กลิ่นหอมอ่อนๆ บวกกับกลิ่น เหงื่อจางๆ และความนุ่มนิ่มของส่วนเว้าส่วนโค้งที่มือใหญ่ได้ สัมผัส มันเร้าอารมณ์แปลกๆ จนจู่ๆ แก่นลำชายก็ขยายตัวของ โตดันตะเข็บซิปขึ้นมาดื้อๆ จะว่ามันเพิ่งคึกแข็งก็ไม่เชิงนัก เพราะ มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่นอนทับร่างเล็กๆ ของเด็กแสบตั้งแต่อยู่บน เครื่องบินแล้ว

รถลีมูซีนกับรถอีกคันแล่นตามกันจากสนามบินจนกระทั่งไป จอดยังอพาร์ตเมนต์หรูแห่งหนึ่งในย่านชานเมืองกรุงมอสโก หลังจากคนขับจอดรถอย่างนุ่มนวล แดริลกับบอดี้การ์ดอีกคนซึ่งนั่งอยู่ตอนหลังของรถก็ก้าวลงก่อน แล้วขยับมาเปิดประตูฝั่งที่ เจ้านายของพวกเขานั่งอยู่ จากนั้นก็ยืนรอให้เจ้านายกับสาวน้อย ที่นั่งอยู่คู่กันก้าวลงมา

แมทธิวหันไปทางสาวน้อยที่ถูกเขาโอบเอามาตลอดทาง จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าแขนซึ่งโอบเอวเล็กนั่นอยู่เกิดอาการเอื่อยเฉื่อยกว่า ส่วนไหนๆ และมันไม่ยอมขยับออกจากเอวของเด็กแสบตามที่ สมองสั่งการ พ่อค้าความตายจึงต้องปล่อยให้มันอยู่อย่างนั้น ก่อน ขณะที่ปากขยับพูดกับเจ้าตัวเสียงห้วนๆ

“ถึงแล้ว…จะลงเองหรือจะให้อุ้มอีก

“ไม่ต้อง ฉันลงเองได้” ชญาดาตอบเสียงห้วนเช่นกัน

“งั้นก็ลง

“คุณก็ลงไปก่อนสิ ถ้าคุณไม่ลงฉันจะลงได้ยังไง อีกอย่างเอา มือหนๆ ของคุณออกจากเอวของฉันได้แล้ว หรือว่ากอดฉันแล้ว เกิดมีอารมณ์ขึ้นมา”

นั่นไง…ไอ้มือบ้าเอ๊ย เห็นไหมล่ะมัวแต่อ้อยสร้อยจนเสียเรื่อง

ถ้าแม่เด็กแสบนั่นมองเป้ากางเกงของเขาตอนนี้จะต้องเห็นว่ามัน

เป็นลำยาวตุงตึงจนเป้ากางเกงคับไปหมด แบบนี้ถ้าไม่เรียกว่ามี

อารมณ์จะเรียกว่าอะไรวะ แล้วเวลาที่มันผงาดเต็มตัว มันเล็กๆ

เสียที่ไหน ขืนปล่อยไว้อย่างนี้มีหวังเสียหน้าแน่ๆ ไหนจะพวกลูก

น้องตาไวที่รอเป็นกระบวนอยู่ข้างล่างนั่นอีกล่ะ

พ่อค้าความตายรีบชักมือออกจากเอวของชญาดา แต่ยังไม่ได้ ก้าวลงไปจากรถในทันที เขายกมือขึ้นส่งสัญญาณให้กับลูกน้องและแคริลก้มหน้าลงมาทันที

“เจ้านายต้องการอะไรครับ

ช่วยเสื้อโค้ตให้ทีแดริล

“เจ้านายหนาวหรอครับ”

แดริลถามงงๆ เพราะว่าอากาศในมอสโกไม่จัดว่า หนาวจัดแต่อย่างใด ตรงกันข้ามมันกลับกำลังเย็นสบายด้วยซ้ำ

“อย่าถามมากได้ไหมแดริล ฉันสั่งอะไรทำแมทธิวเอ็ดลูกน้องคู่ใจอย่างหงุดหงิด เสื้อโค้ตตัวใหญ่ของเจ้านายเขาถือให้กับเจ้านาย

พ่อค้าความเม็ดบริเวณเอวทันที เมื่อมั่นใจว่ามันปกปิดสิ่งฟองอารมณ์ของ ตัวเองได้แล้วจึงก้าวลงจากและปั้นหน้าบึ้งตึง ทำให้ลูกน้องกันก้มหน้าต่างก็น้อยแต่ใครเลยจะว่ามันอะไรอย่างแอบแฝง อยู่มากกว่านั้น

“ลงมา”

ร่างสูงลงไปเสียงอีกครั้งเมื่อน้อยไม่ยอมก้าวมา ชญาดาจึงต้องขยับเบาะข้างแล้วลงไปยืนใกล้ๆ เขา อย่างไม่มีทางเลือก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ