บทที่ 7 ทำให้แด๊ดดี้หลงรักเสี่ยวซู
บทที่ 7 ทําให้แด๊ดดี้หลงรักเสี่ยว
ควน้อยๆ ของชิงหยุนขมวดเข้าหากันทันที
เขาหันหน้าไปอย่างสงสัยเล็กน้อย “ไม่ใช่เขา?”
เมื่อคืนวานนี้อย่าว่าแต่คนรับใช้เลย ขนาดเขากับซิงเฉินยัง ถูกคุณปู่พ่อบ้านพาออกไปเลย ถ้าไม่ใช่ฉินโม่หานแด๊ดดี้ของ เขา ยังจะมีใครสามารถทำร้ายหม่ามี้ของเขาได้อีก?
พ่อบ้านกระแอมไปเล็กน้อย “คุณชายน้อยซิงหยุน ท่านตาม
กระผมมาครับ
ชิงหยุนเหลือบมองไปที่ฉันไม่หานอย่างสงสัยปราดหนึ่ง ถึง ได้กระโดดลงมาจากโต๊ะทำงาน ทำท่าทีเหมือนผู้ใหญ่เดิน ตามพ่อบ้านไปที่ห้องกล้องวงจรปิดด้วยขาสั้นๆ ของเขา
ณ ห้องกล้องวงจรปิด
พ่อบ้านปรับเลือกกล้องวงจรปิดตรงทางเดินของเมื่อวานนี้
ออกมา
ด้านในภาพ ซูสือเยว่ที่ห่อร่างด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียววิ่งโซเซ ออกมาจากด้านในห้องนอน
เธอที่ดื่มจนเมามองทิศทางไม่ชัด หันตัวไปมามั่วชั่วอยู่กับที่
เลี้ยวซ้ายก็ชนเข้ากับแจกันดอกไม้ขนาดมหึมา เลี้ยวขวาก็ ชนเข้ากับตู้ตกแต่งด้านข้าง
หญิงสาวหน้าตาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ยังยืนกราน ที่จะวิวาทเอาเรื่องกับต้นปรงตรงทางเดินอย่างไม่ลดละ
ภายใต้กล้องที่มีความละเอียดสูงซิงหยุนมองเห็นรอยฟกช้ำ ที่แขนกับขาของซูสือเยว่ที่ทิ้งเอาไว้ตอนเธอชนเข้ากับกระถาง ต้นไม้ได้อย่างชัดเจน
างออกไปไม่ไกลฉินโม่หานในชุดนอนกำลังกอดอกมอง อย่างเย็นชา
รอจนกระทั่งเธอหยุดการเคลื่อนไหวในที่สุด เขาถึงได้ลุกขึ้น
ไปอุ้มเธอแบกกลับห้อง
ซิงหยุนน้อย มองภาพในวิดีโออย่างตกตะลึงจนตาค้างพูด อะไรไม่ออก
เช้าวันนี้ตอนที่เห็นบาดแผลบนร่างกายของซูสือเยว่ เขานึก ว่าแด๊ดดี้ของเขาที่ไม่เคยสัมผัสตัวผู้หญิงมาก่อนจะเกิดป่า เถื่อนขึ้นมากะทันหันซะอีก
แต่กลับคาดไม่ถึงเลยว่าที่แท้จะเป็นแบบนี้
…ช่างน่าผิดหวังจริงๆ
“คุณชายน้อยชิงหยุน ท่านดูสิครับ บาดแผลบนตัวของคุณผู้ หญิง ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคุณผู้ชายจริงๆ นะครับ”
พ่อบ้านถอนหายใจอย่างแผ่วเบา “เป็นเพราะว่าคุณผู้หญิงดื่ม จนเมาเกินไป”
ซิ่งหยุนเม้มริมฝีปาก บนใบหน้าและดูข่มอารมณ์ไว้ไม่อยู่เล็ก
น้อย
แต่เขาก็ยังเหลือบมองไปที่ชายร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงประตู อย่างเคร่งขรึม “ถ้าอย่างนั้นเขาก็มีความผิดเหมือนกัน”
“ทําไมพ่อเห็นเธอชนกำแพงชนแจกันแล้วไม่ช่วย?”
ฉินโม่หานพูดอย่างไม่แยแส “ลูกไม่เห็นเหรอว่าตู้ไวน์ชั้นล่าง นั่น มีไวน์ชั้นนำรุ่นลิมิเต็ดหายไปตั้งกี่ขวด?”
หน้าของซิงหยุนซีดลงทันที
แด๊ดดี้คนนี้ของเขาไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ชอบผู้หญิง ใช้ชีวิตมี วินัยในตัวเองเป็นที่สุด นอกจากงานแล้ว งานอดิเรกใหญ่ๆ ของ เขาก็คือการเก็บสะสมพวกไวน์ที่มีชื่อเสียงเอาไว้ที่บ้าน
ไวน์ที่อยู่ในตู้เก็บไวน์ชั้นล่าง ทุกๆ ขวดราคาไม่ถูกเลย
เด็กชายตัวน้อยกัดริมฝีปาก เหมือนกับ กอะไรบางอย่างขึ้น มาได้ หันเท้าเล็กๆ หมายจะวิ่งออกไป “ผมยังมีธุระ ต้องไป จัดการก่อนแล้ว!”
“เมื่อกี้ลูกบอกว่า หล่อนเป็นคนของลูก ใช่ไหม?”
ฉินโม่หานย่อตัวลงและรั้งร่างเล็กๆ ของลูกชายเอาไว้ “ลูก ผู้ชายต้องรับผิดชอบคนของตัวเอง”
ชิงหยุน .…….
คุณฉินโม่หาน คุณร่ำรวยขนาดนี้แล้วยังต้องการจะขู่ กรรโชกเงินของลูกชายอีกเหรอ?
เด็กชายตัวน้อยหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาด้วยความเจ็บ ปวด แล้วโอนเงินให้ฉินโม่หานจำนวนหนึ่งหมื่นหยวน “ผ่อน จ่าย”
หลังจากพูดจบ เขาก็ปัดมือของฉินโม่หานออก ขาสั้นๆ เล็กๆ คู่นั้นวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
พ่อบ้านจ้องมองไปที่แผ่นหลังสีเหลืองอ่อนของซิงหยุนอย่าง ตกตะลึงจนตาค้าง “คุณผู้ชาย ดูเหมือนว่าคุณแต่งงานกับคุณ ผู้หญิงจะแต่งได้ถูกคนแล้วล่ะครับ”
ฉินโม่หานพยักหน้าเบาๆ มองไปตามทิศทางที่เขาจากไป นัยน์ตาเคร่งขรึม
*
“พี่ใหญ่! พี่มีสิทธิ์อะไรเอาเงินค่าขนมของผมโอนให้แด๊ดดี้!”
ภายในห้องของเด็กๆ กำลังฟาดฟันกันอย่างดุเดือดซิงเฉิน ยกมือสองข้างเท้าสะเอว
“นั่นเป็นเงินสำหรับซื้อรถบังคับที่คุณปู่แอบเอาให้ผมนะ!”
ชิงหยุนนั่งไขว้ขาอย่างสง่าผ่าเผย “แด๊ดดี้บอกว่า ถ้าฉันไม่ ชดใช้เงินให้เขา เขาจะไล่เสี่ยวซูออกจากบ้าน
หลังจากพูดจบ เขายังเหลือบตามองไปทางซิงเฉินอย่างเศร้า ใจอีกด้วย “สำหรับฉันไม่สนใจหรอกนะ แต่ว่านายจะไม่ได้กิน อาหารที่เธอทำอีกต่อไปแล้ว”
ซิงเฉินลังเล
“เอาเถอะ”
แน่นอนว่ารถบังคับไม่สำคัญเท่าอาหารอร่อยอยู่แล้ว
“แต่ว่าไวน์ของแด๊ดดี้แพงเกินไป”
ซิงหยุนถอนหายใจ “เมื่อวานเสี่ยวซูดื่มของเขาไปหลายล้าน เลย เงินค่าขนมของพวกเราสองคนมีไม่พอ”
ซิงเฉินขมวดคิ้ว เดินไปเดินมาภายในห้องอย่างร้อนใจ หลายล้าน นั่นมันรถบังคับหลายร้อยคันเลยนะ
ทันใดนั้น ภายในหัวของเขาก็มีความคิดหนึ่งสว่างวาบ
ขึ้นมา!
“พี่ใหญ่ หรือไม่งั้นพรุ่งนี้พวกเราเริ่มเรียกเสี่ยวซูว่าหม่ามี้ ทำ ให้แด๊ดดี้กับเสี่ยวซูตกหลุมรักกัน?”
ในแววตาของซิงหยุนฉายแววความเจ้าเล่ห์ขึ้นมาเช่นกัน
เขาพยักหน้าอย่างผู้มากด้วยประสบการณ์ “มีเหตุผล”
“เวลาที่ผู้ชายคนหนึ่งมีความรัก ไอคิวของเขาก็จะกลายเป็น ติดลบ จะไม่มีทางคิดเล็กคิดน้อยเรื่องเงินอีก”
“ตกลงตามนี้แหละ!”
ชิงเฉินกระโดดขึ้นอย่างตื่นเต้น “ผมจะไปวางแผนเดี๋ยวนี้ แหละ ว่าจะทำให้แด๊ดดี้ตกหลุมรักเสี่ยวซู…ไม่ ตกหลุมรักหม่า ได้ยังไง!”
ซิงหยุนมองน้องชายที่นั่งลงตรงหน้าโต๊ะเขียนหนังสืออย่าง พึงพอใจ “นายมีความคิดสกปรกเยอะ นายคิดไปก่อน ฉันจะ ลงไปข้างล่าง”
ภายในห้องครัวมีเสียงน้ำไหลดังซู่ๆซูสือเยว่กำลังล้างจาน
เมื่อห้าปีก่อน หลังจากซูสือเยว่รู้ว่าตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของ ตระกูลซู เธอก็เริ่มรู้สึกละอายใจ เริ่มทำงานภายในตระกูลซู ทั้งงานหยาบ งานหนัก
ในตอนแรก เฉินฟางกับซูจิ่นเฉิงยังสุภาพเกรงใจอยู่บ้างเล็ก น้อย ต่อมาภายหลังตระกูลซูก็ไม่จ้างคนรับใช้อีกเลย และ มอบงานทั้งหมดให้กับซูสือเยว่
เธอเองก็ค่อยๆ ทำมันจนกลายเป็นนิสัยความเคยชินที่ทุกวัน ต้องทํางานบ้านอย่างตั้งใจไปโดยปริยาย
“เธอมานี่สิ”
ซิงหยุนลากเธอออกมาจากห้องครัว “ที่บ้านมีคนรับใช้ งาน พวกนี้ไม่จำเป็นต้องให้เธอทำ
หลังพูดจบเขาก็ลากซูสือเยว่ พาเธอกลับมานั่งลงที่โซฟา “ต่อ ไปห้ามดื่มไวน์อีกเด็ดขาด”
ซิงหยุนมองไปที่ซูสือเยว่ด้วยใบหน้าเคร่งขรึมจริงจัง “มันไม่ ดีต่อสุขภาพ”
มันไม่ดีต่อกระเป๋าเงินของเขากับน้องชายด้วย
เสือเยว่เม้มริมฝีปาก รู้สึกอับอายเล็กน้อย “อันที่จริงปกติฉัน
ก็ไม่ค่อยดื่มเหล้าหรอกนะ”
เพียงแต่เป็นเพราะว่าเมื่อวานเห็นเฉิงเซวียนเปิดสัมพันธ์ความ รักกับเซี่ยงหวั่นฉิง ในใจของเธอก็เลยอารมณ์เสีย
ทันทีที่คิดถึงสองคนนี้ อารมณ์ของเธอก็แย่ลงภายในชั่วพริบ
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็แสร้งทำเป็นยิ้มอย่างผ่อนคลายออก มา “มันผ่านไปหมดแล้ว!”
“ต่อไปฉันจะไม่มีทางดื่มเหล้าตามใจอีกแล้ว”
ซิงหยุนยกมือขึ้นกอดอก ดวงตาแวววาวสดใสคู่หนึ่งมอง
ใบหน้าของเธออย่างจริงจัง
“เธออกหักเหรอ?”
ซูสือเยว่ “.…….
“มันเขียนไว้บนหน้าแล้ว”
เด็กชายตัวน้อยพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนวัยมาก “คุณซูคุณ แต่งงานแล้ว ยังคิดถึงอดีตแฟนหนุ่มแบบนี้ ไม่ดี”
ซูสือเยวรีบปฏิเสธทันที “ฉันไม่ได้คิดถึงเขานะ”
ชิงหยุนถอนหายใจ “ดูเหมือนว่าจะอกหักจริงๆ”
ผู้หญิงที่อกหักรักคุด มักจะหมดความสนใจในตัวของผู้ชาย ไปในเวลาอันสั้น
คุณฉินดูเหมือนว่าหนทางตามจับภรรยาของคุณจะไม่ได้
ราบรื่นขนาดนั้นแล้วล่ะ
เด็กชายตัวน้อยลุกตัวขึ้น เดินขึ้นชั้นบนไปอย่างเศร้าใจ กลัดกลุ้ม “คนอายุน้อยๆ อย่างฉัน ยังต้องมาเป็นกังวลกับชีวิต การแต่งงานของพวกผู้ใหญ่อีก”
“เหนื่อยเกินไปแล้ว”
ซูสือเยว่ “…”
หลังจากซิงหยุนขึ้นชั้นบนไป เธอยังคิดที่จะทำงานบ้านต่อ แต่ถูกคนรับใช้ไล่ให้ขึ้นไปชั้นบน
น่าเบื่อมาก เธอทำได้เพียงแค่หยิบเอาหนังสือที่เอาติดตัวมา ด้วยออกมา และเริ่มเปิดอ่าน
จนกระทั่งถึงช่วงพลบค่ำฟ้าเริ่มมืดซูสือเยวถึงได้ยึดเอว ลง ไปชั้นล่างเพื่อทำอาหารเย็นให้ซิงหยุน
ทันทีที่ลงมาถึงชั้นล่างก็เห็นเด็กชายตัวน้อยในชุดกีฬากำลัง
ยืนใส่รองเท้าอยู่ที่หน้าประตู
เมื่อเห็นเธอเขาก็ยกมือขึ้นทักทาย “ห้าโมงถึงหกโมง เป็น เวลาที่ฉันจะออกไปเดินเล่น”
“อยากไปด้วยกันไหม?”
“ฉันไม่ไปหรอก”
ซูสือเยว่ยิ้มพลางมัดผ้ากันเปื้อน “ฉันอยู่บ้านทำของอร่อยไว้
ให้เธอดีกว่า”
“อืม”
เด็กชายตัวน้อยพยักหน้า ผลักประตูเดินออกไปอย่างสง่า
ผ่าเผย
นิสัยเฉพาะตัวแบบนั้นเย่อหยิ่งสุดๆ ไปเลย ไม่เหมือนเด็ก น้อยอายุห้าขวบเลย
ซูสือเยว่พลางทอดถอนใจ พลางเดินไปที่ห้องครัวเพื่อทำ
อาหาร
ในห้องครัวมีกุ้งที่คนรับใช้เพิ่งจะซื้อมา เธอวางแผนจะทำ อาหารดีๆ ให้ซิงหยุนสักมื้อ
หญิงสาวกำลังยุ่งอยู่ในห้องครัว กลิ่นหอมน่าอร่อยพุ่งตรงขึ้น
ไปชั้นบน ก่อนจะพุ่งเข้าไปในจมูกของซิงเฉิน
เขาปิดหนังสือ ‘เข็มทิศความรัก’ ที่อยู่ในมือเข้าหากัน เปิด ประตูดมกลิ่นจากชั้นล่าง น้ำลายแทบจะไหลหกออกมาแล้ว
ทนไม่ไหวแล้ว ทนไม่ไหวแล้ว!
เมื่อกี้พี่ชายเพิ่งจะใส่ชุดกีฬาลงไปชั้นล่างใช่ไหม?
เขารีบวิ่งตรงไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า หาชุดกีฬาแบบเดียวกัน กับพี่ชายออกมาใส่ และรีบวิ่งลงชั้นล่างไปอย่างรวดเร็ว
“คืนนี้หาของอร่อยอะไรเหรอ!”
ซิงเฉินน้อยรีบวิ่งลงไปอย่างรวดเร็ว และพุ่งตรงไปที่หน้าโต๊ะ อาหารทันที “ว้าว!”
ซูสือเยวที่กําลังยกอาหารไปวางบนโต๊ะอาหารมองไปที่ ‘ซิง หยุน’ คนนี้อย่างมึนงงเล็กน้อย
ถ้ามองไม่ผิด เขาลงมาจากชั้นบน?
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ