รักทีอันตราย สามีตัวร้าย

ตอนที่15 คํากำชับของแม่สามี



ตอนที่15 คํากำชับของแม่สามี

ตอนที่15 คำกำชับของแม่สามี

แม่สามีเริ่มวกเข้าเรื่องเดิม ฉันเออออไปตามเรื่องก่อนขอตัววาง สายเพราะกลัวไปทำงานสาย

“เดี๋ยวก่อนนะ”แม่สามีเบรคฉันทันที

“คุณแม่คะ มีอะไรหรอคะ?”ฉันถามอย่างสุภาพ

“หนูทิพย์ เมื่อคืนนัยบอกว่าเงินเดือนขึ้นมาเยอะอยู่ใช่ไหมจ๊ะ?”

“อ๋อ…เหมือนจะใช่นะคะ”ฉันตอบแบ่งรับแบ่งสู้ รองหัวหน้าฝ่าย นา ยังไงเงินเดือนก็น่าจะมากกว่าพนักงานตัวเล็กๆนะ

ได้ยินเสียงหัวเราะของแม่สามีแว่วเข้ามา”งั้นก็ดีจ้ะ คืออย่างนี้ แม่กับคุณพ่อเล็งห้องชุดไว้ห้องหนึ่ง กะว่าถ้าขายห้องที่อยู่ตอนนี้ ได้ เปลี่ยนเป็นห้องที่ใหญ่ขึ้นหน่อย เวลาพวกหนูกลับมาพักบ้าน ก็จะได้มีพื้นที่หน่อย ไม่แออัดเหมือนเมื่อก่อน ค่าดาวน์ก็ไม่แพง นะ ประมาณ120,000-130,000 บาทจ้ะ

“ตอนนี้แม่กับคุณพ่อเก็บเงินได้ราวๆ 80,000 ละ หนูกับนัยช่วย เรานิดหน่อยให้ดาวน์ได้สำเร็จ แล้วไว้ห้องเก่าขายได้แล้ว แม่จะคืนเงินให้นะจ้ะ

คิดไม่ถึงว่าแม่สามีจะคุยกับฉันเรื่องเงิน ฉันเลยตอบไปว่า “คุณ แม่คะ เรื่องนี้…ทิพย์ว่าคุณแม่คุยกับนัยดีกว่านะคะ

“แม่รู้ว่าต้องคุยกับนัยน่า นี่ไม่ใช่กลัวเธอจะไม่พอใจและไปลงกับ นัยจนเขาไม่เป็นอันทำงานหรอกหรอไง? สรุปว่าทิพย์โอเคนะใช่ ไหม?”แม่สามีตอบสะบัดๆ

ฉันหัวเราะแหะๆไป

อ้านาจในการดูแลเงินอยู่ที่วินัยมาโดยตลอด ขนาดจะซื้ออะไรที ยังต้องให้เขาอนุญาต ฉันจะมีปากเสียงอะไรได้ยังไง?”

จะว่าไป บ้านพ่อแม่สามีที่ฉันเคยไป เป็นรูปแบบดึกแถวเก่าเมื่อ หลายสิบปีก่อน มี 5 ชั้น หนาวสุดในหน้าหนาว ร้อนเวอร์ในหน้า ร้อน พื้นที่ประมาณ 50 ตร.ม. แถมนอกจากคุณพ่อคุณแม่แล้ว ยัง มีน้องสาวของวินัยอยู่ด้วยอีกคน ถือว่าแออัดพอสมควร พวกเขา อยากเปลี่ยนบ้านใหม่ ฉันก็ไม่ว่าอะไร

“หนูทิพย์ คุณพ่อฝากบอกให้หนูดูแลนัยดีๆล่ะ ให้ตั้งใจทำงาน อย่านอกลู่นอกทาง ถ้าเกิดทํางานผิดพลาด คุณพ่อโมโหตายแน่ เลย เข้าใจไหมจ๊ะ?”แม่สามีกำชับสุดท้ายก่อนวางสายไป
ฉันรู้สึกเหมือนในใจมีหินก้อนใหญ่ทับไว้จนหายใจไม่ออก เหลือบดูนาฬิกาเห็นว่าสายมากแล้ว จึงกระหืดกระหอบวิ่งออกไป

ฉันพยายามไปให้เร็วสุดชีวิต ถึงหน้าบริษัทพบว่าอีกสองนาที เข้างาน

ฉันรีบปราดไปที่หน้าลิฟท์ร้องว่า”รอด้วย

ประตูลิฟท์ที่กำลังจะปิดลงเปิดออกอีกครั้ง ฉันรีบเดินเข้าไป พลางขอบคุณไปพลาง

แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมา ฉันแทบอยากจะวิ่งกลับออกไปใหม่ คุณ อนุสิทธิ์กับเลขาของเขายืนอยู่ข้างในลิฟท์ ซึ่งเป็นคนที่ฉันไม่ อยากเจอหน้ามากที่สุดด้วย

“ประธานอนุสิทธิ์”มีคนอื่นอยู่ด้วย จะถอยออกไปใหม่ก็ดูไม่ดี ฉัน เลยโค้งทักเขาตามมารยาท แล้วถอยไปยืนติดข้างฝา

ดีที่ไม่มีใครสนใจฉัน ตอนนี้สมองฉันสับสนไปหมด เห็นลิฟ์หยุด ลงและเปิดประตู ฉันรีบพุ่งออกไปทันทีจนเกือบชนกับคุณเลขา

“คุณทิพย์สุดาครับ ยังไม่ถึงชั้นของแผนกบริการลูกค้าเลยครับ เขาบอกฉันอย่างสุภาพก่อนออกจากลิฟท์ไป

ประตูลิฟท์ปิดลงอีกครั้ง ฉันรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง จ้องเขม็งไปที่ ประตูลิฟท์ประหนึ่งอยู่คนเดียวในลิฟท์ ลืมคนข้างๆไปเลย

จู่ๆก็มีมือเอื้อมมาด้านข้าง ทำฉันตกใจแทบกระโดดหนี ฉันร้อง ว่าคุณจะทำอะไรน่ะ?”อนุสิทธิ์มองฉันด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อน ยื่นมือไปกดเลือกชั้น

ฉันอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี

“ขอ…ขอโทษค่ะ”ฉันตะกุกตะกักขอโทษ ยิ่งรู้สึกถึงสายตาของ เขา ก็ยิ่งไม่กล้าเงยหน้า

ไม่รู้ทำไมวันนี้ลิฟท์ช้าจัง พอประตูลิฟท์เปิดออก ฉันรีบพุ่งออก

ไปทันที

วิ่งออกไปแล้วถึงรู้ตัวว่าผิดชั้น นี่ไม่ใช่ชั้นออฟฟิศ แต่เป็นที่จอด รถต่างหาก

ฉันฉุกคิดจะวิ่งกลับเข้าลิฟท์ แต่ถูกดึงแขนเอาไว้ซะก่อน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ