พรหมลิขิตที่ผิด

บทที่ 4 เงิน



บทที่ 4 เงิน

เธอควรเดินออกไปแล้วถามเขา

แต่หลังจากที่ลังเลไปหลายนาที เธอก็ปิดประตูอย่าง เบาๆ แล้วขึ้นไปนอนบนเตียง

เธอชอบทำเหมือนไม่รู้อะไรเลยทั้งๆ ที่รู้ไปหมดทุก เรื่อง แต่นี่ไม่ใช่ชีวิตที่เธอต้องการ แค่ กลัวว่าถ้าทำให้ ความจริงมันเปิดเผย ทุกอย่างที่เธอมีอยู่ก็จะเสียไปเท่านั้น

โลกของผู้ใหญ่ก็เป็นแบบนี้แหละ ถ้าอยากมีชีวิตที่ดี ก็ต้องเรียนรู้การโกหกตัวเอง

แต่ว่า เธอลืมไปแล้วว่าคนคนหนึ่งทำยังไงถึงจะได้ ผู้ชายหนึ่งคน ก็จะกลัวว่าจะเสียผู้ชายคนนั้นด้วยวิธีนั้น ด้วย

ชมพู่หลับไม่สนิท เช้าวันถัดไป ฟ้ายังไม่สว่างก็ตื่น

แล้ว

เธอลุงขึ้นนั่ง ในห้องมีแค่เธอคนเดียว เมื่อวานเขา ไม่ได้กลับมาจริงๆ ด้วยสิ

ถอนหายใจไปครั้งหนึ่ง เธอก็เอาโทรศัพท์ออกมา แล้วค้นหาเบอร์ของหวาน แต่ก็ลังเลว่าจะโทรออกดีไหม

เขาบอกว่าไม่ให้เธอติดต่อกันหวานอีก ถึงบธอจะไปอยากทําให้ก๋องต้องโกรธ แต่ก็จัดเก็บเบอร์ของหวานใหม่ อีกครั้ง อยากเจอหวานอีกครั้งจังเลย อยากรู้ว่าตอนนี้เขา เป็นยังไงบ้าง

3 ปีมานี่ เขาใช้ชีวิตอยู่ที่ไหน มีเรื่องสนุกๆ ไหม หรือ ว่ามีเรื่องที่ทำให้เขาลืมไม่ลงบ้างไหม

เธออยากรู้ทั้งหมดเลย

แต่ก็ลังเลไปสักพัก โทรศัพท์ก็แจ้งเตือนว่าแบตต่ำ

เอาโทรศัพท์ไปชาร์จไว้ข้างเตียง เธอก็ลงจากเตียง แล้วเปลี่ยนเสื้อเลย

พอล้างหน้าแปรงฟันเสร็จลงไปที่ห้องครัว ศรีวันก็นั่ง ดูทีวีอยู่ตรงโซฟาแล้ว

เห็นเธอลงมา ศรีวันก็เริ่มบ่นแล้ว “คิดว่าตัวเองเป็น คุณหนูอยู่อีกหรอ แกตื่นสายกว่า อีกหน่อยก็ได้นะ”

ชมพู่ไม่ได้ตอบกลับ แต่เตรียมจะไปกินอาหารเช้า

ศรีวันก็ตะโกนดังกว่าเดิม “ชมพู่ ให้อนุญาตให้แกไป ต๊ะ ไปเอาผ้าเช็ดมาเช็ดพื้นเดี๋ยวนี้”
เธอยังไม่ได้กินอาหารเช้าเลย ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อวาน พึ่งเช็ดพื้นไปเอง

“แต่ว่า…..”

ศรีวันยักคิ้ว “แต่ว่าอะไร จะเช็ดหรือไม่เช็ด

เธอเม้มปากแล้วรับผ้าที่เตรียมไว้นานแล้วมาไว้กับตัว จากนั้นคุกเข่าแล้วเช็ดพื้น

ส่วนศรีวันก็นั่งเปลี่ยนช่องไปมาอยู่บนโซฟา จู่ๆ เธอก็ หยุดแล้วเคาะบนโต๊ะ

ชมพู่ที่กำลังเช็ดพื้นอยู่ก็เงยหน้าขึ้นแล้วมองไปทาง

ศรีวันอย่างงง

ศรีวันชี้ไปที่จอทีวีแล้วทำสีหน้าอย่างได้ใจ

มองตามมือที่ชี้ของศรีวัน สีหน้าของชมพู่ก็ดูไม่ดีขึ้น

มาทันที

เธอคิดว่าตัวเองอาจจะมองผิดไป แต่ว่าจอทีวี 42 นิ้ว นี้ใหญ่พอที่จะให้เธอมองอย่างชัดเจน

วันนี้ก๋องใส่ชุดสูทสีกรมที่เธอรีดไว้ให้เขา ที่แขนก็มี มือของเฉินที่ใส่ชุดเดรสสีแดงดวงไว้
ท่ามกลางแสงไฟที่ระยิบระยับ เจินเองก็โบกมือ ทักทายนักข่าวอย่างเป็นกันเอง

ชมพู่รู้สึกว่าหน้าของเธอโดนตบอย่างแรงทีหนึ่ง ทั้ง เจ็บทั้งแสบ

ศรีวันมองไปทางชมพู่ด้วยสีหน้าที่ได้ใจ เธอตั้งใจ เปิดเสียงทีวีดังๆ แล้วอวดไปด้วย “ดูลูกชายฉันสิหล่อจัง เลย ถ้าจะให้พูดนะ ก็มีแค่ผู้หญิงแบบนี้เท่านั้นที่คู่ควรกับ ลูกชายของฉัน ดูสิดูเหมาะสมกันแค่ไหน ไม่เหมือนใคร บางคนที่ชอบ

ชมพู่กัมหน้าแล้วแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินที่ศรีวันพูด

กัดริมฝีปากอย่างไม่พอใจ จนมีรอยเลือด

อยู่ที่ตระกูลศักดิ์สรรณ์นั้นไม่ใช่แค่เป็นความฝันของ เธอเท่านั้น แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอได้สัญญากับพ่อแม่แล้ว จะช่วยพี่สาวเฝ้าตำแหน่งคุณหญิงของตระกูลศักดิ์สรรณ์ ไว้ให้พี่สาวก่อนที่จะฟื้น

แต่แค่เป้าหมายนี้เหมือนจะยากเกินไปแล้วในตอนนี้ เธอพยายามจนสุดชีวิตก็ไม่สามารถเฝ้าไว้ได้

แต่เธอก็รู้ เธอถอยไม่ได้ พอถอย ทุกอย่างที่สร้างมาอย่างจํามากก็จะเสียเปล่าไปทันที

ศรีวันมองหน้าชมพู่แล้วยิ่งอารมณ์เสียเข้าไปใหญ่ เธอถยเปลือกเมล็ดทันตะวันลงบนพื้น “ดูสิ พื้นสกปรกแค่ ไหน เช็ดให้สะอาดหน่อย เรื่องง่ายแค่นี้ก็ทำไม่เป็นหรอ

บิดผ้าแล้วเธอก็เช็ดพื้นอย่างแรง เหมือนกำลังระบาย อะไรสักอย่าง

คุกเข่าแล้วเช็ดอยู่อย่างนั้นนานเป็นเวลา 4 ชั่วโมง

เห็นศรีวันเดินจากไปแล้ว เธอถึงค่อยๆ ลุกขึ้น รู้สึกว่า เข่าไร้ความรู้สึกแล้ว

พยุงตัวที่เกรงไปหมดไปทิ้งตัวลงบนโซฟา เธอลังเล ไปสักพัก สุดท้ายก็เอาโทรศัพท์ออกมา

“ฮาโหล หวานหรอ เจอกันหน่อยไหม

เสียงไวโอลินดังขึ้นในร้านกาแฟชั้นดี ชมพู่จับ กระโปรงไว้อย่างตื่นเต้น

“คุณนายจะสั่งอาหารไหมคะ”

เธอเงยหัวแล้วส่ายหัว “ฉันรอเพื่อนอยู่ค่ะ เดี๋ยวรอเพื่อนมาแล้วค่อยสั่งดีกว่า”

พูดจบก็มีเสียงผู้หญิงดังขึ้น “ไม่ต้องรอแล้ว สั่งตอน

นี้เลย”

ชมพู่หันไปมองอย่างไม่น่าเชื่อ

3 ปีไม่ได้เจอหน้ากัน อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว

หวานไว้ผมสั้นสีเหลือง เหมาะกับเธอในตอนนี้ มาก บนคอของเธอแขวนผ้าพันคอสีแดงตัวใหม่ล่าสุด ของLVไว้เป็นการตกแต่ง ใส่เสื้อยืดสีขาว ข้างนอกใส่เสื้อ ตาข่ายแขนยาวสีดำ แฟชั่นและสวยมาก

เธอนั่งตรงข้ามชมพู่ แล้วกวักมือเรียกพนักงานแล้ว รับสมุดเมนูมาจากมือของเขา “กินอะไรดี

ถึงจะไม่ได้ติดต่อกันมา 3 ปี แต่ความสนิทที่มีให้กัน นั้นก็ยังไม่เปลี่ยนเปลง ใจที่ตื่นเต้นของเธอก็ค่อยๆ ผ่อน ตัวลงแล้วยิ้ม “เหมือนเมื่อก่อนนั่นแหละ”

ปิดเมนูแล้วหวานชูมือขึ้น 2 นิ้ว “เอาคาปูชิโน่ร้อน 2

ชมพู่รู้สึกดีใจ “หวาน ไม่เจอกันนานเลยนะ
หวานยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เจอกันนานจริงๆนั่นแหละ แต่ว่าที่ฉันบอกว่าจะตัดขาดแล้วไม่ติดต่อกับเธอ นี่เธอก็ เล่นไม่ติดต่อฉันมาเหมือนกันหรอ ใจร้ายจริงๆ

เธอไม่อยากพูดเรื่องนี้ ก็เลยขัดที่หวานกำลังพูด “ไหนลองคุยเรื่องเธอดีกว่า”

ชมพู่ยกแก้วกาแฟแล้วหมุนไปหมุนมา “เธอคงไม่ได้ ติดตามอะไรเลยสินะ พี่หยางไปเป็นดาราแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ