พรหมลิขิตที่ผิด

บทที่ 5 เราหย่ากันเถอะ



บทที่ 5 เราหย่ากันเถอะ

ชมพู่อึ้งไปทันที ไม่ได้ยินเรื่องของหยางมาหลายปี แต่…“จริงหรอ คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเขาจะไปเป็นดารา ลุง พงษ์รู้แล้วไม่มีขาเขาหักหรอ”

หวานพูดแบบช่วยไม่ได้ “ดูเหมือนเธอก็ไม่ได้ติดต่อ ลุงพงษ์เหมือนกันนะ

สีหน้าของเธอดูฝืนมาก จะบอกว่าทุกครั้งที่เธอออก มาข้างนอกก็จะมีคนติดตามเป็นกลุ่ม แล้วก๋องก็ไม่ให้เธอ ติดต่อกับพวกเขาอย่างนี้ไม่ได้หรอก

“พอดีว่ายุ่ง เลยไม่ได้ติดต่อน่ะ” ชมพู่ยิ้มอย่างอื่น

“งานหลักของฉันตอนนี้คือนักออกแบบสไตล์ฤดู ร้อนโดยรับผิดชอบเสื้อผ้าหน้าร้อนเป็นหลัก แต่ว่าฉันก็ได้ เปิดห้องทํางานเป็นของตัวเอง ทำเสื้อผ้าที่มาจากไอเดีย ของพวกเรา ฉันจะบอกให้นะ……….

ชีวิตของเธอผ่านอะไรมามากจริงๆ ชมพู่แทบจะไม่ได้ พูดอะไรเลย เอาแต่นั่งเงียบๆ แล้วฝังเธอพูด

หวานแทบจะพูดไม่หยุดเลย จนมีแสงอาทิตย์ตกส่อง มาทางที่พวกเขาทั้งสองนั่ง เธอถึงจะหยุดพูด

“นี่ฉันพูดอยู่คนเดียวเลย เธอละ
ทันใดนั้น ชมพู่รู้สึกว่าชีวิตที่ผ่านมาของเธอไม่มีอะไร น่าสนุกเลย เอาแต่ทำตามกฎของตระกูลศักดิ์สรรณ์ใน ฐานะคุณหญิง เหมือนกับตุ๊กตาที่ถูกควบคุมด้วยเส้นด้าย ทําในเรื่องที่กองอยากให้เธอทํา

ทันใดนั้นเอง รู้สึกว่าระยะเวลา 3 ปีนี่เหมือนจะนาน เอามากๆ นานมากจนทำให้เธอกับหวานเกิดช่องโหว่ต่อ

พอคิดถึงตรงนี้ สีหน้าชมพู่ก็ซีดลง

อยู่ๆ หวานก็เอามือไปจับมือของเธอไว้ “ชมพู่ เธอรู้ ไหมว่าทําไมฉันถึงหาเวลาออกมาหาเธอแบบนี้”

เธอเงยหน้าขึ้น

ผู้หญิงจ้องมองเธอแล้วพูดอย่างจริงใจว่า “ชมพู่ เธอ ได้เสียเวลาบนตัวก๋องมา 3 ปีแล้ว ใน 3 ปีมานี้ เธอได้อะไร บ้าง เธอไม่ได้อะไรเลย เธอก็แค่เรียนรู้การทำตามคำสั่ง เท่านั้น แค่ได้เสียเวลาที่ไป3 ปีเท่านั้น แบบนี้มันไม่คุ้มเลย เธอไม่ควรทำลายตัวเองแบบนี้”

หวานเหมือนมีอะไรอยากพูดอีกมาก แต่พอเห็น หน้าตาของชมพู่แล้วทุกอย่างก็พูดไม่ออกเลย “ชมพู่ ถ้า พ่อเธอให้เธอใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อรั้งก๋องไว้ เธอจะทำยังไงจะอยู่ที่บ้านศักดิ์สรรณ์ทั้งชีวิตเลยหรอ แล้วชีวิตของเธอ ละ เธอดูสิ 3ปีที่ผ่านมา เธอก็ไม่มีเรื่องที่สามารถเอาออก มาพูดได้เลย ชีวิตแบบนี้หรอที่เธอต้องการ

เธอจะไม่เข้าใจความหมายที่เพื่อนรักพูดขนาดนี้ได้

ยังไง

เธอก็แค่ทิ้งก๋องไปไม่ได้ ถ้าไปแล้ว ต่อไปเธอจะมอง เขาจากห่างๆ ยังเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองเลย

มองเธอที่ลังเลไม่หยุด หวานจับมือของเธอไว้แล้ว พูด “เธอบอกฉันสิ ที่เธอไม่ยอมออกมาจากบ้านศักดิ์สรร ณ์เป็นเพราะก่องใช่ไหม”

เธอเอาแต่เงียบไม่ยอมพูดอะไร แต่หวานก็พอจะรู้ว่าชมพู่คิดอะไร เห็นสีหน้าของเธอในตอนนี้ ยังมีอะไรที่ไม่เข้าใจอีก

เธออยากจะบอกกับชมพู่ว่า หยางรอเธอหลายปี ทำ ทุกอย่างเพื่อเธอมามากขนาดนี้ แต่ทำไมเธอถึงไปรักที่ แบบนั้นละ
แต่พอคิดดูอีกที เรื่องความรู้สึกของคนเรานั้น ไม่ สามารถห้ามกันได้จริงๆนั่นแหละ

“รักไปแล้วจริงๆ หรือ

หวานลังเลไปสักพักจนพูดออกมาอย่างติดๆ ขัดๆ

“หวาน รักไปแล้วจะยังไงหรอ เขาไม่เคยชอบฉัน เลย” ตอนที่พูดคำพูดนี่ ในตาของชมพู่เหมือนมีน้ำตา คลอ

“ถ้าอย่างนั้น เธอจะเสียเวลาไว้บนตัวของเขาทั้งชีวิต ของเธอเพื่ออะไร” พอได้ยินเธอพูดแบบนั้น หวานเหมือน เห็นความหวัง เลยรีบพูดขึ้นมา

จริงสิ ชมพู่ เพื่ออะไร

ถึงแม้ว่าเธอจะเฝ้าอยู่ข้างกายของเขาทั้งชีวิต เขาก็ ไม่มีทางรักเธอหรอก

หวานไม่ชอบก๋องมานานแล้ว นั้นเป็นคนที่ต่างกับ พวกเขามาก

ในตาของชมพู่ยังมีความหวังเล็กๆอยู่ “แต่ว่า ถ้าเขา มีความรักให้ฉันอยู่สักนิดละ
ถึงแม้จะเป็นการใส่ใจเพียงแค่นิดหน่อยเธอก็ไม่ อยากปล่อยมือ

แต่ว่าหวานไม่ยอมให้ชมพู่มีทางถอยแม้แต่น้อย “ถ้า อย่างนั้นวันนี้พวกเราก็ลองกันดู ดูว่าเขาเป็นห่วงหรือ สนใจเธอจริงไหม ถ้าเขาไม่สนใจและเป็นห่วงเลย เธอ ต้องออกมาจากบ้านศักดิ์สรรณ์”

“แต่ว่า ”

“ชมพู่ ไม่ต้องหาทางถอยให้ตัวเองอีกแล้ว เธอ ดูสิ ตอนนี้เธอเป็นยังไง ชมพู่ที่เมื่อก่อนมีแสงคอยส่อง ประกายไปไหนแล้ว เธอต้องเข้าใจว่า เมื่อก่อนคนใน วงการตามเธอวิ่งอย่างเดียว แต่ตอนนี้เธอกลับยอมคุกเข่า อยู่ข้างกายก๋องหรอ”

ชมพู่มองการแต่งตัวของหวาน ที่แสดงออกถึงตัวตน ที่แท้จริงของหวาน

ส่วนตัวเอง ติดกระดุมทุกเม็ดที่อยู่บนตัวอย่างระเบียบ

เรียบร้อย

เธอเงยหน้าขึ้น “แล้วเธอว่า ฉันต้องทำยังไง

ตอนนี้เธอแค่ต้องการให้คนอื่นให้เหตุผลกับเธอ แล้วผลักเธอ ให้เธอไม่ต้องหลบซ่อนกับความเป็นจริงที่โหด ร้ายนี้อีก

“ต้องอย่างนี้ นี้สิชมพู่ที่ฉันรู้จัก

ในห้องทํางาน

นิ้วของก๋องเคาะบนโต๊ะไม่หยุด สายตาก็เย็นชาและ อันตราย

“พูดอีกรอบ”

แม่บ้านที่อยู่ในบ้านมือสั่นไปหมด กลืนน้ำลายแล้ว พูดอีกรอบว่า “วันนี้ตอนเที่ยง คุณหญิงบอกว่าอยากดื่ม น้ำซุป คุณชาย คุณก็รู้ว่าน้ำซุปที่บ้านฉันทำใช้ได้ เพราะ ฉะนั้นฉันเลยบอกกับคุณหญิงว่าไปเอาให้ แต่คุณหญิง กลับจะไปกับฉัน บอกว่ารู้สึกสงสัย

“พูดต่อ”

ป้าพรก็พูดต่อว่า “หลังจากนั้นฉันก็เอาของให้เธอ เธอก็พูดขึ้นอีกว่าหลังจากที่เธอตื่นนอนแล้วเธออยากกิน น้ำพลับ คุณชายเองก็รู้ว่าลูกของฉันชอบกินน้ำพลับ ฉัน เลยบอกกับคุณหญิงว่าฉันจะตั้งไว้บนโต๊ะห้องรับแขก พอ เธอตื่นก็ไปกินที่ห้องรับแขกได้เลย”
“แต่ว่า หลังจากผ่านเวลานอนแล้ว เธอก็ไม่ลงมาสัก ที ฉันเลยขึ้นไปดู ปรากฏว่าเธอไม่อยู่แล้ว

เขาเงียบไว้ไม่พูดอะไร ผ่านไปสักพัก ถึงพูดออกมา ว่าเข้าใจแล้ว จากนั้นก็วางสาย

เปิดกล้องวงจรในบ้าน เห็นชมพูสะพายกระเป๋าเล็กๆ แล้วออกไปทางประตูหลังที่คนใช้ใช้กันเป็นประจำ

ก๋องรู้สึกไม่พอใจ

หลังจากที่ชมพู่เดินเข้าบ้าน จากนั้นก็โยนกระเป๋า แบรนด์ไว้กับพื้น ถอดรองเท้าแล้วเดินเข้าไปในห้องที่มืด

ในเวลานี่เอง อยู่ๆ ไฟก็สว่างขึ้น

ในห้องที่สว่างไปด้วยแสงไฟ

“เธอรู้ตัวไหมว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว” น้ำเสียงที่ขี้เกียจ เหมือนจะไม่ได้ตั้งใจ

ชมพู่ดื่มเยอะไปจนสมองที่ช้าก็คิดแผนที่หวานช่วย เธอวางไว้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หมุนตัวแล้วนั่งลงบนตัว ของก๋องที่ยังใส่ชุดสูทเต็มตัว
ถ้าแผนวันนี้จะล้มเหลวตามที่หวานคิดไว้ละก็ เธอก็จะ ไปจากที่นี่เลย

เธอเป็นชมพู่ เธอไม่จําเป็นต้องเอาทุกอย่างของตัว เองมาทิ้งไว้กับตัวของผู้ชายที่ไม่ได้สนใจเธอเลยแม้แต่ น้อย

เธอเอามือไปโอบเอวแล้วทำท่าทางที่เซ็กซี่ มือหนึ่ง เอาไปเขี่ยนิ้วของก๋องเล่นอยู่อย่างนั้น “ถ้ารู้ว่านายจะกลับ มาเร็วขนาดนี้ ฉันก็ไม่ออกไปเที่ยวเล่นแล้ว

เขามองเธอด้วยหน้าที่ไร้อารมณ์ ลูกตาที่ดำสนิท ไม่มีคลื่นเลยแม้น้อย “ฉันน่าจะเคยบอกเธอแล้วนะ ว่าคน อย่างหวาน เธอไม่ควรไปเข้าหา เธอต้องรู้ถึงตำแหน่ง ของตัวเอง อย่าทำอะไรที่ไม่เข้ากับตำแหน่งของเธอใน ตอนนี้”

เหมือนที่หวานพูดเลยทุกอย่าง คนที่ไม่รัก ไม่ว่ายัง ไงเราก็ผิด เธอนี่มันไม่เจียมตัวจริงๆ

ในเมื่อรู้ว่าเธอไปเจอหวาน เธอไม่เชื่อว่าก๋องจะไม่รู้ ว่าพวกเธอไปไหนมาบ้าง รู้ทั้งรู้ว่าไปไหน แต่กลับไม่ถาม เหมือนว่าเธอจะได้คำตอบที่ต้องการแล้ว

ยังคาดหวังว่าเขาจะโกรธ หวังว่าเขาจะอารมณ์เสีย
แต่ว่า เขาจะโกรธได้ยังไง แล้วจะหึงได้ยังไง ในเมื่อ เขายังไม่เคยที่จะมองเธออย่างจริงๆ จังๆ มาก่อนเลย

นี่เป็นความจริงที่อยู่ตรงหน้าเธอแล้ว เธอได้แต่ยิ้ม

ปากที่ทาลิปสีแดงของCHANELไว้ แล้วยิ้มอย่างไม่ สนใจ “วางใจได้ ถ้าฉันบอกกับบอยว่าฉันเป็นคุณนายบ้าน ศักดิ์สรรณ์แล้ว พวกบอยก็น่าจะตกใจกลัวจนหนีไปหมด จะไปมีใครที่ไหนกล้ามาทำกับฉัน คือ

ก๋องได้รับการศึกษาชนชั้นสูงมาตั้งแต่เด็ก การพูด การจาของเขานั้นสมบูรณ์แบบอย่างกับเทมเพลตเคส

เขาเอากาแฟบนโต๊ะที่เย็นแล้วขึ้นมา “ความจริงแล้ว ก่อนหน้านี้เธอเองก็แสดงได้ดี ฉันคิดว่าเธอแสดงต่อไป อย่างนี้จะดีกว่านะ”

“แสดงเป็นภรรยาที่เชื่อฟังแล้วถูกแม่นายสั่งไปสั่ง มาอย่างนี้หรอ หน้าหนาวใช้น้ำเย็นแล้วคุกเข่าถูพื้น ก๋อง นายคิดว่านายเป็นใครกันแน่

เขาวางแก้วกาแฟอย่างแรง จนเสียงวางแก้วดังสนั่น อยู่ในห้องรับแขก ตามเสียงที่ต่ำของเขา “ตระกูลศักดิ์ สรรณ์ได้มอบตำแหน่งคุณหญิงนี่ให้เธอ เธอก็ต้องมีความ รับผิดชอบในเรื่องนี้ ตอนนั้นเธอยอมทำร้ายพี่สาวตัวเองเพื่อตำแหน่งนี้ไม่ใช่หรอ ตอนนี้แค่ถูพื้นนิดหน่อยก็ไม่ไหว แล้วหรอ”

น้ำเสียงของผู้ชายคีย์ต่ำๆ พูดอย่างไม่รีบไม่ร้อน

แต่คำพูดของเขา กลับทำให้ใจของเธอยิ่งอยู่ยิ่งเย็น ยิ่งอยู่ยิ่งเย็น

ใจดวงนี้ เธอคงไม่มีทางที่จะทำให้อุ่นแล้ว

ชมพู่พยายามห้ามอารมณ์ที่อยากอธิบายของตัวเอง ก็เลยยื่นมือไปเอาแก้วกาแฟบนโต๊ะที่ก๋องดื่มเมื่อกี้มาเพื่อ กลบกลืน แต่สีหน้าก็ยังไม่ได้เปลี่ยน “เพราะอย่างนี้นาย เลยเกลียดฉันหรอ

“เปล่า แบบนี้ดีแล้ว ฉันชอบคนที่ยอมทำทุกอย่าง เพื่อเป้าหมายของตัวเองมาโดยตลอด ฉะนั้นฉันหวังว่า เธอจะแสดงต่อไปได้ อย่ายอมแพ้กลางทาง เพราะไม่ว่า ยังไงชีวิตในตอนนี้เป็นถึงชีวิตที่เธอใฝ่ฝันมาโดยตลอด

“ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ตรงนี้เพื่อบอกเธอ ถึงแม่ฉันจะให้ เธอหักแขนข้างหนึ่ง เธอก็ต้องสามารถทำได้อย่างเด็ด ขาด”

ชมพู่ลุกขึ้นยืนเท้าเปล่าบนพื้น แล้วพูดว่า “ตอนนี้ฉันไม่อยากแสดงต่อไปแล้ว พวกเราหย่ากันเถอะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ