ฝืนชะตาชายาหยินหยาง

บทที่ 12 ไปที่ตำหนักจิ้นอัน



บทที่ 12 ไปที่ตำหนักจิ้นอัน

บทที่ 12 ไปที่ตำหนักจิ้นอัน

หมิงเยว่พูดปลอบใจให้นางสงบลงว่า: “พี่ช่วยจู ท่านอย่า ได้กลัวนักเลย อาจเป็นเพราะคืนนี้มีดมาก ท่านจึงตาฝาด มองผิดไป”

“จริงๆนะ เขายืนอยู่ข้างหลังข้า ไม่ เขายังมาปรากฏตัว อยู่ตรงหน้าข้า……….” ช่วยจูตกใจจนหน้าซีด มือที่จับแขน เสื้ออยู่ ค่อยๆยื่นเข้าไปจับมือของหมิงเยว่ไว้แน่น

“พี่ช่วยจู ทำไมมือของท่านจึงเปียกเช่นนี้?” อีกทั้งทำไม เวลานี้นางจึงมาปรากฏตัวอยู่ที่ทะเลสาบช่างชวน

ช่วยจูก้มลงมองที่มือของตัวเอง ยังคงสั่นเทา: “วันนี้ เป็นวันครบรอบการตายของพ่อแม่ข้า ข้าอยากจะมาที่ ทะเลสาบช่างชวนเพื่อลอยโคมไฟน้ำให้แก่พวกเขา แต่ ไปคิดว่าจะมาเจอเข้ากับ เจอกับ……” พูดแล้วก็เหมือนจะ ร้องออกมา

มีแสงวิบวับลอยอยู่เหนือผิวน้ำของทะเลสาบช่างชวน น่าจะเป็นโคมไฟน้ำของช่วยจู

จ้าวหมิงเยว่ตบที่แขนของนาง: “ไม่เป็นไรหรอก พี่ช่วย จูมีความกตัญญูเช่นนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะต้อง แคล้วคลาดปลอดภัยอย่างแน่นอน” จริงๆแล้ว นางก็ไม่เคยมีประสบการณ์ในการปลอบคนที่กลัววิญญาณชั่ว ร้าย ดังนั้นนางจึงเปลี่ยนเป็นพูดว่า “ท่านลอยโคมไฟน้ำ เสร็จหรือยัง? ถ้ายังไม่เสร็จ ข้าจะไปกับท่านเอง”

“เรียบร้อยแล้ว” ช่วยลูกลัวมาก ไม่อยากจะอยู่ที่นี่ต่อไป อีก

“สักประเดี๋ยวจะมีองครักษ์เดินลาดตระเวนมาจากห้อง โถงตะวันตก แล้วก็จะเดินผ่านไปยังห้องคนใช้ด้านหลัง ท่านเดินกลับไปกลับพวกเขาได้หรือไม่?” นี่คือแผนการ ลาดตระเวนขององครักษ์ที่หมิงเยว่ได้ยินในทุกๆวัน

ช่วยจูพยักหน้า แสดงออกถึงความงุนงงเล็กน้อย ห มิงเยวรอเป็นเพื่อนนางสักพัก หน่วยลาดตระเวนก็เดิน ผ่านมา

ก่อนที่ช่วยจูจะไป ได้กระซิบบอกหมิงเยว่ว่า: “หมิงเยว่ ในจวนท่านอ๋องไม่อนุญาตให้คนรับใช้ไว้ทุกข์ตามอำเภอ ใจ เจ้าจะช่วยข้าเก็บเรื่องนี้เป็นความลับได้หรือไม่?”

“อืม”

เมื่อเห็นนางเดินจากไปพร้อมกับหน่วยลาดตระเวน หมิงเยว่ก็ถือโคมไฟสีขาวขึ้น แล้วเดินเข้าไปใกล้ๆ ทะเลสาบช่างชวน ปิดตา ทำท่าประสานมือกระบี่ ผ่อนคลายหว่างคิ้วลง รวบรวมสมาธิมาที่ดวงดา เพื่อให้ดวงตา มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น และหูรับรู้เสียงได้ไวขึ้น และ สามารถมองเห็นถึงสิ่งผิดปกติได้

จ้าวหมิงเยวถือโคมไฟสีขาว เดินสำรวจตลอดทางเดิน โดยรอบสวนช่างชวน อย่าคิดว่าสิ่งที่นางถืออยู่เป็นเพียง แค่โคมไฟส่องสว่างธรรมดา แต่จริงๆแล้ว นางเขียนยาม ทิพย์แล้วม้วนใส่เอาไว้ในไส้ตะเกียง หากมีวิญญาณชั่ว ร้ายอยู่รอบๆ ตะเกียงก็จะดับลง

แต่แสงไฟยังคงเป็นปกติ

แต่เมื่อเดินมาถึงด้านนอกของตำหนักจิ้นอัน โคมไฟที่ถือ อยู่ในมือก็ดับลงทันที

หมิงเยว่หยุดเดิน มองดูและฟังเสียงในทุกทิศทุกทาง

“แคกๆๆ แคกๆ……แคกๆๆ……

มีเสียงไออย่างรุนแรงดังออกมาจากตำหนักจิ้นอัน ซึ่ง ฟังดูรุนแรงกว่าทุกครั้งที่เคยได้ยินมา เจ้าหมิงเยว่อดไม่ ได้ที่จะกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย เมื่อตอนกลางวันนางพูด ว่าอะไรนะ? เขาสุขภาพอ่อนแอ ขี้โรค ไม่ควรลงไปแช่ใน บ่อนํ้าเช่นใช่ไหม?

โดยปกติแล้ว ในเวลานี้พ่อบ้านโจวจะมาที่ตำหนักจิ้นอันหนึ่งครั้ง น่าจะเพิ่งจากไปได้ไม่นาน

แล้วนางสนใจหรือไม่สนใจ?

ไม่สนใจ

ถ้าหากเรื่องที่นางแอบดูการอาบน้ำไม่ได้ถูกเปิดเผยอ อกมา ก็คงจะเป็นการที่นางมาที่ต่าหนักจิ้นอันในยาม วิกาล ที่จะทำให้นางกลายเป็นนักโทษที่ต้องโดนลงโทษ

หมิงเยว่ก้าวเดินต่อไป ทันใดนั้นก็มีสายตาสีทองคู่หนึ่ง ปรากฏขึ้นบนผนังที่มืดมิด กำลังจ้องมองมาที่นาง เป็น เหมือนไข่มุกราตรีสองเม็ดในเวลากลางคืน ทําให้คนรู้สึก ขนลุกขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

เมียว………..

เป็นเจ้าแมวน้อยสีขาวนี่เอง ตอนกลางวันเพิ่งจะทำความ ผิดร่วมกันมา นี่คิดจะมาอีกแล้วหรือ? คงไม่ใช่ว่ามันยัง โกรธเคืองในเรื่องที่นางโยนมันลงมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้ว คิดจะกลับมาแก้แค้นหรอกนะ?

เจ้าแมวน้อยสีขาวตัวนั้นร้องเรียกแล้วหันมามอง มันหัน หลังกลับแล้วเดินไปตามผนัง เดินไปได้สามก้าวก็หันกลับ มามองนาง ทําเหมือนกับว่ากำลังชักชวนให้นางเข้าไปใน ตำหนักจิ้นอัน
“ข้าไม่เข้าไปหรอก…… ข้าไม่อาจยุ่งได้…… เจ้ามอง ข้า ข้าก็ช่วยอะไรไม่ได้” อ๋องเย่นมีคำสั่งลงมาว่า ใน คืนใส้เยว่ห้ามมิให้ใครเข้าไปในตำหนักจิ้นอ้น วันนี้นาง ทำความผิดไปครั้งหนึ่งแล้ว ถ้าหากถูกจับได้อีกละก็ แผนการของนางจะต้องพังทลายอย่างแน่นอน

เมี้ยว

“แคกๆๆ แค่กๆๆๆ…….

เสียงร้องเมี้ยว………

“ช่วยไม่ได้!” จ้าวหมิงเยว่ร้องบอก แล้วรวบผมขึ้น “บ้า เอ๊ย” ทำไมนางจะต้องใจดีและมีคุณธรรมเช่นนี้ด้วยนะ? จ้าวหมิงเยว่นำโคมไฟสีขาวที่ดับลง พาดไว้บนบ่า มอง ซ้ายมองขวาว่าไม่มีคน จึงแอบลอบเข้าไปในตำหนักจิ้ นอัน

เมื่อเข้าไปถึงห้องโถงใหญ่ ก็เหมือนกับเข้าไปในห้องที่ มีเครื่องปรับอากาศที่ปรับอุณหภูมิไว้อย่างต่ำ เป็นหมอผี ยิงหยางทำไมนางจะจับสัมผัสถึงเสียชีไม่ได้? คงไม่ใช่ว่า วิญญาณชั่วร้ายตนนั้น เข้ามาในตำหนักจิ้นอันแล้วนะ? ! นางทิ้งโคมไฟสีขาวลงแล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้อง

เป็นเงาสีดำที่หายไปต่อหน้าต่อตานางอย่างรวดเร็วอีก ครั้ง ชั่วพริบตาก็หนีออกมาจากห้องใน จ้าวหมิงเยว่ก้าวขาเพื่อที่จะตามไป………

เท้าเตะไปโดนใครบางคนที่ล้มลงอยู่ที่พื้น

ฝูเจ้าคนนั้น!

เขาล้มหมดสติอยู่ที่พื้นระฆังที่อยู่บนเท้า ส่งประกาย สีน้ำเงินที่ดูแปลกประหลาด จ้าวหมิงเยว่รีบฟังเสียง หายใจของเขา แล้วถอนหายใจ เขาเพียงแค่หมดสติไป เท่านั้น

แย่แล้ว ฉู่จื่อเย่นอยู่ที่นี่คยเดียว!

หมิงเยว่วางเด็กหนุ่มที่เป็นตัวแทนลง แล้วรีบเข้าไปใน ห้องนอนของฉู่จื่อเย่น

ในห้องห้องนี้โดยรอบ เหมือนมีน้ำค้างแข็งสีฟ้าเป็นชั้น เกาะอยู่

จ้าวหมิงเยวรีบวิ่งไปที่เตียง จับบ่าของฉู่จื่อเย่นแล้วเรียก ว่า “……อเย่น อ๋องเย่น!.

คนที่อยู่บนเตียงไม่ได้ตอบโต้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ