ฝืนชะตาชายาหยินหยาง

บทที่ 11 ค่าคืนอันน่ากลัว



บทที่ 11 ค่าคืนอันน่ากลัว

บทที่ 11 ค่ำคืนอันน่ากลัว

บนต้นไม้มีคน? !

ฉู่จื่อเย่นขยับคอเล็กน้อย หลังของเขาเริ่มแข็งที่อ

หมิงเยว่ที่กำลังตื่นตกใจ ก็รู้สึกว่าหลังแข็งทื่อขึ้นมาเช่น กัน นางมองเห็นเงาสะท้อนของตัวเองและแมวอยู่ในน้ำ และแน่นอนว่ามองเห็นเงาสะท้อนของฉู่จื่นเย่นในน้ำด้วย เช่นกัน

อีกทั้งสายตาของเขาและนางที่กำลังสะท้อนอยู่ใน น้ำ…..ประสานกัน!

ฉู่จื่อเย่นเงยหน้าของเขาขึ้นทันที

ตอนนี้เองที่หมิงเยวโยนแมวน้อยสีขาวที่อยู่ในมือลงไป บนหน้าของเขา แล้วรีบปีนลงจากต้นแพร์

“ใครน่ะ?”

ฉู่จื่อเย่นมองไม่ทันว่าเป็นใคร แมวตัวหนึ่งลอยลงมาจาก ฟ้าตกลงบนหน้าของเขา เขายื่นมือออกไปจับแมวไว้ เมื่อ เงยหน้าขึ้นไปมองหาคนกลับพบเพียงกิ่งไม้ที่สั่นไหว และมีลูกแพร์สีเหลืองลูกใหญ่หล่นลงมาหนึ่งลูก

สายลมเย็นเริ่มพัดขึ้นอีกครั้ง กิ่งก้านของต้นแพร่พลิ้ว ไหวไปมา แต่จริงๆแล้วบนนั้นว่างเปล่าไม่มีใคร

ฉู่จื่อเย่นจับแมวน้อยสีขาวที่อยู่ในมือชูขึ้น แล้วสบตากับ มัน ดวงตาของลูกแมวเปล่งประกายเหมือนกับระฆังสีทอง แวววาว จมูกและปากเป็นสีชมพู ดูแล้วช่างน่ารักน่าชัง เสียจริง เขามองมันแล้วยิ้ม

“เจ้าแมวน้อยช่างกล้าหาญนัก ที่กล้าแอบมาดูข้าอาบ น้ำ” เสียงของเขาช่างฟังดูอ่อนโยนเหมือนกับสายลมที่ โชยพัดเย็น

พูดจบก็เอาแมวเข้ามาอุ้มไว้ในอ้อมกอด มือที่เปียกปอน ของเขาลูบขนที่อ่อนนุ่มของมัน สายตายังคงหันไปมอง กิ่งไม้ที่ตอนนี้ไม่ได้สั่นไหวแล้วพักหนึ่ง แล้วลุกยืนขึ้นจาก

ชายหนุ่มรูปงามลุกขึ้นจากสระน้ำ แล้วหยิบเสื้อผ้าที่วาง อยู่ข้างๆ ค่อยๆห่อเจ้าแมวน้อยอย่างเบามือแล้วอุ้มขึ้นมา เขาเช็ดน้ำที่เปียกอยู่บนตัวของมันไปพลางเดินเข้าห้อง ไปพลาง

“แคกๆ แคกๆๆ……
เสียงไอของเขาค่อยๆหายไปที่ศาลาด้านนอก

ส่วนเจ้าหมิงเยว่ก็รีบย่องไปปิดประตูห้องหนังสืออย่าง เบามือ แล้วเดินเข้าห้องหนังสือไปพลางคิดไปพลางว่า จริงๆแล้วนางถูกจับได้หรือยังไม่ถูกจับได้กันแน่?

นางนำลูกแพร่ที่เหลืออยู่เพียงลูกเดียวออกมาจากอก เสื้อ แล้วถามตัวเองว่า จากหัวขโมยลูกแพร์จ้าวหมิงเยว่ กลับกลายเป็น หัวขโมยที่แอบขโมยดูเจ้านายอาบน้ำ เจ้า คิดว่าอย่างไร?

เฮ้อ คนยอมตายเพื่อได้เงิน นกยอมตายเพื่อได้อาหาร เมื่อคิดในทางกลับกันช่างไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย

นางเอาลูกแพร์เช็ดกับเสื้อ แล้วกัดเข้าไปในปากคำ โต จากนั้นก็นั่งลงที่โถงทางเดิน กางมือของตัวเองออก แล้วขยับนิ้วมือ จิตใต้สำนึกที่พานางหนีออกมาเมื่อครู่นี้ เหมือนจะทําให้สันทัดกรณีของนางฟื้นคืนมาเล็กน้อย

เมื่อจัดการกับลูกแพร์ที่อยู่ในมือเสร็จ ท้องฟ้าก็ค่อยๆมืด ลง จ้าวหมิงเยว่รู้สึกโล่งใจที่เจ้านายไม่ได้เรียกคนรับใช้ เข้าไปซักถามถึงเรื่องที่มีคนมาแอบดูเจ้านายอาบน้ำ

ดูเหมือนว่าเจ้าคนขี้โรคนั่นจะมองไม่เห็นอะไรเลยกลางคืนมืดมิด
บนท้องฟ้าไม่มีดวงจันทร์

คืนนี้เป็นคืนใส้เยว่

ดังนั้นคืนโส้เย่จึงถูกเรียกว่าเป็นคืนแห่งความมืดมิด และ เป็นคืนที่มีวิญญาณชั่วร้ายปรากฏตัวขึ้นบ่อยครั้ง หลังจากที่จ้าวหมิงเยว่เข้ามาทำงานในห้องหนังสือ เมื่อมี

เวลานางก็จะเข้าไปอ่านหนังสือในห้องหนังสือ

คนที่ทำหน้าที่ตีฆ้องบอกเวลาในคืนนี้ ได้ตีฆ้องบอก เวลาว่าถึงเที่ยงคืนแล้ว จ้าวหมิงเยว่กำลังนั่งอ่านประวัติ ทั่วไปของประเทศฉู่อยู่ในยามค่ำคืน มีสายลมยามค่ำคืน พัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดอยู่ ไฟที่ถูกจุดอยู่ในตะ เกียงค่อยๆเผาไหม้ไปเรื่อยๆ

เปี๊ยะ

จ้าวหมิงเยว่ใช้พัดเพื่อปัดไล่ยุง และยังคงเปิดอ่าน หนังสือหน้าต่อไป

คืนที่เงียบสงัด

ได้ยินเสียงของจิ้งหรีด
หมิงเยว่อ่านอย่างใจจดใจจ่อ ตะเกียงน้ำมันที่อยู่ด้าน ข้างเริ่มสั่นไหว นางจึงเงยหน้าขึ้น มองออกไปนอก หน้าต่าง

เปลวไฟที่อยู่ในตะเกียงเริ่มสั่นไหวอีกครั้ง

หรือนี่จะเกี่ยวข้องกันการฟื้นตัวของสันทัดกรณี นี่นับ เป็นครั้งแรกตั้งแต่นางอยู่ในจวนอ๋องเย่น ที่นางสามารถ สัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของลมปีศาจ

จ้าวหมิงเยวผลักหนังสือเล่มที่อยู่ตรงหน้าเข้าไปไว้ข้าง ใน ลุกขึ้น แล้วเดินออกจากห้องหนังสือ ยกโคมไปสีขาว ขึ้นแล้วเดินออกจากห้องหนังสือ

มีเงาสีดาพุ่งมาจากสวนช่างชวน ผ่านไปที่ทางเดินแล้ว หายไป หมิงเยวรีบถือโคมไฟตามไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อผ่านทะเลสาบช่างชวน มีร่างของคนคนหนึ่งวิ่งเข้า มาอย่างทุลักทุเลและเกือบจะชนเข้ากับนาง คนที่เกือบจะ กรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียงพยายามใช้มือปิดปากของ ตัวเองไว้อย่างแน่นหนา ในแววตาเต็มไปด้วยความหวาด กลัว จากนั้นนางก็จับแขนเสื้อของหมิงเยว่ไว้แน่น

“หมิง หมิงเยว่ ข้าเห็น……………….

ผู้หญิงที่กำลังตกใจกลัวจนพูดจาไม่รู้เรื่องคนนี้ก็คือ*ไม่ต้องรีบร้อน เจ้าค่อยๆพูด ”

“ดูเหมือนว่าข้าจะเห็น…..เห็นเสี่ยวเกาแล้ว..…….……..

เสี่ยวเกาคือใคร?

“ข้าเคยบอกไปแล้วว่า คำสาบกลับมาอีกแล้ว ครึ่ง ปีมีคนตายไปแล้วสองคน หนึ่งร้อยวันหนึ่งคน คนแรกคือ คนรับใช้ผู้ชายที่ทำหน้าที่ส่งอาหารชื่อเสี่ยวเกา มาตอนนี้ ก็สาวใช้ที่มีหน้าที่ส่งอาหารที่ชื่อชวนหลิง!”

จ้าวลิ่วเคยพูดถึงชื่อของเสี่ยวเกา เป็นหนึ่งในคนที่ต้อง ตายเพราะคําสาบของฮ่องเย่น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ