บทที่5 รวบรวม
“รับทราบแล้ว ต่อไปนี้จะไม่มีเจ้าเมืองซีซางอีกต่อไป
นําหนักที่พักเจ้าเมือง ชาง
ภายในห้องพักเจ้าเมือง ชายวัยกลางคนกำลังนอนอยู่บน เตียง ด้วยอารมณ์ ความสุข ที่ด้านข้างมีสาวหน้าตาสวยงาม นอนเปลือยเปล่า กำลังนอนร้องไห้อยู่บนเตียง
“ท่านเจ้าเมือง ท่านได้สิ่งที่ท่านต้องการไปแล้ว ถึงเวลาที่ท่าน ต้องทำตามสัญญา ปล่อยสามีข้าไป
“ฮา ฮา ฮา นําตัวมันเข้ามา!!
ป้งง เสียงประตูเปิดออก มีคนที่ถูกล่ามโซ่ ล็อกกุญแจมือ ถูก คุมตัวเข้ามาในห้อง สาวคนนั้นตกใจรีบเอาผ้าห่มมาคลุมตัวไว้ อย่างมิดชิด ใครเข้ามากัน
ชายคนนั้นถูกล่ามโซ่ หน้าตาผอมแห้ง แต่งตัวคล้ายบัณฑิต มือสั่นหายใจติดขัด มองตาไปข้างหน้าด้วยความตกใจ
“ภรรยา นี่เจ้า า ”
“สามี!!! ท่านเจ้าเมืองท่านสัญญาแล้ว ปล่อยสามีข้าไปได้ โปรด ท่านได้สิ่งที่ท่านต้องการไปแล้ว ท่านต้องการอะไรอีก นางพูดด้วยใบหน้าที่น้ำตาไหลจากดวงตาจนเต็มใบหน้า
เจ้าเมืองมองไปที่คนที่คุมตัวบัณฑิตหนุ่มเข้ามา พยักหน้าเล็กน้อย ชายคนนั้นรวบรวมลมปราณที่ฝ่ามือ ตบลงไปที่ศีรษะ บัณฑิต ง ง ศีรษะระเบิดออกไม่มีเหลือ กลายเป็นร่างที่ไร้ศีรษะ เลือดนองลงเต็มพื้น
“สามี !! ไอ้สารเลว! พวกข้าไปทำอะไรให้เข้ากัน พวกข้าแค่ เดินตามท้องถนนเหมือนคนปกติ ก็ถูกพวกเจ้าจับกุมตัวมา ใส่ ร้ายป้ายสีพวกข้า บังคับข่มเหงพวกข้า ข้าขอสาปแช่งพวกเจ้า ให้ตายไม่มีที่ฝัง
นางพูดเสร็จ ก็วิ่งเอาหัวพุ่งไปชนกำแพง ศีรษะยุบลง เลือด ทะลักออก กล่าวเสียงเบา
“สามีข้าจะตามไปอยู่กับเจ้าแล้วนะ..
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ช่างเป็นคู่สร้างคู่สมจริงๆ หวังว่าพวกเจ้าจะได้รัก กันต่อในชาติภพหน้านะ
เจ้าเมืองที่กำลังอารมณ์ดีอยู่นั้น อยู่ๆ ก็รู้สึกร่างกายเป็น อัมพาต ขยับร่างกายไม่ได้ หันไปมองผู้คุมที่คุมตัวนักโทษเข้ามา ล้มพับไปกับพื้น เจ้าเมืองตกใจพยายามรวบรวมลมปราณที่คอ เป็นกระบอกเสียงหวังตะโกน ร้องขอคนช่วยเหลือ
แบบ! เงาแสงวาบผ่านลำคอเจ้าเมืองไป หุบ บ! หัวเจ้าเมือง ล่วงหล่นลงบนพื้น เลือดพุ่งออกจากลำคอ ร่างเงาสีดำ สวมชุดสี ดมิดชิด สวมหน้ากาก บนหน้ากากมีหลายเลข อยู่บนหน้ากาก
มีเงาร่างปรากฏตัวขึ้นคุกเข่าข้างเดียว ก้มหน้า สวมหน้ากาก หมายเลข 4 และ หมายเลข 7
“จัดการคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด
หมายเลข กล่าว
“เข้าใจแล้ว”
วันรุ่งขึ้น ข่าวแพร่กระจายไปทั่วเมืองซีซาง เรื่องการเสียชีวิต เจ้าเมือง เรื่องที่เจ้าเมืองกระทำผิดอย่างลับๆแพร่กระจายออกไป ทั่วเมือง ผู้คนถกเถียงเรื่องนี้กันไปทั่ว ผู้คนเริ่มรู้จักสมาคมลอบ สังหารมากขึ้น ผู้คนต่างหวาดกลัวและเคารพในเวลาเดียวกัน
“ข้าบอกแล้วกระทำแบบมันต้องไม่ตายดี ”
“โชคดีนะที่มันตายเมื่อวาน ข้ากะว่าคืนนี้จะบุกไปฆ่ามันอยู่ แล้ว”
“ขอบเขตปราณสะสม ขั้น 2 อย่างเจ้า ยามเฝ้าประตูหายใจ เจ้าก็กระเด็นแล้ว อวดเก่งจริงๆ”
ตระกูลเซียว
เชียวเย นั่งอยู่ในตำหนัก กำลังจิบชาอย่างสบายใจ มองไปที่ ปลาที่กำลังเหวกว่ายอยู่ในน้ำ กล่าวคิดในใจ
ผู้คนเริ่มหันไปใช้บริการของสมาคมมากขึ้น ไม่ว่าจะให้ฆ่า คนสมควรตาย หรือคนที่ไม่สมควรตาย เพื่ออำนาจบารมี ทุกคน ล้วนถวิลหา คอยแต่ป่าวประกาศว่าตนเองเป็นผู้นำความยุติธรรม ลับหลังค้าประเวณี ข่มขืนสตรี เอาเปรียบคนด้อยกว่า กำจัดคนที่ขวางทางตนเอง ไม่ว่าโลกไหนก็ล้วนไม่ต่างกัน
“หมายเลข0..”
เขียวเข่กล่าวออกมาเสียงเบา
บบ มีเงาร่างปรากฏที่ด้านหลังกล่าวเสียงเงียบ
“นายท่าน…”
“ระดับพลังของผู้นำตระกูลหลักของเมืองกวางตุงและเรื่องที่ ทําลับหลังบอกมาอย่างละเอียด”
“รายงานนายท่าน สามตระกูลได้ยกให้ ผู้นำตระกูลหลงเป็น ผู้นำแล้ว ตอนนี้หลงซานที่อยู่ขอบเขตเต๋าสะสมขั้นที่ 2 ผู้นำ อีก2ตระกูล เจียงหนาน กับ หลิวหยวน อยู่เต๋าสะสมขั้นที่ 1 ผู้นำ ตระกูลทั้ง3แอบคอยตามสืบผู้ค้าขายอาวุธออย่างลับๆและยัง ใช้บริการสมาคมเราให้ฆ่าคนเพื่อผลประโยชน์ของตระกูลหลาย สิบครั้ง รายงานข้าจดไว้ให้ท่านในตำราไว้แล้ว ส่วนเรื่องกอง กำลังของตระกูล ถ้าร่วมมือกันเราในตอนนี้ ยังสู้ไม่ได้ขอรับ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าจะคิดมากไปทำไม ข้าพึ่งจะ11ขวบปีเท่านั้น เจ้า คิดว่าเด็กอย่างข้าจะไปทำเรื่องอะไรร้ายแรงแบบนั้นได้อย่างไร ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา แล้วงานที่ข้าสั่งเรื่องนั้นหล่ะ”
หมายเลข ที่คุกเข่าข้างเดียว ก้มหน้า ถอดแหวนมิติ ยื่นให้ เซียวเย ด้วยความนอบน้อม
“เราได้รวบรวมตำราต่างๆ จากศพของคนตาย รวมถึงหาซื้อมาทั่วสารทิศจากแผ่นดินต้าเชียง นายท่านต้องการหินปราณที่ เป็นรายได้จากสมาคมด้วยรึไม่?”
เขียวเย่รับแหวนมากล่าว
“ไม่ต้อง เก็บไว้เป็นเงินทุนของสมาคมเถอะ เด็กอายุ11จะพก เงินไว้ทำไมเยอะแยะหล่ะ ขอบใจเจ้ามาก ไปทำงานเถอะ
เขียวเยกลับมาที่ห้อง สั่งคนรับใช้ว่าจะเก็บตัวฝึกยุทธห้าม ใครรบกวน นั่งขัดสมาธิหยิบแหวนที่หมายเลข0 ให้มา ส่งพลัง ปราณไปตรวจสอบภายในแหวน พบตำรามากมาย นับ1000ตารา
ตำราฝึกเคล็ดบ่อเพาะ เคล็ดวิชาต่อสู้ต่างๆ ความรู้เรื่องเต๋า สะสม ล้วนอยู่ภายในแหวน เซียวเย่ ใช้พลังปราณแทนสายตา คลุมตำราพวกนั้นเอาไว้ เดินพลังสมองถึงขีดสุด ทำความเข้าใจ ลึกซึ้ง1ตำราเพียงชั่วครู่
1 เดือนผ่านไป
ในห้องเซียวเย่ นั่งขัดสมาธิอยู่ เริ่มลืมตาขึ้นมาช้าๆ “เห้ออ เหนื่อยจริงๆ อ่านตำราแบบนี้ติดต่อกันยาวๆน่าเบื่อเกินไปแล้ว” เซียวเยอุทานออกมาด้วยความเบื่อหน่าย
อย่างแรกข้าต้องดัดแปลงวิชาบ่มเพาะของข้า ให้สมบูรณ์ยิ่ง ขึ้นเสียก่อน’
คิดแล้วก็นั่งสมาธิ รวมรวมภาพในหัวสมองซ้อนทับกันขึ้นมา ในหัว โดยมีเคล็ดบ่มเพาะเดิมเป็นต้นแบบ ซ้อนทับกันมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ และเรื่อยๆ
การเดินลมปราณที่ต่างกัน การรวมลมปราณก่อนและหลัง ของแต่ละตำราบ่มเพาะ ได้ถูกนำมาดัดแปลงและแก้ไขในส่วนที่ ดีอยู่แล้วให้ดีขึ้นไปอีก 1 ชั่วยาม เซียวเยจึงลืมตา
“เคล็ดบ่อเพาะระดับพิภพ ขั้นต้น! ยอดเยี่ยมจริงๆ จอมยุทธ์ ขั้นเต่าสะสมคือ คือการใช้ลมปราณโดยรอบดัดแปลงให้กลาย เป็นพลังงานธาตุ โดยใช้ลมปราณ ในตันเถียนที่เป็นพลังงานได้ ธาตุที่ผ่านการเลี้ยงด้วยตันเถียนแล้ว ที่ไม่สามารถมองเห็นด้วย สายตา แปลสภาพกลายเป็นเห็นด้วยสายตาเป็นธาตุต่างๆ แต่ ถ้าทำแค่แบบนั้นจะใช้เวลานานจนเกินไป ข้าคงต้องเสาะหาเดิน ทางทั่วแผ่นดินอะไรแบบนี้สินะ…ถ้าตันเถียนอยู่กึ่งกลาง ก็เหมือน จะมีบริวารเป็นเต๋า อยู่รอบๆตันเถียน เพิ่มขึ้นที่ละเต๋า จนมี 9 เต๋า ผู้ฝึกยุทธ์ ทั่วไปจะฝึกเต๋าเป็นธาตุเดียวกันทั้งหมด หรือไม่ก็ธาตุ เพราะถ้ามากกว่านั้นจะทำให้เฒ่าไม่แข็งแกร่ง ฝึกไปก็จะโดนคน อื่นตบเอาซะเปล่าๆ มันไม่มีวิธีอื่นเลยรึไงกัน ทำไมข้าไม่มีไอ้สกิล พระเอกที่มันฝึกได้หลายๆธาตุหรือว่าฝึกเต๋าได้100เต๋าอะไรแบบ นี้บ้าง จะไม่ส่งอะไรมาช่วยข้าเลยรึไงกัน แล้วจะส่งข้ามาเกิดใหม่ ทำไม ดีนะที่ข้าเป็นอัจฉริยะกลับมาเกิด ลองฝึกดูก่อนก็แล้วกัน มี แค่นี้ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย แล้วค่อยแก้เปลี่ยนจุดส่งให้ท่านปู่กับ ท่านพ่อ”
พูดไปบ่นไปเสร็จเซียวเก็หลับตาบ่มเพาะ
ลมปราณโดยรอบรวมตัวกันที่เซียวเยอย่างรวดเร็ว ตำราเล่ม ก่อนหน้าทำให้เห็นเป็นลมปราณรอบตัวเซียวเยตำราเล่มนี้ก็เหมือนกันแต่มันไม่ยอมเขียวตกใจ ตัดสินใจสะบัดมือปล่อยปราณกองมหาศาล ออกมาเต็มห้อง จากแหวนมิติ ลมปราณรวมตัวกันรอบตัว เขียวเข่ขาวสีขาวจยเป็นเทา
“ถ้าบ่มเพาะโดยตูดแค่พลังงานโดยรอบนี้ต่อไปไม่ได้ต้องใช้หินปราณควบคู่ไปเพื่อให้เคล็ดเพาะนี้งาน ได้สุด
รวบรวมได้แล้วเซียวเก็กลืนลมปราณเทาเข้าไป เหมือนหลุมมันเดินทางผ่านทางชีพจร เหมือนพายุ เหมือนว่า เส้นชีพจรเล็กไปสำหรับมัน ทำให้มันโมโห โวยวายตลอดการ เดินทางตันเถียน เซียวเย่รู้สึกเจ็บปวด
‘เจ็บปวดทั่วร่างกายไปหมด เหมือนมีใครมาทุบตามร่างกาย ของข้า ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เส้นชีพจรพอโดนมันอาละวาดเริ่มขยายออกขยายออก สิ่ง อุดตันในเส้นชีพจรอยู่ต่อหน้ามันถูกมันทำลายลงไม่เหลือ
พอมาถึงตันเถียนมันก็ไม่หยุดโมโห มันถาโถมลงไปตัน เถียนอย่างรวดเร็ว เหมือนพยายามจะทำลายตันเถียนด้าน ในเป็นชิ้น
เขียวเข่ลมปราณที่เหมือนกำลังโมโหห่อหุ้มตันเถียนระเบิด
ตันเถียนทำอะไรไม่แต่ขยายออกมากขึ้นๆ ถ้ายุทธ์ทั่วไปถ้าไม่ได้ใช้เคล็ดบ่อเพาะมารทมิฬของเซียวเ พยายามฝึกยุทธ์ให้ตายก็คงกว้างไม่เกิน 45จังในขั้น ถ้าเป็นผู้ มีพรสวรรค์ ก็คงไม่เกิน90จัง
แต่เซียวเยตอนนี้อยู่ชั้น680ทั้งเข้าไปแล้ว แล้วยังคงขยายไป เรื่อยๆ 85.90…95…100!! เซียวเย่เริ่มรู้สึกว่าไม่อาจฝืนทนมัน ได้อีก ลมปราณที่ถูกล่อเลี้ยง โดยตันเถียนระเบิดออกมาจาก ภายในไหลไปตามร่างกาย เลี้ยงดูให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น ดำเนินอยู่อย่างนั้น จนผ่านไป2วันเซียวเยจึงลืมตาขึ้น
“ขอบเขตปราณสะสมขั้นที่ 7 !! อายุ11ขอบเขตปราณสะสมชั้น ที่7 นี่ข้ามันอัจฉริยะเกินไปแล้ว ผู้มีพรสววรค์ทั้งหลายบนแผ่นดิน ต้าเชียงเอ๋ย รอจนขาอายุ15ก่อนเถอะ ข้าจะผงาดให้ยิ่งกว่ามังกร ไปเลยย ฮา ฮา ฮา”
เซียวเย่เริ่มเขียนตำราให้พ่อกับปู่ของตนเองและของกอง กำลังเงาชู
“หมายเลข !!”
บบ เงาสีดำปรากฎขั้นด้านหลัง
“เจ้าเอาตำรานี้ไปให้ท่านพ่อกับท่าน ส่วนอันนี้ของเจ้ากับ กองกำลังเงา ตำรานี้จะทำให้พวกเจ้าฝึกจนถึงขั้นเต่าสะสมได้ ถึงขั้นนั้นเมื่อไหร่ข้าจะมอบเคล็ดวิชาให้อีกที อ่อ พวกเจ้าทั้งหมด จงบ่อเพาะเต่าแห่งความืดซะ ที่เหลือข้าจะจัดการเอง คอยหา เคล็ดวิชาต่อไป ร่วมถึงข่าวสารผู้มีพรสวรรค์ทั้งหมด แล้วพวกที่ ต่อหน้าที่ดีต่อสังคม ลับหลังเน่าเฟะ มาให้ขาด้วย ถ้าฆ่าได้ก็ฆ่าเลยไม่ต้องไปป่าวประกาศอะไรไร้สาระ พวกเราก็ไม่ใช่คนตีกัน อยู่แล้ว ไม่จําเป็นต้องให้ใครมารักเรา แต่ถ้าฆ่าไม่ได้ รอเสีย หน่อย ข้าจะไปเยี่ยมเยียนด้วยตนเอง”
นายท่านคิดจะทำอะไรกันแน่…แต่ว่า…ข้ามาถึงตรงนี้ได้ก็ เพราะนายท่านต่อให้นายท่านจะพาข้าไปตาย…ข้าก็จะไม่ เสียใจ!
“รับทราบ”
หมายเลข กล่าว
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ