บอกรักฉันที ยัยปากแข็ง

ตอนที่ 9 ร่วมเตียงเคียงหมอน



ตอนที่ 9 ร่วมเตียงเคียงหมอน

ป่ายบิงเวยกลับถึงคฤหาสน์ตระกูลหลิน ได้ทักทาย คุณปู่ตระกูลหลินแล้วกลับไปที่ห้องนอน เปิดม่านใน ห้องนอนแล้วเปิดหน้าต่าง ดูบรรยากาศในคฤหาสน์ คฤหาสน์ตระกูลหลินเป็นเหมือนสวนคฤหาสน์ขนาด กว้างใหญ่เสียมากกว่า

รอบคฤหาสน์ล้วนเป็นพื้นหญ้าที่เขียวขจี เต็มไปด้วย ดอกไม้ต้นไม้พันธุ์แปลกๆมากมาย ด้านทิศตะวันออก ของคฤหาสน์ ยังมีผืนป่าขนาดเล็ก

ดูแสงตะวันยามเย็นสุดขอบฟ้า ป่ายบิงเวยคิดเกี่ยว กับเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ด้วยความบังเอิญ ตัวเองได้กลายเป็นภรรยาของท่านประธานบริษัทRT ธุรกิจยักษ์ใหญ่ วันนี้ยังไปเจอ หลินจื่อซีกับแฟนนาง แบบของเขาอยู่ด้วยกัน เป็นละครตอนที่ เมียหลวงไป จับชู้ ช่างสมจริงเหลือเกิน

ผู้ชายอย่างหลินจื่อซี ที่รวยหน้าตาหล่อมีความ สามารถอย่างนี้ ไม่รู้คุณหนูไฮโซดารานางแบบมาก เพียงใด ที่อยากขั้นเตียงของเขา แค่ติงมั่นลี่คนเดียว ก็เครียดพอแล้ว การเป็นภรรยาของเขาไม่ใช่เรื่องที่มี ความสุขอย่างแน่นอน

โชคดีตัวเองแค่แต่งงานปลอมๆกับเขา ถ้าแต่งงาน จริง คงต้องเสียใจตายแน่

ดูตะวันตกดิน นกอพยพย้ายถิ่นสองสามตัวบินผ่านแสงอาทิตย์ยามเย็น สุดท้ายป้ายบิงเวยก็ขี้เกียจไป คิด หลับตาลงอย่างผ่อนคลาย เพลิดเพลินไปกับความ อบอุ่นของตะวันลับขอบฟ้า

หลินจื่อ ที่กลับถึงบ้าน เปิดประตูห้องนอน ก็เห็นคน งามยืนเหม่อลอยอยู่ข้างหน้าต่าง ชุดกระโปรงขาวทั้ง ตัว ผมดำเงางามที่ยาวถึงเอว ใบหน้าที่สวยใสอยู่ภาย ใต้แสงอาทิตย์ตก ให้ความรู้สึกที่แตกต่าง

“เธอคิดอะไรอยู่?” ป่ายบิงเวยที่หลงใหลไปกับตัวเอง ได้ยินเสียงทุ้มลึกของผู้ชายจากด้านหลัง รู้ว่าคือหลิน จื่อ กลับมาแล้ว ปิดหน้าต่างหันหน้ายิ้มให้หลินจื่อซี “คุณหลิน คุณกลับมาแล้ว”

“เรียกฉันจื่อซีดีกว่า เราคือสามีภรรยากัน…..” หลิน จื่อซีถอดเสื้อสูทของตัวเองออก พร้อมกับมองป้าย บิงเวยแล้วยิ้มพูด “หวังว่าดูจากสายตาของคนนอก เรา จะเป็นคู่สามีภรรยาที่รักใคร่กัน”

ป้ายบิงเวยเดินเข้าไปรับเสื้อสูทที่หลินจื่อซีถอดลงมา แขวงใส่ไม้แขวนเสื้อ “ได้ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว จื่อซี” ได้ยิน เสียงอ่อนโยนนุ่มละมุนเช่นนี้ของป้ายบิงเวย กำลังเรียก ชื่อตัวเองอยู่ ในใจหลินจื่อซีมีกระแสประหลาดบาง อย่างพาดผ่านไป

“ต่อไปฉันเรียกเธอบิงเวยแล้วกัน” หลินจื่อซีเดินไป ตรงหน้าป้ายบิงเวยแล้วจับมือเธอไว้ “ลงไปกินข้าวกัน เถอะ”
บนโต๊ะกินข้าว คุณปู่ตระกูลหลินตักกับข้าวให้ป้าย บิงเวยไม่หยุด “บิงเวย ต่อไปที่นี่ก็คือบ้านของเธอ อย่า เกรงใจนะ..” ตั้งแต่ป่ายบิงเวยเข้ามาอยู่ในบ้านตระกูล หลิน สุขภาพของคุณปู่ตระกูลหลินเหมือนดีขึ้นมาก รอยยิ้มบนใบหน้าก็สดใสขึ้น หลินจื่อซีเห็นคุณปู่ดีใจ ก็ รู้สึกโล่งใจมาก

ตกปลาให้ป้ายบิงเวยอย่างอ่อนโยน ยิ้มแล้วพูดตาม “บิงเวย กินเยอะหน่อยนะ” ป้ายบิงเวยก้มหน้าลงเงียบๆ กินข้าวของตัวเองอย่างเงียบสงบ ระหว่างนั้นหลินจื่อซี กับคุณปู่ตระกูลหลินก็คุยเรื่องทั่วไป หลังกินข้าวเสร็จ ป่ายบิงเวยอ้างว่าเธอเหนื่อยแล้ว จึงได้กลับห้องไปพัก ผ่อน

แกล้งแสดงว่ารักกันมากกับหลินจื่อซี ต่อหน้าคน ตระกูลหลิน ช่างทำให้หัวใจคนเหนื่อยเสียจริง วุ่นวาย ทั้งวัน รู้สึกเหนื่อยล้าจนถึงขีดสุดไปทั้งตัว ป้ายบิงเวย เปลี่ยนชุดนอน เปิดไฟห้องน้ำ เตรียมล้างหน้าแปรงฟัน แล้วรีบเข้านอน ห้องนอนของหลินจื่อซีใหญ่มาก ห้องน้ำ ก็กว้างจนหมดคำบรรยาย

ร่างที่เหนื่อยล้าของป่ายบิงเวย ดูอ่างจากุชชี่นั้น รู้สึก อยากแช่น้ำฟองสบู่ขึ้นมาทันที ดังนั้นก็ได้เปิดน้ำเต็ม หลังจากเติมน้ำมันหอมระเหยและเจลฟองสบู่ เดิน เข้าไปนอนในอ่างอย่างสบาย มองไปที่ปุ่มกดรอบๆ อ่างอาบน้ำแสนหรูหรา “มีฟังก์ชันเยอะนะเนี่ย” ยังมี โหมดดนตรีด้วย ตอนที่อยู่ตระกูลป้าย ตัวเองยังไม่มี อ่างอาบน้ำที่สมาร์ตขนาดนี้ หลินจื่อซีนี่รู้จักใช้ชีวิต จริงๆเลยนะ
ป่ายบิงเวยตัดสินใจที่จะสัมผัสอย่างเพลิดเพลินไป กับอ่างอัจฉริยะนี้ แตะไปที่โหมดดนตรี เสียงดนตรีที่ ไพเราะเสนาะหูก็ได้ดังขึ้น ป่ายบิงเวยหลับตาลงอย่าง สบายอกสบายใจ เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาที่ผ่อน คลายนี้

หลังจากที่คุณปู่ตระกูลหลินกลับห้องไปพักผ่อน หลิน จื่อซีก็ได้กลับไปที่ห้องนอน เห็นไฟในห้องน้ำเปิดอยู่ รู้ ว่าป้ายบิงเวยกำลังอาบน้ำอยู่ เลยนั่งดูนิตยสารการเงิน บนโซฟาพักผ่อนหน้าเตียง นิตยสารการเงินทั้งเล่มจะ อ่านหมดแล้ว

ป้ายบิงเวยยังไม่ออกมา หลินจื่อซีรู้สึกหงุดหงิดเล็ก น้อย

เดินไปที่ประตูห้องน้ำ เคาะประตู ป่ายบิงเวยเปิด โหมดดนตรีไว้ จึงไม่ได้ยินเสียงใด ๆ เห็นว่าไม่มีใคร ตอบรับ หลินจื่อซียิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ “เธอกำลัง ลอกคราบหรือ? ครึ่งวันยังไม่ออกมา”

ยังไม่มีเสียงตอบรับเช่นเดิม หลินจื่อซีส่ายหัวเซ็งจน หมดคำพูด ไปที่ห้องแต่งตัวสวมชุดนอนผ้าไหม หลัง จากกลับมา พบว่าผู้หญิงคนนั้นยังไม่ออกมาอีก ในใจ นึกไม่ดีขึ้น คงไม่ใช่ว่าเป็นลมอยู่ในห้องน้ำนะ รีบเดินไป ที่ลิ้นชักข้างเตียง หยิบกุญแจเล็กดอกหนึ่ง เปิดประตู ห้องน้ำ

ป่ายบิงเวยที่แช่น้ำจนพอใจ ก็ได้ลุกขึ้นเช็ด ร่างกายพอดี ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงลมหนาวพาดผ่านหลินจื่อซีเปิดประตูเข้ามา แล้วมองดูเธอนิ่งตะลึง “อ๊าก…….อ๊าก…อ๊าก….คุณเข้ามาทำไม?” ป้ายบิงเวยรีบ ปกปิดตัวเองด้วยผ้าเช็ดตัว

หลินจื่อซีพูดด้วยความโกรธ “ เรียกเธอไม่ได้ยินหรือ ไง?” ป้ายบิงเวยเห็นเวลาบนอ่างอาบน้ำเป็นเวลา 50 นาที ตัวเองได้แช่นานถึง 50 นาที พูดอย่างรู้สึกผิดเล็ก น้อย “เอ่อ ฉันจะออกไปทันที”

หลินจื่อซีเตรียมที่จะล้างหน้าแล้วรีบพักผ่อน เพิ่งเดิน เข้าไปในห้องน้ำ เหยียบน้ำฟองสบู่ที่ป้ายบิงเวยทำเลอะ บนพื้น ทรงตัวไม่อยู่ ป้ายบิงเวยเห็นว่าหลินจื่อซีกำลังจะ ล้มลง ก็เอื้อมมือออกไปช่วยพยุงเขา ไม่คาดคิดว่าขาด สมดุล สุดท้ายทั้งสองล้มลงไปในอ่างอาบน้ำด้วยกัน

ป้ายบิงเวยดื่มน้ำฟองสบู่เข้าไปหลายคำ ในอ้อมกอด กว้างของหลินจื่อซี รีบลุกขึ้น ดึงหลินจื่อซีที่อยู่ในน้ำขึ้น มา “จื่อซี คุณไม่เป็นไรใช่ไหม”

หลินจื่อซีชุดนอนเปียกหมด ชุดนอนผ้าไหมติด แนบร่างกำยำของหลินจื่อซี เผยให้เห็นถึงเรือนร่างที่ แข็งแกร่งของเขา

ป้ายบิงเวยมองหลินจื่อซีที่เปียกโชกไปทั้งตัวอย่าง อ่อนไหว รู้สึกตกใจเล็กน้อย พูดออกมาอย่างควบคุม อารมณ์ไม่อยู่ “ใส่ผ้าดูดี ถอดผ้าหุ่นดีจริงๆเลยนะเนี่ย” หลินจื่อซีมองเธอตาขวาง “เอาเสื้อผ้ามาให้ฉัน” ป้าย บิงเวยจึงจะรู้สึกตัว วิ่งพุ่งไปที่ห้องแต่งตัว เอาชุดนอน หนึ่งชุดให้หลินจื่อซี จากบรรดาชุดนอนมากมายของเขา

หลังจากได้รับเสื้อผ้า หลินจื่อซีปิดประตูห้องน้ำอย่าง หน้าบึ้ง ป่ายบิงเวยรู้ว่าหลินจื่อซีไม่พอใจเล็กน้อย ก็ไม่ กล้าที่จะพูดอะไรมาก

ดึงผ้าห่มนอนลงบนเตียงโดนทันที ตั้งแต่พวกเขากลับ มาจากต่างประเทศ หลินจื่อซีก็งานยุ่งตลอด น้อยนักที่ จะกลับบ้านมาพักผ่อน เพื่อตบตาคุณปู่ พวกเขาจึงไม่ สามารถที่จะนอนแยกห้องกันได้

ถึงแม้ว่าครั้งแรกที่เจอกัน ตัวเองกับเขาก็เคยนอน อยู่ในห้องเดียวกันแล้ว แต่ตอนนี้ป่ายบิงเวยยังคงรู้สึก ตื่นเต้นประหม่าเล็กน้อย ในสมองจินตนาการเพ้อเจ้อ ถึงภาพที่ไม่สามารถบรรยายได้ เอื้อมมือไปปิดไฟดวง ใหญ่ของห้องนอนที่หัวเตียง มืดสนิทขึ้นมาในทันใด ใน ความมืด ป้ายบิงเวยยังคงจ้องมองไปที่ห้องน้ำ

เห็นหลินจื่อซีเดินออกมาพร้อมกับเช็ดหัวที่เปียกน้ำ ด้วยผ้าเช็ดตัว ป้ายบิงเวยหลับตาทันทีแกล้งทำเป็น หลับ หลินจื่อซีมองห้องที่ห้องมืดสนิท คิดว่าเธอน่าจะ หลับไปแล้ว เลยเดินไปอีกฝั่งของเตียงแล้วนอนลงเบาๆ รู้สึกถึงเตียงข้างหนึ่งมีน้ำหนักจมลงมา ป้ายบิงเวยรู้ว่า หลินจื่อซีนอนลงมาแล้ว

ฟังเสียงหายใจของหลินจื่อซี หัวใจป่ายบิงเวยเต้น เสียงดังอึกทึก เสมือนฝูงม้านับหมื่นวิ่งพุ่งโจนทะยานไป มา ใบหน้าน้อยๆก็ร้อนผ่าวแดงก่ำ หลินจื่อซีสัมผัสได้ ถึงเสียงหายใจระรัวของคนข้างกาย รู้ว่าเธอยังไม่หลับ”มือยังเจ็บอยู่ไหม?”

ป้ายบิงเวยปรับลมหายใจชั่วครู่ แล้วพูดอย่างแผ่ว เบา “ ไม่เป็นไร แค่เคล็ดขัดยอกนิดหน่อย” หลินจื่อซีดึง ป่ายบิงเวยเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเอง “ในเมื่อเคล็ด ขัดยอก ก็อย่านอนตะแคง”

ป้ายบิงเวยพยายามดิ้นหนี แต่มือของหลินจื่อซีเป็น เหมือนห่วงเหล็ก ป้ายบิงเวยก็ต้องยอมจำนนโดยดี

“นอนเถอะ ฉันไม่ทำอะไรหรอก” หลินจื่อซีพูด ปลอบโยน “อืม” ป้ายบิงเวยนอนอยู่บนหน้าอกของหลิน จื่อซีเหมือนกระต่ายน้อย ฟังเสียงหัวใจเต้นของหลินจื่อ ซี รู้สึกวางใจไม่น้อย แล้วหลับไปโดยไม่รู้ตัว..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ