บอกรักฉันที ยัยปากแข็ง

ตอนที่ 12 เลือดประหลาด



ตอนที่ 12 เลือดประหลาด

ริมฝีปากบางของผู้ชาย จูบลงบนริมฝีปากของตัวเอง สองริมฝีปากเย็นคืบคลานเข้าหากันอย่างนุ่มนวล หาก เปรียบเทียบกับครั้งแรกที่เขาจูบอย่างดุดันแล้ว ครั้งนี้ เขากลับอ่อนโยนขึ้นมาก ความรู้สึกนั้นช่างดีจริงๆ

กลิ่นจางๆของยาสูบจากบนเรือนร่างของผู้ชายคน นี้ ทำให้ป่ายปิงเวยตื่นขึ้นจากความฝันในทันที สองมือ เล็ก ๆ ผลักหน้าอกกว้างของหลินจื่อซีให้ห่างออกจาก ตัว เมื่อสัมผัสได้ว่าคนที่อยู่ด้านล่างเริ่มขัดขืน หลินจื่อซี ก็เปลี่ยนเป็นแกล้งป่ายปิงเวย เขาเริ่มจูบอย่างเร่าร้อน ขึ้นมา

จูบของหลินจื่อซีนั้นยิ่งนานเข้าก็ยิ่งเราร้อนขึ้น ป่า ยปิงเวยเริ่มค่อยๆหายใจไม่ออก เธอรู้สึกเศร้าโศกใน ใจเป็นอย่างมาก ท้ายที่สุดแล้วป่ายปิงเวยก็ยังเป็นสาว พรหมจรรย์ที่รับไม่ได้กับผู้ชายที่ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆกับเธอแล้วจะมาพรากสิ่งล้ำค่าอย่างพรหมจรรย์ของ เธอไป น้ำตาเอ่อล้นจนท่วมดวงตา หลินจื่อซีสังเกตเห็น อารมณ์ของหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของตน

เห็นความโศกเศร้าของป่ายปิงเวยผ่านสายตาของ เธอ ในใจของหลินจื่อซีเองก็เจ็บปวด แท้จริงแล้วเธอก็ ยังคงเป็นเด็กสาวที่ดี ถึงแม้ว่าเธอจะหัวเสียอยู่ในตอน นี้ เปรียบเทียบกับติงมั่นลี่แล้วช่างไม่เหมือนกันจริง ๆ หลินจื่อซีรู้สึกหงุดหงิดตัวเองอย่างมากที่เขาแกล้งเธอ มากเกินไป เขาจึงลุกขึ้นเดินเข้าไปอาบน้ำเย็นในห้อง อาบน้ำทันที
หลังจูบกับผู้หญิงคนนั้น ความรู้สึกช่างไม่เหมือนกัน จริง ๆ เพียงแค่จูบก็ทำให้ตนรู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้ คืนนี้คงถึงคราวที่จะนอนหลับไวได้ยากแล้วกระมัง หลัง จากอาบน้ำเสร็จหลินจื่อซีก็พันผ้าเช็ดตัวรอบเอวของ เขาอย่างลวกๆแล้วจึงเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ ป่า ยปิงเวยเองเธอก็เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าปกติแล้วเช่นกัน

หลินจื่อซีเปิดประตูห้องนอน “เสี่ยวชุ่ย ไปเอาไวน์กับ แก้วเปล่าสองใบมาให้ฉันหน่อย” เสี่ยวชุ่ยรีบหยิบขวด ไวน์และแก้วไวน์ส่งให้กับหลินจื่อซีอย่างนอบน้อม

แม่หลินที่กำลังอ่านหนังสือและยังไม่หลับอยู่นั้น ได้ยินเสียงหลินจื่อซีให้สาวรับใช้ไปหยิบไวน์ก็อด หัวเราะขึ้นมาไม่ได้ เด็กวัยหนุ่มสาวนี่ไฟแรงกันเสียจริง พึ่งจะเสร็จภารกิจก็พากันดื่มเหล้าสนุกสนานเชียว

ดูท่าแล้วตนเองคงได้อุ้มหลานเร็วๆนี้เป็นแน่ แม่หลิน วางหนังสือลงอย่างมีความสุข ในขณะเดียวกันก็ปิดไฟ ลงนอน

ป้ายปิงเวยมองดูหลินจื้อซีอย่างประหลาดใจ “ดึก ขนาดนี้แล้วยังจะดื่มเหล้าอีกหรอ” หลินจื่อซีเทไวน์หนึ่ง แก้วให้กับป้ายปิงเวย “ดื่มสักแก้วสิ” ป่ายปิงเวยชะงัก ไปครู่หนึ่ง “นี่คือ…การขอโทษหรอ”

หลินจื่อซีไม่ตอบอะไร เพียงแค่จิบไวน์ชั้นเลิศที่อยู่ ในแก้วเบาๆ ป้ายปิงเวยแทบอาเจียนออกมาจริงๆพอ คิดว่าสิ่งที่พูดออกไปคงเป็นไปไม่ได้ เขาเป็นถึงเจ้าพ่อ แห่งวงการธุรกิจขนาดนี้จะมาขอโทษได้อย่างไร อาจจะเพราะนอนไม่หลับเสียมากกว่า ดื่มกับเขาสักสองแก้วก็ ดี ถ้าเขาดื่มเยอะแล้วเดี๋ยวก็คงหลับไปเอง คงไม่มีอะไร เกิดขึ้นกับตัวเองหรอก

“ขอบคุณประธานหลินมากที่ดูแลอย่างดีมาตลอด ฉัน ขอดื่มให้กับคุณ!” ป้ายปิงเวยหยิบแก้วไวน์ไปชนกับ แก้วของหลินจื่อซีอย่างไม่ลังเล

หลินจื่อซีพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเรียบๆว่า “พวกเราก็ แค่มีผลประโยชน์ร่วมกันก็เท่านั้น”

ป้ายปิงเวยโน้มหัวลงแล้วจิบไวน์ต่อ “ไม่ว่าจะเป็น อย่างไร ฉันก็ยังรู้สึกขอบคุณประธานหลินอยู่ดี ถ้าหาก ไม่ใช่คุณ….บางทีแล้วฉัน…

ดูใบหน้าของป้ายปิงเวยแสดงออกได้ว่ากำลังเสียใจ ในใจหลินจื่อซีเองก็รู้สึกแปลกไปเช่นกัน เขาเอื้อมมือ ไปดึงป้ายปิงเวยมาไว้ในอ้อมกอดแล้วปลอบประโลม เธอ “ไม่เป็นไรนะ” เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำไมจู่ๆถึงได้พูด ปลอบใจป้ายปิงเวยเช่นนั้น แค่รู้สึกว่าป้ายปิงเวยใน ตอนนี้เธอช่างน่าสงสารเสียจริง

จู่ๆก็ถูกหลินจื่อซีดึงเข้าไปกอดในไว้อ้อมอก ป๋า ยปิงเวยรู้สึกไม่ทันได้ตั้งตัว หลินจื่อซีในตอนนี้นั้นช่าง อบอุ่นและทำให้อุ่นใจได้จริงๆ แต่ทว่าความเป็นจริงดึง ให้ตัวเธอเองกลับออกมาจากความคิดเหล่านั้น เธอไม่ อยากเสียเวลากับเขาจนมากเกินไป ซาบซึ้งใจก็จริงอยู่ แต่ก็เป็นเรื่องจริงที่เธอชักชวนให้เขาดื่มเยอะด้วยเช่น กัน
“ประธานหลิน เรามาดื่มกันอีกสักแก้วเถอะ” ป่ายปิงเว ยลุกยืนขึ้นยื่นแก้วไวน์ที่ถูกรินไว้อย่างเต็มแก้วให้กับ หลินจื่อซี รอยยิ้มอันอ่อนโยนนั้นเหมือนชักชวนให้หลิน จื่อซีดื่มอยู่อย่างนั้นไม่รู้จบ โดยปกติแล้ว ไม่บ่อยนักที่ หลินจื่อซีจะถูกชักชวนให้ดื่ม

อาจเพราะเมื่อครู่นี้อารมณ์ของเขาถูกป่ายปิงเวย ครอบงำ นึกไม่ถึงเลยว่าความรู้สึกจะรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ดื่มหมดหนึ่งแก้วก็ยังดื่มต่ออีกหนึ่งแก้ว

หลินจื่อซีรู้สึกมึนเมาเล็กน้อย เขาจ้องมองไปที่ป่า ยปิงเวยโดยที่เรือนร่างท่อนบนของเขานั้นเปลือยเปล่า ป้ายปิงเวยรู้สึกได้ถึงสายตาของชายคนนี้ที่มองมาที่ เธอ ป่ายปิงเวยเงยหน้าขึ้นจ้องมองเขากลับไป เธอ นึกไม่ถึงเลยว่าหลินจื่อซีในแบบนี้นั้นจะดูหล่อเหลา ได้ถึงเพียงนี้ รูปร่างหน้าตาของเขาราวกับเป็นภาพ จิตรกรรมที่รังสรรค์จากพระเจ้า สายตาเหยี่ยวคู่นั้นจับ จ้องมองมาที่ตัวเธอ

เขาน่าจะยังไม่ขาดสติหลงเสน่ห์ของเราเพราะดื่ม เยอะไปหรอก ต้องเป็นเพราะว่าเขาดื่มน้อยไปจนทำให้ ยังมีสติดีอยู่เป็นแน่ ป่ายปิงเวยลุกขึ้นไปเปิดประตูห้อง อย่างรวดเร็วเพื่อเรียกเสียวชุ่ยให้ไปนำไวน์มาเพิ่มอีก หนึ่งขวด เธอมองไปที่หลินจื่อซีแล้วหัวเราะคิกคักเบาๆ “หายากนะที่จะมีความสุขได้อย่างวันนี้ งั้นเราก็สนุกกับ การดื่มกันต่อเถอะ

หลินจื่อซีเลิกคิ้วสูงขึ้น “ได้สิ แต่ว่า…” หลินจื่อซีลุก จากเตียงเดินไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า หาชุดนอนสุดเซ็กซี่ที่ป้ายปิงเวยพึ่งใส่ไป “เธอต้องเปลี่ยนเป็นใส่ชุดนี้ ก่อน”

“เอ่อ…….ได้สิ” ป่ายปิงเวยเดินเข้าไปยังห้องเปลี่ยน เสื้อผ้าแล้วเปลี่ยนเป็นใส่ชุดนอนตัวนั้น ในใจคิดว่ายังไง ซะ ชุดนี้ก็ถูกเขาเห็นมาตั้งแต่แรกแล้ว สิ่งที่สำคัญตอน นี้คือให้เขาดื่มเยอะอีกสักหน่อยแล้วรีบเข้านอน แล้วคืน นี้ก็จะผ่านพ้นไป

หลังจากป้ายปิงเวยเปิดประตูห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าออก มาก็ถูกสองมือใหญ่ดึงเธอเข้าไปกอดไว้ในอ้อมอก หลิน จื่อซีล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วกอดป่ายปิงเวยไว้ใน อ้อมกอดของเขา มือนึงโอบกอดสาวงามเอาไว้ อีกมือ นึงก็ถือแก้วไวน์ไว้ด้วยเช่นกัน ปราศจากคราบหนุ่มสุด เท่ห์หรือแม้แต่ภาพลักษณ์ของราชาแห่งวงการธุรกิจ โดยสิ้นเชิง แต่กลับเป็นเหมือนหนุ่มหล่อเพลบอยที่ หลงใหลในความงามของผู้หญิงเสียมากกว่า หลินจื่อ กอดป้ายปิงเวยไว้แล้วดื่มต่อไปแก้วแล้วแก้วเล่า………

วันรุ่งขึ้น

ป้ายปิงเวยตื่นขึ้นมาด้วยดวงตาที่ยังงัวเงีย คิดไม่ ถึงว่าตัวเองจะนอนหลับไปในอ้อมกอดของหลินจื่อซี เธอยกมือใหญ่ๆของหลินจื่อซีออก เมื่อคืนคงดื่มเยอะ เกินไปจริงๆ รู้สึกปวดหัวมาก แต่ทำไมช่วงเอวถึงได้ รู้สึกปวดด้วยเหมือนกันนะ เธอสัมผัสได้ถึงของเหลว อุ่นๆที่ไหลออกจากร่างกายส่วนล่าง ป้ายปิงเวยเปิด ผ้าห่มออกดู แล้วพบว่าบนผ้าปูที่นอนสีขาวมีรอยเลือด เล็กๆอยู่
เธอเตรียมตัวจะลุกตื่นขึ้นไปเปลี่ยนชุดนอน แต่ก็ถูก หลินจื่อซีทีครึ่งหลับครึ่งตื่นกอดเอาไว้ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของป่ายปิงเวย จากนั้นเธอก็บีบ หน้าขาของตัวเองอย่างแรงแล้วเริ่มบีบน้ำตาร้องไห้ สะอึกสะอื้นออกมา

ในขณะที่หลินจื่อซีกำลังหลับฝันอยู่นั้น เขารู้สึก ราวกับว่ามีคนกำลังร้องไห้อยู่ข้างเขาจนทำให้เขา ไม่สามารถที่จะนอนหลับต่อได้ พอตื่นขึ้นมาก็เห็นป่า ยปิงเวยร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่

“เธอเป็นอะไรไปหรือ” น้ำเสียงของหลินจื่อซีนั้นค่อน ข้างงัวเงียปนเซ็กซี่เล็กน้อย เนื่องจากเขาดื่มไปเยอะ มากเมื่อคืนนี้

ป่ายปิงเวยไม่พูดอะไร ได้แต่สะอึกสะอื้นเบาๆ เธอ ร้องไห้ไปด้วย ดึงผ้าห่มเข้ามาคลุมตัวเธอไปด้วย

หลินจื่อซีรีบเปิดผ้าห่มออกอย่างใจร้อน เขาสังเกต เห็นว่าบนผ้าปูที่นอนมีประกายสีแดงแปดเปื้อนอยู่ หลัง จากนั้นเขาเองก็รู้สึกคิดอะไรไม่ออกไปในทันที

หรือว่าเมื่อคืน

ดูท่าทีตกตะลึงของหลินจื่อซีแล้ว ป้ายปิงเวยรู้ได้ใน ทันทีว่าตัวเองทำสำเร็จแล้ว

เธอแกล้งร้องไห้เสียใจหนักขึ้นอีก ส่ายหัวไปมาคล้าย ไม่อยากเห็นหน้าหลินจื่อซีอีกต่อไป
หลินจื่อซีเองก็รู้สึกประหลาดใจไม่ใช่น้อย เขาจําได้ เพียงแต่ว่าเมื่อคืนดื่มไปเยอะมาก หลังจากนั้นก็จำไม่ได้ อีกเลย

เห็นรอยเลือดบนร่างกายส่วนล่างของป่ายปิงเวย และท่าทีที่ดูลำบากใจของป่ายปิงเวยนั้น ก็ทำให้หลิน จื่อซีคอแห้งผากจนพูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน อยาก จะเข้าไปปลอบประโลมป้ายปิงเวยเสียจริง มือของเขา นั้นกำลังจะเข้าไปแตะตัวป้ายปิงเวยแต่ก็ถูกป้ายปิงเวย ปฏิเสธ

“ประธานหลิน คุณปล่อยฉันเถอะ ถือซะว่าฉันขอร้อง คุณก็แล้วกัน” เสียงคล้ายกับจะร้องไห้ของป่ายปิงเวย นั้นทำให้หลินจื่อซีเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี

“ฉัน…ฉันไปบริษัทก่อนนะ เธอก็พักผ่อนเยอะๆ เย็นนี้ ค่อยคุยกัน” หลินจื่อซีมองไปยังป่ายปิงเวยด้วยสีหน้า ที่จริงจัง แต่ทว่าในใจก็รู้สึกสับสนไปหมด เขารีบเดิน ไปเข้าห้องน้ำแล้วอาบน้ำอย่างรวดเร็ว สวมเสื้อผ้าเสร็จ เรียบร้อยแล้วจึงรีบออกไป

เมื่อแน่ใจว่าหลินจื่อซีได้ออกไปแล้วจริงๆ ป่ายปิงเว ยก็เปิดผ้าห่มออก เธอกระโดดโลดเต้นบนเตียงอย่าง ดีใจ คราวนี้แหละที่หลินจื่อซีควรจะรู้ว่า เขาไม่ควรทำ ไม่ดีกับเธอ นึกถึงตรงนี้ขึ้นมาป่ายปิงเวยก็รีบไปเข้า ห้องน้ำแล้วอาบน้ำอย่างมีความสุข…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ