นกหงส์หยกข้าใครอย่าหมาย

บทที่ 6 ผู้หญิงหลงยุค 1



บทที่ 6 ผู้หญิงหลงยุค 1

องค์รัชทายาทนั่งมองธิดาดอยที่นั่งอยู่บนเตียงนิ่ง ตอน นี้สมองของเขาเต็มไปด้วยความงุนงง สับสนและไม่ เข้าใจ ภาพที่เห็นตอนนกหงส์หยกแปลงกายเป็นคนยัง ติดตา เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ไม่คิดว่าจะได้พบเจอหรือเกิด ขึ้น ถ้าเขาไม่เห็นด้วยตาตัวเอง เขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง องค์รัชทายาทมีความคิดว่า เธอ เป็นภูตผีปีศาจ ไม่เช่นนั้นคงทำเช่นนี้ไม่ได้

เป็นภูตผีปีศาจที่น่าจับทำเมียมากที่สุด

“ท่านจะมองข้าอีกนานไหม”

ธิดาดอยเริ่มทนไม่ไหวกับสายตาของเขา แม้ว่าจะเป็น สายตาอัดแน่นไปด้วยความใคร่รู้ ทว่ามันกลับแฝงด้วย เพลิงปรารถนาที่เธอสัมผัสได้

“ก็เจ้าน่ามอง” เขาบอกตรงๆ ธิดาดอยถึงกับเขิน หน้า แดงระเรื่อ

“ท่านไม่คิดจะหาเสื้อผ้าให้ข้าใส่ใช่ไหม”

“จะใส่ทำไม อยู่อย่างนี้ก็ดีแล้ว” องค์รัชทายาทตอบหน้า เปื้อนยิ้ม “ว่าแต่เจ้าเป็นภูตผีปีศาจใช่ไหม”
ธิดาดอยไม่รู้จะตอบเขาให้เข้าใจอย่างไรดี จะบอกว่า ตนมาจากอนาคตอันไกลโพ้น ข้ามมิติมายุคโบราณเขา จะเชื่อหรือไม่ เขาคงหาว่าตนบ้าแน่นอน จะบอกว่าเป็น ภูตผีปีศาจก็ไม่ได้ เพราะเธอไม่ใช่ ไม่ได้เหาะเหินเดิน อากาศหรือหายตัวได้ แต่ก็ยังสงสัยอยู่ว่า ตัวเองเป็นอะไร กันแน่ เป็นนกหรือเป็นคน ช่างเป็นการหาคำตอบที่ยากยิ่ง ที่สุด

“ข้าพูดไปท่านก็ไม่เชื่อหรอก เผลอๆ จะหัวเราะเยาะข้า หาว่าข้าบ้า”

“เจ้าลองพูดมาก่อนสิ ข้ามีเวลาทั้งคืนที่จะฟังเจ้า” เขาไม่ พูดเปล่า ย้ายตัวเองมานั่งข้างธิดาดอยที่ขยับตัวหนีด้วย ความตกใจ

“ท่านมานั่งทำไมตรงนี้”

“ข้าจะได้ฟังเจ้าใกล้ๆ ไง เจ้าชอบพูดเสียงดัง ชอบทำ เสียงตกใจ หลิวกงกงยิ่งหูดีอยู่ ได้ยินเสียงเจ้าเดี๋ยวก็มา ถามอีก ข้าไม่อยากโกหก มานั่งใกล้เจ้า ฟังเจ้าใกล้ๆ ดี กว่า” องค์รัชทายาทให้เหตุผล ซึ่งเป็นเหตุผลที่ธิดาก็เห็น ด้วย

“แต่ท่านไม่ต้องนั่งชิดข้าแบบนี้ก็ได้” ธิดาดอยเสียงสั่น

“นั่งใกล้ๆ แบบนี้แหละดีแล้ว เจ้าจะได้ไม่ต้องออกเสียงดัง” เขาก็มีเหตุผลเช่นเดิม “อีกอย่างเจ้าจะได้อุ่นกายเมื่อ อยู่ใกล้ข้า อากาศตอนกลางคืนมันหนาว เจ้าไม่ได้ใส่ เสื้อผ้ามีแค่ผ้าห่มผืนเดียวปิดกาย นั่งชิดแบบนี้ดีที่สุด”

องค์รัชทายาทพูดอีกก็ถูกอีก ตอนนี้เธอเริ่มหนาวแล้ว จริงๆ เป็นความหนาวที่ไม่ได้มาจากอากาศด้านนอกเพียง อย่างเดียว หนาวจากสายตาและท่าทางหีนจัดขององค์ รัชทายาทร่วมด้วย

คนอะไรท่าตื่นยังหล่อ…

“แต่ท่านไม่ต้องนั่งเบียดข้าอย่างนี้ก็ได้ ถอยไปหน่อย”

“เจ้าอย่าเรื่องมากได้ไหม รีบพูดเรื่องที่เจ้าอยากพูดได้ แล้ว” องค์รัชทายาทสั่ง “ถ้าเจ้าไม่รีบพูด ข้าจะทำอย่าง อื่นแทนนะ”

ธิดาดอยหันขวับมองหน้าผู้พูดที่จ้องมองเธอไม่วางตา และรับรู้ถึงความไม่ปลอดภัยเมื่ออยู่กับเขาตามลำพัง โดยเฉพาะเวลานี้ เวลาที่ทั้งตัวไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น หากองค์ รัชทายาทปลุกปล้ำเธอจริง ธิดาดอยคิดว่า คงสู้แรงเขา ไม่ได้ เอ…หรือไม่สู้ดีหว่า ช่างเป็นความคิดที่สับสนเหลือ เกิน

“ท่านอย่าทำอะไรบ้าๆ นะ ข้าจะพูดแล้ว” ธิดาดอยรีบห้าม

“ก็พูดมาสักทีสิ ชักช้าข้าปล้ำนะ” องค์รัชทายาทเริ่มเผย ธาตุแท้ออกมา

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ที่นี่ข้าเป็นอะไรกันแน่ระหว่างนก กับคน เพราะตอนกลางวันข้าเป็นนก แต่พอเวลานี้น่าจะ ค่ำแล้วขากลับเป็นคน” ธิดาดายเริ่มพูด “แต่ที่ที่ข้าจากมา ข้าเป็นคน พอลื่นล้มตกลงน้ำ ขาดีดตัวขึ้นมาเหนือน้ำข้า ก็ย้อนอดีตมาที่นี่กลายเป็นนกหงส์หยกทั้งสีและขนาดตัว เหมือนนกที่พ่อข้าเลี้ยงไม่มีผิด สงสัยข้าอาฆาตแค้นมัน มากไปหน่อย สวรรค์จึงลงโทษข้าแบบนี้ คนสวยชืช้า”

องค์รัชทายาทมองหน้าคนพูด เขาไม่เข้าใจคำพูดของ เธอสักเท่าไหร่ ที่ที่ข้าจากมา มันคือที่ไหน ลื่นล้มตกน้ำ แต่มาโผล่ที่นี่ มันมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยหรือ ลื่นอีกที่มา โผล่อีกที เวลานี้หัวสมองเขามึนไปหมด

“เจ้าพูดว่า ที่ที่เจ้าจากมา มันคือที่ไหน” เขาถามจุดที่ค้าง คาใจ ธิดาดอยถอนหายใจก่อนตอบ

“ที่ที่ข้าจากมาในยุคของข้าจะเรียกที่นี่ว่าอดีต ในยุค ของท่านจะเรียกมันว่าอนาคต” ธิดาตอบ แต่ดูเหมือนว่า คำตอบของเธอยิ่งทำให้องค์รัชทายาทงงหนักมากขึ้น ดู ได้จากใบหน้าเขายังเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
“เอาเป็นว่า ข้าข้ามมิติมาที่นี่ก็แล้วกัน”

“ข้ามมิติมาที่นี่อย่างนั้นหรือ” องค์รัชทายาททวนคําพูด แม่นกน้อย “เจ้าจะบอกข้าว่า พอเจ้าตกน้ำจากที่ของเจ้า แล้วทะลึ่งตัวขึ้นมาเหนือผิวน้ำ เจ้าก็มาโผล่ในเมืองของ ข้า แถมจากคนกลายเป็นนกด้วยงั้นรึ

“ใช่ ท่านเข้าใจที่ข้าพูดใช่ไหม แล้วไม่คิดว่าข้าบ้าด้วย ใช่ไหม”

“ข้าเข้าใจเรื่องอดีต ปัจจุบันและอนาคต แต่ก็ยังไม่ เข้าใจความเป็นมาเป็นไปของเจ้าดีมากนัก ข้าบอกตรงๆ ว่าข้ายังสับสนและงงอยู่” องค์รัชทายาทพูดตามความคิด “ส่วนเรื่องที่เจ้ากลัวว่าข้าจะหาว่าเจ้าบ้า คนอื่นฟังอาจไม่ เชื่อ แต่ข้าเชื่อเพราะข้าเห็นกับตาว่า เจ้ากลายร่างเป็นคน เป็นเรื่องที่ข้าไม่เคยได้ยินและพบเห็นมาก่อน ข้าถึงถาม เจ้าไงล่ะว่า เจ้าเป็นภูตผีปีศาจใช่หรือไม่”

“จะว่าไป ข้าเองก็ไม่เชื่อว่าตัวเองจะเจอเรื่องแบบนี้ ถ้า ไม่เจอกับตัว ข้าไม่คิดนะว่า เรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริง”

ธิดาดอยเคยดูในละคร ในภาพยนตร์และอ่านหนังสือ นิยายที่พระนางข้ามภพข้ามกาลเวลาไปยุคต่างๆ ตอน ที่เธอดูและอ่านก็ยังคิดว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครข้ามทะลุมิติย้อนกลับไปอดีตหรือข้ามเวลาไปอนาคต ทว่าตอนนี้เธอเชื่อแล้ว เชื่อว่ามันเป็นเรื่องที่เกิด ขึ้นได้จริง

“แล้วทําไมเจ้าถึงได้กลายเป็นคนล่ะ” ค่าถามนี้ธิดา ดอยจนด้วยคำตอบ เธอมองหน้าองค์รัชทายาทที่ทำหน้า ครุ่นคิดนิ่ง หรือว่าตอนกลางวันเจ้าจะเป็นนก แล้วพอ พระอาทิตย์ตกดินเจ้าก็กลายเป็นคน

องค์รัชทายาทสันนิษฐาน เขาประติดประต่อเรื่องที่เกิด ขึ้น เขาเจอนกหงส์หยกตัวนี้ในช่วงเที่ยงของวัน ซึ่งก็เป็น นกมาถึงตอนเปลี่ยนเวลาเป็นยามราตรี นกหงส์หยกได้ กลายเป็นคน

“ถ้าเป็นไปตามที่ท่านว่ามา พรุ่งนี้เช้าข้าก็ต้องกลายเป็น นกน่ะสิ” เธอเริ่มเห็นด้วยกับคำพูดเขา

“ทางเดียวที่จะรู้ว่า เป็นไปตามที่ข้าคิดไหมก็ต้องรอดูวัน พรุ่งนี้”

“อืมจริง”

“ข้าว่าตอนนี้เรามานอนคุยกันดีกว่านะ” ธิดาดอยมอง หน้าผู้พูด ใจเริ่มเต้นแรง

“นอนคุย” ธิดาดอยพูดเสียงหลง มองคนตื่นจัดด้วย ความหวาดกลัว “ทำไมต้องนอนคุย นอนคุยเรื่องอะไร
“ก็ข้าขี้เกียจนั่งคุย อีกอย่างเวลานี้ก็เป็นเวลานอนของข้า ข้าง่วงแล้ว…หาว” องค์รัชทายาทเล่ห์เหลี่ยมเยอะแกล้ง หาว “เวลาข้าง่วงข้าต้องนอน ข้าเลยชวนเจ้านอนคุยไงล่ะ คุยๆ คุยมาจะได้หลับเลย”

“แต่ข้ายังไม่ง่วง ตอนที่ข้าอยู่เมืองของข้า กว่าข้าจะนอน ก็ต้องค่อนคืน” ธิดาดอยไม่ยอม

“ตอนนี้เจ้าไม่ได้อยู่ที่ของเจ้านะ เจ้าอยู่ต่างเมือง ต่าง เวลาด้วย เจ้าก็ต้องทำตามข้าสิ ไม่ใช่ทำตามเจ้า” เขาเอง ก็ไม่ยอม “ถ้าเจ้าไม่รีบนอน เจ้าระวังผีนะ ผีที่นี่ดุ ใครไม่ นอนจะมาหลอกหลอน”

ผีบ้าผีบออะไรจะมาหลอกคนไม่นอน เกิดมาธิดาดอยไม่ เคยได้ยิน…ธิดาดอยคิดในใจ

“ท่านไม่ต้องมาหลอกข้า นี่ยังไม่ดึกเลย”

“เจ้ายังไม่รู้อะไร เจ้าเพิ่งมาที่นี่เป็นวันแรก เจ้ารู้อะไร เกี่ยวกับที่นี่บ้าง เวลา สถานที่หรือแม้แต่กฎระเบียบเจ้า ก็ไม่รู้ แล้วเจ้าจะมาเถียงข้าทำไม” น้ำเสียงเขาติดดุเล็ก น้อย “ถ้าเจ้าไม่รีบนอน ข้าจะทำอย่างอื่นนะ”

“ทะ…ท่านจะทำอะไร

ธิดาดอยเสียงสั่นอีกครั้ง
“ผู้หญิงแก้ผ้าตรงหน้าแบบนี้ เจ้าคิดว่าข้าจะทําอะไรล่ะ” คน นตอบกลับ ยิ้มน้อยๆ โลมเลียเธอด้วยสายตาที่ธิดา ดอยไม่รู้สึกเลยว่า เขาทำสายตาน่าเกลียดใส่ ตรงกัน ข้ามกลับทำให้เธอรู้สึกร้อนวูบวาบในอกขึ้นมา

“ท่านอย่าทําอะไรบ้าๆ นะ” ธิดาดอยกำผ้าห่มที่คลุมกาย ตนไว้แน่น เขยิบตัวหนีร่างสูงใหญ่

“ข้าไม่ทำอะไรเจ้าก็ได้ แต่เจ้าต้องนอนคุยกับข้านะ ไม่ งั้นข้าจะทำ” เขาต่อรอง

“ก็ได้” ธิดาดอยจำใจรับคำ “แต่ท่านต้องสัญญาว่าอย่า หาอะไรข้านะ”

“สัญญา” องค์รัชทายาทกล่าวเสียงหนัก “นอนเถอะ ง่วง แล้ว ข้าไม่อยากถูกผีหลอก…หาว”

แกล้งหาวเสร็จชายหนุ่มก็ล้มตัวลงนอน ตบที่นอนข้างๆ เพื่อให้ธิดาดอยเอนตัวลงนอนบ้าง เธอมองที่นอนว่าง เปล่านั้นด้วยใจเต้นระทึก เกิดมาไม่เคยนอนกับผู้ชาย แถมเป็นผู้ชายที่หล่อและหั่นจัดด้วย หลังจากเธอล้มตัว ลงนอนก็ต้องมีเหตุให้ตกใจ

“ท่านกอดข้าทําไม เอาแขนออกไปนะ”

คนที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า มีแต่ผ้าห่มผืนเดียวคลุมกายถึงกับตกใจ เมื่อเขาพลิกตัวมากอดตน

“อย่าพูดเสียงดังไปสิ เดี่ยวหลิวกงกงได้ยินก็จะมาถาม อีก ข้าไม่อยากโกหก แล้วทีข้ากอดเพราะเจ้าเอาผ้าห่มข้า ไปห่ม ข้าก็ต้องกอดเจ้าสิ” องค์รัชทายาทมีคำตอบ “ถ้า เจ้าไม่อยากให้ข้ากอด เจ้าก็ต้องแบ่งผ้าห่มให้ข้าห่ม เรา สองคนจะได้ใช้ผ้าห่มผืนเดียวกันไง”

ยิ่งแล้วใหญ่ ใช้ผ้าห่มผืนเดียวกันงั้นหรือ ไม่เอา ไม่เอาดี กว่า…ธิดาดอยพร่าในใจ

แล้วเหมือนธิดาดอยจะจนด้วยคำพูดหรือคำค้าน จะให้ เขาใช้ผ้าห่มร่วมกับตนก็กระไรอยู่ มีหวังมือเขาอยู่ไม่ซุก แน่ แต่ถ้าให้เขากอดเพื่อคลายหนาว อย่างน้อยเธอก็มี ผ้าห่มกั้นขวาง ไม่ได้เนื้อแนบเนื้อ ทว่าคิดไปคิดว่า ตนก็ เสียเปรียบอยู่ดี

“ข้าให้ท่านกอดก็ได้”

ธิดาดอยอยู่ในสภาวะจำยอม องค์รัชทายาทอมยิ้ม นอน กอดเธออย่างสบายใจ แต่คนที่ไม่สบายกายคือธิดาดอย ที่นอนตัวเกร็ง ตื่นเต้นและหวาดระแวงคนหิ่นจัด

“เจ้าเล่าเรื่องที่ที่เจ้ามาให้ข้าฟังหน่อยสิ ข้าอยากรู้ว่ามัน เป็นที่ใด”
“สถานที่ที่ข้าจากมาเรียกกันว่าประเทศไทย…” ธิดาดอย เล่าเรื่องราวของตนที่ไม่รู้ว่า องค์รัชทายาทจะเข้าใจมาก น้อยแค่ไหน ซึ่งเธอก็ไม่ได้เจาะลึกอะไรมาก เล่าในส่วน ครอบครัวตนให้เขาฟังมากกว่า โดยเฉพาะเรื่องนกหงส์ หยกณัชชา ไม่เบื่อไม้เมาประจำบ้าน ที่เธออยากจะหักคอ จิ้มน้ำพริกวันละหลายรอบ

องค์รัชทายาทหมิงหยางเตือนอนฟังเรื่องที่ธิดาดอยเล่า ด้วยความสุขใจ เป็นความสุขที่เขาหาจากหญิงใดไม่ได้ เขานอนกอดผู้หญิงมาเยอะ แต่ไม่มีหญิงงามคนใดทำให้ เขาเกิดความสุขทางหัวใจได้เลย เพียงแค่ได้กอด ได้ชิด ใกล้ยังรู้สึกถึงความสุขได้มากถึงเพียงนี้ หากทำอย่างอื่น เขาคงไม่สำลักความสุขตายหรอกหรือ หมิงหยางเต๋อเริ่ม ครั่นเนื้อครั่นตัวขึ้นมาทันใด ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จาก เรือนกายสาว เขารู้สึกได้ถึงไฟเสน่หาสุมกาย

จะทนได้กี่คืนกัน…คืนนี้จะรอดไหม จะรอดหรือเปล่า

องค์รัชทายาทยับยั้งชั่งอารมณ์เต็มที่ หากไม่สัญญาไว้ เมื่อครู่ รับรองว่า ป่านนี้เขาจับนางทำเมียไปแล้ว

เฮ้อ…คืนอื่นยังมี แม่นางคนสวยไม่รอดมือเขาแน่นอน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ