นกหงส์หยกข้าใครอย่าหมาย

บทที่ 5 เรื่องมหัศจรรย์ 3



บทที่ 5 เรื่องมหัศจรรย์ 3

ตลอดช่วงบ่ายธิดาดอยได้ชมความหล่อเหลาของบุรุษ น่าเกรงขามที่เธอเพิ่งรู้ว่า ที่แท้เขาคือองค์รัชทายาทแห่ง ราชวงศ์หมิง พระนามว่า หมิงหยางเต๋อ และเรื่องที่น่า ตกใจมากอีกเรื่องก็คือ เธอย้อนอดีตมาอยู่ในราชวงศ์ห มิงที่ระยะห่างของกาลเวลาเกือบสี่ร้อยปี นกหงส์หยกตัว สวยถึงกับมึน แต่ก็ยอมรับในโชคชะตา แม้ว่าในใจหวั่นว่า จะได้กลับไปยุคที่ตนจากมาหรือไม่ หรือต้องเป็นนกหงส์ หยกในกรงทองขององค์รัชทายาทจอมโหดคนนี้ไปจนตัว ตาย

เฮ้อ…ธิดาดอยถอนหายใจเฮือกใหญ่

“เจ้าถอนหายใจเป็นด้วยเหรอ เป็นนกจะหนักใจอะไร หรือว่าเจ้ามีความทุกข์” องค์รัชทายาทหมิงหยางเต๋อหัน มาพูดกับนกหงส์หยกเมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจ

ธิดาดอยถึงกับงงกับคำพูดของหนุ่มหล่อ ไม่คิดว่าเขาจะ ได้ยินเสียงถอนหายใจของตนด้วย

แต่เดี๋ยวก่อน เขารู้ได้อย่างไรว่าเธอถอนหายใจ องค์ รัชทายาทไม่น่ารู้ เพราะไม่เคยมีนกตัวไหนในโลกถอน หายใจ หรือว่าเขาจะพูดกับสัตว์รู้เรื่อง แต่ก็ไม่น่าจะใช่อีก

‘แล้วจะตอบว่ายังไงล่ะ ตอบไปจะรู้เรื่องหรือเปล่า นกกับคนจะคุยกันรู้เรื่องได้ยังไง

ระหว่างที่ธิดาดอยไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี หลิวกงกงได้ เดินเข้ามาในห้องพร้อมขันทีและขุนนางอีกสองคน พวก เขามีสีหน้าเคร่งเครียด และยิ่งเห็นพระเนตรขององค์ รัชทายาทก็ยิ่งเครียดใหญ่

“ว่าไง” องค์รัชทายาทหมิงหยางเต๋อตรัสถาม ขุนนาง สวมชุดสีแดงโค้งคำนับเล็กน้อย บริเวณไรผมมีเหงื่อซึม ออกมา

“คนที่ติดตามกลุ่มกบฏถูกฆ่าตายสี่คนพ่ะย่ะค่ะ ส่วนอีก หนึ่งคนได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้กำลังนอนรักษาตัวอยู่ในโรง หมอพ่ะย่ะค่ะ”

ปัง!…

‘ตาเถรตกใต้ถุน’ นกธิดาดอยอุทานในใจ แรงตบโต๊ะ ทําให้นกตัวน้อยตกใจ ความตกใจทําให้เธอเผลอปล่อย ขาจากกิ่งไม้เล็กๆ ที่เขาสอดเข้ามาในกรงให้ตนได้ยืน ส่ง ผลให้เธอตกลงไปก้นเบ้าอยู่บนพื้นกรง กลายเป็นนก เซ่อซ่าไปเลย พอได้สติก็บินมาเกาะกิ่งไม้ใหม่ มองดูองค์ รัชทายาทกับขุนนางอย่างเงียบๆ

“ทำงานแค่นี้ให้พลาดได้ยังไง” องค์รัชทายาทตะเบ็ง เสียงลั่น แววตาไม่พอพระทัย คนที่อยู่ในห้องพากันก้มหน้า ไม่มีใครกล้าสบพระเนตรเขาเลยสักคน “ข้าสั่งแล้ว ใช่ไหมว่า อย่าให้พลาด เพราะถ้าพลาดหมายถึงพวกมัน รู้ตัว และเราจะไม่รู้เรื่องของพวกมัน ป่านนี้มันคงรู้ตัวแล้ว คราวนี้เราคงเข้าถึงตัวมันยากขึ้น”

“เราคงต้องหาวิธีอื่นพ่ะย่ะค่ะ” อำมาตย์คังพูดขึ้น

“กระหม่อมได้ข่าวมาว่า หัวหน้ากลุ่มกบฏมักไปหาความ สําราญให้หอนางโลมเป่ยผิง กระหม่อมคิดว่า เราน่าจะหา ข้อมูลได้จากที่นั่นพ่ะย่ะค่ะ” เสียงนี้เป็นเสียงของหานโจว ผู้ช่วยอำมาตย์คัง

“ข้าไม่สนใจว่า เจ้าสองคนจะหาข่าวให้ข้าด้วยวิธีไหน แต่ข้าต้องได้ข่าวภายในระยะเวลาที่ข้ากำหนด ไม่อย่าง นั้นหัวเจ้าสองคนได้หลุดจากบ่าแน่”

องค์รัชทายาทไม่ได้ขู่ เขาทำจริงตามลั่นวาจา อำมา ตย์คังกับลูกน้องถึงกับเหงื่อแตกกับคำขู่ที่น่าหวาดกลัว ยิ่งนัก ทั้งสองก้มโค้งคำนับรับคำ และรีบเดินออกจาก ห้องโถงใหญ่ของตำหนักทันที เพื่อไปทำงานให้เสร็จตาม กําหนดเวลาเส้นตาย

‘ป๊าด! พี่หล่อโหดแท้ แค่ไม่ได้ข่าวตามที่ต้องการถึงกับ ตัดหัว ถ้าทำงานไม่สำเร็จมีหวังถูกฆ่าเจ็ดชั่วโคตรแน่

นกธิดาดอยพูดในใจ มองคนหล่อแต่ใจเผด็จการด้วยใจเต้นตึกตัก คิดในใจว่า ดีนะที่ตนเป็นนก ไม่ได้เป็นคน จึงทําให้องค์รัชทายาทกริ้วไม่ได้ ไม่งั้นคงได้เป็นนกหงส์ หยกแดดเดียวแน่

“คานี้องค์รัชทายาทจะเสด็จไปตำหนักใดพ่ะย่ะค่ะ”

หลิวกงกงถามตามหน้าที่ องค์รัชทายาทมีพระชายานาม ว่า เสี้ยวหลาน พระชายารองฮุ่ยเตียว พระชายาสามนาม ว่า เห้อเหนียว

“ไม่ล่ะ ข้าอยากอ่านตำราที่เพิ่งได้มาใหม่มากกว่า”

พระพักตร์องค์รัชทายาทคล้ายมีความเบื่อหน่าย และดู เหมือนว่า หลิวกงกงจะเข้าใจความรู้สึกของเจ้านาย

“พ่ะย่ะค่ะ”

หลิวกงกงพยักหน้าให้ขันที ก่อนจะพากันเดินออกจาก ห้องโถง เพื่อไปดูความเรียบร้อยของเครื่องเสวยที่จะต้อง นํามาขึ้นถวายให้องค์รัชทายาท

แสงตะวันลับขอบฟ้าคือเวลาที่องค์รัชทายาทอ่านตำรา เกี่ยวกับการปกครองอยู่ภายในห้องบรรทม ระหว่างที่เขา กำลังนั่งอ่านตำารา เขาตวัดสายตามองไปยังกรงนกหงส์ หยก นกเร่ร่อนบินมาเกาะขอบไม้ตรงศาลาริมสระบัวที่ เขามักมานั่งพักผ่อน ด้วยความเชื่องและความน่ารัก องค์รัชทายาทจึงจับมันใส่กรง ให้อาหาร และน้ำ ก่อนนํามันมาไว้ในห้องบรรทม

ดวงตาองค์รัชทายาทค่อยๆ เบิกกว้าง เมื่อนกหงส์หยก ในกรงกำลังมีรูปลักษณ์เปลี่ยนไป กรงนกทําจากไม้แตก ออกเป็นเสี่ยง เขาลุกขึ้นยืน สะบัดศีรษะหลายหน ขยี้ ตาหลายครั้ง หยิกตัวเองด้วย เพื่อให้แน่ใจว่า ภาพที่เห็น ไม่ใช่ความฝัน แต่มันคือความเป็นจริง ความเป็นจริงที่ เหนือความคาดหมาย และไม่น่าเป็นไปได้

นกหงส์หยกกลายเป็นคน

“เฮ้ย!” องค์รัชทายาทร้องดังลั่น มองนกหงส์หยก เอ๊ย! ไม่ใช่สิ ตอนนี้กลายเป็นสตรีที่มีความงามล้ำเลิศ สรีระ ทรวงทรงงดงามไม่แพ้กัน มีส่วนเว้าส่วนโค้งที่เรียกเลือด เรียกลมให้เดือดพล่าน ส่วนกรงนกก็ยังเป็นเศษไม้ชิ้นเล็ก ชิ้นน้อย

ตาฟาด…ใช่ต้องตาฟาดแน่ๆ

ทว่าเสียงร้องของนกแปลงร่างกลายเป็นคนที่ค่อนข้าง ดัง ทำให้องค์รัชทายาทมั่นใจว่า ตนไม่ได้ตาฟาด มันเป็น เรื่องจริง

“ว้าย!” ธิดาดอยหรือเหมยตกใจไม่แพ้กัน เมื่อเห็นว่า ร่างกายของตนปราศจากเสื้อผ้า และตอนนี้ตนตกอยู่ในสายตาของหนุ่มรูปงาม ที่ตอนนั้นตนเป็นนกกำลังบินอยู่ เหนือต้นไม้ พอเห็นความงามของบุรุษที่นั่งอยู่ในศาลา เธอก็รีบบินลงมาเกาะบนขอบไม้ มองดูความหล่อเขาใน ระยะใกล้

“เจ้า…เจ้าทำไมถึงเป็นคน

เขาพูดเสียงสั่น มีความตกใจให้เห็นทั้งสีหน้าและน้ำ เสียง มองอีกฝ่ายตาค้าง โดยเฉพาะเนื้อนมไข่ที่เห็น ชวน ให้ขนลุกพิกล

เออนั่นสิ…ทำไมถึงเป็นคนได้หว่า

จำได้ว่าเป็นนกหงส์หยกนี่นา ชักงงซะแล้วสิว่า ตนเป็น นกหรือว่าเป็นคนกันแน่

“ไม่รู้ ข้าไม่รู้”

ธิดาดอยแปลกใจอยู่อีกอย่างคือ ภาษาที่ตนพูดออกไป ไม่ใช่ภาษาไทย แต่เป็นภาษาจีนที่ตนพูดไม่เป็น แต่ตอน นี้พูดได้และฟังออก เป็นเรื่องที่ประหลาดใจมาก เป็นเช่น เดียวกับตอนเป็นนกหงส์หยก

ตอนนี้ธิดาดอยรู้สึกว่า ตัวเธอร้อนผ่าว รุมร้อนจาก สายตาขององค์รัชทายาทที่มองมาที่ตนราวกับจะกลืนกิน ธิดาดอยใช้แขนทั้งสองข้างไขว้กันปิดทรวงอกทั้งสองข้าง ย่อตัวนั่งยองเพื่อไม่ให้เขาเห็นสรีระเธอแบบเต็ม

เหลือเชื่อ!

องค์รัชทายาทมองนกที่กลายเป็นคนนิ่งค้าง ในความคิด ของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความสับสน ไม่เข้าใจว่า นกจะ กลายเป็นคนได้อย่างไร แถมเป็นคนที่มีความงดงามมาก ทรวดทรงองค์เอวสวยงาม เขาเห็นผู้หญิงเปลือยกายมา นักต่อนัก แต่ไม่มีใครทำให้หัวใจเต้นแรงเช่นนางคนนี้มา ก่อน

“เจ้าเป็นภูตผีหรือไม่ก็ปีศาจใช่ไหม”

องค์รัชทายาทเอ่ยถาม ทว่าในใจกลับคิดว่า ไม่ว่าสาว ตรงหน้าจะเป็นอะไร ขอให้รู้ไว้ว่า เขาอยากจับเธอทำเมีย เป็นที่สุด

เอ…จับทําเมียดีไหมเนี่ย คนแอบหิ่นคิดในใจ

“ท่านอย่าเพิ่งอยากรู้อะไรมากได้ไหม ไปหาเสื้อผ้ามาให้ ข้าก่อน เสื้อคลุมหรืออะไรก็ได้” คนร่างเปลือยบอกชาย รูปงามที่เวลานี้ฉีกยิ้มกว้าง

“ข้าว่า เจ้าอยู่อย่างนี้ก็ดีนะ น่ามองดี” ธิดาดอยหน้าแดง ตัวสั่นด้วยความอาย
“ลามก” องค์รัชทายาทเลิกคิ้วสงสัยกับคําพูดของธิดา ดอย ที่ฟังแล้วไม่เข้าใจว่าคืออะไร

“ลามกมันคืออะไร ชื่อเจ้าหรือ”

นกกลายเป็นคนถึงกับกรอกตาขึ้นบน เธอไม่อยาก อธิบายอะไรมาก ไม่อยากพูดกับเขาด้วย ตอนนี้เธอ อยากได้อะไรสักอย่างที่อาจเป็นเสื้อคลุมหรือว่าผ้าห่ม มาปิดบังกาย ถ้าไม่รีบหาอะไรมาปิดคงได้เป็นอาหารตา องค์รัชทายาทจอมหิ่นแน่ๆ หรือไม่ก็ถูกปล้ำ เพราะดูจาก สายตาเขา เธอ ‘รอด’ ยาก

แต่ยังไม่ทันที่ธิดาดอยจะเอ่ยคําใด เสียงอันน่าตื่นเต้น ของหลิวกงกงดังขึ้นหน้าประตู

“เกิดอะไรขึ้นพ่ะย่ะค่ะองค์รัชทายาท ทรงร้องทำไมล่ะย่ะค่ะ”

คนที่อยู่ในห้องสองคนตกใจ ไม่คิดว่าหลิวกงกงจะได้ยิน เสียงอุทานนั้น องค์รัชทายาทรีบคว้าผ้าห่มบนเตียงมาปก ปิดเรือนร่างเปล่าเปลือยของธิดาดอย พอมีอะไรคลุม กายธิดาดอยลุกขึ้นยืน มองสลับระหว่างองค์รัชทายาท กับประตูห้อง

“ไม่มีอะไร ข้าแค่ตกใจของหล่น” องค์รัชทายาทแก้ตัว
“แน่ใจนะพะยะค่ะ” หลิวกงกงถาม

“เจ้าไปพักผ่อนได้แล้ว และไม่ต้องให้ใครเข้ามารบกวน

“พ่ะย่ะค่ะองค์รัชทายาท

หลิวกงกงเดินถอยหลังห่างประตูห้องบรรทมองค์ รัชทายาท แต่ก็ไม่ได้ละทิ้งความสงสัยเรื่องเสียง ‘ร้าย’ ที่ เขาได้ยินเป็นเสียงของผู้หญิง แต่จะว่าไปก็ไม่มีสตรีคน ใดเคยเข้ามาในห้องนี้ แม้แต่พระชายาก็ยังไม่เคยได้เข้า มา แล้วเสียงนั้นเป็นเสียงของใคร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ