ท่านหญิงจีจอมพลัง

บทที่ 4 ท่านหญิงจอมพลัง



บทที่ 4 ท่านหญิงจอมพลัง

ท่านหญิงใหญ่จียกง้าวขนาดร้อยชั่งกวัดแกว่งอย่าง คล่องแคล่ว เหล่าองครักษ์ที่เป็นยอดฝีมือสิบนายกระโจน บุกเข้าประชิดพร้อมแทงกระบี่เข้าพร้อมกัน จีลี่อิงเหวี่ยง จ้าวรับคนทั้งสิบทั้งซ้ายและขวาพร้อมดันพวกเขากระเด็น หงายหลังออกไปไกลกว่าหกจั้ง ทุกคนที่ล้อมวงชมอยู่ ต่างตื่นเต้นยืนขึ้นปรบมือเกรียวกราว

“พี่อิงอิงสุดยอด!” จีเซี่ยงอี๋ตะโกนลั่น

“สมแล้วกับเป็นจอมพลังแห่งตระกูลจี” ท่านฝู่กั๋วกงจีจิง เทียนตบมือเสียงดังหัวเราะร่า “เจ้าช่างแข็งแกร่งจริง

จีหลุนยกง้าวขนาดเท่ากันกระโจนไปยืนตรงหน้าน้อง สาว “คู่ต่อสู้ที่คู่ควรกับเจ้ามีเพียงข้าเท่านั้น” ว่าแล้วเขา ก็กระโจนเข้าไปโจมตีนางอย่างรวดเร็ว จีลี่อิงตวัดปลาย ง้าวขึ้นรับ

ดร้าง! เสียงกระทบของง้าวก้องกังวานทั่วสนามฝึก

วิทยายุทธ์พี่ชายคนโตนั้นประมาทไม่ได้ มีเพียงพละ กำลังเท่านั้นที่ยังเป็นรองนางอีกมาก จีลี่อิงกระโดดถอย หลังไปสองจั้ง ยกยิ้มมุมปาก ตวัดง้าวขึ้นเป็นรูปครึ่ง วงกลมในอากาศ

“ข้าจะสําแดงพลังล่ะ”
“เข้ามาได้เลย” จีหลุนอมยิ้ม เขามีวิธีรับมือกับพลัง มหาศาลของน้องสาวเสมอ และยังคงเป็นผู้เดียวที่ทำได้ ในสนามฝึกนี้ เพราะนางไม่ได้รับอนุญาตให้ไปแสดงฝีมือ นอกจวน สตรีที่มีทักษะยุทธ์ซ้ำยังมีพลังมหาศาลเช่นนาง หากมีผู้รู้เข้าคงจะขายไม่ออกเป็นแน่ ที่สําคัญตระกูลจี ยังเป็นหนึ่งในตระกูลที่มีโอกาสถูกฮ่องเต้หวาดระแวงใน ความจงรักภักดี การส่งเสริมให้ลูกทั้งสามฝึกวิทยายุทธ์ ลึกๆ แล้วเป็นเพราะท่านผู้กั๋วกงห่วงใยในความปลอดภัย ของคนในครอบครัวอย่างยิ่ง หากวันหน้าเกิดเหตุสุดวิสัย ใด เขาหวังว่า ลูกๆ จะเอาตัวรอดได้

‘ท่านหญิงจีจอมพลัง’ เกร็งกำลังไปยังท่อนแขนและมือ สองข้าง วิ่งโถมเข้าไป พี่ชายเกร็งลมปราณย่อร่างรับ แรงจากง้าวนาง เขาใช้หลักการผ่อนแรง เมื่อนางแรงมา เขาจะโอนอ่อนรับ พื้นใต้ฝ่าเท้าของเขายุบลงไปสามขุ่น เพราะแรงกระแทกมหาศาล สำหรับผู้ฝึกยุทธหากคิดจะ รับแรงระดับนี้ของนาง ฝ่าเท้าคงจะยุบพื้นดินไปสักหนึ่ง จื่อ

เมื่อเห็นร่างพี่ชายยุบลงไป นางกะจะลงแรงกดให้มาก ขึ้น แต่พี่ชายกลับออกแรงดันเล็กน้อยแล้วไถลตัวออก พร้อมพลิกจ้าวอย่างรวดเร็ว เขาเหวี่ยงร่างหมุนออกด้าน ข้างแล้วพลิกขึ้นตัวขึ้นยืนอมยิ้ม

“พลังเจ้าน่ากลัวมาก อิงอิง หากข้าลมปราณไม่กล้าแข็ง เห็นทีคงจะแข้งข้าห้กเสียแล้ว”
“คงมีแต่คนระดับท่านจึงจะรับพลังของข้าได้”

“นั่นเพราะเจ้าใช้เพียงครึ่งเดียวต่างหากเล่า”

นางยิ้มกว้าง “ข้าใช้สูงสุดเพียงเท่านี้ ก็ยากจะหาผู้รับได้ แล้ว”

ทั้งสองกระโจนเข้าหากันอีกครั้ง จีลี่อิงฟาดง้าวลง หมายกลางศีรษะพี่ชาย หากแต่จีหลุนเคลื่อนตัววืดหลบ อย่างรวดเร็ว คุณชายจีได้รับการถ่ายทอดวิชาเคลื่อน ย้ายร่างที่มีความว่องไวสูงจากท่านปู่ ไม่ว่าวัตถุใดจะ เคลื่อนเข้าหาด้วยความเร็วเท่าใดก็ตาม ผู้มีวิชานี้จะ สัมผัสได้และเคลื่อนร่างหนีได้ทันที วิชานี้จะถูกสืบทอด เฉพาะบุตรชายคนโตสายหลักของตระกูลเท่านั้น และนี่ก็ เป็นสิ่งที่ท่านหญิงใหญ่จีอิจฉาพี่ชายยิ่งนัก

“ท่านใช้วิชานี้อีกแล้ว” นางงัดง้าวที่ปักอยู่พื้นขึ้นด้วย ความโมโห ทุกครั้งที่พี่ชายใช้วิชานี้ นางจะหงุดหงิดลืมตัว

จีลี่อิงโยนง้าวขึ้นบนอากาศแล้วจับส่วนปลายแล้วเหวี่ยง

แรง

หวืด! เสียงง้าวแหวกอากาศเกิดลมแรงวูบหนึ่ง จีหลุนก ระโดดขึ้นสูง หลบปลายข้าว
“ฮ่าๆ น้องสาวข้าโกรธแล้ว” เขากระโดดถอยหลังไปไกล พอสมควร

ท่านหญิงใหญ่ สะบัดหน้าพรืด “พี่หลุนหากท่านใช้วิชา นี้อีก ข้าจะฟาดให้ง้าวหักเลยทีเดียว” นางหลับตาพลาง ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

“เอาล่ะๆ วันนี้พอได้แล้ว อิงอิง เจ้าอย่าโกรธพี่ชายเลย” ท่านผู้ก๋วกงเดินเข้ามาห้ามบุตรสาวคนรอง นางชอบฝึก วิทยายุทธ์ ซ้ำยังมีแรงมหาศาลแต่กำเนิด สามพี่น้องฝึก วิทยายุทธ์มาด้วยกัน ครูฝึกทั้งหลายต่างชื่นชมที่บุตร ทั้งสามของเขาเรียนรู้ได้ไวนัก โดยเฉพาะบุตรีคนกลาง เก่งกาจในการใช้ทั้งสิบแปดศาสตราวุธ แต่วิชาที่นางไม่ สามารถฝึกได้คือ วิชาเคลื่อนย้ายร่างที่เป็นข้อห้ามของ ตระกูล

จีเซียง รีบวิ่งไปเกาะแขนพี่สาวเพื่อทำให้นางใจเย็นลง “พี่อิงอิง เราไปกินปลาก้อนกันเถอะ” ได้ยินชื่ออาหารจาน โปรดจีลี่อิงค่อยยิ้มออก

“ก็ได้” นางหันไปค้อนพี่ชายหนึ่งวงใหญ่ จนเขาแอบขำ

“หายโกรธข้าได้แล้ว เดี๋ยวข้าจะซื้อนิยายให้เจ้าหนึ่งเล่ม ดีไหม?”

ท่านหญิงจีหันขวับ “จริงนะ”
“ข้าเคยโกหกเจ้าด้วยหรือ?” จ๊หลุนยิ้มหวานให้น้องสาว

จีเรียง กอดแขนพี่สาวข้างหนึ่งและแขนพี่ชายอีกข้าง หนึ่ง เราสามพี่น้องไปกินปลาก้อนด้วยกันเถอะ”

ท่านผู้ก๋วกงยิ้มด้วยความพอใจ หันหลังกลับเดินนำหน้า ลูกๆ ไปยังห้องอาหาร พ่อบ้านเหลียงค้อมศีรษะต้อนรับ

“นายท่าน ข้ามีเรื่องจะเรียนท่านด้วย”

“อืม…เดี๋ยวให้ลูกๆ ช้ากินให้อิ่มก่อน ไปรอคุยกันที่ห้อง หนังสือ”

“ขอรับ”

จีลี่อิงจิ้มเนื้อปลาปั้นเป็นก้อนกลมขนาดพอดีคำนึ่งใหม่ หอมกรุ่นใส่ปาก ทั้งยิ้มทั้งเคี้ยว เนื้อปลาสีขาวคลุกเคล้า กับแป้งปั้นเป็นก้อนนุ่มละมุนลิ้น ชิ้นแรกนางจะไม่ยอมจิ้ม ซีอิ้วเพื่อจะได้สัมผัสกับรสชาติเนื้อปลา พอเริ่มคำที่สอง จึงค่อยจิ้มซีอิ้ว ในถาดใหญ่ที่สาวใช้ยกมานั้นค่อยๆ หมด ไปเมื่อสามพี่น้องเริ่มเร่งมือจิ้มเนื้อปลาปั้นแข่งกัน

“พวกเจ้าช้าหน่อยก็ได้ ประเดี๋ยวติดคอกันพอดี” ชายา หวังหันมาห้ามลูกๆจีลี่อิงรีบจิ้มรีบเคี้ยวจนแทบตาเหลือก

“อิงอิง เจ้าเบาหน่อยก็ได้” ท่านพ่อเห็นนางเคี้ยวแทบ ไม่ทันก็หันมาลูบหลังช่วย เมื่อหันไปเจอจีหลุนกับจีเซียงอื่ ก็มีอาการเดียวกันจึงอดขำไม่ได้

ครอบครัวของเขาอบอุ่นเช่นนี้ ช่างมีความสุขเสียจริง เขาอยากจะรักษาความสงบสุขในครอบครัวไว้เช่นนี้ มิรู้ ว่าจะทำได้มากน้อยเพียงใด

ช่วงนี้เมื่อเขาตรวจชะตาเมืองกลับพบความผิดปกติ หลายอย่างที่น่าเป็นห่วง การเคลื่อนที่ของดวงดาวใน ตำแหน่งที่ไม่สมควร ช่วงเดือนนี้ในยามค่ำคืนเขาสังเกต และลองคำนวณออกมา คราแรกรู้สึกแปลกใจแต่ครา หลังรู้สึกตกใจ ปรากฏการณ์เช่นนี้ร้อยปีจะเกิดขึ้นหนึ่ง ครั้ง

‘อีกไม่นาน จะเกิดเรื่องใหญ่อีกครั้ง เลือดจะนองแผ่นดินอีกครา’


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ