ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน

บทที่ 3 ลูกค้าระดับพรีเมียม



บทที่ 3 ลูกค้าระดับพรีเมียม

“เฉินเกอนายเสแสร้งอะไรกัน?” หยางเสว่พูดด้วยความดูถูก

แต่ว่า หลังจากที่พนักงานจางหรูเห็นเฉินเกอล้วงบัตรสีดำทอง ออกมาเช่นนั้น นิ่งไปครู่หนึ่ง

บัตรระดับลูกค้าพรีเมียมที่ใช้ในร้านแบรนด์เนมได้ทั่วโลกมี

เพียงครอบครัวใหญ่เท่านั้นที่มีในครอบครอง ไม่มีอะไรสงสัย ผู้ที่มีในครอบครองจริงเป็นคนร่ำรวยที่แท้

จริง!

ส่วนหวังเสี่ยวเฟยที่อยู่ข้างๆ หยิบเครื่องรูดบัตรมาแล้ว

เฉินเกอกดรหัสบัตรที่เป็นวันเกิดตัวเอง แสดงว่าบัตรรูดสำเร็จ

จริงๆ

เสร็จสิ้นการทำธุรกรรม

“ตึ้ง!”

ทุกคนที่อยู่ในนั้นต่างก็ตกตะลึงกันหมด

“ให้ตายเถอะ แอร์เมสราคา3แสน6หมื่นเลยนะ! ร่ำรวยเหลือ

เกิน!”

“หรือว่าคนๆนี้จะเป็นทายาทเศรษฐีที่ซ่อนตัวไว้?” สายตาของผู้หญิงหนึ่งกลุ่มที่มองไปยังเฉินเกอเต็มไปด้วยความร้อนแรงเล็กน้อย

ลู่หยางเบิกตากว้างยิ่งพูดอะไรไม่ออก

คนจนนี้ ทำไมถึงมีเงินขนาดนี้? เขารู้สึกว่าเจ็บที่ใบหน้าของ ตัวเองนิดหน่อย

เมื่อครู่นี้ตัวเองยังโชว์ความรู้ของสินค้าแบรนด์เนมหลาก หลายแบบที่อยู่ในนี้

ดูท่าแล้วตอนนี้ ก็เหมือนกับตัวตลก

สีหน้าที่แสดงความตื่นเต้นมากที่สุดก็ยังเทียบไม่ได้กับหยาง เสว่ในตอนนี้แล้ว

“นาย……………. เฉินเกอ บัตรนี้นายเอามาจากไหน?”

กระเป๋าใบละ3แสน6หมื่นเลยนะ จะซื้อก็ซื้อเลย และเฉินเกอ ยังมีบัตรช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมทั่วโลกระดับพรีเมียม แค่บัตร นี้ ก็มีมูลค่าที่มากแล้ว!!

ถ้าหากกระเป๋านซื้อให้ตัวเอง

นาทีนี้ ก็จะทำให้ทุกคนมองมาด้วยสายตาที่เคารพไม่ใช่เหรอ

เฉินเกอมองไปที่หยางเสาหนึ่งครั้ง เขาขี้เกียจตอบ

แต่รู้สึกเจ็บใจเล็กน้อย คิดในใจว่า พี่สาวก็เกินไป ให้บัตร ช้อปปิ้งมาทั้งที ให้มาจำกัดวงเงินขั้นต่ำ3แสน!

“คุณผู้ชายที่เคารพ ฉันเอาไปห่อให้ท่านก่อน ! ขอให้ท่านนั่ง รอสักครึ่งชั่วโมง!”
นี่เป็นสินค้าแบนรด์เนม การห่อก็จะต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ และเมื่อเฉินเกอมองดูนักศึกษาชายหญิงกลุ่มหนึ่งมองมาที่ตัว เองด้วยความตกตะลึง รู้สึกเขินอายมาก

จึงพูดไปว่าไม่เป็นไร แล้วหยิบกระเป๋าเดินออกไปเลย

“รอก่อน! นายหยุดเลยนะ!” ลู่หยางที่มีสีหน้าดูไม่ดีทันใดนั้นเดินไปดักหน้าเฉินเกอเอาไว้

“นายมีธุระอะไร?” เฉินเกอพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

หยางยิ้มๆขึ้นมา ชี้ไปยังบัตรสีดำทองที่อยู่ในมือ เฉินเกอ “ผมสงสัยว่าบัตรสีดำทองของนาย ขโมยมา ปัจจุบัน การขโมย รหัสผ่านของคนอื่นไม่ใช่เรื่องยากแล้ว!”

พูดจบก็มองที่จางหรูที่ยืนอยู่ข้างๆ : “พี่จางหรู ผมแนะนำให้ คุณติดต่อไปที่ผู้บังคับบัญชาของพวกคุณ เมื่อเรื่องแบบนี้ถูกเปิด เผยออกไป จะส่งผลกระทบที่รุนแรงกับชื่อเสียงของทางร้านนะ!”

หยางเสวก็ได้สติกลับคืนมา “ถูกต้องพี่จางหรู คนจนขนาดนี้ จะมีปัญญาซื้อกระเป๋าที่แพงขนาดนี้ได้อย่างไรกัน ทั้งยังมีบัตร ระดับพรีเมียมแบบนี้อีก!!

หยางเสว่ไม่อยากยอมรับความจริงนี้เลยจริงๆ

เมื่อจางหรูได้ฟัง เหมือนจะสมเหตุสมผลนะ

ทันใดนั้น เธอก็หันไปบอกกับเฉินเกอว่า “นายรออยู่ตรงนี้สัก ครู ผู้จัดการของพวกเราใกล้จะมาถึงแล้ว!”
เมื่อพูดจบก็เหมือนกับป้องกันโจร กั้นเส้นทางเดินออกของเฉิน เกอเอาไว้!

เงินเกอคาดไม่ถึงว่าตัวเองมาซื้อกระเป๋าหนึ่งใบก็สามารถ ทำให้เกิดความวุ่นวายมากมายขนาดนี้ขึ้นมาได้ ดูท่าแบบนี้แล้ว แม้อยากจะออกไปก็ไม่สามารถออกไปได้

ทำได้เพียงรอผู้จัดการของพวกเขาอย่างเงียบๆ

ไม่นานนัก ผู้หญิงสวมชุดฟอร์มอายุ30กว่า หน้าตาสวยงาม บุคลิกท่าทางสง่างามมากเดินเข้ามา

จางหรูรีบเล่าเรื่องที่สงสัยว่าเฉินเกอเป็นคนขโมยบัตรให้ผู้ จัดการฟัง

ผู้จัดการมองดูเฉินเกอแวบหนึ่ง จากนั้นยิ้มแบบมืออาชีพ : “คุณคะ ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ พวกเราขอตรวจสอบบัตร ใบนี้ของคุณได้ไหมคะ?”

เธอให้ความเคารพอย่างมาก ไม่ว่าจะจริงหรือเท็จ ผู้จัดการ คนนี้ก็ไม่ใช้แววตาที่มีความคิดส่วนตัวในการมองคนอื่น

เฉินเกอลำบากใจมาก จึงทำได้เพียงยื่นบัตรสีดำทองให้เธอ

เห็นผู้จัดการหญิงหยิบเครื่องสำหรับอ่านบัตรโดยเฉพาะออก

จากนั้นวางบัตรไว้ข้างในด้วยความชำนาญการ

“คุณคะนามสกุลอะไรคะ? ขอบัตรประชาชนด้วยได้ไหมคะ”
ผู้จัดการหญิงถาม

“ผมชื่อเฉินเกอพี่สาวของผมชื่อเฉินเสี่ยว

แม้ว่ารหัสบัตรจะเป็นวันเกิดของตัวเอง แต่เงินเกอไม่แน่ใจว่า ใช้ชื่อพี่สาวในการทำบัตรหรือเปล่า ทันใดนั้น หยิบบัตร ประชาชนของตัวเองออกมาให้เธอด้วย

“ซี คนยากจน ดูว่าเขาจะจบอย่างไร!” ลู่หยางยิ้มเย็นชาอยู่

ข้างๆ ล้วงมือโทรออกมา พร้อมโทรแจ้งตำรวจทุกเมื่อ

และผู้จัดการหญิงตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว

ทันใดนั้น ในดวงตามีแววตาที่น่าตกใจ บนนั้นปรากฏว่า เฉิน เกอเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์บัตรสีดำทองนี้จริงๆ

เป็นสมาชิกระดับพรีเมียมทั่วโลก ส่วนแหล่งกำเนิด แน่นอนว่า ต้องมาจากครอบครัวที่ใหญ่มากๆ แน่นอน

ผู้จัดการหญิงเหงื่อเย็นออก จางหรูบ้าเอ้ย ทำให้ตัวเองเป็น

ปรปักษ์กับเจ้าพ่อใหญ่ท่านนี้

จากนั้นเธอเอาบัตรออกมา เดินไปข้างหน้าเฉินเกอโค้ง คํานับ90 องศา

“คุณเฉินเกอที่เคารพ ขอท่านยกโทษให้พวกเราสำหรับความ ไม่สุภาพเมื่อครู่นี้! นี่คือบัตรสีดำทองของท่านเอง”

“อะไรนะ!!!”

ทุกคนต่างก็ตกใจ
จางหรูยังอยู่ในท่าทางกางมือออกกันไว้ไม่ให้เงินเกอออกไป ทันใดนั้นรู้สึกเก้ๆกังๆอย่างมาก

“ผู้….ผู้จัดการเข้าใจผิดหรือเปล่าคะ? คนๆนี้…..เป็นผู้มี

กรรมสิทธิ์ในการถือบัตรต่จริงหรอ? ” ผู้จัดการหญิงเงยหน้าขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว เดินเข้าไปก็ตบ

จางหรูหนึ่งครั้ง: “ยังไม่วางมือเธอลงมาอีก!”

จางหรูเอามือปิดหน้าไว้ถอยไปอยู่ข้างๆ

ส่วนลู่หยางและหยางเสร่ ตอนนี้ก็ยังสับสนอยู่บ้าง

ผู้จัดการหญิงรู้ว่าเธอทั้งสองคนน่าจะรู้จักกับเฉินเกอและชอบ เยาะเย้ยเฉินเกอไปทั่ว

คิดในใจว่าเป็นการดีที่มอบความเป็นมิตร ให้คุณเฉินเพื่อลบ ภาพลักษณ์ไม่ดีที่วันนี้เขามีต่อแอร์เมสสาขาของพวกเรา

เธอเดินไปข้างหน้าหยางกับหยางเสว: “ขอสอบถามท่านทั้ง สอง เมื่อครู่นี้ที่เธอทั้งสองคนชักนำให้พนักงานของพวกเรา กระทําความไม่สุภาพต่อลูกค้าที่สูงศักดิ์ของพวกเรา หมายความ อย่างไรกันแน่?”

ลู่หยางจ้างและพูดว่า “ผมแค่อยากให้พวกคุณตรวจสอบสัก หน่อย เป็นการหวังดี!”

“โอเค ความหวังดีของพวกเธอทางเรารับไว้ แต่ตอนนี้ ถ้าหาก เธอทั้งสองไม่ได้มาซื้อของ ก็เชิญออกไป!!!!
คำสุดท้ายที่ผู้จัดการหญิงพูด แทบจะตะโกนออกมา ออกคำสั่งไล่ลูกค้าโดยตรง!

หยางเสว่ส่งสายตาไปที่หยาง หวังว่าเขาจะโต้ตอบกลับไป

แต่หยางเหงื่อท่วมหัว แม้ตอนนี้จะจำใจซื้อกระเป๋าใบละหนึ่ง หมื่น ต่อหน้าเฉินเกอก็ไม่มีความสำคัญอะไรเลยสักนิด!

เขาเป็นถึงลูกค้าระดับพรีเมียม

“พวกเราไป!”

ลู่หยางหน้าตึงจนเจ็บปวดมากแล้ว กัดฟัน แล้วดึงหยางเสว่ เดินออกไปด้วยความไม่เต็มใจ

จางหรูตอนนี้ก็หันไปที่เฉินเกอยิ้มแล้วโค้งคำนับเล็กน้อย “คุณ เฉินขอโทษค่ะ!”

เธอเสียใจแทบแย่ อันที่จริงคนนี้เป็นลูกค้าของเขา

เฉินเกอทําเหมือนไม่ได้ยิน หันไปยิ้มกับหวังเสี่ยวเฟยแล้วพูด ว่า: “พี่ วันนี้รบกวนเธอแล้ว แต่ว่าไม่ต้องห่อนะ ผมยังมีธุระอีก ลาก่อน!”

การเผชิญหน้ากับการถูกสายตาร้อนแรงของนักศึกษาผู้หญิง ทั้งหมดที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุมองมาที่ตัวเอง เฉินเกอเดินลงไป ด้วยความรู้สึกเขินอายเป็นอย่างมาก

นี้เป็นครั้งแรกที่เขาใช้เงินอย่างบ้าคลั่ง

ที่จริงไม่สอดคล้องกับนิสัยของเขาเลย โดดเด่นด้วยความหรูหรา คิดว่าก็มีเพียงพี่สาวเท่านั้นที่ทำได้

เฉินเกอเขา หวังเพียงตัวเองสามารถเป็นคนธรรมดาที่ไม่ต้อง กังวลเพราะเงินก็พอแล้ว!

เดินออกจากร้าน โทรศัพท์ของเฉินเกอก็ดังขึ้น ครั้งนี้หม่า เสี่ยวหนานโทรมา

เมื่อรับสายขึ้นมาก็ได้ยินเสียงรีบร้อนของหม่าเสี่ยวหนาน “เฉินเกอรีบมาสิ ฉันจะบอกนายนะ ฉันไม่สนใจว่าคนอื่นจะมอง นายอย่างไร อย่างไรก็ตามนายเป็นเพื่อนสนิทของฉัน วันเกิด ของฉัน นายจะต้องมา! คนในหอพักของนายก็มาหมดแล้ว!”

เฉินเกอยิ้มพยักหน้า: “ผมจะไปเดี๋ยวนี้เลย!

“ใช่แล้วใช่แล้ว แต่งกายดูดีหน่อยนะ วันนี้ฉันจะแนะนำสาว คนหนึ่งให้นายรู้จักสักหน่อย!

หมาเสียวหนานเฉินเกอหนึ่งประโยค

เฉินเกอตอบกลับด้วยความลำบากใจ กระเป๋าห้ามถือไปแบบ นี้ เฉินเกอไปซื้อถุงพลาสติกขนาดใหญ่สีแดงราคา2เหมา ใน ตลาดที่อยู่ข้างๆเพื่อใส่กระเป๋าเข้าไป

รีบนั่งรถแท็กซี่ไปที่ภัตตาคารหรู

ตอนนี้ ในห้องอาหารของภัตตาคารหรูยี่

หม่าเสี่ยวหนานวางโทรศัพท์ ยิ้มและพูดกับผู้หญิงผมยาวที่ถือ ได้ว่าเป็นระดับเทพธิดาที่นั่งอยู่ข้างเธอว่า: “ยีฟาน เฉินเกอเป็นเพื่อนสนิทของฉัน นิสัยดีมาก และตั้งใจเรียนมาก เดี๋ยวเขามาถึง พวกเธอรู้จักกันสักหน่อย!

จ้าวยีฟานใส่หูฟัง ยกขาขนาดเล็กที่ขาวผ่องขึ้นมา แกว่งไปมา

สดใสสวยงามมาก

“โอเค!”

จ้าวยีฟานกับหม่าเสี่ยวหนานรู้จักกันตั้งแต่เด็ก และเรียนอยู่ ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่ไม่ได้เรียนคณะเดียวกัน

วันนี้ฉลองวันเกิดของหม่าเสี่ยวหนาน หม่าเสี่ยวหนานก็ชวน เพื่อนในหอพักของจ้าว ฟาน แล้วก็เพื่อนในหอพักของเฉินเก อมาร่วมด้วยกันทั้งหมด

คล้ายกับการเชื่อมความสัมพันธ์ในหอพัก

ในขณะเดียวกันหม่าเสี่ยวหนานรู้ว่า ช่วงนี้ จ้าวยีฟานเทพธิดา ที่อยู่ตัวคนเดียวมาตั้งแต่มัธยมปลาย กำลังจะหาแฟนหนึ่งคน

จ้าวยีฟานดื่มน้ำผลไม้อย่างสง่า ทันใดนั้น

ห้องอาหารถูกเปิดออก……..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ