ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน

บทที่ 18 ไปวิลล่าเงินฉวนอีกครั้ง



บทที่ 18 ไปวิลล่าเงินฉวนอีกครั้ง

“ฟาน เมื่อกี้ฉันเห็นเธออารมณ์ไม่ค่อยดี เป็นอะไรหรือ เปล่า?”

จวงเฉียงเดินลงมาข้างล่างพร้อมกับเอามือล้วงกระเป๋า

เมื่อเห็นจ้าวยีฟานซึ่งตอนนี้สวยกว่าสองปีที่แล้ว หัวใจของจวง เฉียงก็เต้นโครมๆ

“ไม่มีอะไรก็แค่มีคนบางคนที่ทำตัวน่ารังเกียจ!

จ้าวยีฟานจ้องไปที่เฉินเกอและพูดด้วยความเย็นชา

“ชอบพูดว่าคนอื่นแล้วไม่มองตัวเองซะบ้างว่าเป็นยังไง!

หลินเจียวและคนอื่นๆก็พูดอย่างเกลียดชัง

โดยพุ่งเป้าไปที่เฉินเกอ

จวงเฉียงก็มองไปทางเฉินเกอ

เขาที่เพิ่งเข้ามาเมื่อกี้ก็เห็นว่าจ้าวยีฟานดูมีอะไรบางอย่างกับ เฉินเกอ

ตอนนี้ดูเหมือนว่าจ้าวยีฟานจะไม่พอใจเฉินเกอ

เป็นไปได้ไหมว่าเด็กคนนี้จะมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือกับจ้าว ยีฟาน?

ฮ่าฮ่า จะเป็นไปได้อย่างไร?
จางเฉียงมองดูสภาพการแต่งตัวของเฉินเธอก็รู้แล้ว ทั้งเนื้อทั้ง ตัวคงไม่เกินร้อยห้าสิบหยวน ยีฟานจะมีความสัมพันธ์กับคน แบบนี้ได้อย่างไร!

“ถ้ามีเรื่องเข้าใจผิดก็พูดออกมาตรงๆ! พวกเธอเป็นเพื่อนกันก็ ควรจะเข้าใจกัน!”

จวงเฉียงยิ้มสบายใจ แต่สายตากลับมองไปที่เฉินเกอ

“เพื่อน ฉันชื่อจวงเฉียง เป็นเพื่อนสมัยเด็กของยีฟาน สวัสดี!”

พอพูดจบจวงเฉียงก็เตรียมหันไปจับมือกับเฉินเกอ และ นาฬิกาโรเล็กซ์สีทองก็เผยโฉมออกมา

นาฬิกาทองคำชนิดนี้มีความพิเศษตั้งแต่แรกเห็นและมีราคา มากกว่าหนึ่งแสนหยวนเป็นอย่างต่ำ

ในขณะนั้นก็ทำให้ผู้หญิงทุกคนมองไปตามๆกัน

เฉินเกอเห็นว่าจวงเฉียงคนนี้ มองอย่างไรก็ไม่รู้สึกถึงความ

เป็นมิตร

พอเตรียมจะจับมือกับเขา

ก็ได้ยินเสียงจวงเฉียงพูดด้วยความประหลาดใจ

“ว้าว! เพื่อน… เสื้อผ้าของนายเป็นแบรนด์อะไร? ฉันเพิ่งกลับ มาจากต่างประเทศ ทำไมถึงไม่เคยเห็นมาก่อน?” จวงเฉียงมองไปที่เสื้อของเฉินเกอและทำหน้าตาตกตะลึง

มีรอยยิ้มขี้เล่นตรงมุมปาก
จ้าวยีฟานอยู่ที่นี่และเขาก็สังเกตเห็นว่าข้าวฟานมีความ สัมพันธ์ที่ไม่ดีกับเด็กคนนี้

ไม่ให้เขาขี่ไปตามแม่น้ำและเอาชนะเด็กคนนี้สักสองสามคำ

“ฮ่าฮ่า ก็แบรนด์ทั่วไปนะ

เงินเกอมองเห็นถึงความไม่เป็นมิตร

แต่เฉินเกอก็ไม่ได้วางแผนจะเอาคืนคนคนนี้

บอกตามตรงว่าเป็นเกอจะใช้บัตรช้อปปิ้งของพี่สาวไปซื้อ เสื้อผ้าก็ยังได้ แต่ต้องรูดขั้นต่ำเป็นเงินสามแสนหยวน เฉินเกอจึง รู้สึกว่ามันฟุ่มเฟือยเกินไป

“โอ้ แบรนด์ทั่วไป? ใช่สิหลี่ห้าว นายเคยเห็นเสื้อผ้าแบรนด์นี้ ไหม? พวกนายอยู่ในประเทศตลอดนี่!”

จวงเฉียงหันไปถามเพื่อนมัธยมคนนั้น

คนที่ชื่อหลี่ห้าวมีผมสีเหลือง ผิวของเขาขาวมาก หลังจากที่เขามาถึง สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่กลุ่มสาวสวย อย่าง จ้าวยีฟาน, สวีเสีย, และหลินเจียว

เมื่อได้ยินที่จวงเฉียงพูด หลี่ห้าวก็รู้ว่าจวงเฉียงมีความหมาย อยากเอาชนะ

หลี่ห้าวยิ้มและสายหัว ไม่เคยได้ยินจริงๆ ให้ฉันหาใน อินเทอร์เน็ตดีไหม?”

ทั้งสองพูดรับส่งกัน และมีสีหน้าจริงจังราวกับหาความรู้
ในความเป็นจริงก็เพื่อล้อเลียนเฉินเกอ

แต่เฉินเกอไม่ได้ดูลำบากใจในเรื่องนี้

จ้าวยีฟานและผู้หญิงคนอื่นๆ มองเฉินเกออย่างได้ใจ

“! ใครให้นายทำตัวอวดดี ตอนนี้โดนคนอื่นดูถูกแล้วเป็นไง ไอ้กระจอก!”

หลินเจียวหัวเราะเสียงต่ำ

“ไปร่ำเรียนถึงต่างประเทศ ฆ่าคนโดยเลือดไม่หก มีความ สามารถทำร้ายคนอื่นทางอ้อม ช่างเก่งกาจจริงๆ!

จ้าวยีฟานแอบพูดอยู่ในใจ

เห็นได้ชัดว่าจวงเฉียงพุ่งเป้าไปที่เฉินเกอโดยตรงเพื่อระบาย ความโกรธ ให้เธอ และเขาก็ไม่เหมือนพวกสวี่ยงพวกนั้น

แต่จะใช้วิธีที่ทำให้คนรู้สึกขมขื่นจนไม่สามารถพูดอะไรออก

มาได้

สิ่งนี้ทำให้จ้าวยีฟานรู้สึกชอบใจกับสติปัญญาของจวงเฉียง อย่างมาก รวมไปถึงสิ่งที่เขาทำเพื่อเธอ

“จวงเฉียง ฉันจะแนะนำเพื่อนๆของฉันให้นายรู้จัก!

หลังจากเหลือบมองเฉินเกอ จ้าวยีฟานก็แนะนำคนที่นั่งอยู่ให้ จวงเฉียงได้รู้จัก

และจวงเฉียงยังแนะนำหลี่ห้าวเพื่อนร่วมชั้นสมัยมัธยมที่ลงมา พร้อมกับเขา บ้านของหลี่ห้าวทําเกี่ยวกับหน่วยงานฝึกอบรมและถือว่าเป็นบริษัทฝึกอบรมชั้นนำของจินหลังที่แข็งแกร่งอีก ด้วย

หลายคนนั่งลงทีละคน

แน่นอนว่าจวงเฉียงนั่งอยู่ตรงข้ามจ้าวฟาน

สำหรับหลี่ห้าวดูเหมือนว่าเขาจะสนใจสวีเสียและหลินเจียว เอามาก

คอยจับตาดูพวกเขาสองคน และตอนสนทนากัน จวงเฉียง แสดงให้เห็นความเหนือกว่าของตัวเอง โดยไม่มีใครสามารถ เทียบชั้นได้

เดิมทีหัวข้อหลัก ในวันนี้คือหยางฮุยและสวีเสีย

แต่ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดคือเรื่องวัยเด็กของจ้าวยีฟาน กลับ กลายเป็นประเด็นที่แทรกเข้ามา

มันทำให้หยางฮุยไม่พอใจเล็กน้อย

เฉินเกือมองเห็นทุกอย่างได้โดยธรรมชาติ

สถานการณ์ของเพื่อนถูกเตะออกไป เฉินเกอเองก็ไม่สามารถ นิ่งเฉยได้

โชคดีที่เขาที่เตรียมพร้อมไว้แล้ว

ก่อนหน้านี้เฉินเกอกลับไปที่หอพัก เขาได้โทรหาหลี่เฉินกั๋วซึ่ง เป็นผู้จัดการใหญ่ของวิลล่าเป็นฉวน และบอกเขาว่าวันนี้เขาอาจ จะพาเพื่อนไปที่วิลล่าเงินฉวน จึงขอให้เขาช่วยจัดการให้
เพื่อที่จะให้หยางฮุยและสวีเสียได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน พูดอีกอย่างก็คือหม่าเสี่ยวหนานก็อยากไปเที่ยววิลล่ามากเช่น

เงินเกอคิดว่าคนที่ชื่อหลี่ห้าวรู้แล้วว่าหยางฮุยชวนสวีเสียออก ไปทานอาหารเย็นหลังจากนี้ เขาจึงกัดหยางฮุยไม่ปล่อย

ถามว่าตระกูลหยางฮุยทำอะไร หรือจะให้พูดง่ายๆว่า บ้านของนายมีเงินเหมือนฉันไหม? ในขณะนี้ฉันอยากจะยกเรื่องที่จะรวมกลุ่มกันไปวิลล่ามาพูด แต่ในเวลานี้ จวงเฉียงพูดว่า

“ใช่แล้ว ดูเหมือนว่าฉันจะได้ยินเรื่องๆหนึ่งหลังจากที่ฉันกลับ มาจากต่างประเทศ พวกเธอก็น่าจะได้ยินมาบ้าง เรื่องที่ถนนการ ค้าจีนหลังของบ้านหนึ่งเลิกกิจการแล้ว! ฮี พูดแล้วก็เสียดายที่พ่อ ของฉันไม่รู้จักกับเจ้าของคนที่อยู่ในบ้านหนิงคนนั้น ไม่อย่างนั้น แล้วฉันจะขอร้องให้พ่อซื้อภัตตาคารหมิงหวาง

จ้าว ฟานและคนอื่นๆกระตุกเล็กน้อย

เรื่องบ้านหนิงหนิงผ่าน แน่นอนว่าพวกเธอรู้ดีกว่าที่คิด เพราะตอนที่เกิดเรื่อง หนิงผ่านคนนั้นก็อยู่ข้างๆพวกเธอ

แต่พอได้ยินว่าตระกูลของจวงเฉียงกำลังจะเข้าครอบครองภัต ตาคารหมิงหวาง หญิงสาวเหล่านั้นก็มีอยากความคิดผูกไมตรี กับเขา
จ้าวฟานพยักหน้า “ความจริงพวกเรารู้จักหนึ่งผ่านคนนั้นว่า กันว่ามีคนใหญ่คนโตอยู่เบื้องหลังความผิดของเขา จากนั้นธุรกิจ ทั้งหมดของตระกูลก็ล้มละลายในชั่วข้ามคืน! โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุตสาหกรรมร้านอาหารของตระกูลพวกเขาที่ตกทอดกันมารุ่น รุ่นต้องถูกบังคับให้ออกจากถนนการค้าจินหลิง? ทำไมหรือ? ลุง จวงอยากรับช่วงต่อหรือ?”

จวงเฉียงเห็นสาวๆมองมาที่เขา

เขารู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก

เขาพูดพลางพยักหน้า “พ่อของฉันหมายความว่าอย่างนี้ จริงๆแล้วถนนการค้าจินหลิง ทุกคนคงรู้ดีว่าเงินที่นั่นหลั่งเข้ามา เหมือนน้ำไหล ไม่มีใครสงสัยในมูลค่าการค้าที่นั่น! ยิ่งไปกว่านั้น ถนนการค้าจินหลังที่พ่อของฉันไปบ่อยๆก็เป็นวิลล่าเป็นฉวน!”

“วิลล่าเงินฉวน! ”

เมื่อได้ยินคำว่าวิลล่าเป็นฉวน สีหน้าทุกคนดูมีสีสันกันมาก จวงเฉียงยิ้มและพยักหน้า “ทำไม พวกเธอเคยไปกันหรือ?” พอพูดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้นึกถึงวันนั้นกับความน่าอับอายของ หนิงผ่าน

จ้าวยีฟานไม่ได้ตั้งใจที่จะหลอกลวงจวงเฉียง แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับหนิงผ่านในวันนั้นกลับพูดไม่ออก พอพูดจบจวงเฉียงก็ยิ้ม “คิดไม่ถึงว่าหนิงผ่านคนนั้นจะน่าอายขนาดนี้ แต่ว่ายีฟาน ในเมื่อคราวที่แล้วพวกเธอยังไม่ได้ไปงั้น คราวนี้ฉันจะพาพวกเธอไปเอง ฉันจะให้พ่อของฉันโทรศัพท์ไป นั่น!”

“อ๊า! จริงหรือเปล่าพี่จวงเฉียง?”

หลินเจียวถามด้วยความประหลาดใจ

“แน่นอนอยู่แล้ว! รอสักครู่ ฉันจะโทรศัพท์หาพ่อก่อน!” จวง เฉียงพูดจบก็กดเบอร์โทรศัพท์

เขาพูดถึงสถานการณ์ต่างๆ จากนั้นก็วางสาย

“อย่างงั้นพวกเราออกเดินทางกันเลยไหม? ฉันเกรงว่าตอน บ่ายคนจะเยอะเกินไป พ่อฉันจะจัดเตรียมไว้ไม่พอ!!

“ดีเลยๆ!”

แน่นอนว่าสาวๆ ต่างเห็นด้วย

“ได้ งั้นให้หลี่ห้าวขับรถไปด้วย มีรถสองคัน!”

จวงเฉียงพูดจบประโยค หลี่ห้าวก็รีบออกไปขับรถด้วยความ เต็มใจ

“แต่ว่าจวงเฉียง พวกผู้หญิงเรารวมกับเสี่ยวหนานแล้วมี ทั้งหมดเจ็ดคน รถสองคันจะพอหรือ แล้วพวกเขา…

จ้าว ฟาน ไปทางพวกเฉินเกอกับหยางฮุย จวงเฉียงถาม “ทําไมล่ะ พวกนายไม่มีรถหรือ?”
หยางฮุยอายหน้าแดงพลางส่ายหัว “ช่างเถอะ พวกเธอไปกัน เลย พวกเราไม่ไป!”

หม่าเสี่ยวหนานที่นั่งอยู่ตรงกลางนั้นรู้สึกไม่สบายใจและพูดว่า “พวกเขาไม่ไป ฉันก็ไม่ไป

เงินเกอไม่อยากให้หมาเสี่ยวหนานรู้สึกไม่สบายใจไปเสียทุก ครั้ง เขาดูออกว่าเธออยากไปเที่ยว

เขาจึงพูดไปว่า “เสี่ยวหนาน เธอไปเถอะ พวกเราคิดว่าจะกิน อาหารกันก่อน แล้วค่อยตามไปสมทบทีหลัง

คําพูดของเฉินเกอนั้นตั้งใจจะให้จ้าวยีฟานและสวีเสียได้ยิน

วันนี้หยางฮุยสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ พวกเธอไม่ได้กินสักคำ คิด จะไปก็ไป นี่มันใช้ได้ที่ไหนกันล่ะ

พอจ้าวยีฟานได้ยินก็เข้าใจได้ทันทีจึงพูดดูถูก “หึหึ พวกนาย ยังจะตามไปทีหลังโดยไม่มีจวงเฉียงเป็นคนน่งั้นหรือ พวกนาย จะเข้าไปยังไง? แล้วยังจะเรื่องอาหารบนโต๊ะนี่อีก ของพวกนี้ยัง จะให้ฉันเป็นคนจ่ายอีกไหม?

หยางฮุยรีบห้าม “ไม่ต้องๆ พวกเธอไปกันเถอะ สวีเสียค่อย เจอกันวันหลัง!”

หยางฮุยเหลือบมองไปที่สวีเสีย

เดิมทีอยากจะพูดว่าเดี๋ยวเจอกัน แต่จ้าวยีฟานพูดก็ถูกแล้ว สถานที่แบบนั้นเขาจะเข้าไปได้ที่ไหนกัน
จากนั้นจ้าว ฟานและคนอื่นๆ เดินออกไปด้วยท่าทีกระกระดา หวังว่าคราวนี้จะไม่อยู่ในสถานการณ์ที่น่าอับอายเหมือนเมื่อคืน

หลังจากพวกเธอออกไปกันแล้วก็หันกลับมามองอาหารที่อยู่ บนโต๊ะ

หยางฮุยดูไม่มีความสุข

“พี่ฮุย อย่าเพิ่งท้อ ฉันบอกแล้วไงว่าเดี๋ยวพวกเราจะไปวิลล่าก็

วิลล่าสิ!”

เฉินเกอตบไหลหยางฮุยเป็นการปลอบใจ

หยางฮุยยิ้มอย่างเศร้าสลด “ฉันเข้าใจสิ่งที่นายพูดพี่เฉิน เมื่อกี้นี้ฉันต้องขอบคุณนาย ช่างเถอะ ของกินเยอะแยะ ไม่กินก็ สิ้นเปลืองเปล่าๆ พวกเรามากินกันเถอะ กินเสร็จก็กลับไปนอนที่ หอกัน!”

เฉินเกอรู้ว่าเขาเข้าใจตัวเองผิดจึงทำเป็นปากแข็งแข็งพูดไป อย่างนั้น

เขายิ้มออกมาและคิดว่าตัวเองจะไม่อ่อนแอเหมือนเมื่อก่อน บอกตามตรงว่าหยางฮุยและเพื่อนคนอื่นมักจะไม่สามารถเลย หน้าขึ้นมาได้และโดนดูถูกอยู่เสมอซึ่งโดยส่วนมากแล้วตัวต้น เหตุที่ดึงดูดสิ่งเหล่านั้นคือตัวเขา

เฉินเกอยังคงรู้สึกเสียใจ

เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรหาหลี่เจิ้นกั๋ว “พี่เจิ้ นกั๋ว เดี๋ยวผมกับเพื่อนจะไปวิลล่า ถ้าทางนั้นสะดวกช่วยส่งรถมารับพวกผมสองคันได้ไหม! ?”

หลี่เจิ้นถั่วพูดในสายด้วยน้ำเสียงเคารพ “แน่นอนว่าสะดวก ครับคุณชายเฉิน ตอนนี้พวกคุณอยู่ไหน?

เงินเกือบอกสถานที่เสร็จก็วางสาย

จากนั้นหยางฮุยและเพื่อนๆ ต่างก็มองเฉินเกอด้วยความ

ประหลาดใจ

“ให้ตายเถอะ พี่เฉิน นายโทรศัพท์หาใคร?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ