ตอนที่12 ศักยภาพ ที่เหนือความคาดหมาย
” แย่แล้ว องค์หญิง
แย่แล้ว นายน้อย…!!!
เจ้าอ้วนอูกวงแหวกบรรดาคนที่มามุงดูป้ายประกาศ เร่เข้ามา รายงานผู้เป็นเจ้านายของตน……
“มีอะไร อีกวง แค่ให้ดูป้ายประกาศทำไมต้องโวยวาย มี
องค์หญิงจื่อเว่ยถามด้วยความสงสัยในอาการของเจ้า
อะไร”
อ้วนอู่กวง
“อ่า… องค์หญิงขอรับ นายน้อยขอรับ ในประกาศระบุการ
แบ่งกลุ่มผู้เข้าทำการทดสอบ พวกเราอยู่กลุ่มเดียวกับ เจ้าหลี่
เฉียงจิ้ง….ขอรับ”
“หัววววว….!! ”
นัทและองค์หญิงจื่อเว่ย แทบจะส่งเสียงร้องออกมาพร้อม
กัน ทว่า….
” เออคือ…. เออ!!”
เหมือนอกวงจะมีบางสิ่งยังกล่าวออกไปไม่หมดจนนัทต้อง
ถามกลับ
มีอะไรจะเลวร้ายกว่านี้อีกรึไง รีบบอกมา ”
ในประกาศยังระบุอีกว่า…ว่า…”
ก่อนที่จะเอ่ยประโยคสุดท้ายที่มัวแต่ ล้ำๆอึ้งๆ องค์หญิง
จื่อเว่ย ส่งสายตาดุเป็นสัญญาณ ให้รีบเอ่ยออกมา มิฉะนั้น ชะตา กรรมเจ้าเลวร้ายเป็นแน่ ในประกาศยังระบุอีกว่า ให้ หลี่เฉียงจิ้งเป็นหัวหน้ากลุ่มเรา
ขอรับ องค์หญิง”
ทันตาเห็น เสียงอุทาน ………..ของทั้ง นัทและองค์หญิง ดังกว่าเมื่อครู่ซะอีก…
แต่ก่อนที่คนทั้งคู่จะกล่าวสิ่งใด
พลันมีเสียงพูด แทรกเข้ามา
“ข้าก็นึกว่าเรื่องใหญ่ เรื่องโต อันใด อืม เห็นที่ การ ทดสอบครั้งนี้กลุ่มเรามีหวังชนะแน่….”
ผู้กล่าวด้วยความมั่นใจมิใช่ใคร หม่าฉันซวงที่ยืนอยู่ด้าน หลังนั่นเอง ซึ่งเป็นคำกล่าวที่เกินคาดหมายของคนทั้งหมด มาก จนองค์หญิงต้องเอ่ยถามกลับไปยังองครักษ์ส่วนตัว
“มีเหตุผลใด ทำไมทำให้เจ้ามั่นใจว่า ปีนี้กลุ่มเราน่าจะ ชนะ โดยมี เจ้าเฉียงจิ้งเป็นหัวหน้ากลุ่ม ”
องค์หญิงเอ่ยถามหม่าฉันซวงที่กำลังนั้นพิเคราะห์อย่างใช้ความคิดก่อนไล่เรียงลำดับถ้อยคำรายงานตอบกลับมา
“เหตุผลเพราะการสอบที่ผ่านๆมา
กลุ่มที่มีเจ้าเฉียงจิ้งเป็นหัวหน้าล้วนมีคะแนนชนะเลิศ รึไม่ก็ รองชนะเลิศ เป็นเพราะที่ผ่านๆมา พวกท่านไม่เคยได้เข้าร่วมการ ทดสอบภาคสนามจึงไม่รู้ในข้อนี้
หม่าฉันซวงแจงรายละเอียดให้คนทั้งหมดฟังด้วยที่ผ่านๆมา การทดสอบภาคสนามองค์หญิงมักติดภาระกิจทำให้ไม่สามารถ เข้าร่วมได้ ส่วนหลงอี้เฟย พอจะสอบภาคสนามที่รัยมีอันเจ็บตัว ด้วยเจ้าเฉียงจิ้งคอยกลั่นแกล้งไม่ให้เข้าร่วมการทดสอบแทบทุก ครั้งไป ดีว่ารอดมาได้ เพราะทำคะแนนภาควิชาการได้อย่างดี เยี่ยม
“ข้าก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ทำไมกลุ่มที่มีเจ้าเฉียงจิ้งเป็นหัวหน้า ถึงได้ชนะเกือบทุกครั้งไป
องค์หญิงหันมาสบตากับนัท พลางถามไปยังหม่าฉันซวง
“ข้าว่าคำตอบนี้ พวกท่านควรไปค้นหาด้วยตัวเองจะดีกว่า ถ้า ฟังจากข้าพวกท่านอาจไม่เชื่อก็เป็นได้…”
กล่าวพลางหม่าฉันซวงพลางเดินนำคนทั้งหมดเข้าสู่ อาคารตามที่หลี่เฉียงจิ้งได้นัดหมายไว้
บัดนี้คนทั้งหมดเดินเข้าในห้อง
ที่มีโต๊ะยาวตัวหนึ่งตั้งอยู่ขนาบข้างด้วยเก้าอี้ที่เพียงพอจำนวน ผู้เข้าร่วมประชุม หัวโต๊ะ พบหลี่เฉียงจิ้งนั่งเป็นประธานรออยู่ก่อนแล้ว โดยมีลูกสมุนทั้งสอง เบซุน เบเซียน แฝดคู่ยืนขนาบข้าง
ด้วยสถานศึกษาหลวงแห่งนี้มีกฎเคารพในความเสมอภาค ของบุคคล
แต่เมื่อ มีกิจกรรมเข้าร่วมกลุ่ม ตามกฎระบุสมาชิกต้องเคารพ และเชื่อฟังหัวหน้ากลุ่ม มิฉะนั้นอาจส่งผลต่อคะแนนความ
ประพฤติ
หลังจากหลี่เฉียงจิ้งเห็นทุกคนมาถึงแยกย้ายนั่งลงซ้ายขวา จึง ให้ เบ็น แจกจ่ายเอกสาร คู่มือไปให้แก่สมาชิก หลังจาก สมาชิกรับเอกสารจึงได้กล่าวออกไป
“พวกเจ้า ศึกษาเอกสารคู่มือเหล่านี้แล้วมีความเห็น อย่างไร…”
“อืม การสอบในปีนี้ แบ่งเป็นปุ่นและ ปูน มีวาดภาพ ดนตรี บทกลอน เดินหมาก ทุกกลุ่มส่งสมาชิกไปเป็นตัวแทน โดยปีนี้ให้อิสระไม่บังคับคนเดียวประเภทเดียวอย่างปีที่ผ่านๆ นั่นหมายความว่า คนเดียวลงแข่งกี่ครั้ง กี่ประเภทก็ได้ คิด คะแนนรวมกลุ่มเป็นสำคัญ ส่วน มียิงธนู ขี่ม้าและการประลอง ยุทธ โดยส่งตัวแทนลงประลอง ในแต่ละครั้ง ฝ่ายล่ะ 3 คน เก็บ คะแนนรวมไปเรื่อยๆ กลุ่มใดทำคะแนนได้สูงสุดกลุ่มนั้นเป็น ฝ่ายชนะ องค์หญิงกล่าวสรุปให้ทุกคนเข้าใจจากการอ่าน เอกสาร
” ชัดเจน องค์หญิงสรุปมาได้ดี พวกเจ้ามีข้อสงสัยประการใด
หลี่เจียงจิ้งกล่าวพลางส่งสายตามองมายังสมาชิกที่ร่วม ประชุม ด้วยท่าทีจริงจัง มิได้มีทีท่าคุกคามอย่างเช่นเคย อันเป็น เครื่องบ่งชี้ได้ว่าบุคคลคนนี้รู้จักแยกแยะเรื่องส่วนตัวและเรื่อง ส่วนรวมได้อย่างชัดเจน
“ข้า ขอถามเรื่องการส่งตัวแทนเข้าร่วมการทดสอบ…
นัท ถามในหัวข้อสำคัญ พลางวิเคราะห์หลี่เฉียงจึงไปใน ตัวจึงได้ทดสอบด้วยคำถามนี้
“เจ้าถามได้ดี ตรงประเด็นที่ข้าจะกล่าวต่อไปนี้ ด้วยการ แข่งขันครั้งนี้มีความสำคัญกว่าทุกครั้ง ด้วยเป็นการคัดเลือก กลุ่มที่ชนะเลิศเป็นตัวแทนแคว้นต้าหมิงเราไปแข่งกับอีก 3 แคว้นเพื่อนบ้านเรา โดยในปีนี้เราได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ ฉะนั้นนี่มีเพียงแข่งเพื่อตัวเราเอง เพื่อกลุ่ม เพื่อสถาบัน แต่เรา ต้องแบกภาระ คำว่า เกียรติยศของแคว้นต้าหมิง ไว้บนบ่าอีก ด้วย ในการทดสอบด้านต่างๆ ข้าไม่บังคับ แต่ ขอให้ทุกคน ประเมินความสามารถของตัวเองแล้วเสนอตัวมา ให้สมาชิกได้ พิจารณาตามความเหมาะสม… ”
หลี่เฉียงจิ้งกล่าวแจกแจงในรายละเอียด
ในระหว่างที่หลี่เฉียงจิ้งกำลังอธิบาย
นัท องค์หญิงคล้ายส่งกระแสจิตถึงกัน ด้วยเหตุนี้กระมัง การ ทดสอบที่ผ่านมากลุ่มที่หลี่เฉียงจิ้งเป็นผู้นำมักชนะเลิศเกือบทุก ครั้งไป เจ้านี่ดูภายนอกเหมือนทำตัวเป็นอันธพาลคอยระธานหล งอี้เฟย แต่ เมื่อถึงเวลากลับแสดงศักยภาพ ภาวะผู้นำได้อย่างเหมาะสม แยกแยะเรื่องส่วนตัว ส่วนรวมอย่างชัดเจน ให้เกียรติ สมาชิกทุกคนในกลุ่มไม่แบ่งชนชั้น แม้นกระทั่งเจ้าอ้วนอกวง ลูกสมุนทั้งสอง ที่บ้างครั้งมักหันไปให้โอกาสคนเหล่านั้นได้ แสดงความคิดเห็น นัทและองค์หญิงพลางคิดในใจ คงต้อง ประเมิน หลี่เฉิงจิ้งใหม่ซะแล้ว เมื่อหันไปทางหม่าฉันซวงเจ้านี่ เอาแต่เงียบขรึมไม่แสดงความเห็นสีหน้าใดให้อ่านได้ออก แต่ คล้ายจะบอกอยู่เป็นนัยๆ เป็นไงหล่ะ พวกท่านได้ประจักษ์แก่ใจ ยัง
ระหว่างนั้น นัทถามไปยัง หลงอี้เฟย
(น้องอี้เฟยที่ผ่านๆมาไยเจ้าไม่เข้าร่วมการทดสอบภาค สนาม)
(ข้าก็อยากทดสอบนะท่านพี่นัท แต่ทุกครั้ง หลังสอบภาค วิชาการ จนจะสอบภาคสนามที่ไรข้าโดนไปอยู่กลุ่มเดียวกับเจ้า เฉียงจิ้งอยู่ร่ำไป พอจะถึงเวลาทำการทดสอบต้องคอยหาเรื่อง แกล้ง เพื่อให้ข้าพลาดการสอบอยู่เรื่อย….. เฉียงจิ้งคงกลัวข้า เป็นตัวถ่วง ในกลุ่มนะ ข้าผิดเองตอนนั้นขาอ่อนแอเกินไปจริงๆ )
หลงอี้เฟยตอบด้วยน้ำเสียงระทดท้อ ในชะตากรรมของตน
ที่ผ่านมา
นัท หัวเราะเหอะๆ ในใจ พลางกล่าวกับหลงอี้เฟย
(เจ้าอย่าเพิ่งด่วนสรุป ข้าสงสัยอะไรบางอย่าง ขอเวลาข้าจะ ค้นหาคําตอบที่แท้จริงให้เจ้าได้เห็น)
(ท่าน สงสัยตรงกับข้ามั้ย ท่านกงซุน…..)นัทถามไปยัง NP09 ที่บัดนี้ กลายเป็นกงซุนเช่อที่ปรึกษา ท่านเปานัทไปซะแล้ว
ท่านนัท เห็นไร้สาระอย่างนี้ ฉลาดและเฉลียวกับเค้าด้วย เหมือนกันนี่ ฮ่า ฮ่า……
(กร๊อดดดด….. เจ้าAI บ้า เจ้าหลอกด่าข้าอีกแล้ว)
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ