ตอนที่10 คําถาม ที่ยังไม่มีคำตอบ
ทันทีที่บุคคลในชุดขาว ยืนประจัญหน้า นัทเพียงยิ้มละมัย ที่มุมปาก พลางเอ่ยออกมา
ร้ายกาจ…!!”
บุคคลในชุดขาวประสานมือคารวะ
“ขอบคุณท่านพี่ที่ตั้งมือ… ให้ผู้น้อง
(พวกท่านทั้งสอง ประลองกันในครานี้ ข้าให้ 7 ส่วนใน10 ส่วน…]
จากคำกล่าวนี้ บุคคลทั้งสองหันไปยังผู้มาใหม่ ผู้มาใหม่ มือ
หนึ่งลูบเครายาว มือหนึ่งถือโบกพัดไปมาอย่างช้าๆลักษณะดุจ
ผู้ทรงภูมิความรู้
บุรุษชุดขาว ประสานมือคารวะ บุรุษผู้ทรงภูมิ คราหนึ่ง โดยม กล่าวสิ่งใด…. แต่ นัทหันขวับไปโต้ตอบ
การประลองเมื่อสักครู่พวกเรา น่าจะได้เต็ม 10 ส่วนซิ 11
ไม่ก็ 9 ส่วนก็ยังดี NP”
ในทันทีที่นัทกล่าวจบ พลันสภาวะแวดล้อมกลับบิดเบี้ยวแปรสภาพ จากบนหลังคา อาคารน้อยใหญ่หายวับไปกลับ กลายเป็นห้องโถงกว้าง คงไว้ด้วยบุรุษทั้งสาม
แท้จริงแล้ว นี่คือมิติ ที่NP09ได้สร้างขึ้นเพื่อให้คนทั้งสองได้ ทดสอบประลองฝีมือ บุรุษชุดขาวมิใช่ใคร คือ หล งอี้เฟย ซึ่งNP09 ได้ฝึกฝน ด้วยคอร์สพิเศษ แบบโหดสุดๆก้าว ข้ามขีดจํากัดของวิญญาณปรกติ จนสามารถ เพิ่มพลังวิญญาณ จนสามารถเปล่งพลังปราณได้ดุจคนปรกติขาดเพียงกายหยาบ เท่านั้นจึงยังคงรูปลักษณ์แบบกายละเอียด ถ้านับตามขั้น ลมปราณ น่าจะอยู่ประมาณ เจ้ายุทธขั้นที่ 2 ตามหลังนัทเพียงขั้น เดียว ส่วนบุรุษคล้ายผู้ทรงภูมิก็มิใช่ใคร คือ NP09 นับแต่ อัพเกรดตนเองมาจนถึงระดับ20% ก็สามารถสร้างรูปลักษณ์ คล้ายเฮโลแกรม ในมิติที่ตนสร้างขึ้นให้ทุกคนได้เห็น ในขั้นแรก คิดจะยึดเป็นลักษณะแนวขงเบ้งจากสามก๊ก แต่นัทไม่ยอม เสนอ เป็น กงซุนเช่อ ที่ปรึกษาทรงปัญญาของท่านเปาแทน NP09 ไม่ อยากขัดใจจึงจัดให้ตามที่เสนอ แต่แอบซ่อนแคะ กงซุลเชอรับ ใช้ท่านเปาผู้ซื่อสัตย์มั่นคง แต่นัท เจ้าเล่ห์นี่มันใช่เหรอ.. แต่ก็ไม่ อยากขัดใจเสนอให้เรียกตนเป็นกงซุนเช่อ จะได้เข้ากับ บรรยากาศในมิตินี้ อันนี้ หลงอี้เฟยแรกๆได้แต่ งงงัน ในบุคคล ทั้งสอง แต่ ไม่นานก็เริ่มชิน ปล่อยเลยตามเลย ในบุรุษทั้งสองผู้ มาเยือนจากต่างโลก ที่ตนเคารพประหนึ่งผู้มีพระคุณ
กลับมาที่กงซุนเช่อรึNP09 เมื่อนัทกล่าวจบ หันไปชำเลืองทาง นัท พลางกล่าว
[ เราตกลงกันแล้วท่านนัท ท่านต้องเรียกข้าว่า ท่านกงซุน
NP09 รี ท่านกงซุนเช่อ หันไปปรามนัท คล้ายจะบอก หลงมา มิติโบราณ ก็ใช้ภาษาสำนวนเยี่ยงคนโบราณ เจ้าเสนอเอง….
นัทหัวเราะเหอะๆ กล่าวต่อจากเมื่อสักครู่
“เอาหล่ะท่านกงซุน ก็ท่านกงศุล ข้ากับอี้เฟยประลองกันท่าน ให้แค่ 7ส่วนเต็ม 10ส่วนเนี้ยนะ ไม่กดคะแนนไปรึไง…”
นัทกล่าวอย่างมั่นใจในพัฒนาการของตน
กงซุนเช่อ โบกพัดช้าๆพลางวิเคราะห์
[ ข้าว่ามากไปซะด้วยซ้ำ อี้เฟย เจ้าใช้กระบวนท่าผสาน ลมปราณได้ดี แต่… เจ้ามีน้ำใจเกินไป การประลอง ถ้ามัวแต่ เกรงใจถือว่าดูถูกคู่ต่อสู้ ต้องใช้ออกให้สุดกำลัง เพื่อจะได้รู้ใน สมรรถนะของคู่ต่อสู้ และของตนเอง ส่วนท่านนัท ท่านถือว่า กระบวนท่าและลมปราณใช้ออกได้อย่างกลมกลืนมีประสิทธิภาพ แต่ไม่สร้างสรร ท่านยึดรูปแบบจนเกินไป การต่อสู้นอกจาก ต้องคิดพลิกแพลง ต้องรู้จักออกนอกกรอบบ้าง เพื่อให้คู่ต่อสู้ นวนกระบวนท่าต่อไปไม่ออก อันนี้ท่านทั้งสองควรจดจำ ยึด เพียงหลักการใช้ลมปราณเป็นแก่น กระบวนท่าต้องเป็นรอง ปะทะศัตรูที่แข็งแกร่ง ไม่เกิน 50 กระบวนท่าก็ล้มพวกท่านได้ แล้ว การประลองไม่ควรเกิน10 กระบวนท่าต้องรู้ผล แต่การต่อสู้ แบบใช้ชีวิตเดิมพัน ต้องไม่ควรเกิน 3 กระบวนท่า จู่โจม หลอก ล่อ และ พิฆาต ในกระบวนท่ามีทั้งจริงและหลอก อันนี้คือหลัก ของการต่อสู้…..
กงซุนเช่อ รึ NP09 กล่าวจบ หลงอี้เฟยยกมือคารวะน้อมนำในคําสั่งสอน ยองกงซุนเซ่อที่ตนเคารพดุจอาจารย์
ส่วนนทพยักหน้าช้าๆยอมรับในคำติชม
“ก็จริงอย่างที่เจ้าวิเคราะห์… ข้าคงต้องปรับปรุงในจุดปก พร่องนี้จริงๆ ว่าแต่….. น้องอี้เฟย เมื่อไหร่จะออกสู่โลกภายนอก ได้เช่นไร ในเมื่อคงสถาพเช่นนี้ เข้าส่งร่างคืนดีมั้ย..”
นัทถามในประเด็นที่สงสัย ด้วยตนก็อยากเป็นอิสระไม่ อยากอยู่ในร่างที่ไม่ใช่ของตน
กงซุนเช่อ ส่ายหน้าพลางกล่าว
[ถ้าชั่วคราว เป็นการยืมร่างนะพอได้ เพียงไม่เกิน 24 ชั่ง โมง ขึ้นอยู่กับพลังวิญญาณ แต่นาน ถาวรคงไม่ได้ คงต้องรอ ลิขิตของสวรรค์….
นัท หันไปถามด้วยความแปลกใจ นี่คือความรู้ใหม่นับแต่รู้จัก
กับ AI อัจฉริยะ NP09
แปลกที่AI อย่างเจ้า พูดเรื่องลิขิตสวรรค์ มันจะไม่นิยายไป หน่อยเหรอ…”
กงซุนเช่อหัวเราะเบาๆ ในความแคลงใจของบุรุษผู้ข้ามมิติมา พร้อมกับตน พลางคิดในใจ
(ท่านนัท เจ้าต้องเรียนรู้อีกเยอะ)
ก่อนจะกล่าวอธิบาย ออกมาให้บุรุษต่างมิติได้สดับรับฟัง
[ เราท่านข้ามมายังมิติแห่งนี้ท่านคิดจริงๆเหรอเป็นเพราะการคํานวณของด๊อกเตอร์เกรียงไกร มีความสามารถของข้า เป็นเพียง สมองกลที่มนุษย์สร้างขึ้น
ในห้วงมิติแห่งจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลมีเรื่องราวอีกมา ที่รอการค้นพบ คําถามนี้ ท่านย่อมได้คำตอบเมื่อถึงเวลา…. จากนั้น กงซุนเช่อก็ไม่ตอบในสิ่งเหล่านี้ ปล่อยให้นัท เป็นผู้ ค้นหาเมื่อเวลานั้นมาถึง…..
[ ใช่ว่าไม่มีหนทางซะเลยนะท่านนัท การจะหาร่างถาวรให้แก่ หลงอี้เฟย เพียงเราต้องรอจังหวะที่เหมาะสม ในมิติแห่งนี้มีอะไร ให้เราต้องค้นหาอีกเยอะ…
กงซุนเช่อ รี NP09 กล่าวทิ้งท้ายไว้เป็นปริศนา ก่อนจะส่ง นัทกลับสู่โลกภายนอก และให้หลงอี้เฟย คิดค้นกระบวนท่า ยุทธวิธีในวิถีทางของตนเอง
ทางด้านนัทเมื่อกลับออกมา ก็เช้าของวันรุ่งขึ้น เจ้าอ้วนอีกวง มาเคาะประตู แจ้งว่า องค์หญิงจื่อเว่ยและหม่าฉันซวงยืนรออยู่ เบื้องนอก ด้วยมีธุระสำคัญจะปรึกษา นัทจึงแต่งตัว และออกมา พบ ทันทีที่เจอหน้านัท
องค์หญิงจื่อเว่ยต้องแปลกใจ ไม่เจอกันเกือบสองเดือน หล งอี้เฟย จากเด็กชายผอมกร่อง ผู้อ่อนแอ บัดนี้คือบุรุษผู้เต็มไป ด้วยบุคลิกที่องอาจสมชายชาตรี แววตากล้าแข็ง เหมือนเป็นคน ละคน ทำให้อดประหม่ามิได้ จึงทักออกไปทั้งที่ภายในใจอดหวั่น ไหวในบุรุษเบื้องหน้ามิได้
“อี้เฟย ไม่เจอเจ้าแค่ สองเดือนเจ้าเปลี่ยนไปเยี่ยงนี้ได้อย่างไร…”
นัท ยิ้มพลางยกมือเกาศรษะแก้เขิล
ม”องครักษ์เจ้ามิได้รายงานหรือกรึไง
สองเดือนมานี้ ข้ามุ่งมั่นฝึกฝนพัฒนาตนเอง
เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระให้เจ้าต้องคอยห่วง ว่าแต่…มาหาข้าแต่ เช้ามีอะไร อย่าบอกนะ ไม่เจอกันแค่สองเดือนเจ้าคิดถึงข้า
อิ…. ”
นัทกลบเกลื่อน รีบเบี่ยงประเด็น
เจอไม้นี้ องค์หญิงจื่อเว่ยอดหน้าแดงมิได้กล่าวโต้ตอบกลับ มา คำเดียว สั้นๆ
“เจ้าบ้า…!! “
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ