ซีรีส์ เล่นกับไฟ

เริงสวาทพี่ชาย ตอนที่ 1 พิมพ์แพร



เริงสวาทพี่ชาย ตอนที่ 1 พิมพ์แพร

เริงสวาทพี่ชาย

1

พิมพ์แพร

พิมพ์แพร อังคนาวุฒิ อายุ 21 ปี นักศึกษาสาวชั้นปีที่ 4 คณะ ศิลปศาสตร์ เธอกำลังอยู่ในรถอีโก้คาร์ที่บิดาซื้อให้เป็นของขวัญ วันเกิดเมื่อปีที่แล้ว ฐานะทางบ้านอยู่ในขั้นพอมีพอใช้ไม่เคย ลำบาก แต่ไม่รวยฟุ้งเฟ้อจีบนิ้วซื้อ Hermes ตกรุ่นได้ แต่ด้วย ความเป็นลูกสาวคนเดียว พ่อแม่จึงรักและห่วงหวงราวไข่ในหิน อยากได้อะไรมีหรือจะไม่ได้ แต่จะว่าไปพิมพ์แพรก็ถือว่าเป็นเด็ก ดีไม่เคยขออะไรซัว เธอเรียนเก่งและคาดหวังว่าจะจบด้วยการ คว้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง

ทุกอย่างเหมือนวางรากฐานมาดีอยู่แล้ว ยกเว้นก็แต่เรื่อง ของหัวใจ พิมพ์แพรไม่ใช่คนสวยสะดุดตา มีคนมาจีบบ้าง ประปรายแต่ไม่บ่อย เธอมีผิวสีน้ำผึ้งเนียนละเอียดไม่ขาวผ่อง เป็นยองใย มีดวงตากลมโตราวกับใส่บิ๊กอาย มีจมูกโด่งสั้น และ สิ่งที่สะดุดตาสุดบนใบหน้าก็คือริมฝีปากอิ่มเต็ม นอกจากโครง หน้าสวยคมยังมีเรือนร่างอวบอิ่มไม่บอบบางเหมือนนางแบบ หน้าอกคัพดี เอว 26 นิ้ว สะโพก 38 นิ้ว สมส่วนของนาฬิกาทราย

เวลานี้เจ้าของหุ่นนาฬิกาทรายกำลังอยู่ในรถซึ่งเธอจอด หน้ามหาวิทยาลัยเพื่อมองใครบางคน อาจารย์สอนศิลปะหรือ จิตรกรเอกชื่อดัง เขาคือ พัฒนะ ศรีสกุลวรรณ หรือเฮียสาม ต้น เหตุที่ทำให้เธอต้องทิ้งวิชาที่อยากเรียนมาเป็นจิตรกรสาว

รถบิ๊กไบค์ราคาแพงลิบแล่นออกมาจากรั้วมหาวิทยาลัย พิมพ์แพรออกรถตามไปติดๆ โดยไม่คิดว่าพัฒนะจะรู้ตัว อาจารย์ หนุ่มมองกระจกส่องหลังแล้วอมยิ้มขับรถบิ๊กไบค์คันโปรดไป เรื่อยๆ ไม่เดือดร้อนใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรก และทุกครั้งเขาก็รู้ตัว เสมอไม่ว่าลูกศิษย์ของเขาจะปากแข็งท่ามึนแค่ไหนก็ตาม

พิมพ์แพร่หลงรักพัฒนะตั้งแต่เขาย้ายมาอยู่บ้านข้างๆ เมื่อ ปีที่แล้ว เธอก็ยังไม่คิดอะไร รู้แต่เพียงว่า ในบรรดาพี่ 8 แรกๆ ชาย 3 คน เฮียหนึ่ง เฮียสอง และเฮียสาม เฮียคนสุดท้องหล่อสุด แต่เขาก็พูดน้อยไม่เหมือนอีกสองเฮียซึ่งขี้เล่นมากกว่า เมื่อรู้ตัว ว่าชอบและเพิ่มมากกว่าคำว่าชอบก็คือช่วงที่ครอบครัวมาปัญหา ใหญ่

แม่ของเฮียทั้งสามกลายมาเป็นเมียน้อยพ่อของเธอ แถม ความรักนั้นก็ผิดแผกแหวกไปจากปกติธรรมชาติของน้อยต้องหาคนเกาะมีเงิน แต่กลับกลาย เป็นคนรวยรักชอบผู้ชายนั้นแม่ของแพรเสียใจแต่แล้วแม่ปล่อยให้ครอบครัวเพิ่ม ยังอยากลูกชาย ได้อาเฮียเป็นลูก บุญธรรมสามคนไม่เหมือนตัวเอง ของเธอไม่ สามารถลูกได้อีกเนื่องจากร่างกายไม่แข็งแรง

เหตุการณ์ใช่จะเลวร้าย เพราะเธอกับพี่สามได้และแม่คนสองของเธอแสดงให้เห็นแล้วมีเพียงความ รักมอบไม่ต้องการแย่งชิงใดทั้งสองครอบครัวรวมกัน เป็นครอบครัวเดียวจากนั้น บ้านของบรรดาเฮียก็หลังใหญ่ กว่าพื้นที่มากกว่า แต่รั้วบ้านติดและทางผ่านเปิดเวลา

มันทำให้พิมพ์แพรเลิกคิดอะไรกับชายตัวเอง แต่ไม่ เลย มันกลับยิ่งทำให้เธอแต่ความต้องการตัวเขา ยิ่งเห็น ความเสน่ห์จนสาวทั่วทั้งมหาวิทยาลัยต่างกล่าวถึงเธอยิ่ง อยากได้ หึงหวง แต่ต้องเก็บงำความรู้สึกนั้นเพราะมันไม่ งาม กลัดมันทำเหมือนผู้ชายแค่คนเดียวในโลก
รถของพิมพ์แพรขับตามบิ๊กไบค์ไปจนถึงบ้าน พี่ชายของเธอ จอดรถแล้วยืนกอดอกมองเธอยิ้มๆ เขารู้! น่าอายนักเชียว แต่ก็ดี รู้ก็ดีอะไรจะได้ง่ายกว่าที่คิด

“ยังไงเราก็มาทางเดียวกันอยู่แล้ว เดี๋ยวก็เจอกันอยู่ดี” เขา บอกเมื่อเธอลงจากรถ

“ก็แค่กลัวเฮียสามจะหลงทางกลับบ้านไม่ถูกเท่านั้นค่ะ เธอแก้ตัวน้ำขุ่นๆ

“มีอะไรกับเฮียหรือเปล่าพู่” พัฒนะแกล้งถาม

“ไม่มีค่ะ พี่ขอตัวไปซักผ้าก่อนนะคะ

“ตามสบาย เฮียหิวว่าจะทำมาม่าผัดขี้เมากิน พี่สนไหมล่ะ”

บ้านของพัฒนะมีคนรับใช้ แต่ชายหนุ่มมักจะเข้าครัวทำ อาหารกินเองง่ายๆ ไม่ต้องสั่งแม่บ้านให้ทำ พินิจกับพุฒิพงศ์ก็จะ กินมาจากข้างนอก ส่วนแม่ของเขาจะมาร่วมโต๊ะกับพ่อเจตน์และ แม่แตนที่บ้านนี้เป็นประจำ

“ได้ก็ดีนะเฮีย” ไอ้จะปฏิเสธไปก็ใช่เรื่อง เฮียสามไม่ได้ ออกปากชวนเธอบ่อยๆ แบบนี้ต้องไม่ปล่อยให้พลาด

“งั้นฟูไปซักผ้าเถอะ”
“ค่ะเฮีย” ว่าแล้วพิมพ์แพรก็แจ้นเข้าบ้านพร้อมกับใจเต้นรัว เมื่อกี้เฮียสามยิ้มให้เธอด้วย ตอนอยู่ในห้องเรียนเขาเข้มจะตาย เป็นเสือยิ้มยาก นานๆ ที่จะได้เห็นเก็บทำเธอหัวใจวายตาย

ปกติแล้วพิมพ์แพรจะซักผ้าเองเวลากลับจากเรียน แม้แม่จะ ชอบบอกว่าให้ซักวันหยุดแทนซักตอนเย็น ผ้าจะได้โดนแดดไม่ เหม็นอับ แต่พิมพ์แพรก็ยังชอบซักผ้าตอนเย็นเวลาตากผ้าจะได้ ไม่ร้อน ไม่งั้นล่ะก็เป็นได้โดนแดดเผาจนตัวดำปิดปมากกว่านี้แน่

พิมพ์แพรเจอข้อความจากพ่อแม่ซึ่งเขียนโน้ตแปะไว้ที่ตู้เย็น ท่านบอกว่าวันนี้จะกลับดึกเพราะพากันไปดินเนอร์ใต้แสงเทียน กันสามคนผัวเมีย เธอถอนใจนึกอยากเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งเท่า แม่ ท่านเข้มแข็งมากและพร้อมรับได้ทุกสถานการณ์ มือบางแปะ กระดาษแผ่นเล็กไว้ที่เดิม ก่อนจะเดินขึ้นห้องนอนเพื่อเก็บเสื้อผ้า ลงมาซัก

ถ้าเป็นชุดนักศึกษาพิมพ์แพรจะไม่ใช้เครื่องซักผ้า เธอจะซัก ด้วยมืออย่างบรรจงจนแน่ใจว่าสะอาด เป็นสิ่งดีๆ ของแม่ที่ติดตัว เธอมาตั้งแต่เกิดและซักผ้าเป็น เธอจะแยกเสื้อผ้าสีขาวไว้ซักด้วย มือเสมอ ยังไม่รวมถึงชุดชั้นในทั้งชิ้นบนชิ้นล่าง

ลานซักผ้าอยู่ด้านหลังบ้านเป็นลานโล่งมีอุปกรณ์ซักและตากผ้าอยู่ใกล้ๆ พิมพ์แพรเปิดน้ำใส่กะละมังใส่ แฟบแล้วแช่ผ้าไว้เพียง 5 นาที ระหว่างนั้นเธอมองข้ามรั้วเตี้ยๆ ที่ กลั้นบ้านสองหลังเห็นพัฒนะเดินเข้าออกอยู่ในครัวซึ่งตรงกัน ข้ามกับลานซักของบ้านเธอ

เมื่อครบ 5 นาที หญิงสาวที่ยังอยู่ในชุดนักศึกษาไม่ได้ เปลี่ยนก็นั่งลงกับเก้าอี้เตี้ยๆ จัดการซักผ้าอย่างสนุกสนาน ฟอง แฟบฟูฟ่องอยู่ในกะละมังกระเด็นไปทั่วเสื้อสีขาว พอตกใจก็ลูบ ฟองออกไปสักที่ทำอยู่แบบนี้จนกระทั่งซักเสร็จเตรียมจะตาก ยกเว้นชุดชั้นใน

“ผัดมาม่าเสร็จแล้วนะ” มีเสียงตะโกนดังจากบ้านข้างๆ พิมพ์แพรหันไปมองพอเห็นคนเรียกก็ลุกขึ้น

“พู่ยังไม่ได้ซักชุดชั้นในเลยนี่นา” พัฒนะเห็นชุดชั้นในที่ยัง

อยู่ในตะกร้า

“เดี๋ยวค่อยมาซักก็ได้ค่ะ เฮียสามเอามาส่งให้พู่ตรงนี้สิคะ”

“เฮียรอให้พู่ซักเสร็จก่อนแล้วค่อยกินด้วยกัน วันนี้เฮียหนึ่ง กับเฮียสองและแม่ไม่อยู่บ้าน กว่าจะกลับก็คงดึกๆ เฮียกินข้าว คนเดียวก็เหงานะ”

“งั้นเฮียสามรอพี่เดี๋ยวนะคะ พี่จะตากเสื้อผ้าก่อน ส่วนชุดชั้นใน…

“ทำไมไม่ถอดซักพร้อมกันล่ะ ซักบ่อยๆ เปลืองน้ำนะ

“หืมม์? อ๋อ…เอาไว้ซักพรุ่งนี้ก็ได้นะเฮีย พู่ยังมีใส่หลายชุด “แต่เฮียอยากให้ถอดเอาออกมาซักให้หมด”

พิมพ์แพรก้มลงมองเสื้อตัวเองโดยอัตโนมัติก่อนจะสะดุ้ง แล้วหันหลังขวับ เสื้อขาวๆ บางเฉียบยามเปียกน้ำมองทะลุเข้าไป เห็นเสื้อชั้นในแบบครึ่งเต้า เธอกัดปากเหลียวมองไปทางพี่ชาย เห็นเขาอมยิ้มสีหน้าเหมือนจะท้าทายก็ขมวดคิ้ว ก่อนตัดสินใจ เดินเข้าบ้าน

พัฒนะเห็นเธอหายไปก็คิดว่าคงจะอายจนหนีขึ้นห้องไปแล้ว เขากำลังจะหันหลังกลับก็ได้ยินเสียงเรียก

“เฮียรอพู่ซักชุดชั้นในประเดี๋ยวนะคะ”

พัฒนะหันกลับมาแล้วหรี่ตาแคบลง พิมพ์แพรไม่ได้อยู่ในชุด นักศึกษา เธอสวมกระโปรงบานยาวคลุมเขา และใส่เสื้อกล้ามสี ขาวที่มองเห็นจุกอกสีน้ำตาลอ่อนรำไร เต้าทรวงของเธอกลม ใหญ่ดุนดันเสื้อกล้ามเป็นรูปร่างที่ชวนน้ำลายสอ ไม่ต้องเพ่ง เห็นได้ชัด
“ตั้งใจเหรอ”

พิมพ์แพรไม่ตอบ เธอนั่งลงตวัดชายกระโปรงมารวมกันอยู่ กลางซอกขา เหมือนตั้งใจปิดบังส่วนสัดเร้นลันแต่จริงๆ แล้ว พอ เธอนั่งลงเวลาซักผ้าจะมัวหุบขาก็ไม่ถนัด เขาจึงมองเห็นบางสิ่ง บางอย่างที่ซ่อนอยู่ข้างในไร

“ตั้งใจจริงๆ ด้วยสินะ”

พิมพ์แพรไม่ตอบ เธอก้มหน้าซักผ้าหน้าที่หน้าแดง

“แต่ไม่ค่อยชัดเลย สงสัยต้องไปดูใกล้ๆ” ว่าแล้วพัฒนะก็ เหวี่ยงขายาวๆ ข้ามรั้วเตี้ยๆ มาดูเธอใกล้ๆ

สาวเจ้าไม่กล้าเงยหน้าสบตา พี่ชายจึงนั่งยองๆ เชยคางมน

ให้เธอมองสบตา

“เราเป็นพี่น้องกัน แต่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน”

“แล้วเฮียคิดว่าไงล่ะคะ” ไม่รู้ผีบ้าอะไรเข้าสิงให้เธอกล้าพูด แบบนี้ ทั้งที่ก่อนหน้าเธออายจะตาย วันนี้ช่างกล้าหาญชาญชัย เหมือนไม่ใช่พิมพ์แพรคนเดิม

“ถามใจเธอดูดีกว่าฟู ตามเฮียตลอดหลายปีเพราะอะไร”

“พู่ชอบเฮียสาม ชอบทั้งที่รู้ว่าเราเป็นพี่น้องกัน แต่ไม่เห็น แปลก ไม่ผิดด้วย เราไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน เฮียสาม…อยาก นอนกับเฮีย”

“คงไม่มีใครเห็นด้วยกับเรื่องนี้” เขาติง และทิ้งตัวนั่งบนพื้น หญ้าแล้วรั้งร่างอิ่มมานั่งบนตัก วางมือบนเต้าทรวงของเธอแล้ว เคล้นคลึงไปมา “แต่พอได้ลองคลึงไปมาแบบนี้ เห็นทีใครก็ห้าม ไม่ได้”

สัมผัสจากฝ่ามือคลึงเคล้นเต้าทรวงของพิมพ์แพร่ส่งผลให้ เธอกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ความไม่ประสาหากทว่าช่างกล้า หาญชาญชัย กำลังทำให้เธอร้อนรุ่มไปทั่วสรรพางค์กาย เมื่อ ปลายนิ้วของพัฒนะเชยคางมนขึ้น เขาก็ได้สบตากลมโต ใกล้ๆ พิมพ์แพรไม่ใช่คนสวยสะดุดตา แต่มีอย่างหนึ่งที่เธอสวยกว่าทุก คนนั่นคือดวงตาสีนิลคู่นี้

ริมฝีปากที่กำลังถูกขบกัดถูกปลายนิ้วหัวแม่มือชายดึงปลาย คางลงมา ทำให้ริมฝีปากอิ่มนั้นแย้มแยก เขามองดูปลายลิ้น เล็กๆ สีชมพูน่ารัก มองไรฟันซี่ขาวๆ เรียงเป็นแถวสวย ก่อนจะ กดปากลงดูดดื่มทุกอย่างที่เห็นว่าสวย

“ฮะ…เฮีย” พิมพ์แพงครางฮือ วางมือบนบ่ากว้างเหมือนจะผลักไส ทว่าที่จริงแล้วเธอกลับเหนี่ยวรั้งให้เขาอย่าได้ ถอนจูบ เธอเฝ้าฝันจะได้จูบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ ในที่สุดมันก็ เป็นจริงเสียที

“เฮียของฟู” เสียงกระเส่านั้นครางเรียก

พัฒนะถอนใบหน้าออกห่าง หยุดมือที่กำลังเคล้นคลึงเพราะ ยกตัวเธอให้ลุกขึ้นยืน พิมพ์แพรยืนอยู่ตรงหน้า ชายกระโปรง ของเธอถูกตลบขึ้นแล้วต้องตกใจ เพราะจู่ๆ พัฒนะก็ซุกตัวเข้าไป ในกระโปรง

“เฮียสาม!!” ร้องเรียกเพราะตกใจ แต่ไม่ผลักไสหรือคัดค้าน “โหนกเหลือเกินฟูเอ๊ย ขนก็มีบางๆ น่ารักจริงๆ พู่ของเฮีย”

พิมพ์แพรคว้าราวตากผ้าที่อยู่ใกล้ๆ เอาไว้แน่นเพื่อช่วยพยุง ตัว รู้สึกเหมือนจะเซหลุนๆ จนยืนไม่อยู่ กลางซอกขาถูกกดเบียด ด้วยใบหน้าและ…และ…

เฮียสามกำลังกินเธอ!

หน้าขาของพิมพ์แพรเปียกไปทั่ว กลีบเนื้อสุดหวงแหนถูก ชอนไชด้วยปลายลิ้นสากๆ ปลายจมูกเป็นบางครั้ง และนั่น อะไร เธอมองไม่เห็น หากแต่สัมผัสมันบอกว่าเป็นนิ้ว
“โอยยย เฮียสาม ซี้ดดดด”

พัฒนะไม่ใช่คนอดอยาก ในเรื่องเพศ ตรงกันข้ามเขามีสาวๆ ที่ยัดเยียดตัวเองให้เสมอ มีทั้งสวยและไม่สวย แต่คนอย่าง พัฒนะก็ไม่เคยเอาใครไปเปรียบเทียบใคร สวยไม่สวยช่างมัน ขอให้สร้างความสุขได้เป็นพอ

แต่นี่…ทั้งรสชาติ ทั้งกลิ่นกาย ทั้งปริมาณ ทุกอย่างของพิมพ์ แพรคือดี หวานหอมละมุนลิ้น

ภายใต้กระโปรงลายดอก พัฒนะตวัดปลายลิ้นไปทั่วซอก เนื้อ พิมพ์แพรอวบอิ่มไปทั้งเนื้อทั้งตัวจริงๆ ยิ่งได้ขย่าบั้นท้ายดิน ระเบิด ยิ่งอยากทํามากกว่านั้น

กัด!

พิมพ์แพรไม่อาจทานทุนต่อหนุ่มหล่อสายเบิร์นต่อไปได้ เธอ กรีดร้องเสียงสั่นเครือด้วยความลืมตัว แข้งขาสั้นพับๆ แทบทรุด ลงกับพื้น พัฒนะออกมาจากกระโปรงแล้วถลกเสื้อกล้ามสีขาวขึ้น คราวนี้เขาแทนที่ฝ่ามือด้วยริมฝีปาก ดูดดุนกลืนกินยอดอกสี น้ำตาลอ่อน

“อ๊ะ เฮียสะ…สาม ไม่ไหวแล้ว พอก่อนค่ะ”
เหมือนว่าความหวานของเธอจะทำให้พัฒนะลืมตัวลืมใจ เขาดูดกลืนยอดนซ้ายขวาอย่างเมามันเพลิดเพลิน

“เฮียสาม…พู่สั่นไปหมดแล้ว โอ้ววว”

ในขณะที่พัฒนะและพิมพ์แพรกำลังหลงลืมทุกสิ่งทุกอย่าง บ้านหลังใหญ่ภายในครัวก็มีคนเดินไปเดินมา ก่อนที่คนๆ นั้นจะ ออกมาตามเสียงร้องครวญครางของพิมพ์แพร

กลิ่นแก้วคือสาวใช้วัย 24 ปี เป็นหลานของแม่บ้านอีกที เธอ เพิ่งมาทำงานไม่กี่วันก็ได้มาเจอของดีเสียก่อน นแก้วกัดปาก ตาเบิกกว้างกับภาพที่เห็น เผลอทำถุงใส่ของในมือตก

“สวบ!” เสียงน้ำกระชากสติของพัฒนะในทันทีทันใด

“อุ๊ย!” พิมพ์แพรยกมือปิดบังเต้าทรวงตัวเอง พัฒนะมีสติ มากกว่าดึงเสื้อลงให้น้องสาวของเขาวิ่งกระเจิงเข้าบ้าน ในขณะ ที่เขาหันหลังไปมองกลิ่นแก้วด้วยสายตาอันตราย

“ขอ…ขอโทษค่ะ ไม่คิดว่าจะเห็น…

พัฒนะกระโดดข้ามรั้วเตี้ยๆ กลับบ้านตัวเองอย่างง่ายดาย เขายืนจังก้าจ้องหน้ากลิ่นแก้ว นัยน์ตาคมกริบวาวโรจน์อย่างอุ่น เคือง
“จำไว้ว่าเธอไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ถ้าไม่อยากถูกไล่ออกทั้งคู่

“ค่ะ….ค่ะ ไม่เห็นอะไรทั้งนั้นค่ะ” กลิ่นแก้วผงกหัวประหงก ยอมรับคําสั่งนั้น

“และถ้าเธอปากโป้งเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร ฉันจะไล่เธอออก เหมือนกัน”

พัฒนะรู้ดีว่าฐานะของกลิ่นแก้วลำบากแค่ไหน งานนั้นสำคัญ ต่อเธอมากเพราะกลิ่นแก้วอยากเรียนต่อมหาวิทยาลัย เธอต้อง กลัวว่าจะขาดรายได้แน่นอน

“ค่ะ กุ้งจะไม่บอกใคร กุ้งไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น คุณสามไม่ ต้องห่วงนะคะ”

“ดี จำไว้ว่าคนอย่างฉันไม่ได้ทำเป็นแค่ขู่” พัฒนะหน้าคาด โทษ ก่อนจะเดินเข้าบ้านไปหยิบมาม่าผัดขี้เมาแล้วก้าวข้ามรั้ว กลับไปบ้านหลังเล็ก เขาวางจานมามาไว้บนโต๊ะอาหาร สายตา มองหาร่างอวบอิ่มแต่ไม่เจอ สงสัยจะหนีขึ้นห้องนอนไปแล้ว

“บ้าชิบ!”

พิมพ์แพรทุ่มตัวเองลงบนเตียงภายในห้องนอนสีหวาน ไม่มี น้ำตาเพราะเธอไม่ได้เสียใจ แต่กลัว…กลัวว่ากลิ่นแก้วจะพูดมาก กลัวพ่อแม่จะรู้ ถ้าพวกท่านรู้เข้าจะทำยังไง
พี่ชายกับน้องสาวกำลังทำอะไรกันเกินความสนิทสนมใน แบบพี่น้องในบ้านของตัวเอง ช่างผิดศีลธรรมและไม่มีใครรับได้ อ้อมแขนเรียวยกขึ้นกอดตัวเองราวปลอบใจ ถึงแม้พวกท่านจะ ไม่รู้เรื่องแบบนี้ก็คงไม่มีทางเกิดขึ้นอีก

“พ่อจ๋าแม่จ๋า พี่ขอโทษค่ะ พู่ห้ามใจตัวเองไม่ได้จริงๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ