ช็อซ๊อสองเราพันโฉม

บทที่ 2 มังกรขาวจอมเจ้าเล่ห์



บทที่ 2 มังกรขาวจอมเจ้าเล่ห์

“เจ้าพูดเพ้ออันใด?” สายตาเหม่อลอยของเจ้าสำนักหงทำให้ พระชายาหานที่ผ่านการมีความรักและครอบครัวถึงกับถอนหาย ใจเบาๆ

“ข้าว่าเจ้าเห็นคนน่าสนใจใช่หรือไม่?”

“อืม! เอ๊ย! ที่ไหนได้ คนเจ้าเล่ห์ ยังหมกมุ่นในกามแบบ นั้นมีหรือข้าจะสนใจ” นางเผลอพูดออกมารัวๆ ครั้นเห็นเพื่อน หัวเราะคิกคักก็ตกใจ

“ที่แท้เจ้าก็สนใจมังกรขาวเจ้าเล่ห์นี่เอง” พระชายาทานซู พยักหน้าล้อเลียนสหายรัก หากท่านอ๋องเก้าสวามีของนางเป็น จิ้งจอกขาว ฮ่องเต้ก็สมควรเป็นสัตว์ร้ายตัวนั้น

“ข้าแค่แปลกใจที่เขาสังเกตความแตกต่างของข้ากับคนที่ ข้าแปลงเป็นพวกเขาต่างหากเล่า?” หงซือซือรีบหันมาทำหน้าตา ขึงขัง แล้วเล่าเหตุการณ์ที่ฮ่องเต้ดูจะสงสัยในตัวนางขณะที่แปลง เป็นไปเพียเงินนางกำนัลวังอดีตฮองเฮาผู้ล่วงลับ

“สมแล้วกับที่เป็นพี่ชายของจิ้งจอกขาว ข้าเคยได้ยินว่า มังกรตัวนี้ร้ายกาจนัก สามารถพลิกโอกาสล้มรัชทายาทจนขึ้น ครองราชย์ได้”

“ใช่! เรื่องนี้ถูกซุบซิบกัน เห็นทีข้าต้องไปฟังข้อมูลเพิ่มเติมที่ โรงเตี๊ยมยุทธภพเสียแล้ว” หงซื้อซื้อเพิ่งนึกขึ้นได้ว่านางมิได้ไปเยือนโรงเตี๊ยมยุทธภพมาเสียนาน เรือนใหญ่ลึกลับนั่นจะต้อง

เป็นผู้มีวิทยายุทธ์เท่านั้นจึงจะมีโอกาสได้เข้าไปใช้บริการ “ที่นั่นเป็นอย่างไรหรือ? ข้าเคยได้ยินคนพูดถึงแต่ไม่รู้ว่ามัน อยู่ที่ใด?”

“โรงเตี๊ยมยุทธภพอยู่กลางทะเลสาบเป็นหลันเซ่อ ซึ่งเป็น ทะเลสาบที่มีหมอกตลอดปี เราต้องพายเรือไปทางเข้าทุกทาง ล้วนมีค่ายกล ผู้ที่จะเข้าไปได้ล้วนต้องมี วรยุทธ์ระดับกลางถึง ระดับสูง มิฉะนั้นได้ลอยคอในทะเลสาบแทนการนอนใน โรงเตี๊ยมแน่ แต่หากอยากเข้าไปง่ายต้องรอคืนพระจันทร์เต็ม ดวงเพราะหมอกจะน้อย ยามที่ไม่มีผู้บุกรุกหมอกพวกนั้นจะสลาย ไปเอง”

“โอ….นับว่าเป็นสถานที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ข้าอยากไป เจ้า พาข้าไปด้วยได้หรือไม่?” สายตาของหานวิบวับทันทีที่ได้ฟัง สิ่งที่สหายเล่า

“จอมยุทธ์ลี่ เจ้ายังมีลูกให้ดูแลอีกสองคน ท่านอ๋องเก้าจะ ยอมหรือ?” หงซือซือเอ่ยนามในยุทธภพของสหาย

“จอมยุทธหง หากคนอย่างข้าคิดจะไป เจ้าคิดหรือว่าท่าน จะกล้าขัดคอข้า” พระชายาอมยิ้ม เชิดหน้าเล็กน้อย นางกำลัง ครุ่นคิดกลยุทธ์ที่จะทำให้ท่านพี่เก้ายินยอมให้นางออกไปเที่ยว แต่โดยดี

“เอาเถิด หากเจ้าทำให้ท่านอ๋องเก้าอนุญาตได้ ข้าจะเป็นเจ้า มือเลี้ยงเจ้าเอง” หงซือซือผู้ยังโสดและโดดเดี่ยวคิดเพียงแต่เหตุผลที่ตนมองเห็น

“ดีคืนได้เต็ดเที่ยว

เมื่อท่านเก้ากลับมาในยามตะวันใกล้ตก เห็นพระชายา ของตนอาบอาหารเต็มโต๊ะ “ลงไปแปลงผักดอกหรือ

“แล้วเพคะ หม่อมฉันอยากดูแลท่านมากกว่านาง ยิ้มจริตเล็กน้อย ท่านอ๋องเก้าเห็นแล้วเสียวสันหลัง ยาม พระชายาทำเช่นนี้เขามักรู้สึกว่าตนเองจะต้องสูญเสียบางสิ่งต้องยอมบางอย่างกับภรรยา

ชุดนางด้านเนินอก อิ่มของสตรีที่ผ่านการนมบุตรฝาแฝด เขาจินตนาการได้ ว่ามันขยายขนาดขึ้นมากกว่าเดิมพอสมควร แต่ก็สิ่งที่ท่าน อ๋องพึงพอใจ

อ๋องเก้าข้างภรรยาเห็นสาบที่หย่อนอาหารส่งกลืนน้ำลายเลือกหนึ่ง สายตาของเขาไม่อาจละ จากเนินเนื้อขาวอวบนั้น …คืนนี้อร่อยพิเศษ น้อง หญิงเจ้าลงมือเองหรือ

“เพคะ พี่จะต้องช่วยหม่อมฉันสักหน่อยนางจงใจตะแคงใบหน้า เข้าไปใกล้บ่าไหล่ของนั่นยิ่งทำให้เสื้อนางมากท่านอ๋องเก้าที่ร่างสูงกว่าก้มลงมามองเห็นร่องอกพอดี ดวงตาจึง ทอประกายพึงพอใจอย่างยิ่งยวด

“เช่นนั้นข้าจะตั้งใจกินให้มากตามที่เจ้าต้องการ ไม่นานนัก ท่านอ๋องก็รับข้าวหมดไปถึงสองถ้วย ถามไถ่ถึงลูกทั้งสองตาม ปกติ เมื่อพระชายาแจ้งว่าลูกทั้งสองรับประทานอาหารและเข้า นอนไปแล้ว ท่านอ๋องเก้าก็อมยิ้ม ดูเหมือนหมีขาวจะมีจุดประ สงค์จริงๆ สินะ เตรียมการทุกอย่างไว้เรียบร้อยเที่ยว

พระชายาเกาะแขนพระสวามีฉอเลาะชักชวนให้กลับห้อง บรรทม “หม่อมฉันสั่งคนเตรียมน้ำอาบไว้แล้ว ท่านพี่ไปแช่ให้ สบายเถิด”

ท่านอ๋องเก้ายิ้มน้อยๆ เมื่อนางจงใจใช้หน้าอกอวบเสียดสี กับต้นแขนของพระองค์ “หากเจ้าทำเช่นนี้ ข้าคงจะไม่ทันได้อาบ น้ำเป็นแน่ คงได้ออกแรงทำสิ่งอื่นเสียก่อน

“อาบก่อนเถิดเพคะ จะได้สบายเนื้อสบายตัว” นางเงยหน้า

ขึ้นยิ้มหวานจนท่านอ๋องอดจะโน้มกายลงจุมพิตริมฝีปากนางมิได้ “น้องหญิง เจ้าเอาใจข้าถึงเพียงนี้ ข้าชักไม่สบายใจเสีย แล้ว”

คืนนั้นองค์หญิงหานซูลี่ทั้งช่วยถูตัวให้ท่านอ๋อง ทั้งนวดเนื้อ ตัวเอาใจ และเป็นฝ่ายรุกเร้าจนท่านอ๋องอดรนทนไม่ไหวร่วมรัก กับนางเสียหลายครั้ง กระทั่งล่วงไปยามจื่อนางที่เคยใบหน้าไว้ บนอกท่านอ๋องจึงเอ่ยขอสิ่งที่ตั้งใจท่านพี่เพคะ ท่านเคยเห็น โรงเตี๊ยมยุทธภพหรือไม่?”
ท่านอ๋องเก้ายกมือลูบแก้มนวลของภรรยา “ผู้ใดเล่าให้เจ้า

“หงซือซือเพคะ นางว่าจะไป ข้าจึงอยากไปด้วย

หลังจากที่กำจัดกบฏฮองเฮาตระกูลเถียนได้แล้ว หานซูจึง ยอมเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเจ้าสำนักคุ้มภัยหงส์ไฟ ให้เขาได้รู้ หมิงหลี่เหว่ย โมโหหง เทียนที่ไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับ เขา เมื่อเรียกฝ่ายนั้นมาเลี้ยงสุราเพื่อต่อว่ากลับถูกพี่ชายหง ซือซือใช้เหตุผลมาโต้แย้งจนเขาไม่อาจด่าทออีกฝ่ายได้อีกต่อไป

การปกปิดความลับของตระกูลหงเป็นเรื่องปกติ และความ สัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับคนรอบข้างล้วนยากจะคาดเดา เพราะเพียงแค่เปลี่ยนโฉมหน้าสองพี่น้องตระกูลหงก็พร้อมจะ เป็นผู้ใดก็ได้ สําหรับองค์หญิงหานซูลี่แห่งแคว้นเว่ยพวกเขา นับถือเสมือนญาติการให้ความช่วยเหลือและการปกปิดความลับ จึงต้องมาพร้อมกัน

“ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าไปกับนางตามลำพัง เจ้ามีบุตรถึงสอง คนแล้ว หากเป็นอันใด ข้าจะกับลูกจะอยู่อย่างไร?” ท่านอ๋องเก้า ชะโงกหน้าขึ้นมาจูบหน้าผากภรรยา เมื่อเห็นนางทำหน้างอ

“แต่ข้าอยากจะเห็นนี่นา!” นางลิ้นจนหน้าอกอวบบดเบียด หน้าอกเขาไปมา

ท่านอ๋องสอดแขนเข้ากอดร่างนางแล้วพลิกตัวเป็นฝ่ายทาบ ทับอยู่ข้างบน “น้องหญิง ตามใจข้าอีกครั้ง เดี๋ยวข้าจะพาเจ้าไปเอง”

ฟัง?”
เช้าวันต่อมาเมื่อหงซือชื่อได้รับพิราบสื่อสารแจ้งว่าท่านอ๋อง เก้าจะพาหานซูลี่ไปโรงเตี๊ยมยุทธภพพร้อมกัน นางถึงกับเอาสัน ฝ่ามือเคาะหน้าขมับตนเอง ไม่น่าเชื่อ เออร์ใช้วิธีไหนกันถึง ทำให้ท่านอ๋องยอมได้ สองสามีภรรยา ช่างแย่จริง ไม่ห่วงลูก เลยหรือไร?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ