ชีวิตจริงเสมือนฝัน

ตอนที่ 7 กังว….12



ตอนที่ 7 กังว….12

ตอนที่ 7 กังวลใจ

ดูเหมือนว่าบ่ายนี้จะไม่มีแม้แต่เงาของลูกค้า…

ใช่! ฉันควรใช้โอกาสนี้เพื่ออ่านหนังสือสักหน่อย

ทั้งที่งานอดิเรกของฉันคือการอ่านหนังสือ ทว่าตั้งแต่วัน แรกที่ฉันเปิดร้านกาแฟจนถึงตอนนี้ฉันยังไม่มีโอกาสได้นั่งพัก ผ่อนอ่านหนังสือเลยแม้แต่น้อย ฉันเคยแต่อ่านหนังสือที่ได้รับ ความนิยมในชนชั้นสูง เช่นหนังสือมารยาท หรือคู่มือการเข้า สังคม ถึงแม้ว่า ในตอนนี้ฉันจะมีหนังสือนิยายอยู่ไม่เยอะแต่ฉัน ก็ไม่มีเวลาอ่านอยู่ดี

แน่นอนว่าเนื้อหาของหนังสือที่ฉันเคยอ่านมักจะเกี่ยวกับ งานเลี้ยงและพิธีชงชาของเหล่าขุนนาง ซึ่งในฐานะที่เป็นบุตร สาวของตระกูลกาวิเซล่า ฉันจำเป็นต้องอ่านและรู้เรื่องราวเหล่า นั้น ผู้คนในตระกูลจะรู้สึกสูงส่งยิ่งขึ้นเมื่อบุตรสาวของตนมี ความรู้เยอะเพียงพอ และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันต้องอ่าน หนังสือสำหรับชนชั้นสูงอย่างไม่ลดละ หนังสือเหล่านั้นช่างห่าง ไกลกับหนังสือที่ฉันชื่นชอบยิ่งนัก

โอกาสที่หายากได้มาถึงแล้ว ฉันรักที่จะใช้เวลาอ่าน หนังสือในโลกนิยายเพ้อฝันนี้อย่างช้า ๆ จากนั้นฉันจึงเดินขึ้น ไปยังชั้นสองเพื่อหยิบหนังสือที่ยังอ่านไม่จบลงมาอ่านต่อ แล้วเดินลงมายังชั้นหนึ่งเพื่อชงกาแฟลาเต้

ฉันนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะต้อนรับ แล้วค่อย ๆ เปิดหนังสือ อ่านพร้อมพักผ่อนหย่อนใจ

หนังสือเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นเกี่ยวกับเด็กสาวที่กำลังผจญภัย นี่ช่างตรงกับรสนิยมการอ่านของฉันเสียจริง

ฉันอ่านและพลิกเปลี่ยนหน้าต่อไปอย่างต่อเนื่อง… ใน ที่สุดฉันอ่านหนังสือจบไปแล้วหนึ่งเล่ม เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นมาก พบว่าท้องฟ้าได้เปลี่ยนเป็นสีดำ นี่มืดแล้วหรือ… ฉันมองไปยัง นาฬิกาสองทุ่ม ถึงเวลาที่ต้องปิดร้านเสียแล้ว

ซึ่งงง!! วงแหวนเวทมนตร์ปรากฏขึ้น

“ช่วยข้าทำความสะอาดทีนะ” ฉันใช้เวทมนตร์เรียก โลโต มาช่วยทำความสะอาด ฉันขยี้ตาและบีบขมับอย่างเหนื่อยล้า จากนั้นจึงมีอะไรบางอย่างกระตุกกระโปรงของฉันอย่างแรง

เมื่อมองลงไปที่พื้นก็พบว่าโลโตะกำลังเงยหน้าขึ้นมาจ้อง ฉันพร้อมกับสีหน้าเป็นห่วง ทว่าฉันได้ส่งยิ้มให้โลโตะพร้อม บอกว่า “ข้าสบายดี แต่พวกเขาก็ยังคงกระตุกกระโปรงของฉัน อย่างไม่หยุดหย่อนพร้อมพูด “เอ๋” และลากฉันไปยังบันได เหมือนกับพยายามบอกว่าให้ฉันพักผ่อนเสียเถิต

“วันนี้ข้าไม่เหนื่อยเลยนะ” เพราะอย่างนี้ได้โปรดอย่า กังวลฉันเลย ทว่าโลโตะก็ยังไม่ฟังและบอกกับฉันว่า “อ๋อ! พร้อมกับส่ายหัวไปมาอย่างปฏิเสธ
ฉันมั่นใจว่าพวกมันกังวลเพราะฉันทำหน้าอ่อนล้า ฉัน ยอมรับว่าการจัดการร้านกาแฟด้วยตัวเองมันเป็นเรื่องที่ยาก และเหนื่อยล้าอย่างมาก แล้วฉันก็ต้องขอบคุณ โลโตะที่พวกเขา มาช่วยฉันจัดเตรียมร้านก่อนที่จะเปิดในวันพรุ่งนี้เช้า

ที่จริงแล้วภูติไม่ควรแสดงท่าทีหรือห่วงใยต่อมนุษย์ ทว่า โลโตะพวกนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่จิตใจดีและขี้อาย

การได้สัมผัสถึงความห่วงใยและจิตใจดีของสัตว์ตัวกระจ ดริดนี้ทำให้ฉันยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน

“ขอบใจเจ้านะ ถ้าอย่างนั้นช้าก็ยินดีจะทําตามข้อเสนอ ในระหว่างที่ข้าพักผ่อนพวกเจ้าช่วยดูแลร้านแทนข้าที่นะ

ฉันก้มหัวเสมือการโค้งคำนับ ให้แก่โลโตะ จากนั้นพวกมัน ก็ใช้มือเล็กกระจิ๋มกระจิ๋มยกขึ้นมาตะเบ๊ะเหมือนจะบอกฉันว่า รับทราบแล้ว จากนั้นพวกมันก็กระจายตัวกันออกไปทำความ สะอาดพร้อมส่งเสียงให้กำลังใจตนเองว่า “ข้า! ฮา! หลังจาก กล่าวขอบคุณพวกโลโตะน้อยฉันก็เดินขึ้นไปที่ชั้นสองเพื่อตรง ไปยังอ่างอาบน้ำ

วันนี้เป็นวันที่แสนวิเศษ แม้ในช่วงเช้าจะช่างวุ่นวาย ทว่า ตั้งแต่เมื่อวานที่ฉันได้พบกับลูกค้าอมนุษย์ หลังจากนั้นฉันก็ได้ ใช้เวลาแสนผ่อนคลายในช่วงบ่ายจนถึงช่วงค่ำ ฉันฮัมเพลง ขณะที่กำลังอาบน้ำ แต่ทว่าฉันก็คิดบางสิ่งขึ้นมาได้

ในทางกลับกัน… ถ้าเกิดว่าร้านของฉันถูกมองในทางลบ จากผู้คนเล่า…ถ้าในวันพรุ่งนี้ไม่มีลูกค้าคนใดกลับเข้ามาซื้ออาหารและเครื่องดื่มที่ร้านเลย…. ร้านกาแฟแห่งนี้คงจะเงียบ เหมือนสุสานเป็นแน่ ฉันควรจะทำเช่นไร

ฉันใช้เวลาทั้งคืนคิดและกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้

เมื่อเช้าขึ้นฉันก็พบว่าความกังวลใจของฉันมันช่างเปล่า ประโยชน์ ทันทีที่ร้านเปิดฉันก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันใดหลังจาก เห็นความวุ่นวายของลูกค้าที่แห่กันมาซื้อขนมและเครื่องดื่มที่ ร้านของฉันเหมือนปกติ ฉันคิดถึงเวลาว่างที่ได้ใช้เมื่อวานนี้เสีย จริง แต่ถึงกระนั้นการได้เห็นลูกค้ามีความสุขที่ได้ดื่มและกิน ขนมที่ฉันทำ ภาพเหล่านี้มันช่างเติมเต็มความสุขในหัวใจของ ฉันยิ่งนัก

ในขณะที่ฉันกำลังให้บริการลูกค้าด้วยรอยยิ้ม ฉันทำงาน ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ โดยยังมิได้หยุดพัก

ลูกค้าชายก็ยังยุ่งวุ่นวายอยู่กับการจีบฉันเหมือนเดิม ทว่า พวกเขาก็ไม่แสดงอาการเยอะจนน่าเกียจ ดังนั้นพวกเขาจึงมิใช่ ภาระที่ยากเกินจะรับมือ

กริ๊ง กริ๊ง!!

เสียงของกระดิ่งหน้าประตูทางเข้าร้านดังขึ้น ฉันนำกระดิ่ง ไปแขวนเอาไว้ที่หน้าประตูเมื่อเช้านี้ เพื่อจะให้มันแจ้งเตือนฉัน ทุกครั้งที่มีการเปิดประตู เนื่องจากเมื่อวานมีลูกค้าอมนุษย์เข้า มาในร้าน โดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว

“เจ้าอยู่น! นานแค่ไหนแล้วที่เจ้าทำตัวไร้สาระที่ร้านแห่ง นี้!” เสียงที่โกรธเกรี้ยวของภรรยาคนอบขนม เธอเดินเข้ามาพร้อมใบหน้าแสนหงุดหงิดแล้วตรงมาพูดกับสามีที่นั่งอยู่ด้าน ของโต๊ะสั่งอาหาร

สามีของเธออับอายอย่างมากพร้อมกับถูกเธอดึงหูและ พยายามจะลากเขาออกไปจากร้าน

“แค่เพราะรอนามีหน้าตาและนิสัยที่น่ารัก มันไม่ใช่ข้อ อ้างที่เจ้าจะมานั่งแช่เป็นเวลานานที่ร้านนี้ได้ มันสร้างความ รำคาญให้แก่ลูกค้าคนอื่นและเจ้าก็มีงานที่ต้องทำ กลับบ้าน!

“รู้แล้ว ข้าเจ็บ!”

ขณะที่เธอกำลังดุด่าสามีของตน เธอได้หันมามองฉันด้วย สีหน้าขอโทษอย่างมาก

“ข้าขออภัยที่สามีของข้ามาสร้างความรำคาญให้แก่เจ้า

บะ”

“เขามิได้รบกวนอันใดเลยเจ้าค่ะ ข้าดีใจที่เขามาอุดหนุน ทุกวัน ท่านจะรับกาแฟสักแก้วดีไหมเจ้าคะ?”

“อืม ข้าขอบคุณและจะขอรับกาแฟแก้วนี้ไว้นะ

ขณะที่ฉันกำลังชงกาแฟ ภรรยาของเจ้าของร้านอบ ขนมปังได้หันไปหาลูกค้าชายผู้อื่นและพูดว่า “พวกเจ้าก็กลับไป ทํางานของคนสะบ้าง!

ข้าพักอยู่” เสียงตอบอย่างอ่อนแอและสั่นไหวไปด้วย ความกลัวได้ดังขึ้น นี่ทำให้ฉันหัวเราะเบา ๆ ออกมา

“ขอบใจเจ้านะรอนา
“เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าก็ต้องขอบคุณท่านอย่างมากเช่นกัน

เมื่อชงกาแฟให้แก่พวกเขาเสร็จ คู่รักร้านขนมปังอบก็ได้ เดินออกไป ฉันโบกมือลาเขาทั้งสอง

พวกเขาคือคนจัดหาขนมปังที่เป็นวัตถุดิบใช้ท่าแซนด์วิช ของร้านสำราญรมย์ คนทำขนมปังมักจะมาส่งขนมปัง ในตอน เช้า และชอบพักดื่มกาแฟที่นี่ จากนั้นภรรยาของเขาก็มักจะมา ลากตัวกลับแล้วเดินออกจากร้านพร้อมกันทุกวัน

พูดได้ว่าพวกเราค่อนข้างสนิทกัน เมื่อนึกย้อนถึง เหตุการณ์นี้ฉันก็ยิ้มออกมาได้ทุกครั้ง ขณะที่ฉันกำลังทำความ สะอาดโต๊ะ อยู่ ๆ ชายเจ้าของร้านเครื่องประดับได้เรียกชื่อ ฉัน…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ