ชีวิตจริงเสมือนฝัน

ตอนที่ 3-2 สิ…6



ตอนที่ 3-2 สิ…6

ตอน 3 : สิ้นสุดบทบาท

ในขณะที่มิโนซ่ากำลังด่าทอการกระทำของฉัน ฉันมอง ตรงไปที่ชไนเดอร์ ผู้ที่มองฉันด้วยสายตารังเกียจ สายตาที่เต็ม ไปด้วยความผิดหวังและดูหมิ่น เขาไม่เคยมองฉันแบบนี้มา ก่อน และนั่นก็ทำให้หัวใจของฉันแตกสลาย

… ไม่เคยทำแบบที่เจ้าพูด นี่เป็นการใส่ร้าย” คำพูดที่ หลุดออกจากปากฉันมันมาจากเนื้อเรื่องในนิยาย จากนั้นมิโน ช่าก็หันหน้าไปทางบรรดาสตรีผู้สูงศักดิ์

“ข้ามีพยาน! ”

“ซะ…ใช่ ทั้งหมดเป็นคำสั่งจากท่านหญิงรอนย่า”

“พวกเราไม่สามารถขัดคำสั่งบุตรสาวของท่านเคานต์ ตระกูลกาวิเซล่าได้” กลุ่มสตรีผู้สูงศักดิ์กล่าว

การโยนความผิดมาให้ฉันทำให้ความผิดของพวกเธอลด ลง กลุ่มสตรีผู้สูงศักดิ์เหล่านั้นไม่กล้าแม้แต่สบตาฉัน

ต่อให้ฉันจะกำลังวิ่งหนี ทว่าฉันก็ต้องแบกรับทุกอย่าง ฉัน ไม่ได้เชื่อใจพวกเขา ซึ่งพวกเราก็ไม่ได้อยู่ในความสัมพันธ์ที่ เซียใจและไว้ใจกันได้

“รอนา! เจ้ายอมรับเสียทีว่าเจ้าหึงหวงซไนเตอร์อย่างบ้าคลั่งและเกินเหตุ” มิโนซ่ายิ้ม ในสายตาของเธอฉันคือปีศาจ และเธอคือผู้ยุติธรรม

“เจ้าทำให้ข้าผิดหวังนะรอนย่า!! ชไนเดอร์ก้าวออกมาข้าง หน้าพร้อมกับพูด

“ข้าไม่สามารถแต่งงานกับเจ้าได้ ข้าต้องการถอนหมั้น นี่คือคำสุดท้ายที่เขาพูดกับฉัน

ตรงหน้าของชไนเดอร์มีกระดาษปรากฏขึ้นพร้อมแสงสี ทอง ทันใดนั้นมันก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าฉันเช่นกัน มันคือ กระดาษสัญญาที่มาจากการเสกเวทมนตร์ กระดาษสัญญา เหล่านั้นคือเอกสารการหมั้นของฉันและชไนเดอร์

เพียงการสะบัดมือของชไนเดอร์ กระดาษเหล่านั้นได้อีก ออกเป็นชิ้นกระจัดกระจายและหายไปตามแสงสีทอง ฉันมอง ไปยังชไนเดอร์

ถ้าหากฉันพูดว่า “ได้โปรดเชื่อในตัวข้า ณ ตรงนี้และใน ตอนนี้ เขาจะตอบว่าอย่างไรกัน? แม้เราสองคนจะรู้จักกันมา นาน เขาคือคนที่ฉันสนิทที่สุด และเชื่อในตัวฉันที่สุด

ทว่าในตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของมิโนซ่า

ชีวิตฉันดำเนินไปตามเนื้อเรื่องในนิยาย มันคือโชคชะตา

รักแรกของฉัน… กลายเป็นความสิ้นหวัง

บรรดานักเรียนหน้าโถงเริ่มร้องโห่ไล่ฉัน ขณะที่ทุกคน กำลังโห่ร้อง มิโนใต้กระโดดเข้าไปกอดขในเตอร์และเขาก็ประคองเธอไว้

“ชไดเนอร์!”

“มิโนซ่า”

บรรดานักเรียนต่างพากันสรรเสริญเยินยอทั้งสองคน ใน เดอร์โอบกอดมิโนซ่าแล้วมองมาที่ฉัน จากนี้ไปเขาคงเป็นคน

คอยปกป้องมิโนซ่า มิใช่ฉัน

เขาทั้งคู่จะกลายเป็นคู่รักชื่อดัง และนั่นมันคือโชคชะตา

“ข้าขอให้เจ้าทั้งสองมีแต่ความสุข..” ฉันบอกลา

ชไนเดอร์ ผู้ที่ตามใจฉันอยู่เสมอ ฉันเกลียดที่ตอนนี้ไม่ได้ รับการสนับสนุนใดจากเขาอีกแล้ว ฉันได้แต่อวยพรพวกเขาทั้ง สองเพื่อเป็นการขอบคุณจากใจจริง แต่ดูเหมือนว่าชไนเดอร์จะ

ไม่รับฟังคำพูดของฉันเลย

การแสดงออกถึงความรังเกียจเริ่มแผ่ขยายไปถึงผู้อื่นที่

ยืนอยู่

ฉันเดินหนีออกจากตรงนั้นไปก่อนที่จะรับรู้ถึงความ รังเกียจเหล่านั้น

ในที่สุดฉันก็เดินหนีออกมาไกลพอจากเสียงตบมือในห้อง

โถง และการบอกลารกแรกของตัวเอง

ช่วงเวลาที่ชไนเดอร์เคยพูดถึงความรักของเราทั้งสอง ความหวังของฉันได้ส่องประกาย
จูบแรกของเรา…

ความใกล้ชิดของเราสอง ความรู้สึกสบายใจ และรักแรก

คอยสนับสนุนฉัน

ลาก่อน

ถ้าหากที่ผ่านมาฉันไม่มีเขา ฉันคงผ่านเรื่องราวเลวร้าย เหล่านั้นมาไม่ได้ ในแต่ละวันที่แสนวุ่นวาย ฉันแทบไม่มีเวลา พัก เขาเป็นคนเดียวที่ให้ความสงบและความสุขแก่ฉัน

ท่านพ่อ ท่านแม่ และท่านพี่ ผู้ที่ไม่เคยพอใจในตัวฉันเลย ช่วงเวลาชีวิตที่ยากลำบาก การเป็นบุตรสาวของท่านเคานต์กา วิเซล่า… ในที่สุดฉันก็เป็นอิสระ

ช่วงเวลาแสนยากเย็น ณ ห้องโถงกลางสถาบัน ในที่สุด

ฉันก็หนีออกมาได้

อิสรภาพ!

เมื่อฉันเดินมาถึงหน้าสถาบัน ฉันกระโดดลงจากบันได

ยาวหน้าประตูสถาบันด้วยความปล่อยวาง

ทว่าทุกอย่างก็ปกติดี จนกระทั่งมีคนตามฉันมา

“ท่าน… ท่านหญิงรอนย่า! ท่านได้รับบาดเจ็บหรือไม่!?

“ขอบใจที่มารับข้านะราโม่!

หนุ่มรับใช้ที่เคยลาออกจะบ้าตระกูลกาวิเทร่า ตอนนี้เขา

ทํางานให้ท่านปู่ของฉัน
เขาชื่อ ราโม่ เด็กหนุ่มผู้มีผมสีกรมท่าและดวงตารูปทร อัลมอนด์ ถึงเขาจะดูผอมบาง ทว่าจากนั้นราไม่จึง

เมื่อตอนที่มิโนซาเรียกฉันไปพอที่ห้องโถง ฉันรู้ทันทีว่า “ตอนจบ” มาถึงแล้ว ดังนั้นฉันจึงขอให้ท่านส่งคนมารับพร้อม กับขนกระเป๋าสัมภาระขึ้นเต็มรถม้าแล้ว เมื่อฉันได้อยู่บนรถม้า ฉันไม่สามารถหุบยิ้มได้เมื่อรู้ตัวว่าไม่จำเป็นต้องกลับมาที่ สถาบันนี้อีกแล้ว

สิ่งเดียวที่ทำให้ฉันรู้สึกเสียใจ คือฉันยังไม่ได้บอกลา เพื่อนรักทั้งสองคนเพราะพวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ ฉันควรส่ง จดหมายเวทให้แก่พวกเขาว่าฉันได้ออกจากสถาบันไปอยู่ สถานที่ไกลแสนไกล ที่ที่สามารถเติมเต็มความฝันและทำให้ หัวใจของฉันสงบสุขได้

ใช่… จากนี้ไป… ความปรารถนาที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข

ของฉันจะได้เริ่มขึ้นเสียที!!

ยะฮู้!!

ฉันไม่สามารถยับยั้งความสุขตนเองได้ มือทั้งสองขึ้น ด้วยความยินดี แต่แล้วร่างฉันพลันต้องหล่นลงจากที่นั่งเพราะ

แรงกระแทกของรถม้า

ฉันรีบเก็บความดีใจนั้นลงโดยเร็ว พร้อมส่งเสียงไอแก้

ใจเย็นก่อน…
ฉันควรหยุดตื่นเต้นดีใจ เหมือนอยากจะตะโกนร้องไห้เสีย

ก่อน

ขณะที่ฉันกำลังมีความสุข เท้าของฉันก็ไปเตะโดนกระเป๋า ที่อยู่ใต้ที่นั่งบนรถม้า ฉันถึงกระเป๋าและหยิบนาฬิกาทราย มรกตนั้นออกมา ฉันพลิกมันอย่างช้า ๆ ทรายสีเขียวมรกตได้

ร่วงหล่นลงมา

มันเป็นชีวิตที่ยากลำบาก

มันเต็มไปด้วยช่วงเวลาที่ยากลำบากที่มาพร้อมกับความ สุขเพียงเล็กน้อย

ทว่าจากนี้ไป ฉันจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข เพื่อเติมเต็มช่วง

ชีวิตที่ผ่านมา

ต่อจากนี้ไป… ฉันจะเติมเต็มความฝันให้เป็นจริง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ