ชีวิตจริงเสมือนฝัน

ตอนที่ 6-2 อม…11



ตอนที่ 6-2 อม…11

ตอนที่ 6 : อมนุษย์

หลังจากเขาเอียงหัวเล็กน้อยพร้อมกระดิกหูแล้วมองไป รอบร้าน ฉันเริ่มกลับไปให้ความสนใจกับหางปุกปุยนั่นอีกครั้ง หางที่ยาวและพองช่างน่าดึงดูดชวนสัมผัสยิ่งนัก มันจะต้องรู้สึก นุ่มนิ่มอย่างแน่นอน

ทว่า… มันคงจะหยาบคายถ้าฉันยื่นมือไปจับ

และมันคงเป็นเรื่องน่าอึดอัดใจที่จะขออนุญาติเขาเพื่อจับ

หางปุกปุย

แต่… ฉันอยากจะลูบหัวแมวสักครั้ง หูของเขาช่างดูอ่อน

นุ่มเสียจริง….

เฮ้อ… ฉันอยากจะสัมผัสสักครั้งเสียจริง

ขณะที่กำลังคิด อมนุษย์ตนนั้นเดินตรงมาหาฉัน

“นี่… ข้าขอกาแฟลาเต้แบบกลับบ้านเพิ่มอีกสักแก้ว

“อ๋อ ได้เจ้าค่ะ” ร่างกายของฉันสั่นโดยทันที

หลังจากนั้นฉันได้เดินเข้าไปที่ห้องครัวเพื่อเตรียมกาแฟลา เต้แบบกลับบ้าน ฉันคิดขึ้นมาได้ว่า…

ใช่แล้ว! บางทีฉันอาจมีโอกาสได้จับมือเขาตอนส่งถ้วยกาแฟ… ฉันจะต้องได้จับมือแสนปุกปุยนี้แน่นอน!

“ขอบคุณที่รอเจ้าค่ะ”

จากนั้นฉันยื่นถ้วยกาแฟด้วยทั้งสองมือให้แก่อมนุษย์ที่ยืน อยู่ด้านหน้าของฉัน ขณะที่เขายื่นมือออกมารับถ้วยกาแฟแก้ว นั้น ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่ได้สัมผัสชนอันนุ่มนวลของเขา

เสียงหัวใจเต้นดีใจของฉันดังขึ้นข้างในอย่างเงียบ ๆ มันช่างนุ่มเกินกว่าที่คาดหวังไว้เสียอีก

ทำไมขนปุกปุยช่างนุ่มขนาดนี้ ฉันอยากจะเอามันมากอด ถูกับใบหน้าเสียจริง

ฉันยิ้มอย่างสุภาพออกไปขณะที่พยายามซ่อนความตื่น เต้นของตนเองเอาไว้

ไม่นะรอนย่า! ถึงฉันจะไม่ได้มีสถานะเป็นลูกสาวของผู้สูง ศักดิ์ตระกูลดังอีกต่อไปแล้ว ทว่าการสวมกอดเพศตรงข้ามในที่ สาธารณะก็มิควร

ทันใดนั้นก็ได้มีบางสิ่งปลิวเข้าใส่หน้าของฉันพร้อมกับ เสียง กลิ้ง! เมื่อฉันได้ยินก็รีบคว้ามันไว้ทันที แบมือออกมาก็ พบว่านี่คือเหรียญทอง อมนุษย์ตนนี้ได้สะบัดเหรียญด้วยปลาย นิ้วแล้วหันตัวไปทันทีเพื่อออกจากร้าน ฉันร้องเรียกเขาด้วย ความตื่นตระหนก

ขออภัยเจ้าค่ะ เงินทอนของท่าน…

ถ้าเทียบกับโลกที่ฉันจากมา หนึ่งเหรียญทองมีมูลค่าเท่ากับหนึ่งหมื่นเยน หนึ่งเหรียญเงินมีมูลค่าเท่ากับหนึ่งพันเยน และหนึ่งเหรียญทองแดงมีมูลค่าเท่ากับหนึ่งร้อยเยน

กาแฟลาเต้สามแก้วมีราคาแค่สามเหรียญทองแดง ขณะที่ แซนด์วิชมีราคาเท่ากับห้าเหรียญทองแดง ฉันควรทอนให้แก่

เขา ทว่า…

“ข้าให้ อมนุษย์หมุนตัวมาแล้วพูดกับฉัน

“มันคือเงินทำขวัญที่ข้าทำให้ลูกค้าของเจ้าหนีหายไป แล้วข้าจะกลับมาดื่มกาแฟที่นี่อีก

หลังจากที่อธิบายเสร็จแล้วเขาเปิดประตูแล้วเดินออกจาก ร้าน ขณะที่เขาเดินออกไปฉันได้แต่มองอย่างงุนงง

“ข้าจะรอการมาเยือนของท่านอีกเจ้าคะ…” ฉันรีบพูดก่อน ที่เขาจะเดินออกไปไกล

แล้วนี่เป็นเรื่องดีหรือไม่ที่ฉันได้รับเงินพิเศษจากเขา มากมายขนาดนี้

ฉันยังเหรียญทองนั้นเก็บเข้าไปในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนแล้ว รีบเดินตามออกไป

ถนนด้านหน้าร้านช่างเงียบสงบ ฉันมองเห็นรถรางวิ่งอยู่ เนือง ๆ ท้องถนนที่แสนสะอาดนี้มีสีเหลือง กลามบ้านช่องตั้ง เรียงรายเว้นระยะห่างกันอย่างเป็นระเบียบ เมืองนี้ช่างสงบสุข และแตกต่างจากเมืองหลวงโดยสิ้นเชิง เมืองดอมกาซ่านี้ตั้งอยู่ ทางทิศตะวันตกของประเทศ
อย่างที่ท่านพูด เมืองนี้ตั้งอยู่ ณ ชายแดนซึ่งอยู่ใกล้กับ ประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นเมืองนี้เป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว

ฉันมองไปตามท้องถนนที่เต็มไปด้วยแสงตะวัน มองตาม หายมนุษย์ตนนั้น ทว่าไม่ว่าฉันจะพยายามมองหามากแค่ไหน ฉันก็ไม่พบเขาอีกแล้ว…

จากนั้นฉันจึงเดินกลับเข้าไปยังร้านอาหารและทำความ สะอาดร้านทั้งหมด ไม่มีลูกค้าแม้แต่คนเดียวเดินเข้ามาในร้าน ถึงฉันจะสังเกตเห็นถึงความผิดปกตินี้เพียงใด ทว่ามันก็ทำให้ ฉันได้นั่งกินข้าวกลางวันอย่างสงบสุข จากนั้นฉันก็ได้เริ่มชง กาแฟลาเต้เพื่อดื่มตอนนั่งพักผ่อน

นี่คือโอกาสแรกตั้งแต่เปิดร้านมาของฉันที่มีเวลาได้นั่งพัก ผ่อนหย่อนใจ

แสงแดดยามบ่ายทะลุผ่านหน้าต่างเข้ามาสะท้อนที่พื้น ของร้าน มันทำให้ฉันรู้สึกสบายใจและได้นั่งทบทวนว่าวันนี้ฉัน ทำงานจนยุ่งแค่ไหน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ