ชายาหมอเทวดา

บทที่ 4 พบวิธีรักษาโรค



บทที่ 4 พบวิธีรักษาโรค

บทที่ 4 พบวิธีรักษาโรค

“เพลง!”

ถ้วยชาตกแตกกระจายอยู่บนพื้น น้ำชากระเซ็นเปียก รองเท้าของกู้อ้าวเวย

“คุณ….คุณหนู……” หยินเชี่ยวก้มคุกเข่ากุลีกุจอเก็บ เศษที่แตกกระจายบนพื้น เศษซากบาดนิ้วมือจนเป็น แผล เลือดหยดเป็นดวงบนเศษซากถ้วยชาช่างขัดตาเสีย กระไร เมื่อเก็บชิ้นส่วนที่แตกกระจายเรียบร้อย หยินเชี่ยว ก็ลุกขึ้นมองกู้อ้าวเวยด้วยความกังวล เอ่ยปากด้วยความ ระมัดระวัง “บ่าว…บ่าวไม่ทราบว่าซูพ่านเอ๋อร์อาศัยอยู่ที่ ใด คุณหนูท่านต้องการหาคุณหนูซูหรือเจ้าคะ?”

กู้อ้าวเวยพยักศีรษะ สำหรับความลนลานและไร้ มารยาทของหยินเชี่ยวเมื่อสักครู่นี้ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ

แต่งให้กับผู้ชายเศษสวะวันสามก็ถูกผู้ชายเศษสวะนั่น ทำร้ายแล้วสองครั้ง หลั่งเลือดมากมายปานนั้นเพื่อนาง ซูพ่านเอ๋อร์ เป็นธรรมดาที่นางจะสนใจใคร่รู้ว่าผู้หญิง ประเภทใดที่สามารถทำให้ผู้ชายสวะอย่างซ่านจินจื่อ ปัญญาอ่อนเช่นนี้
อาการบาดเจ็บทั่วร่างของนางล้วนเกิดจากซูพ่านเอ๋อร์ แล้วนางจะไม่ไปเยี่ยมเยียนได้อย่างไร

มองดวงดาวนอกหน้าต่างที่กำลังคืบคลานผืนราตรี กู้ อ้าวเวยยิ้มเย็น

ภายในวิหารฉู่หยืน ซ่านจินจื่อกำลังจ้องมองเดี่ยวหาน นําโลหิตหัวใจที่เขานํากลับมาผสมเข้ากับวัตถุดิบยาปรุง เป็นยาตันให้ซูพ่านเอ๋อร์ทานลงไป จึงค่อยวางใจ

ค่อยๆประคองซูพ่านเอ๋อร์เข้าในอ้อมกอด จุมพิต กระหม่อมของซูพ่านเอ๋อร์ จิตใจเดิมที่ว้าวุ่นจึงค่อยรู้สึก สงบลง

“พี่จื่อ….” ซูพ่านเอ๋อร์ที่ซบอยู่ในอ้อมแขนซ่านจินจื่อ สวมชุดสีทั้งร่างดูราวกับเทพธิดาก็มิปาน พลางเงยหน้า ขึ้นมองบุรุษที่อยู่ด้านหลัง รอยยิ้มในดวงตาเจิดจ้าดุจดั่ง ดวงดาว

“พ่านเอ๋อร์”โชคดีที่เจ้าไม่เป็นไร โชคดีจริงๆ” พลางนำ ศีรษะซูพ่านเอ๋อร์ซบเข้าที่ไหล่ สูดดมกลิ่นบรรยากาศอัน คุ้นเคย ซ่านจินจื่อส่งเสียงกระซิบไม่หยุดหย่อน “พ่านเอ๋ อร์ อย่าได้จากข้าไปตลอดกาล”

เนื่องจากสาเหตุการใช้ยาเป็นเวลานาน บ่ารางของซู พ่านเอ๋อร์จึงมีกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ
เมื่อได้ฟังคําของซานจินจื่อ ในดวงตา ฟานเอ่อร์เผย ประกายความลังเล แต่เพียงไม่นานก็ปกปิดไว้มิดแทน ด้วยความประหลาดใจ จึงผนกายหันไป มองบุรุษเบื้อง หน้าด้วยน้ำตาเอ่อคลอ “พ่านเอ๋อร์ไม่เคยคิดจากพี่ อ ไปไหน แต่ทว่า….” พลันก้มหน้าลง เพิ่มความน่าสงสาร ขึ้นหลายส่วน กล่าวด้วยเสียงสะอึกสะอื้น “พ่านเอ๋อร์ ร่างกายเจ็บป่วยอ่อนแอ หลายปีมานี้หากไม่ใช่พี่จื่อ พ่าน เอ่อร์เกรงว่าคงไปนานแล้ว ยามนี้กระทั่งลําบากพระชายา เพราะความเจ็บป่วยของท่านเอ่อร์….

แต่ไรมาซ่านจินจื่อแทบไม่อาจให้ซูพ่านเอ่อร์ได้รับความ อยุติธรรม บัดนี้ได้ยินนางพูดกับตนอย่างน่าสงสารเช่นนี้ ในใจก็ยิ่งตำหนิตนเอง โกรธแค้นกู้อ้าวเวยเพิ่มมากขึ้นอีก หลายส่วน

พลันประคองศีรษะของซูพ่านเอ๋อร์เงยขึ้นมา ค่อยๆก้ม ศีรษะลงไปจุมพิตหยาดน้ำตาบนดวงหน้าของซูพ่านเอ๋อร์ ด้วยความอ่อนโยนและหวงแหน “พ่านเอ๋อร์ไม่จำเป็นต้อง ใส่ใจนางแพศยานั่น สาเหตุที่ข้าตอบรับแต่งนางก็เพียง แค่เพื่อให้นางเป็นตัวนำยาของเจ้าเท่านั้น หากไม่ใช่เพื่อ อาการป่วยของเจ้า ตำแหน่งพระชายานี้สมควรเป็นของ เจ้า” เขาดึงผ้านวมจากเตียงห่มคลุมร่างคนทั้งสอง โอบ กอดซูพ่านเอ๋อร์นอนลง ฝ่ามือตบที่แผ่นหลังของซูพ่านเอ๋ อร์เบาๆ กล่าวปลอบ “พ่านเอ๋อร์วางใจ รอจนอาการป่วย เจ้าหายดี ข้าจะปลดคนนางแพศยานั่นออกแล้วแต่งเจ้า เข้าจวน”
เมื่อนึกถึงกู้อ้าวเวย ความอบอุ่นเดิมในดวงตาของซ่าน จินจื่อถูกแทนที่ด้วยความดุร้าย สาเหตุก็เป็นเพราะนั่งผู้ หญิงที่ไม่รู้จักละอาย ทำร้ายพ่านเอ๋อร์จนกระทั่งถึงตอนนี้ ยังต้องติดตามตนโดยไร้ชื่อไร้เกียรติ

ซูพ่านเอ่อ พิงซบบนแผ่นอกของซานจินจื่อ ได้ยินคํา กล่าวนี้ในดวงตาพลันเกิดประกายความย่ามใจ ทว่ายาม เงยศีรษะขึ้นยังพลิกเปลี่ยนเป็นท่าทางน่าสงสารออก มา “น้ำใจของพี่จื่อที่มีต่อพ่านเอ๋อร์ พ่านเอ๋อร์ย่อมเข้าใจ เพียงแต่….พระชายาเป็นผู้สืบทอดหลิงหนานตระกูลหยุน อีกทั้งมีตระกูลกู้สนับสนุน พ่านเอ๋อร์กลัวว่าเพราะข้าแล้ว พี่จื่อจะล่วงเกินตระกูลกู้กับตระกูลหยุน ถึงยามนั้นหาก กําหนิขึ้นมา…

“หึ!” ซ่านจินจื่อแค่นเสียงเย็นอย่างไม่ค่อยใส่ใจ หันกลับ ไปจุมพิตหน้าผากของซูพ่านเอ๋อร์อย่างแผ่วเบา โอบซู พ่านเอ๋อร์หวนเข้าสู่อ้อมกอดอีกครั้ง จ้องมองไปที่ผ้าม่าน กล่าวอย่างไม่แยแส “ตระกูลกู้กับตระกูลหยุนข้าไม่เคย วางไว้อยู่ในสายตา แม้จะล่วงเกินจริงแล้วอย่างไร ใต้ หล้านี้ใครไม่รู้บ้างว่าในใจข้ามีเจ้าเพียงผู้เดียว แม้นเป็น ใครก็ต้องพูดว่านั่นเป็นเพราะกู้อ้าวเวยคนแพศยาได้แย่ง ตำแหน่งที่เดิมควรจะเป็นของเจ้า หากไม่ใช่เพราะเคย ได้ยินว่าโลหิตหัวใจของนางสามารถรักษาโรคของเจ้าได้ ทำไมข้าจะต้องแต่งสตรีเช่นนี้เข้าจวนกันเล่า”

“แต่ว่า…..” พ่านเอ๋อร์กัดเรียวริมฝีปาก มองไปยังนจินจื่อด้วยดวงตาที่เอ่อคลอ “พ่านเอ๋อร์ได้ยินเมี่ยวหา นบอกว่า เลือดของพระชายากับโรคของพ่านเอ๋อร์นั้นไร้ ประโยชน์ โรคของพ่านเอ๋อร์นี้เกรงว่าจะ…..

“ถอนคำพูดไร้สาระเสีย!” พลันตัดบทของซูพ่านเอ๋อร์ ด้วยไม่สบอารมณ์ ใช้นิ้วมืดปาดหยดน้ำที่หางตาของซู พ่านเอ๋อร์ ซ่านจินจื่อให้คำมั่นสัญญาอ่อนโยนทว่าจริงจัง “พ่านเอ๋อร์ เจ้าวางใจเถิด แม้จะต้องพเนจรสุดขอบฟ้าสิ้น มหาสมุทร ข้าก็จะต้องหาวิธีมารักษาเจ้าให้จงได้ เจ้าจะ ต้องสามารถอยู่เคียงคู่กับข้าไปจนแก่เฒ่า พวกเราจะต้อง ให้กำเนิดบุตรของพวกเราสักหลายคน”

“พี่จ๋อก็….. เมื่อได้ยินว่าซ่านจินจื่อพูดว่าต้องการมีบุตร กับนาง ซูพ่านเอ๋อร์พลันเขินอายจนหน้าแดง นำศีรษะซุก เข้าไปในอ้อมกอดซานจินจื่อมิยอมโผล่ออกมา เพียงแค่ ใบหูที่แดงก่ำก็สามารถอธิบายได้ว่ายามนี้นางรู้สึกไม่ดี เท่าใดนัก ด้วยท่าทีเช่นนี้ดูเหมือนหัวใจของซ่านจินจื่อจะ ขยับไหว ยื่นมือออกมาเลื้อยคลานบนร่างซูพ่านเอ๋อร์

พลันมีเสียงเคาะประตูขัดจังหวะเรื่องดีงามของซ่าน จินจื่อ

“เรียนท่านอ๋อง…..” เสียงของเมี่ยวหานดังขึ้นอยู่นอก ประตู ซ่านจินจื่อมุ่นคิ้วด้วยความไม่สบอารมณ์ แต่ยัง พลิกร่างลงจากเตียงเดินไปเปิดประตู มองดูเมี่ยวหานใน ชุดสีคราม ซ่านจินจื่อขมวดคิ้วเอ่ยปากถาม “ดึกป่านนี้มีเรื่องอันใด?”

H! จะดีที่สุดหากเขามีธุระสำคัญ มิฉะนั้นที่มารบกวน เรื่องดีงามของเขาจะต้องโดนไม่พอใจเป็นแน่

“ข้าพบวิธีการรักษาคุณหนูชูแล้วพะยะค่ะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ