บทที่ 6 โรงน้ำชา
“แต่ว่าพระชายา วันก่อนท่าน………
“นั่นจะนับได้ยังไง อันนั้นก็เพื่อออกไปจำนำของ แล้วยังแอบ ออกไปตอนกลางคืนอีก ไม่สนุกเลย พอแล้วๆ เอาเป็นว่าตกลง ตามนี้ เปลี่ยนชุดผู้ชาย เยว่เอ๋อ”
“ยังต้อง…….ยังต้องเปลี่ยนชุดผู้ชายอีกเหรอ…….
เจียง วซีนที่เดินออกจากตำหนักอ๋องหยูก็กลายเป็นคุณชาย
ไปแล้ว
“เยว่เอ๋อ เจ้าดูสิถนนนี้หรูหรามากเลยเนอะ”
“หื้ม?”
“ท่าน……..คุณชาย”
“ต้องได้สิ เยว่เอ๋อคนดีของข้า” พูดแล้วก็เอาพัดในมือตัวเอง
เชยคางเยว่เอ๋อขึ้นเล่นๆ
“ท่าน……..คุณชาย”
ไม่เพียงแต่เยว่เอ๋อที่หน้าแดง ขนาดแม่หญิงที่เดินผ่านยังต้อง หน้าแดงเขินอายไปตามๆกัน ไม่รู้ว่าคุณชายตระกูลไหน ทำไม หน้าตาหล่อเหลาเช่นนี้
เจียงรั่วซินมองแม่หญิงที่เขินอายเพราะนาง และเดินเข้าไปหา
“แม่หญิงรู้หรือไม่ในเมืองหลวงนี้มีสถานที่น่าสนุกที่ใดบ้าง? แม่หญิงคนนั้นพอเห็นเจียงรั่วซินเดินเข้ามาก็อึ้งตะลึง ขนาด พูดยังติดอ่างเลย
“ด้าน……..ด้านหน้ามีโรงน้ำชาที่เล่าเรื่อง ไม่เลวเลยล่ะ” “ขอบใจแม่หญิง”
พอได้ทิศทางแล้ว เจียงรั่วซิ่นขอบใจแม่หญิงและเดินไปที่โรง น้ำชาทันที
“ไม่รู้ว่าคุณชายจะดื่มชาอะไรขอรับ” พนักงานร้านเห็นลูกค้า สองคนเดิน ดูเหมือนจะเป็นคนรวยมาก จึงเดินเข้าไปต้อนรับ อย่างกระตือรือร้น
“เอาชาที่ดีที่สุดของพวกเจ้ามา”
“ขอรับ!” หันไปตะโกนว่า “ชาชั้นยอดมาหนึ่ง!
เจียงรั่วซินหันมองรอบๆโรงน้ำชา แม่หญิงคนนั้นพูดถูก ที่นี่น่า จะเป็นโรงน้ำชาที่ดีที่สุดในเมืองก็ว่าได้
ผู้คนมากมาย ทุกคนต่างตั้งใจฟังเรื่องเล่าอย่างใจจดใจจ่อ
“ไม่รู้ว่าเล่าเรื่องอะไรกันอยู่เหรอ” เจียงรั่วในถามพนักงาน ร้านที่มาเสิร์ฟชา
“เรื่องนี้เหรอ กำลังเล่าเรื่องสงครามเมื่อสิบปีก่อนของท่านอ๋องหมู่ที่ชายแดนน่ะ” เขาพูดด้วยสายตาที่นับถือจากใจจริง
“อ๋องหยู่เป็นคนนำโชคมายังแคว้นตุงเฉินของพวกเราจริงๆ ถ้าไม่มีอ๋องหยู่ พวกเราก็คงไม่มีชีวิตที่สงบสุขเฉกเช่นทุกวันนี้
จิ๊ก สามีกำมะลอคนนี้ก็พอมีชื่อเสียงในแคว้นตุงเฉินนะ
คนเล่าเรื่องกําลังพูดถึง “ว่ากันว่าชาวบ้านชายแดนดุร้าย สภาพแวดล้อมแย่มาก อ๋องหมู่ที่แม้จะผ่านสงครามมาหลายครั้ง ก็ยังไม่สามารถต่อสู้ในพื้นที่แบบนั้นได้ อ๋องหมู่และทหารตุงเฉิ นก็ยังสู้เต็มกำลัง และในตอนนี้เองก็ได้โอกาสเหมาะ…….
ในขณะที่เจียงรั่วซินกำลังตั้งใจฟังที่เขาพูดอยู่นั้น ทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงดังขึ้น
“ท่านพ่อ อย่าเลย อย่าขายข้าเลยนะ” ได้ยินเสียงเหมือนเด็ก สาวอายุสิบห้ากำลังคุกเข่าร้องไห้อ้อนวอนอยู่ ดึงเด็กผู้ชายที่ตัว เล็กแห้ง
“ไม่ขายเจ้า? ไม่ขายเจ้าจะเอาเงินที่ไหนมาคืนหนี้สินล่ะ เข้าไป โรงโสเภณีนั่น คนที่นั่นจะทำดีกับเจ้าแน่นอน” ผู้ชายที่พูดสะบัด มือของเด็กสาวอย่างแรง และยังเตะนางออกไปอีก เด็กสาวตัว เล็กจะทนต่อแรงเตะของชายตัวใหญ่ได้ยังไง แล้วยังถูกเตะไป ไกลขนาดนั้นอีก
เด็กสาวกวาดสายตามองรอบโรงน้ำชาก็เห็นเจียงรั่วซินที่ สะดุดตามาก จึงรีบเข้าไปดึงแขนเสื้อนางไว้ “ “คุณชาย ช่วยข้า ด้วย ได้โปรดช่วยข้าด้วยเถอะ ข้าจะยอมรับใช้คุณชาย เป็นการ ตอบแทนบุญคุณเจ้าค่ะ”
เจียงรั่วซินมองดูเด็กสาวที่น่าสงสารคนนี้ ก็ใจอ่อนลง จึงควัก เงินออกมาจากเสื้อ ส่งให้ชายน่าสมเพชผู้นั้น “ไม่รู้ว่าเงินนี้จะพอ สำหรับจ่ายหนี้ไหม?”
ชายผู้นั้นพอเห็นเงินแล้วก็ตาสว่างขึ้นมา และพูดว่า “หนี้ที่ข้า ติดอยู่เกรงว่ามีมาก เงินพวกนี้…….
เจียงชั่วขึ้นก็เข้าใจความหมายของเขาทันที โลภมากจริงเลย
“ไม่พอเหรอ” เจียงรั่วซินจึงพูดกับเด็กหญิงคนนั้นว่า “แม่ หญิง เกรงว่าจะช่วยเจ้าไม่ได้แล้วล่ะ”
เจียงรั่วซินพูดแล้วก็จะเดินออกจากโรงน้ำชา ชายน่าสมเพช นั่นก็ลนลานทันที เป็นแค่เด็กหญิงที่ยังโตไม่เต็มที่ แม้จะขายไปที่ ช่องก็คงได้เงินไม่มาก เมื่อกี้แค่เห็นเจียงรั่วซินยอมควักเงินออก มา คิดว่าน่าจะเป็นคนรวยมาก จึงอยากจะขอมากกว่านี้หน่อย จึงรีบเรียกเจียงรั่วชินไว้ “คุณชาย คุณชาย…….
พูดแล้วก็รีบวิ่งไปตรงหน้าเจียงรั่วซิน: “คุณชาย ข้าน้อยผิด ไปแล้วนะ จำผิดไป เงินพวกนี้เพียงพอสำหรับใช้หนี้แล้วล่ะ” แล้วก็คว้าเงินจากมือหลันเยว่ไป พูด
เจียงรั่วซินยิ้มอ่อน “เช่นนี้ก็ดี งั้นเด็กสาวคนนี้……
“ไม่เกี่ยวข้องกับข้าน้อยอีกแล้ว ก็นับว่าขายให้คุณชายแล้ว กัน เด็กคนนี้ถ้าอาบน้ำแล้วก็สวยใช่เล่น” ชายผู้นั้นพูดและหัว เราะฮีๆ
“นั่นมันคนอะไรกัน เพื่อใช้หนี้ถึงกับเร่ขายลูกสาวตัวเองเลยเหรอ
“เจ้าไม่รู้เหรอ ชายผู้นี้นะมีชื่อเสียงมากเลยนะ วันวันไม่ทำ อะไร ภริยาก็ทนไม่ไหวจึงทิ้งเขากับลูกไป
“เด็กสาวคนนี้ก็น่าสงสารมาก “นั่นสิ ยังดีที่เจอคุณชายคนนี้ ไม่งั้นละก็ไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไร
บ้าง”
และเจียงรั่วซินเดินออกจากโรงน้ำชาท่ามกลางเสียงซุบซิบ
“คุณชาย คุณชาย
พึ่งเดินออกจากโรงน้ำชา เจียงรั่วซินก็ได้ยินมีคนเรียกนาง จากด้านหลัง หันกลับไปมองก็คือเด็กสาวที่นางพึ่งช่วยไว้
“คุณชายช่วยข้าไว้ ข้าควรจะตอบแทนคุณชาย
เด็กสาวคนนั้นมองดูเจียงรั่วซินด้วยความหวัง นางก็มองเด็ก หญิงตรงหน้าที่มองนางด้วยสายตานี้ ก็รู้ได้ว่าเด็กหญิงคนนี้คงจะ เข้าใจผิดอะไรสักอย่าง
“แม่หญิงไม่ต้องตอบแทนก็ได้ สำหรับข้าเป็นเรื่องง่าย แม่ หญิงรีบกลับบ้านไปเถอะ”
“แต่ว่าคุณชาย…ตอนนี้ข้าไม่มีบ้านแล้ว
เจียงรั่วซินก็นึกขึ้นได้ว่าตอนนี้นางไม่มีพ่อแม่แล้ว จึงครุ่นคิด และพูดว่า “ช่วงนี้ข้ารู้ว่าตำหนักอ๋องหยกำลังรับสมัครสาวรับใช้ แม่หญิงลองไปที่ตำหนักอ๋องหมู่ดูสิ
“ตำหนัก……..องหย?”
“ในเมื่อแม่หญิงไม่มีที่ไปแล้วก็ลองไปดูสิ อาจจะหาที่พักได้
สายตาเด็กสาวก็เปล่งประกายด้วยความหวังอีกครั้ง “ขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำเจ้าค่ะ”
มองดูแผ่นหลังที่เดินจากไปของนาง หลันเยวก็อดไม่ได้ถาม ว่า “คุณชาย ตำหนักไม่ได้รับสมัครสาวรับใช้นี่เจ้าคะ”
เจียงรั่วซินยิ้มและมองหลันเยว่ “ยัยโง่ ขาบอกว่าหาพ่อบ้านก็ต้องหามาสิ”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ