ตอนที่ 7 เขาเป็นเศรษฐี
ภายในหัวใจของนาเดียเกิดความสับสนและเคลือบ แคลงใจ เป็นอย่างที่เธอคิดไว้จริงๆ เธอพบว่าชายคนนั้น ดูถูกและมองเธอด้วยความรังเกียจเหยียดหยามเป็นนัย
เขาพูดว่า “ที่นี่ไม่ขาดคนรับใช้ จะมีคนรับใช้ดูแลการอาบ น้ำของเขา และคุณก็ไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายที่นั่น” ความหมาย โดยนัยก็คือจะบอกว่าเธออยากได้หน้าขนาดนั้นหรอ ?
นาเดียไม่อยากอธิบายอะไร จึงได้แค่พยักหน้ารับ “ค่ะ” ถิรเจตพูดขึ้นอีกว่า “เธอแค่ต้องเล่นกับเขาเวลาที่เขารู้สึก
เบื่อ”
“ง่ายขนาดนั้นเลยหรอ ?” ซื้อเธอมาด้วยเงินตั้งมากมาย เพียงเพื่อแค่เล่นกับเขาเนี่ยนะ มันง่ายไปไหม ?
ในไม่ช้า คำพูดของถรเจตก็ทำลายความฝันของเธอล่ม สลายลง
ชายคนนั้นตะคอกขึ้นมาด้วยความเย็นชาและแฝงไปด้วย การเสียดสี “เธอคิดว่าการเล่นกับเขามันง่ายมากหรอ ฟัง ฉันนะ ถ้าฉันรู้ว่าเขาได้รับความเดือดร้อนจากเธอแม้แต่น้อย เธอได้เห็นดีแน่
จ้าาา พ่อคนเก่ง พ่อคนรวย พ่อเศรษฐี คุณใหญ่ที่สุดเลย !
นาเดียพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีกแล้วพูดว่า “ได้ๆๆ ฉันจะทำ ตามสัญญาคุณวางใจได้เลยนะ”
ความไม่ไว้วางใจจากแววตาของเขาหายไปอย่างสิ้นเชิง จากนั้นไม่นานภูดิศก็ขึ้นมาพร้อมกับคนใช้จำนวนหนึ่ง ทาง ด้านนาเดียก็ถูกคนใช้พาไปที่ห้องของเธอ
แม้ว่าเป็นห้องที่ไม่ใหญ่มากเท่าไร แต่ก็มีการประดับ ตกแต่งอย่างประณีต ผ้าม่านลายดอกไม้ โต๊ะและเก้าอี้ เฟอร์นิเจอร์ ตู้เสื้อผ้า มีครบทุกอย่าง
นี่มันคือห้องนอนผู้หญิงในซีรี่ย์ชัด ๆ !
ย้อนกลับไป นาเดียไม่คิดว่าถรเจตจะมีห้องส่วนตัวให้กับ เธอ เธอคิดว่าจะให้เธอนอนกับพี่ชายที่ไม่สมประกอบของ เขา ดังนั้นเขาก็ยังพอมีความเป็นคนอยู่บ้าง
“คุณหญิงใหญ่พอใจกับห้องนี้หรือเปล่าคะ ? ถ้าคุณหญิง ใหญ่ต้องการอะไรเพิ่มโปรดบอกดิฉันนะคะ ดิฉันจะรีบจัดหา มาให้อย่างเร็วที่สุดโดยผ่านการอนุญาตจากคุณชายทั้ง สอง”
นาเดียอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าภูดิศคนนี้เกี่ยวข้องอะไรกับ ถิรเจต ทั้งความสัมพันธ์ทางเรื่องธุรกิจและเรื่องส่วนตัว จะ ต้องได้เงินเดือนสูงมากแน่ๆ
“คุณหญิงใหญ่ครับ…….” ภูดิศเรียก
“อุ๊ย?” นาเดียมองย้อนกลับไปอย่างเขินอาย
ภูดิศยิ้มและถามว่า “พอดีว่าผมจะไปทำธุระข้างนอกสัก หน่อยครับ คุณหญิงใหญ่ยังมีของต้องเอามาใช่ไหมครับ ผมเคยได้ขออนุญาตคุณชายรองแล้ว และตอนนี้ผมจะพา คุณหญิงใหญ่ไปเก็บมา
เธอเป็นเพียงลูกสาวบุญธรรมของตระกูลศุภเศรษฐ์ ซึ่ง เธอถูกพรากออกมาจากสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้าในอายุ เพียง 10 ปี ในวันนี้เธอยังคงไม่เข้าใจเหตุผลที่ครอบครัว รับเธอมาเลี้ยง เพราะจริงๆ แล้วตระกูลศุภเศรษฐ์มี สุธีมา ลูกสาวแท้ๆ อยู่แล้ว และยังลูกชายผู้ดูแลบ้านคือ วิชชากร แค่นี้ก็พอเดาออกว่าการใช้ชีวิตในตระกูลศุภเศรษฐ์ของเธอ ไม่สู้ดีนัก
ตอนเธออายุ 15 ปีเธอถูกพ่อบุญธรรม นันทภพ และแม่ บุญธรรม ศีดา ไล่จากคฤหาสน์ตระกูลศุภเศรษฐ์ เพราะถูก พี่ชายข่มขืน แต่ได้เพื่อนซี้ ญาณินท์ ช่วยเหลือไว้ นาเดีย จึงได้เช่าบ้านอยู่และทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยจนสามารถ เรียนจนจบ
ระหว่างนั้นความโกรธแค้นของพ่อบุญธรรมก็หายไปและ ต้องการนำเธอกลับมา แต่เธอก็ปฏิเสธไปอย่างอ้อมๆ บางที มันอาจจะเป็นความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของพ่อเลี้ยง นันทภพ ที่ยังต้องรับผิดชอบลูกบุญธรรมคนนี้อยู่บ้าง
แต่เดิมนั้นนาเดียยังมีความกตัญญูอยู่บ้างแต่หลังจากที่ เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เธอรู้สึกสิ้นหวังกับครอบครัว ด้วยเหตุนี้ทำให้เธอเข้าใจความเป็นจริงว่าเมื่อพิงภูเขา ภูเขาก็จะถล่ม เมื่อพิงคน คนก็จะเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเราต้องพึ่งพาตนเอง
การย้ายทุกอย่างมาที่นี่มันไม่ได้หมายความว่าเธอจะอยู่ที่ โดยปราศจากลมหายใจนี่ตลอดไปหรอ ? แม้ว่าพื้นที่ที่เธอ เหยียบอยู่จะเป็นห้องของเธอแต่มันก็ยังอยู่ภายใต้อำนาจ ของคุณชายตระกูลสวันนีย์ทั้งสองคน และถ้าวันหนึ่งเขา เกิดบ้าขึ้นมาพาเธอไปทิ้งนอกบ้านเธอจะไม่ต้องอยู่บนถนน หรอ ?
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ