คุณพ่อสายเปย์

บทที่ 7 ทำไมพูดความจริงไม่มีใครเชื่อ



บทที่ 7 ทำไมพูดความจริงไม่มีใครเชื่อ

“เธอหมายถึงหูหง? ” หวังเสวี่ยถาม

หลินเจียพยักหน้าคล้ายกับไม่แน่ใจ

“น่าจะไม่ใช่เขานะ ดูจากเมื่อวานผู้จัดการหวังก็ไม่ได้ใส่ใจ หงสักเท่าไหร่” หวังเสวียส่ายหน้า

“แล้วจะเป็นใครกัน? กล้าออกตัวแทนพวกเราต่อหน้าเศรษฐี ลู่ ก็หมายความว่าตัวตนของเขาต้องไม่ธรรมดาแน่ เราไม่เคย รู้จักคนสูงส่งแบบนี้มาก่อนนี่นา” หลินเจียก็งงงวยเช่นกัน

สองแม่ลูกคาดเดาไปต่างๆ นานา แต่ทั้งสองไม่แม้แต่จะคิดว่า จะเป็นลู่เฉินที่ช่วยพวกเธอ

สำหรับพวกเธอแล้วลู่เฉินนั่นเป็นเพียงขยะที่ไร้ประโยชน์ แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเศรษฐี ถ้าทั้งสองจะมีความข้องเกี่ยวก็แค่บังเอิญแซ่เดียวกันเท่านั้น

“ช่างมันเถอะ เซ็นต์สัญญาให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน ทุกอย่าง เรียบร้อยแล้วลองถามผู้จัดการหวังดูว่าเขาเป็นใครมาจากไหน หวังเสวี่ยพูด

ลู่เฉินเพิ่งกลับมาจากกินข้าวเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของสอง แม่ลูก ก็รู้ได้ว่าคนจากจวินเยวี่ย โทรหาพวกเธอเรียบร้อยแล้ว

“ดูแลฉีฉี ให้ดี พวกเราจะเดินทางไปจวินเยวี่ยจัดการเรื่องเซ็นต์สัญญา” หวังเสวี่ยพูดด้วยอารมณ์แจ่มใส น้ำเสียงของเธอก็ดี ขึ้นกว่าเดิมมาก

เฉินพยักหน้า สองคนแม่ลูกกำลังจะจากไปทันใดนั้น โทรศัพท์ของหลินอี้เจียก็ดังขึ้น หลัง โทรเสร็จเรียบร้อยเธอพูดขึ้น ว่า “แม่คะ รออีกเดี่ยว หูหงมาเยี่ยมณี ตอนนี้ถึงโรงพยาบาล แล้ว”

สักครู่หูหงก็เดินเข้ามาพร้อมกับกระเช้าผลไม้ เป็นแก้วมังกร นําเข้า เด็กๆ น่าจะชอบกิน

สายตาที่หูหงมองมาทางลู่เฉินวันนี้ต่างไปจากเดิม ไม่เหมือน เมื่อวานที่เต็มไปด้วยความดูถูก

ก็ไม่แปลก เมื่อวานที่จวินเยวี่ยพวกเขานั้นพ่ายแพ้ แต่เลขา ส่วนตัวของเศรษฐีลู่ได้ปฏิบัติต่อลู่เฉินอย่างนอบน้อม เขาคิด เหมือนกับสองแม่ลูกคู่นั้น คาดว่าตัวตนที่แท้จริงของเฉินน่าจะ ไม่ธรรมดา

แต่หูหงไม่ได้พูดอะไรออกมา ลู่เฉินก็เช่นกัน

เขารู้ดีว่าหูหงไม่ได้ตั้งใจมาเยี่ยมลูกสาวของตน จึงไม่มีความ จําเป็นต้องกล่าวขอบคุณ

“ใช่แล้วหูหง คุณให้คุณพ่อออกหน้าแทนเราเหรอ ผู้จัดการ หวังจากกลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ยเพิ่งโทรหาแม่ฉัน ให้พวก เราเดินทางไปคุยเรื่องเซ็นต์สัญญา พวกเขาจะผลิตภัณฑ์ยาจาก บริษัทของแม่ฉันล่ะ” หลินเจียถาม ณ เวลานี้เธอคิดว่ามีเพียง หงเท่านั้นที่สามารถช่วยแม่ของเธอได้
“หา? “หูหงตกใจเล็กน้อย ในใจคิดว่าพ่อของตนจะเอาอะไร ไปออกหน้าแทนได้ ถึงแม้เขาจะกล้าไปขอร้องพ่อให้ออกหน้า แทน คาดว่าพ่อคงไม่สนใจเขาอยู่ดี

“แม่บอกแล้ว เมื่อวานไม่เห็นผู้จัดการหวังมีท่าทีเกรงใจหูหง เลย น่าจะเป็นคนอื่นออกตัวช่วยพวกเรา” หวังเสวี่ยพูดขึ้นหลัง เห็นท่าทางของหูหง

หลินอี้เจียเองก็พยักหน้า เธอมองไปที่หูหงด้วยสายตาผิดหวัง เล็กน้อย

“คุณป้าเสวี่ยครับ ผู้จัดการหวังโทรมาเรียบร้อยแล้วใช่ไหม? คุณพ่อผมจัดการได้รวดเร็วเหมือนกันนะครับ ผมเพิ่งจะเรียนเรื่อง นี้กับท่านไปเมื่อเช้านี้เอง ให้ท่านช่วยออกหน้าให้ ท่านบอกว่าวัน นี้จะหาเวลาว่างไปพบผู้จัดการหวัง ผมยังคิดว่าท่านแค่พูดปัดๆ ไปเสียอีก” หูหงตอบไปหลังครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่

อย่างไรเสียเขาก็ไม่กลัวที่จะถูกเปิดเผย แม้ในอนาคตจะโดน จับได้ เขาก็คงได้หลินอี้เจียไปครองแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจ อีกต่อไป

ที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือ เขาสงสัยว่าทางกลุ่มแกรนด์ไฮแอทจ วินเยวี่ยน่าจะดูรายละเอียดความร่วมมือเรียบร้อยแล้ว วันนี้ถึง ได้ติดต่อมา ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ยังไม่มีเรื่องต้องกังวล

ตรงกับจังหวะที่หลินอี้เจียสงสัยว่าเป็นเขา เมื่อถึงเวลาเขาจะ ได้ทั้งหลินเจียและผลงาน โอกาสดีๆ แบบนี้จะปล่อยให้หลุดไป ได้ยังไง
“คุณให้คุณพ่อช่วยออกหน้าให้จริงๆ ด้วย ขอบคุณมากเลยนะ คะ!” หลินเจียมองมาทางหูห่งด้วยความซาบซึ้ง เธอคิดอยู่ แล้วว่านอกจากหูหง จะมีใครยื่นมือมาช่วยพวกเธอสองแม่ลูกได้ อีก

“หูหง ป้าขอบใจมากนะลูก” หวังเสวี่ยเองก็ตื้นตันใจและคิด ไม่ถึงว่าจะเป็นหูหงจริงๆ

ลู่เฉินมองไปที่หูหงด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คาดคิดว่า เจ้านี่จะไร้ยางอายถึงขนาดนี้

“คุณแน่ใจว่าคุณเป็นคนให้พ่อออกหน้าช่วยแม่ผม?” ลู่เฉินพู ดกับหูหงแบบกึ่งยิ้ม

หูหงมีท่าทีตกใจ ดวงตาของเขาก็ลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย

“ถ้าไม่ใช่หูหงจะเป็นคุณงั้นเหรอ? คิดว่ามีความสามารถพอ ไหม? ” หลินเจียจ้องไปที่เฉิน ด้วยสีหน้าไม่พอใจ ดวงตาของ เธอเต็มไปด้วยความดูถูก

“ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอกลูก เราไปจัดการเรื่องเซ็นต์สัญญา กันดีกว่า” หวังเสวี่ยเองก็มองเฉินด้วยท่าทางดูถูกจากนั้นพาห น เจียและหูหงออกไป

เฉินหัวเราะแล้วส่ายหัว เขาขี้เกียจจะไปใส่ใจเรื่องของหูหง เพราะมันไม่มีประโยชน์แม้แต่นิดเดียวสำหรับเขา

“คุณพ่อคะ ทำไมคุณน้ากับคุณยายถึงคุณพ่อจัง? ” ถาม ลู่เฉินด้วยความสงสัย
ลู่เฉินยิ้ม เขาไม่รู้จะตอบอย่างไรดี

เขาไม่สามารถตอบไปว่าเพราะสองคนนั้นคิดว่าเขาได้ ประโยชน์ ต่อหน้าลูกสาวเขาต้องทำตัวเป็นฮีโร่เสมอ

ในวันต่อมาสู่จงได้หาไขกระดูกที่ตรงกับฉีฉีพบ และทางโรง พยาบาลได้ลงมือผ่าตัดแก่ฉีฉีทันที

การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว หลินจุนมี ความสุขมากจนลืมถามถึงค่ารักษาพยาบาลอีกทั้งเรื่องค่าใช้ จ่ายที่ลู่เฉินย้ายมาห้องวีไอพีด้วย

ฉีฉีออกจากโรงพยาบาลมาสองวันนี้หลินจุน ใช้เวลาอยู่กับ ลูกสาวของเธออย่างคุ้มค่า

“ตอนนี้ฉีฉีก็สามขวบแล้วนะ เราส่งลูกไปโรงเรียนดีไหม คุณ

วางแผนไว้ว่ายังไง? ” หลินจุนถามลู่เฉินขึ้นหลังจากปิดไฟนอน

“วางแผนอะไรนะ? ” เฉินกำลังคิดถึงเรื่องอื่นอยู่ ไม่ทันได้ฟัง คําพูดของหลินอีจุนเมื่อสักครู่

“ติดหนี้สินเยอะขนาดนี้ คุณไม่คิดวิธีหาเงินมาใช้หนี้บ้างเห รอ? ” หลินจุนขมวดคิ้วถาม

“ผมติดหนี้ตู้เฟยแค่ห้าหมื่น สองสามวันนี้หาเวลาไปคืนเขาก็ เรียบร้อย” ลู่เฉินพูด

“ลู่เฉิน คุณหมายถึงค่ารักษาช่วงหลังของฉีฉีอีกตั้งหลายแสน จะให้ฉันทำงานมาใช้หนี้เองทั้งหมดใช่ไหม? ” หลินจุนมองไป ทางลู่เฉินที่อิงหมอนสูบบุหรี่อยู่ด้วยใบหน้าเยือกเย็น
เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าลู่เฉินจะเป็นอย่างนี้ นี่คือผู้ชายที่เธอ เลือกมาร่วมชีวิตด้วยในตอนนั้นเหรอ?

“คุณเป็นอะไรไป ผมไม่ได้พูดเลยว่าจะให้คุณมารับผิดชอบ ตรงนี้ ค่ารักษาหลังๆนั้นเป็นเงินของผมเอง แค่ว่าตอนนี้ผมติด เฟยอยู่ห้าหมื่นเท่านั้น” เฉิน

“เงินของคุณ? คุณรู้ไหมว่าค่าใช้จ่ายช่วงหลังๆนั้นอย่างน้อย ต้องมีห้าแสน คุณคิดว่าฉันโง่หรือไง? ” หลินจนพูดด้วยความ โมโห

“ที่รักครับ ผมคงต้องบอกความจริงต่อคุณเสียที ที่จริงแล้วผม เป็นทายาทเศรษฐี……

ลู่เฉินทิ้งก้นบุหรี่แล้วหันมากอดหลินจุน เตรียมตัวบอกถึงตัว ตนที่แท้จริงของเขาต่อภรรยา เขาต้องการชดเชยที่ทำให้หลิน จุนต้องทนลำบากมากับเขาตลอดหลายปีนี้

“ไปให้พ้น อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ ! ” เขาคาดไม่ถึงว่าหลิน อี๋จุนจะผลักเขาด้วยความโกรธแบบนี้

“เฉิน คุณทำให้ฉันผิดหวังมากจริงๆ นี่คุณไม่อยากทำงานถึง ขนาดหาเหตุผลบ้าๆ แบบนี้มาอ้างเลยเหรอ คุณยังเป็นผู้ชาย หรือเปล่า? ฉันขอพูดไว้ตรงนี้เลยนะ คุณจะทำงานหรือไม่ จากนี้ ไม่เกี่ยวกับฉันอีก ถ้าหากมีใครมาตามทวงหนี้ ฉันจะขอหย่ากับ คุณทันที”

หลินจุนพูดแล้วดึงผ้าห่มออกลุกไปจากเตียง เธอโกรธมาก จริงๆ ตอนนั้นตัดสินใจแต่งงานกับเขาเพราะความรัก แม้ว่าเฉินจะไม่ประสบผลสำเร็จด้านธุรกิจ แม้ช่วงที่ลูกสาวคนเดียว ของเธอจะนอนป่วยอยู่โรงพยาบาล อาจทำให้เธอรู้สึกท้อบ้างใน บางครา แต่เธอก็เพียงแค่บ่นกับลู่เฉินเท่านั้น

แต่ในตอนนี้ลู่เฉินใช้ข้ออ้างไร้สาระ โกหกเธอเพื่อจะได้ไม่ ต้องออกไปทํางานหาเงิน มันทำให้เธอผิดหวังมากจริงๆ

“คุณจะทำอะไรน่ะ? ” ลู่เฉินถาม

“แยกห้องนอน! ” หลินจุนตอบแล้วเดินจากไป

เมื่อเห็นหลินจุนกระแทกประตูเดินออกไป เฉินไม่รู้จะ หัวเราะหรือร้องไห้

ทําไมทุกครั้งที่เขาพูดความจริงถึงไม่เคยมีคนเชื่อเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ