ข้าเป็นฮองเฮาผู้แสนร้าย

ตอนที่16 อ้อ!ที่แท้ก็คือองค์หญิงเล่อจือนี่เอง2



ตอนที่16 อ้อ!ที่แท้ก็คือองค์หญิงเล่อจือนี่เอง2

ตอนที่16 อ้อ!ที่แท้ก็คือองค์หญิงเล่อจือนี่เอง2

แต่มู่หรงเฉินกลับไม่ดีใจกับเรื่องนี้เลย “สหายข้า ข้า ได้ยินมาว่าพิษในตัวเจ้านับวันยิ่งเริ่มกำเริบหนักขึ้น เจ้า หายาถอนพิษได้หรือยัง?”

“ยังเลยขอรับ เรื่องความเป็นความตายนั้นฟ้าได้ลิขิตไว แล้ว ช่วยอะไรไม่ได้

แท้จริงแล้วมู่หรงเจิงถูกพิษนี่เอง เย่เล่อจือนึกสงสารเขา ความเกลียดที่มีมาค่อยๆหายไป เมื่อเห็นทั้งสองพี่น้อง พูดคุยกันไปมาอน้างไม่มีสารระ เย่เล่อจือจึงตั้งหน้าตั้ง ตากินข้าวต่อ แต่นางกลับแอบคิดว่าองค์ชายเก้า ถึงแม้ว่า ฮ่องเต้และอ๋องหวินมีความเป็นกังวลเกี่ยวกับเขา แต่หาก คาดเดาจิตใจไม่ได้เลย

นางคิดอยู่อย่างเพลินๆ ขันทีก็เดินเข้ามา “ทูลฝ่าบาท องค์ชายเก้าขอเข้าเฝ้าขอรับ”

มู่หรงเฉินแสดงท่าทีที่ไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน “เร็ว เสียจริงเลย ให้ไปรอข้าที่ห้องสมุด”

เมื่อขันทีออกไป มู่หรงเฉินก็ยืนขึ้นมามองไปเย่เล่อ จือ: “กินอิ่มแล้วให้มู่หรงเจิงพาเจ้าไปสวนเหมย”ต่อมาก็ มองไปมู่หรงเจิง : “ต่อมาฉันจะลงโทษเจ้าด้วยเหตุผลที่เจ้าไม่ทําตามหน้าที่ ให้เจ้าอยู่ที่บ้านสำนึกผิดเป็นเวลา หนึ่งเดือน”เมื่อวันทีออกไป มู่หรงเฉินก็ลุกขึ้นมา พร้อม ทั้งมองไปที่เย่เล่อจือแล้วพูดว่า “หากกินอิ่มแล้วก็ให้มู่หรง เจิงพาเจ้าไปที่สวนดอกเหมย”พร้อมทั้งมองไปทางมู่หรง เจิง”หลังจากนั้นข้าจะลงโทษที่เจ้ามักละเลยต่อหน้าที่ ให้ สำนึกผิดอยู่แต่ในห้อง

มู่หรงเจิงตอบรับด้วยเสียงที่ต่ำว่า”ขอรับ”

มู่หรงเฉินถอนหายใจวืดหนึ่ง แล้วเดินจากไป

ในสวนนี้ไม่มีคนอื่นแล้ว จึงทำให้เย่เล่อจือรู้สึกผ่อน คลายขึ้นมามาก จึงได้ยกกำปั้นขึ้นไปชกที่ตัวของมู่หรง เจิงนึ่งที แล้วพูดว่า “มู่หรงเจิงฮ่องเต้ยังไม่ได้ลงโทษเจ้า เสียหน่อย แล้วก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เจ้าเคยพูดไว้สัก หน่อย”

มู่หรงเจิงถามนางว่า “เจ้าชอบฮ่องเต้งั้นรึ? ”

“พูดไม่ได้เหมือนกันว่าชอบไหม แต่เขากลับทำให้คน ชอบเขามากกว่าเจ้าก็แล้วกัน” เย่เล่อจือตอบพร้อม หัวเราะ

“มู่หรงเจิงพยัคหน้าแล้วพูดต่อไปว่า “หากจะเป็นคนของ ฮ่องเต้ เจ้าก็ควรที่จะพยายามชอบฮ่องเต้ให้มากๆหละ”
“พวกท่านมีพี่น้องกี่คนงั้นรึ? ” เย่เล่อจือถามออกไป เมื่อ มองเห็นมู่หรงเจิงขมวดคิ้วอยู่ เหมือนไม่อยากจะตอบ นางจึงถามเพิ่มไปอีกว่า “องค์ชายเก้าเป็นน้องของพวก ท่านใช่รึไม่ ทำไมฮ่องเต้ถึงเหมือนกับว่าเกรงกลัวเขานิด หน่อย”

“เป็นท่านลุงของพวกข้า”มู่หรงเจิงพูดด้วยเสียงเรียบ พร้อมทั้งเตือนนางต่อไปอีกว่า”หากเจ้าพบเข้ากับองค์ ชายเก้ามู่หรงหลี่ เจ้าจักต้องอยู่ห่างๆเขาไว้

ที่แท้เป็นท่านลุงของทั้งสองคนนี้เอง เย่เล่อจือแอบจำไว้ ในใจ ต่อจากนี้จักต้องอยู่ห่างๆจากองค์ชายเก้าเสียแล้ว

“เมื่อเย่เล่อจือกินอิ่มแล้วจึงลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปที่สวน ดอกเหมย ที่จริงแล้วที่นี่เป็นที่ที่ไม่เลวเลยหนิ ทั้งสองเดิน ไปที่สวนดอกเหมย มู่หรงเจิง แคว้นเฌอหลีนั้นเล็กมาก เลยใช่ไหม”เย่เล่อจือถามออกมากระทันหัน มู่หรงเจิง ตกใจนิดหน่อยแล้วพูดว่า “แคว้นเฌอหลีได้ล่มสลายไป แล้ว”

เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออก “มิน่าหละฮ่องเต้ถึงได้ ลงโทษกับองค์หญิงของแคว้นได้อย่างตามอำเภอใจ”

เดินเข้าไปในสวนดอกเหมย “ตอนแรกฮ่องเต้จะนำเจ้า เข้ามาในวัง เพื่อจะแต่งตั้งให้เจ้าเป็นฮองเฮา”เจ้าไม่ต้องโทษฮ่องเต้ของข้า ที่จริงแล้วฮ่องเต้ใส่ใจเจ้ามากต่าง หาก”มู่หรงเจิงพาเย่เล่อจือเฮา แต่เจ้ากลับพูดว่าไม่ ต้องการตำแหน่งที่ทรงสูงศักดิ์ของแคว้นแคว้นจิ่นสวี้เช่น นี้ ต่อให้ให้เจ้าไปอยู่ที่หอนางโลมให้ผู้ชายเหยียบย่ำยังดี กว่ามานอนร่วมหมอนกับฮ่องเต้เสียอีก ฮ่องเต้โกรธมาก จึงตรัสสั่งให้เจ้าไปอยู่ที่หอนางโลม” เมื่อมู่หรงเจิงพูดเรื่อง นี้ออกมา กลับมีแวบนึ่งในสายตาที่ฉายแววความเศร้า ออกมา

“วันก่อนฮ่องเต้ใจดีมีเมตตา จึงได้ตรัสให้นำเจ้ากลับ ออกมาจากหอนางโลมเข้ามาเป็นสนมในวังอีกครั้ง แต่เจ้า กลับพูดว่าต่อให้เจ้าต้องแต่งงานกับชายที่รันทดที่สุดใน โลกหล้า ยังดีกว่าที่จะมาแต่งงานกับฮ่องเต้เสียอีก เพราะ เหตุนี้ฮ่องเต้จึงได้ตรัสสั่งให้เจ้าแต่งงานกับชายขอทาน ที่น่าเกลียดและมีชีวิตที่รันทดที่สุดในเมืองนี้ โชคดีที่ข้า ไปขัดขวางเรื่องนี้ได้ทันในคืนนั้นเสียก่อน”มู่หรงเจิงถอน หายใจอีกครั้ง “เย่เล่อจือหากเจ้าไม่พูดเช่นนั้นกับฮ่องเต้ ฮ่องเต้ก็ไม่มีวันทำร้ายหรอกนะ ก็เหมือนกับวันนี้ แค่เจ้า ตอบตกลงว่าจะคอยอยู่ข้างกายฮ่องเต้ ฮ่องเต้ก็พอใจเป็น อย่างมากแล้ว โดยมิได้หสังว่าเจ้าจะเป็นสนมของท่าน

“เจ้าสนิทกับฮ่องเต้มากขนาดนั้นเลยงั้น ” หากดูจาก คนในราชวงค์ของการปกครองในอดีต ต่างก็ยอมบาด หม่างกันเพื่อแย่งชิงมาซึ่งบันลังก์มิใช่รึ ความสำพันธ์ที่ดู ปกติของฮ่องเต้กับท่านอ๋องถือได้ว่าเป็นเรื่องหาได้ยาก เลยทีเดียว
“ในโลกนี้ข้าใส่ใจแค่สองคน หนึ่งในนั้นก็คือฮ่องเต้” มู่ห รงเจิงหยุดอยู่หน้าต้นเหมยในสวน

“แล้วอีกคนหนึ่งหละ” เย่เล่อจือรู้สึกสงสัยขึ้นมา

มู่หรงเจิงไม่ได้ตอบคำถามเย่เล่อจือแต่อย่างได แต่กลับ หันไปมองดอกเหมยอย่างใจลอย “สวนดอกเหมยนี้ฮ่องเต้ ได้สร้างไว้เพื่อเจ้า ดอกเหมยหลากหลายสายพันธุ์เหล่านี้ ต่างก็สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันออกดอกในทุกฤดูกาล เจ้า ดูสิ พวกมันช่างงดงามยิ่งนัก”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ