ตอนที่ 12 ท่านอ๋องผู้เลือดเย็น2
ตอนที่ 12 ท่านอ๋องผู้เลือดเย็น2
พอเสียงของนางเงียบลงแล้ว มู่หรงเจิงก็พลันหันมาบอก
นาง”เก็บของให้เรียบร้อย ข้าจะพาเจ้าเข้าวัง” มีอะไรต้องเก็บอีก? เย่เล่อจือเดินเข้ามาแล้วเอาเสื้อมา
คืนพลันเอาพูดขึ้น”ต้องเข้าวังจริงๆหรอ? ”
มู่หรงเจ๋งพยักหน้ารับ แล้วก็สวมเสื้อคลุม จากนั้นก็พยุง นางขึ้นมา แล้วเขาก็ขึ้นมานั่งข้างหลังนาง หลังจากนั้นเขา สองคนก็เดินทางออกไป ม้าวิ่งอย่างช้าๆ มู่หรงเจิงก็ดูไม่ รีบร้อนอะไรเหมือนกับว่าเข้าได้คํานวณเวลาไว้แล้ว และ ก็รู้ดีว่าช่วงอาหารเที่ยงฮ่องเต้จะอารมณ์ดีที่สุด ดังนั้นก็ เลยเข้าวังได้แค่ช่วงเที่ยงเท่านั้น
นางพยายามจะสืบข้อมูลจากปากเขาเกี่ยวกับเรื่องของ ตัวเอง แต่ว่าสีหน้าของมู่หรงเจิงดูไม่สนใจอะไรเลย นางก็ เลยปิดปากลง ดังนั้นสองคนก็กลับไปกันอย่างเงียบๆ ช่วง แรกๆนางก็มองชมทิวทัศน์ไปรอบๆ แต่ว่านอกจากหญ้าสี เขียว ก็ไม่มีอะไรเลย นางเลยเริ่มเบื่อ
นั่งอยู่บนม้าแบบนี้ก็ถือว่าไม่เลว ม้าที่มีขนสีขาวเนียนนุ่ม ทั้งตัวใหญ่และเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว ตอนที่นาง อยู่โรงเรียนตำรวจนางก็เคยขี่ม้าสองสามครั้ง แต่ว่าไม่มี ม้าตัวไหนที่ดูสง่าเทียบเท่าม้าตัวนี้ได้เลย นางก็เลยคิดอะไรสนุกๆขึ้นมา แล้วอยู่ๆนางก็ยื่นมือออกไปลูบ ที่หัวมัน ขนของมันทั้งนุ่มและลื่น
นางไม่ได้คิดว่าม้าขาวจะไม่ชอบให้คนแปลกหน้าลูบ หัว มันจึงสะบัดหัวทันที พอนางโดนม้าสะบัดออก แล้ว ไม่ทันระวัง ร่างของนางจึงร่วงลงมา โชคดีที่มู่หรงเจิงคว้า เอวของนางไว้ทัน”อย่าแตะม้าข้า” มู่หรงเจิงพูดเตือนเสียง แข็ง
ลมหายใจที่ร้อนของเขาก็หายใจรดใบหูของนาง นาง จึงสั่นขึ้นมาทันที หัวใจก็พลันเต้นเร็วขึ้น แล้วสายตาก็ไป สะดุดเข้ากับนิ้วมือที่เรียวยาว ทั้งนุ่มนิ่ม มือผู้ชายทำไม ถึงสวยขนาดนี้ แล้วด้านหนังนางก็แนบชิดกับหน้าอ เขา กล้ามเนื้อหน้าอกเขาช่างแน่นจริง แถมยังมีกลิ่นหอ มอ่อนๆที่ทำให้น่าลุ่มหลงจริงๆ
เขาเองก็มีหน้าตาหล่อเหลาอย่างมาก แถมยังเป็น คนชั้นสูง ที่มาจากตระกูลสูงส่ง ถ้าหากว่านิสัยดีกว่านี้ หน่อย ไม่นิสัยเย็นชาแบบนี้ ก็จะยิ่งทำให้คนหลงรัก แต่ เสียดาย…..เย่เล่อจือคิดดูแล้ว พลันพูดออกมาอย่างไม่ ตั้งใจ : “มู่หรงเจิง ปีนี้ท่านอายุเท่าไหร่? ”
“ยี่สิบ”
ได้ยินมาว่าคนสมัยก่อนอายุสิบแปดก็แต่งงานกันแล้ว อีกอย่างเขาเองก็เป็นถึงอ๋อง มีทั้งอำนาจและฐานะสูงส่งรูปร่างหน้าตาก็ถือว่าไม่เลวเลย “ท่านน่าจะแต่งงานได้ แล้วไม่ใช่หรือ? “เย่เล่อจือพลั้งปากถามขึ้น
เอวของนางถูกกอดแน่นขึ้นทันที แล้วเสียงของคนข้าง หลังก็พลันดังขึ้นอย่างฉุนเฉียว : “เย่เล่อจือเจ้าจงใจใช่ มั้ย? ”
เย่เล่อจือรู้สึกงงๆ ว่าทำไมตัวเองถึงได้ทำให้เขาโมโหอีก แล้ว? ผ่านไปครู่นึง อยู่ดีๆก็มีเสียงทุ่มๆดังขึ้น “ข้าตัวคน เดียว”
“ดูแล้วท่านน่าจะเป็นคนที่เลือกมากมากกว่า”นางพูด ขึ้นเรื่อยเปื่อย การแต่งงานช้าของคนสมัยก่อนนั้นไม่มี อะไรมากนอกจากเหตุผลสองข้อ คือไม่เลือกมากเกินไป ไม่ก็ฐานะที่ไม่ค่อยมี มู่หรงเจิงแน่นอนว่าไม่ใช่อย่างหลัง แน่นอน
“เจ้าจำเรื่องของข้าไม่ได้แล้วเลยหรือ ข้าเคยแต่งงานมา แล้ว แต่ว่านางถูกฆ่า”เสียงของเขาพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา แต่เหมือนกับว่าที่น้ำเสียงแบบนี้ไม่ได้เป็นเพราะชายาถูก ฆ่า
เย่เล่อจือชะงักไป“ใครกันที่กล้าฆ่านาง? ”
“ข้าเอง ข้าไม่ชอบหญิงสาวที่ถามนั่นถามนี่”
คำพูดของเขาประโยคนี้ทำให้นางปิดปากองทันที ผู้ชาย ที่ฆ่าได้แม้กระทั่งชายาตัวเองแบบนี้ จะต้องโหดร้าย ขนาดไหน? ชายที่อยู่ด้านหลังตัวเองนั้นแทบจะไม่เคย ยืมออกมาเลย ขนาดอมยิ้มยังไม่มีเลย พอนางนึกถึง นิยายที่ตัวเองเคยอ่าน คนพวกนี้ก็คือคนฆาตกรโหดหนึ่ง ร้อยเปอร์เซ็น เป็นพวกที่โหดร้ายไร้เมตตา หยุดตอแยกับ เขาจะดีซะกว่า นางรู้สึกเสียดายที่ตัวเองไม่หนีไป ยังคิด ว่าจะมาเล่นสนุกอยู่ที่นี่ เกรงว่าจะเป็นการเอาเนื้อแกะมา ให้หมาป่ากินมากกว่า
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ