ข้ามลิขิต ปรุงรักแก่ใจ

ตอนที่ 8 เงื่อนไข



ตอนที่ 8 เงื่อนไข

ตอนที่ 8 เงื่อนไข

“สิ่งแรก ข้าต้องการป้ายคำสั่งให้ข้าสามารถเข้าออก ราชวังได้อย่างอิสระ ท่านต้องคุ้มครองชีวิตของข้าในปี นี้ ประการที่สอง ถ้าข้าสามารถสืบหาความจริงได้ หนึ่งปี หลังจากนี้ ตระกูลของข้าต้องพ้นจากความผิด ประการที่ สาม หนึ่งปีผ่านไป ถ้าต้องการทองคำจำนวนหนึ่งกับข้า ให้ข้าจากเมืองหลวงไปได้

ได้ยินพันหยุนหยุนพูดเยี่ยงนี้ ดงฟังซีไขไม่โมโหแต่กลับ หัวเราะ แม่หญิงผู้นี้มั่นใจในตนเองมาจากไหน?

“ข้ามีเงื่อนไขสามอย่าง อย่างแรก เจ้ายังคงมีความผิด ห้ามไปดีกับคนโน้นคนนี้ อย่างที่สอง วันที่เจ้าล้มเหลวคือ วันที่ทั้งคระกูลเจ้าต้องตาย อย่างที่สาม ถ้าเจ้าพ่ายแพ้ ลูกหลานตระกูลพันเก้ารุ่น ถ้าเกิดเป็นชายต้องเป็นทาส ถ้าเป็นแม่หญิงต้องเกิดเป็นโสเภณี”

พันหยุนหยุนได้ยินเยี่ยงก็รู้สึกกลัวเบาๆ ดงฟังซีไขมี เงื่อนไขที่ช่างโหดเหี้ยมมาก แต่ว่านางไม่ได้แสดงออก ผ่านสีหน้า และยื่นมือตนเองออกมาต่อหน้าดงฟังซีไข แล้วเฉียงตัวตนเองเพื่อไม่ให้ชาวบ้านเห็น

“ฮ่องเต้ไม่กล้าแม้แต่เพียงการให้คำมั่นสัญญาหรือ? จะ อย่างไรก็ตาม ถ้ามันเป็นเยี่ยงนี้แล้ว ข้าจะเชื่อฮ่องเต้ได้เยี่ยงนี้ เป็นเยี่ยงนี้ ฮ่องเต้เอาชีวิตของข้าไปไม่ดีกว่า หรือ” พ้นหยุนหยุนค่อยๆยืดตัวขึ้น ไหนๆดงฟัง ไข สามารถยื่นข้อเสนออกมาได้ แสดงว่าเขาต้องเตรียมการ ไว้แล้วแน่ๆ

คำพูดของพันหยุนหยุนทำให้ดงฟังซีไขตกใจ ใบหน้าอัน หล่อเลาของเขายิ่งดูน่ากลัว ที่ไม่ยอมยื่นมือตนเองออก ไป และรีบจับมือของพันหยุนหยุน จากนั้นยังรีบเอามือ กลับเยี่ยงนี้ วินาทีต่อไปเขาก็ยื่นมือออกมาแล้วผลักพัน หยุนหยุ่นให้ล้มลง

“เจ้าบอกว่าเจ้าถูกใส่ร้าย นั้นเจ้าบอกทีว่าเจ้าบริสุทธิ์ แล้วหลักฐานล่ะ? อย่าคิดว่าเจ้าแค่พูดไม่กี่คำ ข้าก็จะ ปล่อยเจ้าไป ! ต่อให้สูงส่งแค่ไหนก็ตาม ก็ต้องรับการ ลงโทษเหมือนชาสบ้านทั่วไป!”

ดงฟัง ไขท่านัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา นึกว่า แค่ไม่กี่คำพูดก็สามารถให้เขาตกใจได้ ถ้าพันหยุนหยุน เป็นไปอย่างที่ตนพูด ถ้าเก่งมากก็ให้พิสูจน์ความบริสุทธ์ ตนเองยังสามารถหาข้ออ้างลงไปจากลานประหารได้ เขา ไม่ได้สนใจรอบข้างกำลังมีสายตาที่แตกต่างกันจับจ้อง เขาอยู่ เขานึกไม่ถึงว่าสายตาพวกนั้นจะกลายเป็นข้าวลือ ขึ้นมาจนได้ และส่งข่าวนี้ไปให้คนที่ไม่สมควรรู้

พันหยุนหยุนได้สัมผัสถึงสายตาอันดูถูกคู่นั้น นางก็ยิ้ม เยาะในใจเบาๆ ตอนที่นางอ่านหนังสือ หนังสือที่นางชอบ อ่านที่สุดก็คือเกี่ยวกับพงศาวดาร เมื่อวานนางก็ได้เตรียมการไว้อย่างดี วันนี้ก็คงจะสามารถใช้ได้

“เชิญฮ่องเต้ลองดูเจ้าค่ะ! นี่คือหลักฐาน ถ้ามันเป็น เหมือนข่าวที่ลือกัน ทำไมแขนของข้าจึงจะมีสิ่งนี้ได้?”

พ้นหยุนหยุนพูดขึ้นตรงๆ จากนั้นก็ยกแขนเสื้อของนาง ขึ้น ตรงแขนของนางมีจุดแดงของพรหมจรรย์อยู่ ผิว อันผุดผ่องขาวเนียนและจุดแดงสดๆนี้ ดุจดั่งบ๊วยแดง ท่ามกลางหิมะขาวที่ช่างงดงาม

ดงฟังซีไขเห็นแต้มแดงพรหมจรรย์ คิ้วของเขาได้กระตุก ขึ้นโดนเร็ว หางตามองไปที่บ่าว บ่าวที่อยู่ข้างๆก็รีบเดินไป แล้วใช้แรงเช็ดจุดแดงพรหมจรรย์ของนาง เช็ดจนผิวก ลาบเป็นสีแดง แต่ก็ยังคงมีรอยแดงนั้นอยู่

บ่าวทำท่าทีที่ชัดเจนเกินไป ทำให้ทุกคนเห็นได้ ชัดเจน โดยเฉพาะชายผู้นั้น เห็นพันหยุนหยุนมีจุดแดง พรหมจรรย์ ในใจก็มีความคิดหลายอย่าง และบางคนก็ เริ่มคิด ถ้าพันหยุนหยุนไม่ได้ตาย ก็จะขอสู่กลับไปเป็น อนุภรรยา แม่หญิงที่งดงามเยี่ยงนี้ ตายไปก็เสียดาย

พันหยุนหยุนยิ้มมุมปากของเยาะเย้ยเบาๆ ผู้ที่อยาก ให้นางตายรอบคอบมากจริงๆ จุดแดงพรหมจรรย์ตรง มือซ้ายของนางถูกลบไป ยังทิ้งรอยแผลกลมๆไว้ให้นาง ตอนนี้จุดแดงพรหมจรรย์ที่เห็นคือนางได้จับตุ๊กแกมาหนึ่ง ตัว มีกัดนิ้วของตนเองให้เป็นแผลและหยดเลือดให้มันกินจนอิ่ม จากนั้นก็ใข้เลือดของตุ๊กแกแล้วทาลงตรง มือของตนเอง ถ้าแต้มแดงพรหมจรรย์ที่แท้จริงต้องเป็น ให้ตุ๊กแกกินยาจูซาจนเจริญเติมโต จากนั้นก็เอามาทา อยู่แบน ถ้าป้อนเลือดตุ๊กตาด้วยเลือดของตนเองก็จะไม่ ทำให้สามารถอยู่ได้แค่ชั่วยามเดียว

บ่าวจะออกแรงยังไงก็ถูไม่ออก จากนั้นนางก็ได้กลับไป ยืนตรงแถว บ่าวยืนกัน

“ฮ่องเต้ หลักฐานเยี่ยงนี้ มันไม่ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ ของข้าอีกหรือ?” พันหยุนหยุนมองไปยังดงฟังซีไข จาก นั้นก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เบาๆ

“หนึ่งปี ข้าให้เพลาเจ้าแค่หนึ่งปี! ” ดงฟัง ไขขมวดคิ้ว ขึ้น ถ้ากล้าสร้างจุดแดงปลอมขึ้นมา ก็ถือว่านางกล้าหาญ มาก ดูๆแล้ว เหมือนนางจัดการทุกอย่างได้อยู่หมัดได้ พอได้ยินชาวบ้านซุบซิบกัน สายตาที่เฉียดคมของพันหยุ นหยุน มองไปยังเขาที่รู้ว่าตนเองคงไม่มีทางเลือกที่สอง

“ชอบพระคุณฮ่องเต้ที่ไม่ฆ่าข้าในปีนี้” พันหยุนหยุนถอน หลังไปสองสามก้าว คำพูดเมื่อครู่เหมือนมีแค่พวกเขา ที่รู้ คนข้างๆเห็นจึงทำตาค้างและอ้าปากค้าง ทำไมนาง สามารถทำเหมือนมันเป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่งนัก คนๆหนึ่ง ที่กำลังจะตาย แต่กลับไม่ถูกประหารชีวิต แม่หญิงผู้นี้ ทำไมถึงไม่ได้อ่อนแอเหมือนดั่งที่เขาล่ำลือกันมา?
“นี่ เจ้าพูดว่าควรจัดการเยี่ยงไรกัน ! ” ดงฟังซีไขเห็น พันหยุนหยุน เขาทำสีหน้าโหดเหี้ยม เขากำลังกำหมัด แล้วแล้วยื่นไปยังทิศทางที่พ้นหยุนหยุนอยู่ และได้กำ จดหมายใบนั้นไว้

“วิธีการปิดบังความลับให้มิดชิดก็คือให้ความลับนั้นหาย ไป” พันหยุนหยุนทำหน้ายิ้มแล้วเดินไปจับมือของดงฟังซี ไข แล้วเอาจดหมายที่ถูกกำไว้จนยับ และได้ยัดเข้าปาก ของทหารที่กำลังอ้าปากค้างอยู่ข้างๆ

“กลืนเข้าไป! นี่เป็นพระราชโองการ! ” พันหยุนหยุนใช้ มือยันคางของทหารนั้นไว้ ทหารเกือบถูกกระดาษที่กลืน เข้าไปติดคอตาย ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเห็นดงฟังซีไขจ้องเขา ไว้ แล้วสั่งการเขาโดยไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียง เขาเกือบจะ ร้องไห้ออกมา เขายืนใกล้พวกเขามากเกินไป และอ้าปาก ใหญ่เกินไป……


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ