ข้ามลิขิต ปรุงรักแก่ใจ

ตอนที่ 17 ใช้ยา



ตอนที่ 17 ใช้ยา

ตอนที่ 17 ใช้ยา

นางที่เกิดเป็นเชฟหลักของห้องครัว ให้ทําของว่างที ผสมยาเข้าไปถือว่าเป็นของถนัดของนาง เป็นเพียงเรื่อง ที่ง่ายดาย ตอนอยู่ในตลาดนางก็ได้ยินอย่างชัดเจนแล้ว ท่านฮูหยินป่วยเป็นโรคเบาหวานของสมัยปัจจุบัน หมอ หลวงใช้ยกระตุ้นความยากอาหารของท่านฮูหยิน แค่ใช้ หนอนเพื่อให้นางอยากอาหาร วิธีนี้มีผลแค่สองวัน จาก นั้นร่างกายก็กลับมาอ่อนแอและไม่เจริญอาหารเหมือน เดิม

สูตรที่พันหยุนหยุน จริงๆก็แค่ยาที่สามารถลดปริมาณ น้ำตาลได้ ของว่างที่มีสรรพคุณเป็นยารักษา เพื่อที่จะ ลดความชื้นของร่างกาย ดังนั้นจึงทำให้ท่านฮูหยินเป็น เยี่ยงนี้ ทั้งหมดก็เพราะของที่กินเข้าไปมีความชื้นมากเกิน ไป และยาทั้งหมดที่ทานเข้าไปมีผลแค่ช่วยรักษาโรคเบา หวานของนาง แต่ไม่ได้คำนึงถึงความชื้นของร่างกายเลย

พอท่านฮูหยินกินของว่างเสร็จ ก็รู้สึกเหนื่อยล้า จากนั้น ก็สลึมสลือและหลับไป ยังไม่ทันพูดอะไรเลย นางก็หลับ ไปเสียแล้ว

เถียนหซงเย่รู้สึกตกใจยิ่งนัก มุมปากของเขายังไม่ทันได้ เผยยิ้มออกมาเลย เขาจึงรีบเข้าไปจับแขนของพันหยุนหยุน “เจ้าให้ย่าของข้ากินอะไรเข้าไป?”

“การพักผ่อนเป็นยาที่ดีที่สุด ย่าของเจ้าได้รู้สึกตัวร้อน และคันไปทั้งตัวจนยากจะที่หลับใช่หรือไม่? วันนี้วิธีของ ข้าก็คือสามารถทำให้นางหลับอย่างสบาย แต่เจ้ากลับทำ เหมือนข้าต้องรับผิดชอบอะไรเยี่ยงนี้ องชายเถียน รอให้ ย่าของเจ้าเกิดเรื่องก่อน เจ้าค่อยเอาชีวิตของข้าไปแลกก็ ยังไม่สาย”

พันหยุนหยุนยิ้มเยาะออกเสียง นางทำเรื่องยากให้เป็น เรื่องง่ายจริงๆ พอเห็นว่ายาที่นางใช้ออกฤทธิ์เร็วเยี่ยงนี้ ในใจของนางก็มั่นใจมากขึ้น

ในมือของนางยังจับของว่างเป็นเข้งไว้ นางกินได้สบาย แค่ไหน ถ้าเสี่ยวถังอยู่ก็คงดี ในนั้นมีขนมที่นางชอบเสีย ด้วย

เถียนหซงเย่เห็นท่าทีของพันหยุนหยุนเป็นเยี่ยงนี้ เขา กลับสงบจิตใจลง พอได้ยินท่านฮูหยินเปล่งเสียงหายใจ ออกมาอย่างคงที่ มุมปากได้เผยยิ้มอ่อนๆออกมา เขาจึง รู้สึกวางใจ และปล่อยมือของพันหยุนหยุน

เถียงหซงเย่กับพันหยุนหยุนเฝ้านางจนพระอาทิตย์ ตกดิน ท่านฮูหยินจึงจะตื่นขึ้นมา

“นางไม่หลับอย่างสบายเยี่ยงนี้มานานแค่ไหนแล้ว ไม่ได้รู้สึกคัน หซงเย่เอ่ย ครั้งนี้ยาที่เจ้าเอามามันได้ผลจริงๆ และของว่างก็อร่อยมากๆ ต่อมา ข้าจะกินทุกวัน!”

“ท่านฮูหยินลืมตาโต พอเห็นเถียงหรงเย่จึงเอ่ยปากพูด ขึ้น คิ้วและนัยน์ตาของนางดูเป็นมิตร ตอนพูดก็เหมือน เด็กน้อย

“แค่ท่านชอบ สะดวกทาน ข้าจะให้คนทำมาให้ท่านทาน ทุกวันเลยขอรับ” เกี๋ยน ซงเย่เห็นสีหน้าของท่านย่าเริ่ม แดง สีหน้าดูหนักแน่น ดูออกอย่างชัดเจนเลยว่าอาการดี ขึ้น เขาเอียงสายตามองหมอที่เฝ้าอยู่ข้าง จึงรีบขึ้นหน้า มาวัดชีพจนให้ท่านฮูหยิน อาการดีขึ้นจริงๆ ถึงเพลานี้ เขาจึงรู้สึกนับถือพันหยุนหยุนในใจ

รอให้เกลี้ยกล่อมท่านฮูหยินได้สำเร็จจึงจะออกม เถียนหซงเย่มองไปยังพันหยุนหยุน พันหยุนหยุนพยัก ไหล่เบาๆ นางรอเพลานี้มานาน

พันหยุนหยุนใช้เพลาสองวันก็สามารถพิสูจน์ความ สามารถองตนเอง และยังสามารถทำให้ตำแหน่งของ เถียนหซงเย่คงอยู่ได้ นี่จึงทำให้สามารถเอาเงินพันตำลึง ทองออกมาอย่างราบรื่น

นางก็รู้สึกชอบคุณตนเองมาประมาณพันรอบที่รอบคอบ เยี่ยงนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะว่านางเก็บนาฬิกานั้นมาด้วย ตอนนี้ตนเองก็ไม่มีทางไปหาเงินมาได้

นางเดินไปตรงหน้าประตูตระกูลเถียนยังไม่นาน เกียน ซงเปรีบเดินออกจากประตูหลัง ตรงศาลาที่ไม่ห่าง จากเขามาได้มีคนๆหนึ่งรออยู่

“วิธีของนางนั้นได้ผลจริงๆ เจ้าคงไม่ต้องกังวลนางเยี่ยง นี้” เถียนหซงเย่มองไปยังคนที่ยืนอยู่ข้างๆสระน้ำ เขาพูด ขึ้นอย่างน่าขบขันอยู่ข้างหลัง และมองไปยังร่างของคนๆ นั้น รู้ว่าคนๆนั้นรออยู่ที่นี่นานแล้ว

“นางเป็นคนเยี่ยงไรกันแน่ ตอนที่ได้เข้าไปอยู่ในคุกแล้ว ออกมาจากที่นั่นก็เปลี่ยนแปลงไปมากเพียงนี้ นางน่าจะ ตกใจเกินไปหรือป่าว?” คนที่สวมชุดยาวสีขาวอันดูมีสง่า แล้วสวมชุดคุมสีน้ำเงินไว้ข้างนอก ตรงคอเสื้อและปลาย แขนเสื้อก็ได้ปักไปด้วยลวดลายก้อนเมฆ มงกุฎขนนกที่ สวมอยู่ตรงหัวของเขาทำให้ดูสง่าและเรียบร้อย

“นางจะถูกทำให้ตกใจจนเกินไปแต่อย่างไรก็ไม่ใช่เรื่อง ของเจ้า เนี่ยนซู่ เจ้าได้ดีกับนางที่สุดแล้ว เจ้าได้แอบ ติดตามนางอยู่ข้างหลังมาตลอด รู้ว่านางไปแอบสืบเรื่อง ของย่าข้าตรงตลาด เจ้าทำเพื่อนางมามากเพียงนี้ เตรียม เงินไว้ให้นาง และยังไปที่สำนักหมอหลวงเพื่อเตรียมยา ไว้ให้ย่าข้า เจ้าทำเพื่อนางมากพอแล้ว”
เถียนหซงเย่เห็นร่างของหญิงเนี่ยนซู่ เขาถอนหายใจ เบาๆ คนๆที่เป็นปัญญาชนแต่ร่างกายอ่อนแอ ทุกเรื่องที่ เขากลับไม่ได้อ่อนแอเลย เขากับเกียนหซงเย่ก็เป็นบุตร อนุภรรยาด้วยเช่นกัน เถียนหซงเย่ไม่เคยเห็นหชิงเนี่ยน ซู่แสดงท่าทีที่เกลียดฐานะของตนเองเลย เขาเหมือนดั่ง ต้นสนที่เติบโตในป่า สามารถยืนหยัดอย่างแข็งแรงต่อ หน้าทุกคน

“แต่สุดท้ายทุกอย่างที่ข้าเตรียมการไว้กลับไม่ได้ใช้ เลย” หชิงเนี่ยนซู่ค่อยๆเอ่ยปากขึ้น มือของเขากำลังดีด ก้อนหินเล็กๆ และดีดไปบนผืนน้ำ จากนั้นก้อนหินก็ทำให้ น้ำกระเด็นออกมา

“เงินต่าลึงทองที่นางเอาไปไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นคนเตรียม หรอกหรือ? ถึงแม้ตำหนักเถียนจะเพลี่ยงพล้ำแต่ก็คงอยู่ ซึ่งอำนาจที่มีอิทธิพลต่อผู้อื่น และทุกอย่างก็เป็นแค่รูป ลักษณ์ภายนอกที่สวยงามเท่านั้น” เถียนหซงเย่พูดขึ้น อย่างเลือดเย็น ตอนนี้ไม่ต้องพูดว่าพันตำลึงทอง แค่ร้อย นําลึงทองก็เอาออกมาไม่ได้

“ในวังมีพี่สาวของเจ้าเป็นนางสนมอยู่ ในราชสำนักมี ท่านพ่อของเจ้าเถียนไท่ซือ มีใครหรือที่กล้าดูถูกพวก เจ้า” เถียนเนี่ยนหมู่กำลังบ่นถึงมีความสุขทุกข์ เขาขว้าง ก้อนหินในมือลงในน้ำ ท่าทางดูช้าและมีสง่ามากๆ

เถียนหซงเย่ไม่พูดอะไรอีกต่อไป เขารู้ว่าหชิงเนี่ยนหมู่มื อะไรจะพูดต่ออีก
“คือใคร? ทำไมถึงช่างกล้าเยี่ยงนี้?” หญิงเนี่ยนหมู่ทำ สีหน้าที่ดูโหดเหี้ยม เขารู้ว่ามีคนแอบซื้อสัญญาหนี้ของ ตระกูลพัน ในใจจึงรู้สึกโมโห

“เจ้าคงจะนึกถึง” เถียนหซงเย่เก็บก้อนหินขึ้นมา แล้วยัด เข้าไปในมือขอเนี่ยนซู่ เหมือนนิ้วของเขาจะไม่ตั้งใจพูด โดยฝ่ามือของเขา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ